เอาจริงมั้ย!? ลิเวอร์พูลถกสโต๊คหวังดึงบัตแลนด์เสียบมือ2

สื่อดังอังกฤษแฉ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลกำลังเดินหน้าเจรจาคว้า แจ็ค บัตแลนด์ ผู้รักษาประตูสโต๊ค ซิตี้ มาร่วมทีมแก้ปัญหาช่วงที่ อลีสซง เจ็บยาว

ลิเวอร์พูล กำลังเจรจราสโต๊ค ซิตี้ สโมสรในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษเพื่อคว้าตัว แจ็ค บัตแลนด์ ผู้รักษาประตูชาวอังกฤษมาร่วมทีมเป็นตัวสำรองให้กับ อลีสซง เบ็คเกอร์ มือหนึ่งชาวบราซิเลียนที่ตอนนี้มีปัญหาบาดเจ็บหัวไหล่ต้องพักยาว 6 สัปดาห์

หลังจากอาเดรียน นายทวารสำรอง "หงส์แดง" ทำผลงานได้น่าผิดหวั แถมมีข้อผิดพลาดในเกมลีกนัดล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปพ่าย แอสตัน วิลล่า กระจุย 2-7 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้กระแสเรียกร้องให้กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ดึงผู้รักษาประตูคนใหม่เข้ามาเป็นกำลังเสริม

ล่าสุด เมโทร สื่อชือดังของอังกฤษรายงานว่า ลิเวอร์พูลกำลังเจรจากับสโต๊คถึงความเป็นไปได้ในการคว้าตัว บัตแลนด์ มาเฝ้าเสาในช่วงที่ตลาดซื้อขายภานในประเทศยังเปิดทำการถึงวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคมนี้

 สื่อเจ้าดังกล่าวรายงานว่าเดิมทีสโต๊คตั้งค่าหัวนายด่านวัย 27 ปีไว้ถึง 30 ล้านปอนด์แต่การที่เจ้าตัวกำลังจะหมดสัญญาช่วงซัมเมอร์หน้าอีกทั้งตอนนี้ตกเป็นตัวสำรองของอดัม เลวีส์ ภายใต้การคุมทีมของไมเคิล โอนีล กุนซือไอร์แลนด์เหนือ โดยซีซั่นนี้ยังไม่ได้โอกาสลงเล่นเลยตลอด 8 เกมในทุกรายการของทีมทำให้ค่าตัวไม่น่าจะแพงมากและมีโอกาสที่หงส์แดงจะประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ แจ็ค บัตแลนด์ เคยเป็นผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่น่าจับตามองและเป็นเจ้าของสถิติผู้รักษาประตูอายุน้อยสุดที่ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ด้วยวัย 19 ปี 158 วันหลังถูกรอย ฮอดจ์สัน กุนซือทัพสิงโตคำรามในเวลานั้นส่งลงเฝ้าเสาในเกมกระชับมิตรที่เอาชนะอิตาลี 2-1 เมื่อ 15 สิงหาคม 2012 โดยก่อนหน้านี้เคยตกเป็นข่าวกับลิเวอร์พูลก่อนที่สุดท้าย"หงส์แดง" จะได้ตัว อลิสซง มาร่วมทีมเมื่อปี 2018

ยูฟ่าเด็ดขาดยกเลิกเกมคัดชปล.หลังพบแข้งติดโควิด

สหพันธ์ลูกหนังยุโรป ประกาศยกเลิกเกมระหว่าง ลินฟิลด์ ปะทะ เคเอฟ ดริต้า ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือกก่อนรอบแรก วันอังคาร เนื่องจากมีการตรวจพบว่ามี 2 แข้งติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพจึงไม่อนุญาตให้เกมนี้แข่งได้
    สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) แถลงการณ์ยืนยันได้สั่งยกเลิกเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบคัดเลือกก่อนรอบแรก ประจำฤดูกาล 2020/2021 แมตช์ระหว่าง ลินฟิลด์ สโมสรในประเทศไอร์แลนด์เหนือ พบ เคเอฟ ดริต้า ทีมจากโคโซโว วันอังคารที่ 11 สิงหาคม เนื่องจากมีการตรวจพบว่ามีผู้เล่นติดเชื้อไวรัสโควิด-19

    ตามหมายกำหนดการเดิมระบุว่าแมตช์ดังกล่าวจะมีการจัดแข่งกันที่เมืองนียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พบว่ามี 2 นักเตะจาสโมสรเคเอฟ ดริต้า มีผลออกมาเป็นบวก ทำให้ ยูฟ่า จำเป็นต้องยกเลิกเกมนี้ไปโดยปริยายเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพ

    แถลงการณ์ของสหพันธ์ลูกหนังยุโรป ระบุว่า "ผลจากการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสวิส ที่ทำงานร่วมกับ ยูฟ่า ได้สั่งให้ทุกๆ คนในทีมเคเอฟ ดริต้า ต้องเข้ารับการกักตัวหลังจากมีนักเตะสองคนจากทีมโคโซโวมีผลการตรวจเป็นบวกจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 "

    "ทำให้เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือกก่อนรอบแรกแมตช์ระหว่าง เคเอฟ ดริต้า พบ ลินฟิลด์ ที่จะแข่งในวันที่ 11 สิงหาคม ในเมืองนียง, สวิตเซอร์แลนด์ ไม่สามารถแข่งได้ นักเตะต้องเข้ารับการกักตัวไปแล้วพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมของเขาอีกรายที่พบว่าสัมผัสใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อ" แถลงการณ์ฉบับเดิม ระบุ

เจาะผลงานและเกร็ดของ จามาล ลูอิส : แบ็กซ้ายที่ ลิเวอร์พูล คิดดึงเป็นอะไหล่ โรเบิร์ตสัน

หลายคนมองว่า ลิเวอร์พูล ยังไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินก้อนโตสำหรับการเสริมทัพสู้ศึกฤดูกาล 2020-21 เพราะขุมกำลังโดยรวมของพวกเขาแข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยสิ่งที่ "หงส์แดง" ต้องทำอาจจะมีเพียงการซื้อนักเตะเข้ามาเป็นอะไหล่ของบรรดาขุมกำลังตัวหลักเท่านั้น
    ทั้งนี้ หนึ่งในนักเตะที่ตกเป็นข่าวกับการจะเป็นอะไหล่ให้กับขุมกำลังของ ลิเวอร์พูล ได้แก่ จามาล ลูอิส แบ็กซ้ายดีกรีทีมชาติไอร์แลนด์เหนือของ นอริช ซิตี้ หลังจากที่ว่ากันว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ชื่นชอบฝีเท้าของเขามากๆ และน่าจะเป็นตัวสำรองของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้เป็นอย่างดี โดยค่าตัวของเขาไม่น่าจะแพงมากนักด้วย เพราะ นอริช เพิ่งตกชั้นไปหมาดๆ

    ถ้าเกิด ลูอิส ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล จริงๆ เรื่องราวของเขาก็จะคล้ายกับ โรเบิร์ตสัน เลย เพราะก่อนที่ คล็อปป์ จะดึงดาวเตะชาวสกอตต์มาร่วมทีมนั้น โรเบิร์ตสัน ก็ตกชั้นจาก พรีเมียร์ลีก ไปพร้อมกับ ฮัลล์ ซิตี้ เหมือนกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาลองดูกันว่าผลงานในฤดูกาลล่าสุดของ ลูอิส มันเป็นยังไงบ้าง รวมถึงมีเกร็ดที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวเขามานำเสนอด้วย

    – เกมรับ
    ในด้านการตัดบอลแบบไม่ต้องเข้าสกัดนั้น ลูอิส ทำได้ในระดับที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะเขามีค่าเฉลี่ยด้านนี้เพียง 0.9 ครั้งต่อนัด ส่วนการช่วยดักล้ำหน้านั้นเขาก็ทำได้เพียง 0.1 ครั้งต่อเกม ก่อนที่สุดท้าย นอริช จะต้องตกชั้น แต่นั่นเป็นเพียงด้านแย่ๆ เพียงไม่กี่ด้านของเขาในเกมรับ


 

    ในส่วนของการพุ่งสกัดนั้น เขาสไลด์โดนบอลเฉลี่ยแล้วถึง 1.8 ครั้งต่อนัด หรือคิดเป็น 69 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังโดนคู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านได้เพียง 0.5 ครั้งต่อเกมด้วย ขณะเดียวกันเขายังเสียฟาวล์เพียงแค่ 0.5 ครั้งต่อเกมเท่านั้น และนั่นก็ทำให้ใน พรีเมียร์ลีก ตลอดทั้งฤดูกาล 2019-20 เขาโดนใบเหลืองไปเพียง 4 หน

    – เกมรุก
    ลูอิส ได้รับคำชมเรื่องการเล่นเกมรุกมากกว่าเกมรับ ซึ่งถ้าดูที่การเลี้ยงบอลแล้วมันก็ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้รับคำชม เพราะเจ้าตัวสามารถเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้ถึงเฉลี่ย 1.2 ครั้งต่อเกม ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับนักเตะที่อายุเพียง 22 ปี แถมยังอยู่กับทีมที่สุดท้ายแล้วต้องตกชั้นแบบ นอริช อีก นอกจากนี้ เขายังมีค่าเฉลี่ยผ่านบอลระยะไกลเข้าเป้า 1.1 ครั้งต่อเกมด้วย


 

    อย่างไรก็ตาม ในเกมรุกจุดอื่นๆ นั้นถ้าจะบอกว่าเขายังทำผลงานได้ไม่ดีพอกับการเป็นอะไหล่ของ โรเบิร์ตสัน มันก็คงจะไม่ผิดอะไรนัก เพราะเจ้าตัวครอสบอลเข้าเป้าเพียง 0.4 ครั้งเกม หรือถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็อยู่ที่ 23 เปอร์เซ็นต์ จากการครอสบอลทั้งหมด 44 ครั้ง ทั้งที่การเปิดบอลจากด้านข้างถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญของฟูลแบ็ก


 

    นอกจากนี้ เขาก็มีค่าเฉลี่ยการผ่านบอลที่เป็นจังหวะสำคัญแค่ 0.5 ครั้งต่อเกมด้วย ขณะที่เปอร์เซ็นต์การผ่านบอลเข้าเป้าโดยรวมของเขาอยู่ที่ 78.9 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในด้านการจับบอลนั้น ลูอิส ยังมีปัญหาอยู่ในระดับหนึ่ง โดยเขาทำบอลหลุดจากเท้าเองเฉลี่ยแล้ว 1.3 ครั้งต่อเกม อย่างไรก็ตาม เขาก็โดนคู่แข่งแย่งบอลไปจากเท้าได้ยากพอตัว เพราะว่าค่าเฉลี่ยในด้านนี้อยู่ที่ 0.8 ครั้งต่อนัดเท่านั้น

    – เกร็ดน่าสนใจ
    * แม้ว่าจะเกิดที่ประเทศอังกฤษ แต่ ลูอิส เลือกเล่นให้ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ จากการที่คุณแม่ของเขาเกิดที่กรุงเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ โดยเขาเล่นให้ ไอร์แลนด์เหนือ ทั้งในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี กับรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ก่อนที่จะได้ติดทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2018


 

    * ลูอิส ทำผลงานได้โดดเด่นกับ นอริช มาตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 แล้ว โดยเขาถึงขั้นได้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ อีเอฟแอล ประจำเดือนกันยายน ปี 2018 รวมถึงติดทีมยอดเยี่ยมของ อีเอฟแอล ประจำซีซั่น 2018-19 และยังช่วยให้ นอริช ได้แชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ จนได้ขึ้นมาเล่น พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2019-20 ก่อนที่ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" จะตกชั้นกลับไปเล่นใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อย่างรวดเร็ว

    * หนึ่งในคุณสมบัติของฟูลแบ็กคือต้องมีความเร็วที่ดี และ ลูอิส ก็ไม่มีปัญหาในเรื่องนั้น ที่จริงแล้วสมัยยังเป็นเพียงดาวรุ่งเขาเคยลงแข่งวิ่งระยะ 800 เมตร กับ 1,500 เมตรของสหราชอาณาจักรมาแล้ว แถมยังทำผลงานได้ดีด้วย ขณะที่ในปี 2014 เขาก็เคยลงแข่งวิ่งวิบากรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีในระดับโรงเรียนของอังกฤษ และได้ที่ 2 ในการแข่งขันเลย