เครื่องจักรถล่มประตู! เลวานดอฟสกี้จารึกสถิติบุนเดสลีกา

กองหน้าทีมเสือใต้ยังคงทำผลงานได้ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจารึกสถิติใหม่ในลีกสูงสุดเยอรมันขึ้นมาอีกครั้ง

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงของ บาเยิร์น มิวนิค กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาที่ยิงได้ 10 ประตู จาก 5 นัดแรกของฤดูกาล

กองหน้าชาวโปลิชระเบิดฟอร์มทำแฮททริคช่วยเสือใต้เปิดรังถล่ม ไอน์ทรัคต์ แฟรงค์เฟิร์ต 5-0 ทำให้ยอดรวมสกอร์ในลีกฤดูกาลนี้ของเขาเพิ่มเป็น 10 ประตู จาก 5 เกม กลายเป็นสถิติใหม่ของลีกสูงสุดเยอรมันทันที

ส่วนอีก 2 ประตูในเกมนี้เป็นผลงานของ เลรอย ซาเน และ จามัล มูเซียลา ขณะที่เสือใต้รั้งอันดับ 2 ของตารางร่วมกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยมี 12 คะแนน ตามหลัง แอร์เบ ไลป์ซิก จ่าฝูง 1 คะแนน

 

แฟนบาเยิร์นเซ็ง!เดวิสเดี้ยงพักยาว2เดือน

ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับสาวก "เสือใต้" เพราะล่าสุดเป็นที่แน่นอนแล้ว อัลฟอนโซ่ เดวิส แบ็กซ้ายความเร็วสูง จะต้องพักแข้งราว 2 เดือน หลังเจ็บหนักมาจากเกมลีกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค ยืนยันว่า อัลฟอนโซ่ เดวิส แบ็กซ้ายดาวรุ่งคนเก่ง จำเป็นต้องพักแข้งราว 6-8 สัปดาห์ หลังได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่เอ็นข้อเท้าขวา จากเกม บุนเดสลีกา เยอรมัน นัดล่าสุดที่ "เสือใต้" เปิดรัง อัลลิอันซ์ อารีน่า ไล่ถล่ม ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 5-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา

"เขาเจ็บที่เอ็นข้อเท้า โดยมีเอ็นเส้นหนึ่งขาด และอีกเส้นหนึ่งเกือบขาด เราประเมินกันว่า เขาน่าจะพักราว 6-8 สัปดาห์ แน่นอนว่า การเสีย เดวิส ไป ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรา" ฟลิค กล่าวหลังเกม

ทั้งนี้ ดาวเตะทีมชาติแคนาดาวัย 19 ปี ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกม ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีที่ 3 (ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ ถูกส่งลงไปเล่นแทน) โดยเกมนี้ บาเยิร์น ได้ประตูจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่เหมาทำคนเดียว 3 ประตูแรก ในนาทีที่ 10, 26 และ 60 ซึ่งถือเป็นแฮตทริกหนที่สองของเจ้าตัวในศึก บุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้ด้วย ก่อนที่ ลีรอย ซาเน่ และ จามัล มูเซียล่า จะช่วยทำอีกคนละประตูในนาทีที่ 72 และ 90 ตามลำดับ

บาเยิร์นก็ไม่เว้น! เลวานดอฟสกี้ยิงครบ 18 ทีมบุนเดสลีกา

 

กองหน้าชาวโปแลนด์ทำสถิติยิงประตูครบทั้ง 18 ทีมในบุนเดสลีกา หลังซัดเบิ้ลใส่ อาร์มิเนีย บีเลเฟลด์ ทีมน้องใหม่

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าของ บาเยิร์น มิวนิค ทำสถิติยิงครบ 18 ทีมในบุนเดสลีกา หลังซัดสองประตูใส่ อาร์มิเนีย บีเลเฟลด์

ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ทำ 2 ประตู ช่วยเสือใต้บุกพิชิตแชมป์จากลีก้าสอง 4-1 ทำให้เขายิงใส่ครบทุกทีมในลีกแล้ว ซึ่งรวมถึงการยิงใส่บาเยิร์นด้วย (สมัยค้าแข้งกับดอร์ทมุนด์)

หัวหอกวัย 32 ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในซีซันนี้ เมื่อทำไปแล้ว 7 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ จาก 4 เกมในลีก

 

แรชฟอร์ดชอบยิงสิงห์!เกร็ดน่ารู้เกมบิ๊กแมตช์”แมนยู VS เชลซี”

 ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ที่น่าสนใจสุดในค่ำคืนนี้ หนีไม่พ้นเกมบิ๊กแมตช์ ณ สังเวียนแข้ง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะดวลกับ เชลซี ซึ่งทาง "ปีศาจแดง" ก็มุ่งมันที่จะคว้าชัยชนะต่อเนื่อง หลังเกมล่าสุดบุกไปอัด นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-1 ขณะที่ "สิงห์บลูส์" ก็หวังที่จะกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะ หลังสุดสัปดาห์ก่อนทำได้แค่เปิดบ้านเจ๊า เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 โดยมาเสียประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และนี่คือเกร็ดน่าสนใจเล็กๆ น้อยๆ ก่อนเกม
 เฮด-ทู-เฮด
 – หาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะได้ ก็จะกลายเป็นครั้งแรกของพวกเขานับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1965 (ยุคกุนซือ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้) ที่ชนะ เชลซี ในลีกได้ 3 นัดติด
 – เชลซี บุกไปเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกม พรีเมียร์ลีก ไม่ได้มา 7 นัดติด (เสมอ 4, แพ้ 3) ซึ่งถือเป็นการคว้าชัยเกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด์ ไม่ได้ยาวนานสุดของพวกเขา นับตั้งแต่ที่เคยไร้ชัย 16 นัดติด ช่วงระหว่างเดือนกันยายน ปี 1920 ถึง เดือนมกราคม ปี 1957
 – อย่างไรก็ตาม เชลซี เป็นเพียงสโมสรเดียวที่มีสถิติชนะมากกว่าแพ้ ในการดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค พรีเมียร์ลีก (เชลซี ชนะ 18 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 17 ครั้ง)

 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 – หากแพ้เกมนี้ ก็จะถือเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์สโมสร ที่ออกสตาร์ตเกมลีก 3 นัดแรกที่บ้านของฤดูกาล และแพ้รวด โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 1930 ซึ่งซีซั่นนั้น (1930/31) "ปีศาจแดง" จบด้วยการครองบ๊วย
 – หนล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 3 นัดติด เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1979
 – ถ้าไม่ชนะเกมนี้ ก็จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ชนะเกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 5 นัดติด (รวม 2 นัดจากซีซั่นที่แล้ว) ซึ่งจะกลายเป็นสถิติใหม่ของสโมสรทันที
 – บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพเลือดฝอยทอง มีส่วนร่วมกับการทำประตูถึง 20 ลูก (ยิง 11, แอสซิสต์ 9) จากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 18 นัด ซึ่งเป็นสถิติที่เหนือกว่าผู้เล่น "ปีศาจแดง" ทุกคน นับตั้งแต่ที่เขาลงเล่นนัดแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
 – มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าความเร็วสูง ทำไปถึง 4 ประตู จาก 3 เกมหลังสุดที่เจอกับ เชลซี (รวมทุกรายการ) ซึ่งก็รวมถึงการเหมาสองตุงในเกมเปิดซีซั่นก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ต้อน "สิงห์บลูส์" 4-0
 – นอกจากนี้กุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีสถิติคุมทีมชนะ 4 จาก 6 นัดที่เจอกับ เชลซี (เสมอ 1, แพ้ 1)
 

 เชลซี
 – เชลซี เสมอ 4 จาก 8 เกมที่ลงเตะรวมทุกรายการในซีซั่นนี้ (ชนะ 3, แพ้ 1)
 – "สิงห์บลูส์" คว้าชัยได้ถึง 5 ครั้ง จากการลงเตะเกมเยือนในศึก พรีเมียร์ลีก 6 นัดแรกยุคกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทว่า 15 นัดหลังจากนั้น พวกเขาเก็บชัยชนะได้แค่ 5 หน (เสมอ 4, แพ้ 6)
 – เชลซี ยุค แลมพาร์ด เสียประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ไปถึง 63 ลูก จากการลงเตะ 43 นัด โดยเฉลี่ยตกนัดละ 1.5 ลูก ซึ่งถือเป็นเรตที่เลวร้ายที่สุดเหนือกุนซือ เชลซี ทุกคนในประวัติศาสตร์สโมสร (นับเฉพาะกุนซือที่คุมถาวร)
 – นอกจากนี้ นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว เชลซี เสียประตูเกมเยือนในศึก พรีเมียร์ลีก ไปแล้วถึง 42 ลูก ซึ่งมากกว่าทุกทีมในลีก
 – นับเฉพาะปี 2020 มีเพียงแค่ อาร์เซน่อล (15 แต้ม) เท่านั้น ที่ทำคะแนนหลุดมือจากสถานการณ์ที่กำลังจะชนะ มากกว่า เชลซี (13 แต้ม)
 – นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกเลือดเบียร์ ทำประตูในเกมลีกไปแล้วถึง 30 ลูก ซึ่งในบรรดา 5 ลีกใหญ่ยุโรป เขาเป็นรองเพียงแค่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค), ชิโร่ อิมโมบิเล่ (ลาซิโอ) และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส) เท่านั้น

ฟลิคปลื้มบาเยิร์นฟอร์มดุต่อเนื่องหลังกดชาลเก้8ตุง

ฮันซี่ ฟลิค กุนซือ บาเยิร์น มิวนิค สุดปลื้มกับผลงานลูกทีม หลัง "เสือใต้" เปิดหัวซีซั่นใหม่แบบสุดโหด ด้วยการยำใหญ่ ชาลเก้ 04 8-0 ขณะที่ ลีรอย ซาเน่ พูดถึงต้นสังกัดเก่าได้อย่างน่าสนใจ

ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์คนเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค กล่าวชื่นชมลูกทีมที่ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และเล่นได้ตามมาตรฐานจากฤดูกาลที่แล้ว หลังจากที่ทัพ "เสือใต้" เปิดรัง อัลลิอันซ์ อารีน่า ไล่ถล่ม ชาลเก้ 04 แบบไม่มียั้งด้วยสกอร์ 8-0 ในเกม บุนเดสลีกา เยอรมัน นัดเปิดฤดูกาล 2020/21 เมื่อวันศุกร์ที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา

 เมื่อปลายเดือนก่อน บาเยิร์น ปิดฉากฤดูกาล 2019/20 อย่างสุดหรู ด้วยการกวาดเรียบทั้งแชมป์ บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ-โพคาล และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งถึงแม้ได้พักแข้งเพียงไม่กี่วัน แต่ทัพนักเตะ "เสือใต้" ก็เปิดฉากฤดูกาลใหม่ได้อย่างดุดันทันที โดยเกมนี้ แซร์จ นาบรี้ กดคนเดียว 3 ตุง ส่วน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, โธมัส มุลเลอร์, ลีออน โกเร็ตซ์ก้า, จามัล มูเซียล่า และแข้งใหม่อย่าง ลีรอย ซาเน่ ช่วยทำคนละลูก

"ถือเป็นฟอร์มการเล่นที่สุดยอดมากๆ จากเรา ก่อนเริ่มเกม เราอยากให้เกมนี้เป็นเกมที่ช่วยเราตอกย้ำสถานะของเรา ซึ่งนักเตะของผมทุกคนก็ทำผลงานกันได้ดีมากๆ เราอยากจะแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของเราอีกครั้งในฤดูกาลนี้ แต่นี่เพิ่งจะเป็นเกมแรกเท่านั้น ปล่อยให้เราได้เดินไปอย่างช้าๆ แต่แน่นอนว่า มันสำคัญมากๆ ที่เราได้แสดงให้เห็นว่า เรากำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง" ฟลิค กล่าวหลังเกม

ขณะที่ ซาเน่ ยอมรับว่า ตนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ที่เห็นสังกัดเก่าอย่าง ชาลเก้ แพ้เละเทะประเดิมซีซั่นใหม่ "แน่นอน ผมเคยอยู่กับ ชาลเก้ มานาน ดังนั้นการแพ้แบบนี้ตั้งแต่เกมเปิดฤดูกาล มันเป็นอะไรที่ยากลำบาก ผมอยากจะขอโทษพวกเขาเหมือนกัน"

ทั้งนี้ นอกจากทำ 1 ประตูแล้ว เกมนี้ ซาเน่ ยังมี 2 แอสซิสต์ด้วย

ฟอร์มเปรี้ยง!เลวานฯสุดมั่นซิวบัลลงดอร์ถ้าหากไม่ยกเลิก

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอก บาเยิร์น มั่นใจ ตนควรจะได้รางวัล บัลลง ดอร์ ในปีนี้ถ้าหากไม่มีการยกเลิกการมอบรางวัล เพราะตนทำผลงานได้ยอดเยี่ยมสุดๆ

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าชาวโปแลนด์ของ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ บุนเดสลีกา เยอรมัน แสดงความเชื่อว่าตัวเองควรจะได้รางวัล บัลลง ดอร์ ประจำปี 2020 หากยังมีการมอบรางวัลกันอยู่ โดยบอกว่าถ้าตนมีอำนาจในการตัดสินคนที่จะได้รางวัล ตนก็จะมอบรางวัลให้ตัวเอง

ฟร้องซ์ ฟุตบอล นิตยสารวงการลูกหนังชื่อดังของฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้จัดมอบรางวัล บัลลง ดอร์ นั้น ประกาศไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่าปีนี้จะไม่มีการมอบรางวัลอันทรงเกียรติ เนื่องจากมองว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มันส่งผลกับเรื่องในสนามตามไปด้วยจนทำให้ไม่สามารถตัดสินเรื่องผลงานอย่างแท้จริงได้ อย่างเช่น ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่เตะกันไม่จบซีซั่น เป็นต้น

 ทั้งนี้ บางคนมองว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เพราะแทบทุกลีกก็ยังสามารถเล่นกันจนจบได้ อย่างเช่น คาร์ล-ไฮน์ซ รุมเมนิกเก้ ประธาน บาเยิร์น ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่าถ้าเกิดมีการมอบรางวัลกันตามปกติแล้วล่ะก็ เลวานดอฟสกี้ ก็มีโอกาสดีที่จะได้รางวัลนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตของเจ้าตัวเลย ซึ่งล่าสุด เลวานดอฟสกี้ ก็มองว่าตัวเองคู่ควรกับการได้รางวัลลูกฟุตบอลทองคำเหมือนกัน

    หลังจากโดน สปอร์โตเว่ ฟ๊ากตี้ สื่อของโปแลนด์ถามว่าถ้าปีนี้เขามีสิทธิ์มอบรางวัล บัลลง ดอร์ เขาจะมอบรางวัลให้ใครนั้น เลวานดอฟสกี้ ก็ตอบว่า "ให้ผมเองไง ผมได้แชมป์ทุกรายการเท่าที่จะทำด้กับ บาเยิร์น เรากวาดแชมป์ได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น บุนเดสลีกา, เยอรมัน คัพ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก และผมก็เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทั้ง 3 รายการนั้นด้วย ผมคิดว่านักเตะที่ทำแบบนั้นได้ก็ควรจะเป็นคนที่ได้ บัลลง ดอร์ ไปครอง"

 

โคลเผยผลเสียที่อาจตามมาหากแมนยูซิวซานโช่

แอนดี้ โคล ระบุ ถ้าหาก แมนฯ ยูไนเต็ด ซื้อ เจดอน ซานโช่ มาร่วมทัพ มันก็อาจจะส่งผสเสียกับการพัฒนาฝีเท้าของ เมสัน กรีนวู้ด ได้เลย ชี้ ที่จริงตอนนี้ "ปีศาจแดง" ไม่ควรจะทำอะไรก็ตามที่จะชะลอพัฒนาการของ กรีนวู้ด

    แอนดี้ โคล อดีตยอดกองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตือน "ปีศาจแดง" ว่าการคว้าตัว เจดอน ซานโช่ มาร่วมทัพ มันอาจจะส่งผลเสียต่อพัฒนาการของ เมสัน กรีนวู้ด กองหน้าดาวรุ่งของทีมตามไปด้วย

    แมนฯ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวกับ ซานโช่ อย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ว่ากันว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมของพวกเขาต้องการทำให้เกมรุกตรงริมเส้นมีความอันตรายมากกว่านี้ โดยถึงแม้ว่าผู้บริหารของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะให้สัมภาษณ์อย่างต่อเนื่องว่า ซานโช่ จะอยู่ช่วยทีมต่อไปในฤดูกาล 2020-21 แต่ก็มีข่าวว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ตัดใจจากการล่า ซานโช่ แต่อย่างใด

    ถึงกระนั้น หลายคนก็ตั้งประเด็นว่าการเอา ซานโช่ มาร่วมทัพมันเป็นภารกิจที่สำคัญมากที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนี้จริงๆ รึเปล่า หลังจาก 3 แนวรุกตัวจริงของพวกเขาอย่าง กรีนวู้ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ มาร์คัส แรชฟอร์ด กำลังทำผลงานได้โดดเด่นพอตัว โดยเฉพาะ กรีนวู้ด ที่เพิ่งมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น จนดูมีโอกาสที่จะพัฒนาฝีเท้าได้อีก

    โคล เผยว่า "เมสัน เป็นคนที่เก่งจนน่ากลัว เขาน่ากลัวมากๆ ถ้าเกิดเด็กคนนี้พัฒนาได้ตามศักยภาพของเขาแล้วล่ะก็ มันก็จะถือว่า ยูไนเต็ด มีนักเตะที่เก่งอยู่ในมือของพวกเขาอยู่แล้ว มันน่ากลัวมากๆ และมันอาจจะต้องใช้เวลานานอีกสักพัก (หมายถึงใช้เวลาอีกสักพักกว่าที่ กรีนวู้ด จะพัฒนาตัวเองให้เก่งกว่านี้)"

    "เขาอาจจะต้องเดินหน้าเล่นให้ได้แบบนี้ต่อไป, ทำประตูต่อไปเรื่อยๆ และสร้างความกดดันในแดนหน้าให้ได้ต่อไป เมื่อเขาโตขึ้นและเรียนรู้เกมการเล่นได้มากกว่านี้แล้วน่ะ มันก็จะถือว่า ยูไนเต็ด มีนักเตะที่ทำได้ทุกอย่างอยู่ในทีม เขาสามารถเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าแบบพวกนักเตะหมายเลข 9 ได้ และสามารถโยกไปยืนเป็นตัวริมเส้นในแผนที่ใช้กองหน้า 3 คนได้ด้วย มันน่าสนใจมากๆ ที่จะได้ดูกันว่า ยูไนเต็ด คิดว่าตำแหน่งไหนที่เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา รวมถึงเรื่องที่ว่าพวกเขามองว่าเขาเป็นนักเตะแบบไหน"

    "สำหรับผมแล้วนักเตะแบบหมายเลข 9 ที่เก่งที่สุดในโลกคือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แต่ตอนนี้มันไม่มีนักเตะแบบ เลวานดอฟสกี้ อยู่ในโลกนี้มากเท่าไหร่นัก ถ้าเกิดพวกเขาเอา เจดอน ซานโช่ มาร่วมทีมแล้วล่ะก็ มันก็ต้องระวังให้ดีด้วย เพราะคุณไม่อยากชะลอพัฒนาการของเขา (กรีนวู้ด) หรอก อย่าเข้าใจผิดนะ ยูไนเต็ด ยังจำเป็นต้องเสริมทัพให้ได้ เพราะคุณต้องพัฒนาทีมให้ดีขึ้นในทุกๆ ฤดูกาล แต่ประเด็นก็คือมันต้องหาสมดุลที่ดีให้ได้ด้วย ถ้าเกิดคุณมีนักเตะอย่าง เมสัน กรีนวู้ด อยู่ในทีมแล้วล่ะก็ คุณก็ไม่ควรทำอะไรก็ตามที่จะเป็นการปิดกั้นพัฒนาการของเขา"

สถิติ UCL! ‘เลวานดอฟสกี้-กนาบรี้’ยิงแซง’โรนัลโด้-เบล’

สองแนวรุกเสือใต้ซัดประตูแซงอดีตดูโอของราชันชุดขาว และเป็นสถิติใหม่ของถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก


โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ แซร์จ กนาบรี้ กลายเป็นคู่หูที่ยิงประตูมากที่สุดในศึกยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก 1 ฤดูกาล

ทีมเสือใต้โชว์ฟอร์มแกร่งไล่ยิง โอลิมปิค ลียง ในรอบรองชนะเลิศ 3-0 จากผลงานของกนาบรี้ 2 ประตู และเลวานดอฟสกี้ 1 ประตู

นั่นทำให้ทั้งคู่ยิงรวมกันในถ้วยยุโรปฤดูกาลนี้ไปแล้ว 24 ประตู (เลวานดอฟสกี้ 15, กนาบรี้ 9) กลายเป็นสถิติใหม่ของศึกแชมเปี้ยนส์ลีกทันที แซงหน้า คริสเตียโน โรนัลโด้ และ แกเร็ธ เบล ที่เคยยิงช่วย เรอัล มาดริด รวมกัน 23 ประตู ในฤดูกาล 2013/14

Editor Picks
-ส่องผลงาน 14 แข้งบราซิลของ เชลซี ใครรุ่ง ใครร่วง?
-แข้งแมนฯซิตี้ ฤดูกาล 2007/08 ก่อนถูกเทคโอเวอร์ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?
-รุ่นพี่ปิร์โล : ส่องผลงาน 16 กุนซือ จากนักเตะดังสู่โค้ช
-Rank It Up : 8 ดาวรุ่งอาเซียนค่าตัวแพงที่สุด

ขณะเดียวกัน ดาวยิงชาวโปแลนด์ยังมีลุ้นทาบสถิติยิงประตูสูงสุดในถ้วยยุโรป 1 ฤดูกาล หลังตอนนี้ตามหลังเจ้าของสถิติอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ ที่ทำไว้ 17 ประตู ในฤดูกาล 2013/14 เพียง 2 ประตู ในขณะที่ยังมีโปรแกรมลงเล่นนัดชิงชนะเลิศกับ ปา่รีส แซงต์ แชร์กแมง 

ด้านบาเยิร์นก็มีลุ้นทำลายสถิติยิงประตูสูงสุดในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก 1 ฤดูกาลเช่นกัน ซึ่งบาร์เซโลนาทำไว้ 45 ประตู ในฤดูกาล 1999-2000 หลังตอนนี้พวกเขายิงไปแล้ว 41 ประตู

 

กีเก้ เซเตียน : เลวานดอฟสกี้สุดยอดมาก แต่คนละระดับกับเมสซี

กุนซือบาร์ซายอมรับว่าดาวยิงชาวโปแลนด์เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ยังอยู่คนละระดับกับ ลิโอเนล เมสซี

กีเก้ เซเตียน เฮดโค้ช บาร์เซโลนา ยอมรับว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าตัวเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ยังอยู่คนละระดับกับ ลิโอเนล เมสซี

หัวหอกชาวโปแลนด์ทำไปแล้ว 53 ประตู จากการลงสนาม 44 นัดรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ ซึ่งนายใหญ่อาซูลกรานายอมรับว่าดาวยิงเสือใต้กำลังอยู่ในฟอร์มที่สุดยอด แต่หากเทียบกับจอมทัพชาวอาร์เจนตินายังถือว่าอยู่คนละระดับ

"เลวานดอฟสกี้เป็นนักเตะชั้นยอด แต่เขาไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี นี่เป็นสิ่งที่ชัดเจน" เซเตียน กล่าว

"ตอนนี้เขาอยู่ในฟอร์มที่ดี เขาทำไปแล้ว 13 ประตูในแชมเปี้ยนส์ลีก และทำแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมได้ดีด้วย แต่เราได้เห็นสิ่งที่ เมสซี ทำในเกมกับ นาโปลี แล้ว มันเป็นเรื่องดีที่เราได้สนุกกับนักเตะเหล่านี้"

บาร์เซโลนา มีคิวดวลกับ บาเยิร์น มิวนิค ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายในคืนวันที่ 14 สิงหาคมนี้

เผยสัญญาที่เรอัลมาดริดเคยใช้กล่อมเลวานดอฟสกี้

โอเน็ต สปอร์ต สื่อของโปแลนด์ เปิดเผยเอกสารที่อ้างว่าเป็นสัญญาที่ เรอัล มาดริด เคยยื่นให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ในตอนที่เขายังอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ โดยตอนน้น มาดริด เสนอให้เงินกินเปล่ากับค่าเหนื่อยเยอะสุดๆ
    เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน เคยยื่นข้อเสนอที่จะให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้เงินค่ากินเปล่าในตอนเซ็นสัญญาสูงถึง 10.95 ล้านยูโร (ประมาณ 394.2 ล้านบาท) เพื่อโน้มน้าวใจให้เขาย้ายไปเล่นกับทีมในช่วงที่เจ้าตัวยังอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตามการเปิดเผยของ โอเน็ต สปอร์ต สื่อในประเทศโปแลนด์

    เลวานดอฟสกี้ ทำผลงานได้สุดยอดในตอนที่อยู่กับ ดอร์ทมุนด์ จนทำให้ตอนนั้นเขาตกเป็นข่าวกับหลายทีมยักษ์ใหญ่ทั่วทวีปยุโรป อย่างเช่น มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่เขาจะเลือกไปซบ "เสือใต้" และยังเล่นให้ทีมดังกล่าวมาจนถึงทุกวันนี้

    ทั้งนี้ โอเน็ต สปอร์ต เผยว่าเมื่อปี 2013 นั้น มาดริด มุ่งมั่นที่จะเอา เลวานดอฟสกี้ ไปเสริมคมจนยื่นสัญญาที่จะให้เงินกินเปล่าเขา 10.95 ล้านยูโร โดยที่ตัวสัญญาจะมีระยะเวลานานถึง 6 ปี, เริ่มมีผลในปี 2014 และจะทำให้ เลวานดอฟสกี้ ได้ค่าเหนื่อยแบบก่อนหักภาษีตลอดช่วงระยะเวลาของสัญญาสูงถึง 8.6 ล้านยูโร (ประมาณ 309.6 ล้านบาท) เลย โดยสื่อเจ้าดังกล่าวเอาภาพที่อ้างว่าเป็นสัญญามาโชว์ด้วย

    สาเหตุที่ มาดริด กล้าให้เงินเยอะขนาดนั้นเป็นเพราะตอนนั้น เลวานดอฟสกี้ กำลังจะหมดสัญญาจนทำให้ย้ายทีมแบบไร้ค่าตัวได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม สัญญาดังกล่าวมีเงื่อนไขด้วยว่า เลวานดอฟสกี้ ห้ามทำกิจกรรมต่างๆ หากเขาเป็นนักเตะของ มาดริด อย่างเช่นห้ามขี่มอเตอร์ไซค์, ห้ามเล่นสกี, ห้ามเล่นมอเตอร์โบท, ห้ามปีนเขา เป็นต้น และสุดท้าย เลวานดอฟสกี้ ก็ปฏิเสธข้อเสนอนั้นไป