
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาคืนฟอร์มได้สำเร็จหลังบุกถล่ม นิวคาสเซิ่ล ขาดลอยถึง 4-1 โดยเกมนี้ "ผีแดง" เป็นฝ่ายที่ครองเกมเหนือกว่ามากและมีโอกาสยิงถึง 28 ครั้งเลยทีเดียว แต่ความจริงลูกทีมของ โซลชา มาได้ 3 ประตูรวดในช่วงท้ายเกม ขณะที่ "สาลิกาดง" นอกจากได้ประตูจากการทำเข้าประตูตัวเองของผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วก็ไม่ได้สร้างความอันตรายให้กับผู้มาเยือนเลยจนสุดท้ายต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด เราสรุปประเด็นเกิดขึ้นในเกมนี้มาให้ทุกท่านแล้ว
1.บรูโน่ดีไม่สุดแต่ยังฉายแสง
แม้ว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะยิงจุดโทษพลาดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด (ยิง 10 ครั้ง พลาด 1 ครั้ง) แต่เจ้าตัวยังโชว์ให้เห็นถึงการมีอิทธิพลในแนวรุกของทีมเป็นอย่างมาก
มันค่อนข้างนานมาแล้วที่ บรูโน่ จะทำผลงานน่าประทับใจตลอดทั้ง 90 นาที และสำหรับเกมนี้เขาก็เป็นเช่นนั้น มองดูสถิติแล้วเขามีเปอร์เซ็นต์จ่ายบอลแม่นยำน้อยที่สุดในทีม (80%) เราจะเห็นเขาออกบอลได้-เสียอยู่หลายครั้งซึ่งผลลัพธ์ส่วนใหญ่จะออกมาทางจ่ายเสียมากกว่า
อย่างไรก็ตาม บรูโน่ มีสถิติสร้างโอกาสทำประตูถึง 6 ครั้ง และยังมายิงประตูท้ายเกมบวกกับแอสซิสต์ให้ แรชฟอร์ด กดประตูปิดกล่อง ถือว่าฉายแสงเลยทีเดียว มีนักเตะ “ผีแดง” น้อยคนนักที่จะยิงประตูในวันที่เล่นไม่เพอร์เฟคแต่ บรูโน่ สามารถทำแบบนั้นได้และสิ่งนี้ก็ช่วย แมนฯ ยูไนเต็ด เอาตัวรอดมาหลายครั้ง
2.กัปตันเรียกความมั่นใจ
กัปตันทีม แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยฟอร์มที่ย่ำแย่ ทั้งก่อความผิดพลาดจนเสียหลายประตู รวมถึงการโดนใบแดงในเกมชาติที่ผ่านมาด้วย ก่อนเกมนี้ ริโอ เฟอร์ดินาน และแฟนบอลหลายคนมองว่าปราการหลังรายนี้ควรถูกดร็อปเพื่อกลับไปคิดทบทวนฟอร์มการเล่นของตัวเองรวมถึงให้พักผ่อนหลังจาก โซลชา ใช้งานมาหนักตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม็กไกวร์ ยังได้รับความไว้วางใจจาก โซลชา หลังมีชื่อออกสตาร์ทตัวจริงในเกมนี้ และเขาก็ตอบแทนกุนซือด้วยการโหม่งประตูตีเสมอ นิวคาสเซิ่ล ให้ทีมกลับสู่เกมได้เร็วในครึ่งเวลาแรก ส่วนในเรื่องเกมรับอาจมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยแต่โดยรวมถือว่าช่วยทีมได้เยอะ ประตูนี้น่าจะเป็นการเรียกความมั่นใจของเจ้าตัวกลับมา แฟนผีก็คงหวังว่าจะได้เห็น แม็กไกวร์ แบบในช่วงที่เขาเก็บคลีนชีทติดๆกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
3.วาน-บิสซาก้าเปิดซิงยิง
เกมรุกทางฝั่งขวาของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพึ่ง อารอน วาน-บิสซาก้า เป็นหลัก เนื่องจาก “ผีแดง” ยังไม่มีปีกขวาธรรมชาติที่พึ่งพาได้เข้ามาในทีม เกมนี้ ฆวน มาต้า ยืนทางปีกขวาก็จริงแต่เขามักจะเลี้ยงตัดเข้าด้านในเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเกมรุกทางริมเส้นฝั่งขวาจะเหลือแค่ วาน-บิสซาก้า คนเดียว
แต่อย่างที่เราทราบกันว่าอดีตแบ็กขวาพาเลซโดดเด่นในเรื่องเกมรับมากกว่า นั่นทำให้ประสิทธิภาพเกมรุกทางฝั่งขวาของทีมนั้นด้อยลงไป อย่างไรก็ตามเขายังพอมีพิษสงอยู่บ้าง และเกมนี้เจ้าตัวมาเปิดซิงยิงประตูแรกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการซัดเต็มข้อเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม ฉลองการลงเล่นครบ 50 นัดกับต้นสังกัดพอดี ถือเป็นสัญญาณที่ดีมากขึ้นกับการปรับปรุงเกมรุกของเขา
4.มาต้าโดดเด่น
เมื่อทีมขาดตัวรุกทางฝั่งขวาอย่าง เมสัน กรีนวู้ด ที่บาดเจ็บ เลยกลายเป็นประเด็นว่า โซลชา จะเลือกใครลงสนามแทน ซึ่งต้องบอกว่ากุนซือ “ผีแดง” จิ้มเลือกได้เหมาะสมทีเดียว
ฆวน มาต้า ออกสตาร์ทตัวจริงแบบเซอร์ไพรส์อยู่พอสมควร แต่ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้เขาทำผลงานได้ดีในศึกคาราบาว คัพหลังยิง 1 จ่าย 1 ในเกมพบ ไบรท์ตัน จึงเป็นโอกาสของ มาต้า ในการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และเขาทำได้ดีทีเดียว
แนวรุกชาวสเปนิชมีส่วนกับเกมรุกตลอด ความจริงเขาน่าได้แอสซิสต์ตั้งแต่จ่ายให้กับ บรูโน่ ทำประตูแล้วแต่น่าเสียดายที่เป็นจังหวะล้ำหน้า ทว่าต่อมาเจ้าตัวยังมาเปิดเตะมุมสุดแม่นยำให้ แม็กไกวร์ โขกตีเสมอ
เกมนี้ จามาล ลูอิส แบ็กขวานิวคาสเซิ่ลปั่นป่วนมากกับการเคลื่อนที่ของ มาต้า ทั้งการตัดเข้าตรงกลาง, ดร็อปต่ำรับบอล และ วิ่งตัดหลัง เขายังมีส่วนจ่ายบอลทำเกมรุกให้เกิดประตูที่ 3 ด้วย เป็นฟอร์มที่เราไม่ได้เห็นมานานของ มาต้า เชื่อว่าเขาจะกลับมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในแคนดิเดตแนวรุกฝั่งขวาอีกครั้ง
5.แรชฟอร์ดเปรี้ยงท้ายเกม
มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาสวมบทบาทกองหน้าตัวเป้าอีกครั้งหลังจาก อ็องโตนี่ มาร์ซิยาล ติดโทษแบน ขณะที่ เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าตัวใหม่ของทีมยังไม่สามารถลงสนามได้เนื่องจากอยู่ในช่วงกักตัว
โดยรวมแล้วเกมนี้ถือว่าสอบผ่าน แม้ว่าจะใช้โอกาสยิงค่อนข้างเปลือง (โอกาสยิง 7 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้ง) แต่เจ้าตัวมาโชว์ฟอร์มโดดเด่นในช่วงท้ายเกม ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายให้ บรูโน่ ยิงประตูแซงนำ, เรียกจุดโทษให้กับทีม, ทำชิ่งหนึ่งสองให้ วาน-บิสซาก้า ยิงประตู ปิดท้ายด้วยการหลุดเดี่ยวไปซัดประตูปิดกล่อง ถือเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลได้ใช้ได้ทีเดียวกับการยิง 2 จ่าย 2 จากการลงเล่น 4 นัดแม้ว่าฟอร์มอาจจะยังไม่ได้เปรี้ยงถึงที่สุดก็ตามแต่ถือว่าดีกว่าเพื่อนร่วมทีมอย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
6.เอาชัยก่อนโปรแกรมหนัก
นี่เป็นชัยชนะครั้งที่สองของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้พร้อมกับขยับขึ้นอันดับที่ 14 ของตาราง นักเตะและตัวกุนซือตอบสนองได้ดีหลังจากพ่ายแพ้คาบ้านมาอย่างยับเยินเมื่อนัดที่แล้ว เกมที่ต้องคว้าสามแต้มสถานเดียวและทีมสามารถทำได้ตามเป้าหมายก็ต้องให้เครดิตกับน้าโอเล่ด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ “ผีแดง” จะเข้าสู่ช่วงโปรแกรมสุดหินแล้ว
3 เกมลีกต่อไป แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องทำศึกหนักทั้งหมด โดยเริ่มจากการเปิดบ้านรับการมาเยือนของสองยอดทีมแห่งลอนดอนนั่นคือ เชลซี และ อาร์เซน่อล ก่อนจะต้องออกไปเยือนทีมฟอร์มร้อนแรงของฤดูกาลนี้อย่าง เอฟเวอร์ตันด้วย นอกจากนี้ช่วงกลางสัปดาห์ของแต่ละอาทติย์ โซลชา ยังต้องลุยศึก ชปล. อีกโดยจะเริ่มจากวันอังคารนี้ที่บุกเยือนของแข็งอย่าง เปแอสเช และยังต้องดวลกับ ไลป์ซิก และ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ด้วย งานนี้ โซลชา จะเซฟเก้าอี้ไหวหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับ 6 นัดที่กล่าวมานี้แหละ