เปิดตัวก็หรูแล้ว!ซัวเรซสร้างสถิติกับแอต.มาดริด

ผลงานอันสุดยอดในเกมที่ช่วยให้ แอต. มาดริด ไล่ต้อน กรานาด้า ทำให้ หลุยส์ ซัวเรซ เป็นนักเตะคนแรกของ "ตราหมี" ในศตวรรษนี้ที่ทั้งทำประตูและแอสซิสต์ให้ทีมในนัดประเดิมสนาม โดยเจ้าตัวเผยว่าสุดแฮปปี้กับผลงานของตัวเอง

หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าชาวอุรุกวัยกลายเป็นนักเตะคนแรกในศตวรรษนี้ของ แอตเลติโก มาดริด ที่ทั้งทำประตูและแอสซิสต์ให้ทีมได้ในนัดประเดิมสนาม หลังจากที่ช่วยให้ "ตราหมี" เปิดรัง ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ ไล่ถล่ม กรานาด้า 6-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา

ซัวเรซ เพิ่งย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาอยู่กับ แอต. มาดริด เมื่อวันพุธที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา และเขาก็ได้ประเดิมสนามในเกมกับ กรานาด้า ทันที โดยการมีส่วนร่วมกับประตูครั้งแรกของเขากับทีมคือชอตที่เจ้าตัวผ่านบอลให้ มาร์กอส ยอเรนเต้ ทำประตูที่ 4 ของทีมได้ แล้วหลังจากนั้นก็ทำ 2 ประตูในนาทีที่ 85 กับช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

นอกจากสถิตในเบื้องต้นแล้วนั้น ซัวเรซ ยังกลายเป็นนักเตะคนแรกในศตวรรษนี้ของ แอต. มาดริด ที่สามารถทำได้ 2 ประตูตั้งแต่นัดประเดิมสนามด้วย ซึ่งแข้งวัย 33 ปีให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่าดีใจมากๆ กับผลงานที่ทำได้ พร้อมบอกว่าตนจำเป็นต้องเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อที่จะกลับมาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมอีกครั้ง

"ผมดีใจมากๆ กับผลงานนัดประเดิมสนามของตัวเอง และกับ 3 แต้มที่ทีมทำได้ เมื่อคุณลงเล่นเป็นครั้งแรกและช่วยทีมทำประตูได้น่ะคุณก็จะมีความสุขเสมอนั่นแหละ ตอนนี้ผมจำเป็นต้องได้สูดอากาศที่สดใหม่ มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเปลี่ยนบรรยากาศและยอมรับมัน ผมได้มาอยู่กับสโมสรที่ต้อนรับผมอย่างยอดเยี่ยม บรรยากาศมันสุดยอดตั้งแต่แรกเลย และผลงานในสนามก็เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงเรื่องนั้น" อดีตดาวยิง ลิเวอร์พูล และ บาร์เซโลน่า ระบุ

 

ใหญ่ฟัดใหญ่!อินเตอร์จัด “ลูกากู” ยิง,เซบีย่ามี “ซูโซ่” ซัดนัดชิงฯยูโรปาลีก

"งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน อดีตแชมป์ 3 สมัยเน้นหนักเตรียมจัด โรเมลู ลูกากู นำล่าสกอร์ เกมพบ เซบีย่า อดีตแชมป์ 5 สมัยที่ฟอร์มสุดร้อนแรงโดยมี ซูโซ่ พร้อมล่าตาข่าย ในศึกฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ วันศุกร์ที่ 21 ส.ค. ศกนี้  เวลา 02.00 น.

ปรีวิว ฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ
วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2563, เวลา : 02.00 น.
เซบีย่า (สเปน)   –   อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)

 

สนาม : ไรน์ เอเนอร์กี้ สตาดิโอน (สนามกลาง)

    เซบีย่า เจ้าของแชมป์รายการนี้มากที่สุด 5 สมัย ทั้งยังพกสถิติสุดยอดชนะร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อได้เข้าชิงโดยนัดที่แล้วพวกเขาผ่าน แมนฯ ยูไนเต็ดเข้ามาด้วยสกอร์ 2-1

    ความพร้อมล่าสุดได้ เนมานย่า กูเดลย์ มิดฟิลด์เซิร์บหลังจากหายติดเชื้อโควิด-19 กลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองตั้งแต่รอบก่อนที่ชนะแมนฯ ยูไนเต็ด แต่เชื่อว่ากุนซือ จูเลน โลเปเตกี คงไม่เปลี่ยน 11 คนแรกที่กำลังทำผลงานได้ดี

    จะมีตำแหน่งเดียวที่ต้องชั่งใจเลือกก็คือหน้าเป้าระหว่าง ยูสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ ตัวจริงขาประจำดีกรีทีมชาติโมร็อกโก หรือ ลุค เดอ ยอง หอกดัตช์ฮีโร่ซูเปอร์ซับดับปีศาจแดง ส่วนริมเส้นยืนพื้น ซูโซ่ กับ ลูกัส โอกัมโปส เช่นเดิม

    ในราย เอเวร์ บาเนก้า กองกลางอาร์เจนไตน์ จะลงสนามทิ้งทวนแบบคลาสสิกเมื่อได้เจอกับอดีตต้นสังกัดตนเอง โดยหลังจบนัดชิงดำเขาจะย้ายไป อัล ชาบับ ในลีกซาอุดีอาระเบีย

    ในแดนหลังยังคงไว้ใจ ดีเอโก้ คาร์ลอส เซนเตอร์แบ็กบราซิเลียน แม้ทำเสียจุดโทษทั้ง 2 รอบก่อนหน้านี้ก็ตาม เช่นเดียวกับตำแหน่งเฝ้าเสา โทมัส วัชลิค มือ 1 เลือดเช็กหายเจ็บกลับมา ทว่า ยัสซีน บูนู ทำหน้าที่ได้ดีก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน

    ด้านทีมงูใหญ่ อดีตแชมป์ 3 สมัยใน ได้เข้าชิงถ้วยยุโรปครั้งแรกในรอบทศวรรษ หรือนับตั้งแต่ที่ โชเซ่ มูรินโญ่ พาผงาดเทรเบิลแชมป์เมื่อ 2010 นั่นเอง

    ความพร้อมในเวลานี้กุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ ได้ข่าวดีเมื่อ อเล็กซิส ซานเชซ ฟิตกลับมานั่งสำรองได้แล้วในแมตช์ตัดเชือกที่ถล่ม ชัคตาร์ โดเนตส์ค 5 ตุง แต่ยังไรก็ตาม คอนเต้ ไม่น่าเสี่ยงใช้ ดาวยิงชิลี ที่ยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะผลงานชุดเดิมก็น่าพอใจอยู่แล้ว

    แดนหน้ายังคงเป็น โรเมลู ลูกากู เจ้าของสถิติยิงรายการนี้ 10 นัดติดต่อกัน ลงล่าตาข่ายคู่กับ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ ตรงกลางสนามมี มาร์เซโล่ โบรโซวิช สตาร์โครแอตยืนต่ำกว่า 2 ผึ้งงานพลังหนุ่มอย่าง นิโกโล่ บาเรลล่า และ โรแบร์โต้ กายาร์ดินี่

    ริมเส้นไว้ใจ ดานิโล่ ดัมโบรซิโอ กับ แอชลี่ย์ ยัง อดีตแข้งแมนฯ ยูไนเต็ด เช่นเดียวกับแผงหลังชุดเก่งนำโดย ดีเอโก้ โกดิน จอมเก๋าอุรุกวัยที่เคยได้เหรียญแชมป์ยูโรปา 2 สมัยร่วมกับแอต.มาดริด

    อย่างไรก็ตามสำหรับ อัชราฟ ฮาคิมี่ วิงแบ็กสมาชิกใหม่จาก เรอัล มาดริด ยังไม่สามารถลงสนามได้จนกว่าจะเริ่มต้นฤดูกาล 2020/21

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

    เซบีย่า (4-3-3) : ยัสซีน บูนู – เฆซุส นาบาส, ชูลส์ กูนเด้, ดีเอโก้ คาร์ลอส, เซร์คิโอ เรกีลอน – เอเวร์ บาเนก้า, แฟร์นานโด เรกิส, โจน จอร์ดาน – ซูโซ่, ยูสเซฟ เอ็น-เนซีรี่, ลูกัส โอกัมโปส
    เทรนเนอร์ : จูเลน โลเปเตกี

    อินเตอร์ มิลาน (3-5-2) : ซามีร์ ฮันดาโนวิช – ดีเอโก้ โกดิน, สเตฟาน เดอ ฟราย, อเลสซานโดร บาสโตนี่ – ดานิโล่ ดัมโบรซิโอ, นิโกโล่ บาเรลล่า, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, โรแบร์โต้ กายาร์ดินี่, แอชลี่ย์ ยัง – เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ, โรเมลู ลูกากู
    เทรนเนอร์ : อันโตนิโอ คอนเต้

    ผู้ตัดสิน : ดานนี่ มัคเคลี่ (เนเธอร์แลนด์)

ผลการพบกันที่ผ่านมา
ยังไม่เคยพบกัน

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
เซบีย่า
16/08/20 ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 (สนามกลาง) ยูโรปา ลีก
11/08/20 ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 (สนามกลาง) ยูโรปา ลีก
06/08/20 ชนะ โรม่า 2-0 (สนามกลาง) ยูโรปา ลีก
19/07/20 ชนะ บาเลนเซีย 1-0 (เหย้า) ลา ลีกา
16/07/20 เสมอ เรอัล โซเซียดาด 0-0 (เยือน) ลา ลีกา

อินเตอร์ มิลาน
17/08/20 ชนะ ชัคตาร์ โดเนตส์ค 5-0 (สนามกลาง) ยูโรปา ลีก
10/08/20 ชนะ เลเวอร์คูเซ่น 2-1 (สนามกลาง) ยูโรปา ลีก
05/08/20 ชนะ เคตาเฟ่ 2-0 (สนามกลาง) ยูโรปา ลีก
01/08/20 ชนะ อตาลันต้า 2-0 (เยือน) เซเรีย อา
28/07/20 ชนะ นาโปลี 2-0 (เหย้า) เซเรีย อา

ได้ครบแล้ว! เช็คผลงาน4สโมสรลุยรอบตัดเชือกชปล.2019/20

หลังจากที่ โอลิมปิก ลียง พลิกล็อกโค่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้เราได้ครบทั้ง 4 สโมสรเรียบร้อย สำหรับศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ ประจำฤดูกาล 2019/20 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1995/96 เลยทีเดียว ที่ไม่มีสโมสรจากศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ลา ลีกา สเปน หลงเหลือในรอบตัดเชือก เพราะ 4 สโมสรที่หลุดเข้ามาเที่ยวนี้เป็นสองตัวแทนจาก บุนเดสลีกา เยอรมัน อย่าง บาเยิร์น มิวนิค กับ แอร์เบ ไลป์ซิก และสองตัวแทนจากเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส อย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ โอลิมปิก ลียง ว่าแล้วเรามาเช็คฟอร์มของทั้งสี่สโมสรกันเลยดีกว่าว่า ตลอดเส้นทาง 9 นัดที่ผ่านมานั้น พวกเขาผ่านอะไรกันมาบ้าง และทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน

* ปารีส แซงต์-แชร์กแมง *

 – ยูฟ่า แรงกิ้ง : 7
        – ผลงานซีซั่นนี้ : แข่ง 9 นัด, ชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 22 เสีย 5
        – ผ่านมาถึงรอบนี้ได้อย่างไร : แชมป์กลุ่ม เอ, รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สกอร์รวมสองนัด 3-2 (แพ้ 1-2 เกมเยือน, ชนะ 2-0 เกมเหย้า), รอบก่อนรองฯ ชนะ อตาลันต้า 2-1
        – ดาวซัลโวสูงสุด : เมาโร อีการ์ดี้ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (5 ประตู)
        – ผลงานซีซั่นก่อน : รอบ 16 ทีมสุดท้าย
        – ผลงานดีสุดในชปล. : รอบรองฯ (ซีซั่น 1994/95 และ 2019/20)   

ทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล ที่ซีซั่นนี้กวาดเรียบทั้งสามแชมป์ในประเทศ มุ่งมั่นอย่างมากที่จะคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกให้ได้ ซึ่งพวกเขาก็มาดีเลยทีเดียว หลังผ่านจากรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่มี เรอัล มาดริด เป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขาก็ฝ่าด่าน ดอร์ทมุนด์ ได้แบบสนุก หลังพ่ายก่อนในเลกแรก ขณะที่รอบที่แล้ว เปแอสเช ทำท่าว่าจะโดน อตาลันต้า เขี่ยตกรอบ ทว่ากลับมาเป็นฝ่ายคว้าชัยได้แบบสุดดราม่า จากสองประตูช่วงท้ายเกมของ มาร์กินญอส และ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง
        
* แอร์เบ ไลป์ซิก *

– ยูฟ่า แรงกิ้ง : 32
        – ผลงานซีซั่นนี้ : แข่ง 9 นัด, ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 17 เสีย 9
        – ผ่านมาถึงรอบนี้ได้อย่างไร : แชมป์กลุ่ม จี, รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สกอร์รวมสองนัด 4-0 (ชนะ 1-0 เกมเยือน, ชนะ 3-0 เกมเหย้า), รอบก่อนรองฯ ชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-1
        – ดาวซัลโวสูงสุด : ติโม แวร์เนอร์ (ย้ายไป เชลซี แล้ว) และ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (4 ประตู)
        – ผลงานซีซั่นก่อน : รอบแบ่งกลุ่ม (ยูฟ่า ยูโรปา ลีก)
        – ผลงานดีสุดในชปล. : รอบรองฯ (ซีซั่น 2019/20) 

เซอร์ไพรส์มากๆ สำหรับ ไลป์ซิก ที่มาไกลจนถึงรอบตัดเชือก โดยนอกจากจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการซิวแชมป์กลุ่ม จี แล้ว พวกเขายังผ่านคู่แข่งในรอบ 16 ทีมอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่มีกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทัพ ได้อย่างง่ายดายด้วย และรอบก่อนรองฯ ถือเป็นไฮไลต์เลย เพราะสามารถโค่นทีมแกร่งอย่าง แอต. มาดริด ทั้งที่ไม่มีดาวยิงตัวเก่งอย่าง ติโม แวร์เนอร์ ซึ่งถือว่าน่าจับตามองเหลือเกินว่า ทีมของกุนซือหนุ่มไฟแรงอย่าง ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ จะไปไกลจนถึงวันสุดท้ายของการแข่งขันได้หรือไม่

* บาเยิร์น มิวนิค *

 – ยูฟ่า แรงกิ้ง : 2
        – ผลงานซีซั่นนี้ : แข่ง 9 นัด, ชนะ 9 เสมอ 0 แพ้ 0 ยิงได้ 39 เสีย 8
        – ผ่านมาถึงรอบนี้ได้อย่างไร : แชมป์กลุ่ม บี, รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ เชลซี สกอร์รวมสองนัด 7-1 (ชนะ 3-0 เกมเยือน, ชนะ 4-1 เกมเหย้า), รอบก่อนรองฯ ชนะ บาร์เซโลน่า 8-2
        – ดาวซัลโวสูงสุด : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (14 ประตู)
        – ผลงานซีซั่นก่อน : รอบก่อนรองฯ
        – ผลงานดีสุดในชปล. : แชมป์ 5 สมัย (ได้ครั้งล่าสุดในซีซั่น 2012/13)   

เดินหน้าลุ้นคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ด้วยความมุ่งมั่นและมั่นใจสำหรับทัพ "เสือใต้" โดยผลงานในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ของพวกเขา ถือว่าโหดมากๆ เพราะคว้าชัยรวดมาตลอดเส้นทาง แถมกระซวกประตูคู่แข่งถึง 39 ลูก!!! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมรอบก่อนรองฯ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ประวัติศาสตร์วงการลูกหนังต้องจารึกเลยทีเดียว หลังจากที่พวกเขารวมพลังกันไล่ขยี้ บาร์เซโลน่า แบบไม่มียั้งด้วยสกอร์ 8-2 ดูแล้วฟอร์มแบบนี้ทีมของกุนซือ ฮันซี่ ฟลิค คงเริ่มฝันถึงแชมป์สมัยที่ 6 กันแล้ว  

* โอลิมปิก ลียง *

– ยูฟ่า แรงกิ้ง : 17
        – ผลงานซีซั่นนี้ : แข่ง 9 นัด, ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 3 ยิงได้ 14 เสีย 11
        – ผ่านมาถึงรอบนี้ได้อย่างไร : รองแชมป์กลุ่ม จี, รอบ 16 ทีมสุดท้าย ผ่าน ยูเวนตุส ด้วยกฎอเวย์โกล หลังสกอร์รวมสองนัดเสมอกัน 2-2 (ชนะ 1-0 เกมเหย้า, แพ้ 1-2 เกมเยือน), รอบก่อนรองฯ ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1
        – ดาวซัลโวสูงสุด : เมมฟิส เดอปาย (6 ประตู)
        – ผลงานซีซั่นก่อน : รอบ 16 ทีมสุดท้าย
        – ผลงานดีสุดในชปล. : รอบรองฯ (ซีซั่น 2009/10 และ 2019/20)   

นอกจาก ไลป์ซิก แล้ว ลียง ถือเป็นอีกทีมที่ทะลุเข้ามาถึงรอบตัดเชือกได้แบบเหนือความคาดหมาย โดยเริ่มตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ที่พวกเขาเบียดคว้าตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์ได้แบบฉิวเฉียดในฐานะรองแชมป์กลุ่ม (แชมป์กลุ่มคือ ไลป์ซิก) พอมาถึงรอบ 16 ทีม ก็ไม่มีใครคาดคิดว่า ลียง จะผ่าน ยูเวนตุส ได้ ซึ่งสุดท้ายพวกเขาก็ทำได้สำเร็จ แถมล่าสุดหักปากกาเซียน ฝ่าด่าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งในรอบก่อนรองฯ ได้อีก มาถึงจุดนี้แล้ว ทีมของกุนซือ รูดี้ การ์เซีย คงมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ถึงแม้รอบตัดเชือกต้องเจอกับ บาเยิร์น ก็ตาม

     * โปรแกรมการแข่งขันเกมรอบตัดเชือก *

– วันอังคารที่ 18 สิงหาคม : แอร์เบ ไลป์ซิก VS ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, สนาม เอสตาดิโอ ดา ลุซ 
– วันพุธที่ 19 สิงหาคม : โอลิมปิก ลียง VS บาเยิร์น มิวนิค, สนาม เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาด

กุลลิทเชียร์ผีรีบคว้าอูปาเมกาโน่เสริมทัพ

รุด กุลลิท ตำนานนักเตะทีมชาติฮอลแลนด์เชียร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้รีบคว้าตัว ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่ กองหลังตัวเก่งของ ไลป์ซิก มาร่วมทีมโดยด่วน

 แข้งวัย 21 ปีเล่นได้อย่างโดดเด่นในเกมที่ทีมเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-1 ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จนคว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ ไปครองในขณะที่ทาง "ปีศาจแดง" ก็มีข่าวว่าต้องการเสริมทัพในตำแหน่งเซนเตอร์เพื่อมาจับคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์

 ทาง กุลลิท มั่นใจว่าหาก แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าตัว อูปาเมกาโน่ ร่วมทีมได้สำเร็จ จะสร้างผลกระทบในแบบเดียวกับที่ตอน ลิเวอร์พูล ได้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ มาร่วมทีมเลย

 "สิ่งแรกที่ คล็อปป์ ทำกับ ลิเวอร์พูล คืออะไรล่ะ? เขาซื้อกองหลังชั้นดี, เขาซื้อผู้รักษาประตูฝีมือดีและกองหลังที่ดีเพราะทุกๆอย่างมันเริ่มต้นจากจุดนั้น" กุลลิท กล่าวผ่านบีอิน สปอร์ต

 "และผมคิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ควรจะเริ่มจากจุดนั้นเช่นกัน ผมมองเห็นบางอย่างที่มหัศจรรย์กับ ไลป์ซิก และ ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่ เขาโดดเด่นมาก (ในเกมกับ แอต.มาดริด)"

 "เขาเล่นกับบอลได้ เขาเข้าสกัดหนักหน่วง กองหลังคือจุดที่ผมจะเริ่มทำทีมหากผมเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด"

แมนซิตี้ใสเหลือเกิน!วิเคราะห์แชมเปี้ยนส์ลีกรอบ8ทีมสุดท้าย

ตอนนี้ก็ได้ครบทั้ง 8 ทีมเรียบร้อย สำหรับศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เรามาวิเคราะห์ความน่าจะเป็นกันดีกว่าว่า ใครจะเป็น 4 ทีมที่คว้าตั๋วเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า ตั้งแต่รอบนี้เป็นต้นไป จะแข่งขันกันแบบ "มินิ ทัวร์นาเมนต์" เตะนัดเดียวรู้ผล ที่กรุงลิสลอน ประเทศโปรตุเกส ซึ่งจะเริ่มฟาดแข้งทันทีตั้งแต่สัปดาห์หน้า

 – อตาลันต้า VS ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (วันพุธที่ 12 สิงหาคม, เตะที่สนาม เอสตาดิโอ ดา ลุซ)
  เป็นเกมที่น่าจะสนุกเลยทีเดียว เพราะเน้นเกมรุกกันทั้งคู่ ทว่าน่าเสียดายที่ทางฝั่ง เปแอสเช ไม่น่าจะมี คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงคนสำคัญ ที่ยังเจ็บข้อเท้าขวา แต่ด้วยความเก๋าเกมของนักเตะที่มีเหนือกว่าทางฝั่ง อตาลันต้า รวมถึงทีเด็ดจาก เนย์มาร์ ดูแล้ว เปแอสเช น่าจะเป็นฝ่ายเบียดคว้าชัยด้วยสกอร์ 2-1
  เฮด-ทู-เฮด : ยังไม่เคยเจอกัน

     
 – แอร์เบ ไลป์ซิก VS แอตเลติโก มาดริด (วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม, เตะที่สนาม เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาด)
  แอต. มาดริด ของกุนซือ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เป็นทีมที่โค่นยากอยู่แล้วในเวทียุโรป แถมรอบที่แล้วฝ่าด่านทีมแชมป์เก่าอย่าง ลิเวอร์พูล เข้ามาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงมีความมั่นใจอย่างมาก ส่วน ไลป์ซิก จะไม่มีอาวุธหนักอย่าง ติโม แวร์เนอร์ ที่ย้ายไป เชลซี เรียบร้อย เท่ากับว่าความน่ากลัวของพวกเขาจะลดลงไปเยอะเลยทีเดียว ซึ่งดูแล้ว "ตราหมี" น่าจะเป็นฝ่ายได้เฮด้วยสกอร์ 2-0  

  เฮด-ทู-เฮด : ยังไม่เคยเจอกัน

 

 – บาร์เซโลน่า VS บาเยิร์น มิวนิค (วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม, เตะที่สนาม เอสตาดิโอ ดา ลุซ)
  ถือเป็นบิ๊กแมตช์ในรอบนี้เลยทีเดียว ซึ่งมั่นใจเหลือเกินว่า จะเป็นเกมที่ทั้งสองทีมสู้กันสนุกและสูสี ทว่าหากดูฟอร์มการเล่นช่วงนี้ แน่นอนว่า บาเยิร์น ดูดีกว่า แถมกำลังมั่นใจสุดๆ โดยเฉพาะ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวเก่ง ที่ทำประตูไม่หยุด ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็กดไปแล้วถึง 13 ประตู จาก 7 เกมในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ด้วยการที่ บาร์เซโลน่า มีนักเตะที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมที่เตะนัดเดียวรู้ผลแบบนี้ แถมเกมรับของ บาเยิร์น ก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมาก อย่างไรก็ตาม หากมองภาพรวมแล้ว "เสือใต้" ดูมีภาษีดีกว่าเล็กน้อย และน่าจะเบียดคว้าชัยสนุก 3-2

  เฮด-ทู-เฮด : เจอกันใน ชปล. มาแล้ว 10 ครั้ง ซึ่ง บาเยิร์น เหนือกว่า ด้วยสถิติชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 2 ยิงได้ 18 ประตู, เสีย 14 ประตู

 

 – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS โอลิมปิก ลียง (วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม, เตะที่สนาม เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาด)
  แม้รอบที่แล้ว ลียง ฝ่าด่านทีมแชมป์อิตาลีอย่าง ยูเวนตุส เข้ามาได้ แต่ดูแล้วทีมของกุนซือ รูดี้ การ์เซีย เป็นรอง แมนฯ ซิตี้ ทุกด้าน แถมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ดูมุ่งมั่นมากๆ ที่จะเป็นแชมป์ยุโรปซีซั่นนี้ให้ได้ ซึ่งด้วยเกมรุกที่ดุดัน, เฉียบขาด และแน่นอน ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" น่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยด้วยสกอร์ 3-0 คว้าตั๋วเข้าสู่รอบตัดเชือกไม่ยาก ต่อให้พวกเขาเอาชนะ ลียง ไม่ได้เลย จาก 2 เกมที่เจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว
 
 เฮด-ทู-เฮด : เจอกันใน ชปล. มาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่ง ลียง เหนือกว่า ด้วยสถิติชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 0 ยิงได้ 4 ประตู, เสีย 3 ประตู

‘กุน’ใจสลายส่ออดเล่นชปล.ซิตี้ปีลุ้นแชมป์ที่สุด

เซร์คีโอ อเกวโร่ กองหน้า แมนฯ ซิตี้ หลุดโผ 27 ผู้เล่นชุดเดินทางไปเตะทัวร์นาเมนต์แชมเปี้ยนส์ ลีก 2019-20 ตั้งแต่รอบก่อนรองชนะเลิศ ณ ประเทศโปรตุเกสวานนี้ เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บเข่า

 ดาวยิงอาร์เจนไตน์คือเจ้าของสถิติทำประตูรวมสูงสุดของ ‘เรือใบสีฟ้า’ กวาดแชมป์ในประเทศทุกรายการร่วมกับทีมแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จระดับยุโรป
 กระทั่งมาซีซั่นนี้ทุกอย่างเข้าทาง ซิตี้ เมื่อฝ่า เรอัล มาดริด รอบ 16 ทีมมาได้ คู่แข่งที่เหลือไม่กลัวใครเลยทั้ง บาร์เซโลน่า หรือ บาเยิร์น มิวนิค ที่ต้องห้ำหั่นกันเองรอบก่อนรองฯ แล้วผู้ชนะมาดวลคู่ ‘เรือใบสีฟ้า’ หรือ โอลิมปิก ลียง

 ขณะที่สายบนทั้ง เปแอสเช, แอต.มาดริด, แอร์เบ ไลป์ซิก หรือ อตาลันต้า กระดูกอ่อนกว่า ซิตี้ พอสมควร

 เท่ากับว่าหากผ่านรอบตัดเชือกไปได้โอกาสคว้าแชมป์หนแรกประวัติศาสตร์สโมสรสดใส จนบ่อนทุกสำนักยกเป็นเต็งหนึ่ง

 จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายแทนกองหน้าวัย 32 ปี ซึ่งเดินทางไปรักษาเข่ายังนครบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน กับนายแพทย์ ราม่อน คูกาต์ ตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย.ต้องหวังปาฏิหารย์เท่านั้น จึงฟื้นทันเข้ารายงานตัวซ้อมสำหรับนัดชิงชนะเลิศ 23 ส.ค.นี้

 เบื้องต้นผจก.ทีม โจเซป กวาร์ดิโอล่า จึงประกาศรายชื่อ 27 คน เพื่อเดินทางไปซุ่มซ้อมยังกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เพื่อกักโรคและติวแท็คติคท้ายๆก่อนฟาดเกือบรอบก่อนรองชนะเลิศ เสาร์ที่ 15 ส.ค.ดวล ‘โอแอล’

รายชื่อ 27 ผู้เล่นแมนฯ ซิตี้ ชุดเดินทางจากอังกฤษไปโปรตุเกสเตะ ชปล.ทัวร์นาเมนต์

ผู้รักษาประตู : เคลาดิโอ บราโว่, เอแดร์ซอน โมราเอส, สกอตต์ คาร์สัน, กาวิ่น บาซานู

กองหลัง : คายล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, อายเมริค ลาปอร์ก, เบนฌาแม็ง เมนดี้, แฟร์นานดินโญ่, ชูเอา กานเซโล่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, เอริค การ์เซีย, เทย์เลอร์ แฮร์เวิร์ด-เบลลิส

กองกลาง : อิลคาย กุนโดกัน, โรดรีโก้, เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ดาบิด ซิลบา, ฟิล โฟเด้น, เฟลิกซ์ มาช่า, ทอมมี่ ดอยล์, โคล พาลเมอร์, อาเดรี่ยน เบร์นาเบ

กองหน้า : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรี่ยล เชซุส, ริยาด มาห์เรซ 

เชลซีมั่นใจได้ฮาแวร์ทซ์แม้ปิ๋วตั๋วชปล.-เล็งเสริมหลังบ้านอีกเพียบ

เดลี่ เมล์ สื่อจากประเทศอังกฤษ เผยว่า เชลซี มั่นใจว่าต่อให้ทีมพลาดโควตา แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ยังจะได้ตัว ไค ฮาแวร์ทซ์ สตาร์ดังจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แน่นอน รวมถึงเล็งเสริมผู้เล่นเกมรับอีกหลายราย

    เชลซี ตกเป็นข่าวกับ ไค ฮาแวร์ทซ์ อย่างหนักในระยะหลัง โดยทางสโมสรเองก็มั่นใจว่าจะคว้าดาวเตะวัย 21 ปีเข้ามาร่วมทัพเพื่อประสานงานกับ ติโม แวร์เนอร์ กับ ฮาคิม ซิเย็ค สองแข้งใหม่ในซีซั่นหน้าได้แน่นอน ถึงต่อให้ไม่ได้โควตาไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตาม โดยคาดว่าค่าตัวของ ฮาแวร์ตซ์ อยู่ที่ระดับ 90 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 3,600 ล้านบาท

    อย่างไรก็ตาม เรื่องเกมรับเป็นอีกหนึ่งปัญหาของเชลซี โดยทางเดลี่เมล์ ระบุว่า เชลซี วางตัว เดแคลน ไรซ์ เป็นทางเลือกแรก โดยจะปรับตำแหน่งจากมิดฟิลด์ตัวรับเป็นปราการหลังตัวเลาง นอกจากนี้ยังมีชื่อของ นิโคลัส ตาเกลียฟิโก้ วิงแบ็กอาร์เจนไตน์ของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่คาดว่าเป็นทางเลือกรองจาก เบน ชิลเวลล์ ที่มีค่าตัวสูงถึง 70 ล้านปอนด์

    ขณะเดียวกัน ในส่วนของตำแหน่งผู้รักษาประตู "สิงห์บลูส์" ยังให้ความสนใจ ยาน โอบลัค นายด่านจาก แอต.มาดริด ที่มีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 109 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4,400 ล้านบาท เพื่อเข้ามาแทนที่ เกปา อาร์ริซาบาลากา มือหนึ่งคนปัจจุบันที่ทำผลงานได้น่าผิดหวัง

แช่งราชัน! บาร์ซ่าต้องชนะเท่านั้น “เมสซี่-ซัวเรซ” พร้อมกระหน่ำโอซาซูน่า

แชม์เก่า บาร์เซโลน่า ไม่มีทางเลือกต้องคว้าชัยให้ได้ก่อนแล้วลุ้นให้ เรอัล มาดริด แพ้เพื่อจะลุ้นในเกมสุดท้ายต่อไป สำหรับวันนี้พร้อมรับมือ โอซาซูน่า แนวรุกนำทัพโดย ลิโอเนล เมสซี่ และหลุยส์ ซัวเรซ ในปรีวิว ลาลีกา นัดรองสุดท้าย คืนวันพหัสบดีที่ 16 ก.ค.นี้

ปรีวิวลา ลีกา สเปน
บาร์เซโลน่า (2) – โอซาซูน่า (11)
วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม 2563    เวลา : 02.00 น.   
สนาม : คัมป์ นู    

    บาร์เซโลน่า

    กีเก้ เซเตียน ไม่มี อองตวน กริซมันน์,ซามูแอล อุมตีตี้,จูเนียร์ ฟีร์โป้ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วน แฟร้งกี้ เดอ ยองก์  มีชื่อติดทีมแล้ว แต่ยังไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ส่วน อันซู ฟาติ พ้นโทษแบนกลับมาพร้อมเป็นตัวเลือก ในแผง
แบ็กโฟร์เลือกใช้ เนลซอน เซเมโด้ ยืนเเบ็กขวา, เกลม็อง ล็องเล่ต์ กับ เคราร์ด ปีเก้ จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ และ ยอร์ดี้ อัลบา เล่นแบ็กซ้าย แดนกลาง  4 คน ใช้ อีวาน ราคาติช,เซร์คิโอ บุสเก็ตส์,อาร์ตูโร่ วีดัล และ เซร์จี้ โรเบร์โต้ ทำเกมร่วมกัน วาง ลิโอเนล เมสซี่
ยืนคู่หน้ากับ หลุยส์ ซัวเรซ

    โอซาซูน่า

    ยาโกบา อาร์ราซาเต้ เตรียมกลับมาใช้ระบบกองหน้าตัวเดียวอีกครั้งในเกมนี้ โดยจะดร็อป อาเดรียน โลเปซ หัวหอกตัวเก๋าไว้ข้างสนาม และใช้ เอ็นริค กาเยโก้ ยืนห้อยข้างหน้าคนเดียว ส่วนตัวสนับสนุนมี กีเก้ บาร์ฆา กับ โฆเซ่ อานาอิตซ์ ช่วยกัน
สร้างสรรค์เกม ตรงกลาง ฟราน เมรีด้า เดินเกมร่วมกับ ยอน มอนกาโยล่า โดยมี นาโช่ บีดัล กับ โตนี่ ลาโต้ รับบทวิงแบ็กทั้งสองฝั่ง ส่วนแผงหลัง ดาบิด การ์เซีย ลงยืนเเป็น 3 ซนเตอร์ฮาล์ฟ ร่วมกับ ราอูล นาบาส และ อารีดาเน่ เอร์นานเดซ  , ในรายของผู้
เล่นบาดเจ็บยังมี ชีมี่ อาบีล่า,ฆอร์เค่ เอร์รานโด้,โรเบิร์ต อิบันเญซ,มาร์ค กาโดน่า และ อูไน การ์เซีย

    11 นักเตะตามคาด

    บาร์เซโลน่า (4-4-2) มาร์ค อังเดร แทร์ ชตีเก้น-เนลซอน เซเมโด้, เกลม็อง ล็องเล่ต์, เคราร์ด ปีเก้,ยอร์ดี้ อัลบา- อีวาน ราคิติช,อาร์ตูโร่ วีดัล,เซร์คิโอ บุสเก็ตส์,เซร์จี้ โรเบร์โต้-ลิโอเนล เมสซี่,หลุยส์ ซัวเรซ

    โอซาซูน่า (3-4-2-1) เซร์คิโอ เอร์เรร่า-ราอูล นาบาส,ดาบิด การ์เซีย,อารีดาเน่ เอร์นานเดซ-นาโช่ บีดัล,ยอน มอนกาโยล่า,ฟราน เมรีด้า,โตนี่ ลาโต้-โฆเซ่ อานาอิตซ์,กีเก้ บาร์ฆา-เอ็นริช กาเยโก้

ผลการพบกันที่ผ่านมา 
วัน/เดือน/ปี    รายการ    ผลการแข่งขัน   
31/08/19    โอซาซูน่า เสมอ บาร์เซโลน่า 2-2    ลา ลีกา
27/04/17    บาร์เซโลน่า ชนะ โอซาซูน่า 7-1     ลา ลีกา
10/12/16    โอซาซูน่า แพ้ บาร์เซโลน่า 0-3    ลา ลีกา
16/03/14    บาร์เซโลน่า ชนะ โอซาซูน่า 7-0    ลา ลีกา
20/10/13    โอซาซูน่า เสมอ บาร์เซโลน่า 0-0    ลา ลีกา   

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
บาร์เซโลน่า
12/07/20 ชนะ เรอัล บายาโดลิด 1-0 (เยือน)    ลา ลีกา
09/07/20 ชนะ เอสปันญ่อล 1-0 (เหย้า)     ลา ลีกา
06/07/20 ชนะ บียาร์เรอัล 4-1 (เยือน)     ลา ลีกา
01/07/20 เสมอ แอต.มาดริด 2-2 (เหย้า)     ลา ลีกา
27/06/20 เสมอ เซลต้า 2-2 (เยือน)     ลา ลีกา
        
โอซาซูน่า
11/07/20 ชนะ เซลต้า บีโก้ 2-1  (เหย้า)    ลา ลีกา
09/07/20 แพ้ เรอัล เบติส 0-3 (เยือน)    ลา ลีกา
06/07/20 เสมอ เคตาเฟ่ 0-0 (เหย้า)    ลา ลีกา
03/07/20 ชนะ เออิบาร์ 2-0 (เหย้า)    ลา ลีกา
28/06/20 ชนะ เลกาเนส  2-1 (เหย้า)    ลา ลีกา

แอต.มาดริดว่าไง?เชลซียื่นเงินพร้อมแถมเกปาแลกซื้อโอบลัค

เดอะ มิร์เรอร์ สื่อของอังกฤษ ตีข่าว เชลซี คิดที่จะยื่นข้อเสนอเป็นเงินจำนวนหนึ่งพร้อมกับแถม เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ให้กับ แอต. มาดริด เพื่อขอซื้อ ยาน โอบลัค มาเฝ้าเสา หลังจากที่ผ่านมา เกปา ทำผลงานได้น่าผิดหวัง
    เชลซี ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังพิจารณาที่จะยื่นข้อเสนอขอซื้อ ยาน โอบลัค ผู้รักษาประตู แอตเลติโก มาดริด มาร่วมทัพหลังจบฤดูกาลนี้ ด้วยการให้เงินจำนวนหนึ่งพร้อมกับแถม เกปา อาร์รีซาบาลาก้า นายด่านของทีมให้ด้วย ตามรายงานของ เดอะ มิร์เรอร์ สื่อชั้นนำของเมืองผู้ดี

    "สิงโตน้ำเงินคราม" ยอมทุ่มเงิน 80 ล้านยูโร (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) เพื่อดึง เกปา มาจาก แอธเลติก บิลเบา เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2018 จนทำให้เจ้าตัวเป็นนายทวารที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก แต่ช่วงที่ผ่านมาเขากลับทำผลงานได้น่าผิดหวังจนทำให้ตอนนี้ทีมต้องลุ้นเหนื่อยกับการที่จะจบฤดูกาลนี้ด้วยการติดอยู่ใน 4 อันดับแรกของตารางคะแนน เพื่อคว้าสิทธิ์ลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า

    สำหรับ โอบลัค นั้น ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในมือกาวที่เก่งที่สุดของโลกในยุคนี้ โดยที่ แอต. มาดริด ตั้งค่าฉีกสัญญาเอาไว้สูงถึง 120 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,800 ล้านบาท) และเขาก็ยังมีสัญญากับทีมจนถึงปี 2023 ด้วย อย่างไรก็ตาม "ตราหมี" ก็อาจจะจำเป็นต้องหาเงินมาเข้าสโมสรเพื่อชดเชยกับการที่ทีมได้รับผลกระทบด้านการเงินจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เหมือนกัน

    เป็นที่เชื่อว่า เชลซี ไม่ต้องการเสียเงินถึงหลัก 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,000 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าตัวของ โอบลัค และพวกเขาก็หวังว่า เกปา จะช่วยลดจำนวนเงินที่พวกเขาต้องจ่ายได้เป็นจำนวนมาก โดยจนถึงตอนนี้ เชลซี ใช้เงินสำหรับการเสริมทัพเพื่อสู้ศึกในฤดูกาลหน้าไปแล้ว 83.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,348 ล้านบาท) ซึ่งแข้งที่พวกเขาได้มาร่วมทัพแน่นอนแล้วคือ ฮาคิม ซิเย็ค ปีกดีกรีทีมชาติโมร็อกโกกับ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงชาวเยอรมัน

แบนไอ้หนูฟาติ! บาร์ซ่าห้ามพลาด “เมสซี่-ซัวเรซ” นำทัพลุยถิ่นบายาโดลิด

แชมป์เก่า บาร์เซโลน่า เหลือเวลาให้ป้องกันแชมป์น้อยเต็มที โดย กีเก้ เซเตียน บอสใหญ่เจ้าบุญทุ่มแม้จะไร้ไอ้หนู อันซู ฟาติด ที่ติดโทษแบนหลังโดนใบแดงในเกมล่าสุด ทว่ายังพร้อมจัดชุดใหญ่นำโดยสามประสานอย่าง ลิโอเนล เมสซี่-หลุยส์ ซัวเรซ และอองตวน กริซมันน์ ในเกมบุกรัง เรอัล บายาโดลิด ศึก ลา ลีกา สเปน คืนวันเสาร์นี้ เริ่มแข่งขันเวลา 00.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ปรีวิว ลา ลีกา สเปน นัดที่ 36
เรอัล บายาโดลิด (14) – บาร์เซโลน่า (2)
วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2563 เวลา : 00.30 น.   
สนาม : เอสตาดิโอ มูนิซิปัล โฆเซ่ ซอร์รีย่า    

    เรอัล บายาโดลิด

    เซร์คิโอ กอนซาเลซ ได้ ออสการ์ ปลาโน่ ตัวรุกคนสำคัญพ้นติดโทษแบนกลับมา และจะลงปักหลักทำเกมรุกตรงกลาง โดยฝั่งขวาใช้ ปาโบล เอเบียส ,ฝั่งซ้ายใช้งาน โตนี่ บีย่า หน้าเป้ายังเป็น เซร์จี้ กวาร์ดิโอล่า ,มิดฟิลด์คู่กลางใช้ เฟเด ซาน เอเมเตรีโอ ลงตัดเกมร่วมกับ รูเบน อัลการาซ  ส่วนแผงหลัง แบ็กขวาเป็น ฆาบี โมยาโน่  ใช้ ฆัวกิน เฟร์นานเดซ ยืนเซนเตอร์แบ็กกับ ฆาบี ซานเชซ โดยมี โมฮาเหม็ด ซาลิซู ที่เพิ่งหายเจ็บรอโอกาสที่ข้างสนาม ส่วนแบ็ก ราอูล การ์เซีย พร้อมลงทำหน้าที่

    บาร์เซโลน่า

    กีเก้ เซเตียน ยังไม่มี ซามูแอล อุมตีตี้,จูเนียร์ ฟีร์โป้ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วน แฟร้งกี้ เดอ ยองก์  ก็ยังไม่น่าจะพร้อม ส่วน อันซู ฟาติ ติดโทษแบน 1 นัด ในแผงแบ็กโฟร์เลือกใช้ เซร์จี้ โรเบร์โต้ ยืนเเบ็กขวา, เกลม็อง ล็องเล่ต์ กับ เคราร์ด ปีเก้ จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ และ ยอร์ดี้ อัลบา เล่นแบ็กซ้าย แดนกลาง  ริกิ ปุช ดาวรุ่งจะได้ลงเล่นต่อร่วมกับ อาร์ตูโร่ วีดัล และ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ส่วนแนวรุก วาง ลิโอเนล เมสซี่ เป็นหน้าต่ำ และดัน อองตวน กริซมันน์ ขึ้นไปยืนคู่หน้ากับ หลุยส์ ซัวเรซ

    11 นักเตะตามคาด

    เรอัล บายาโดลิด (4-2-3-1) ยอร์ดี้ มาซิป-ฆาบี โมยาโน่,ฆัวกิน เฟร์นานเดซ,โฆาบี ซานเชซ,ราอูล การ์เซีย-รูเบน อัลการาซ,เฟเด ซาน เอเมเตรีโอ-ปาโบล เอเบียส,ออสการ์ ปลาโน่,โตนี่ บีย่า-เซร์จี้ กวาร์ดิโอล่า

    บาร์เซโลน่า (4-3-1-2) มาร์ค อังเดร แทร์ ชตีเก้น-เซร์จี้ โรเบร์โต้, เกลม็อง ล็องเล่ต์, เคราร์ด ปีเก้,ยอร์ดี้ อัลบา- เอาร์ตูโร่ วีดัล,ริกิ ปุช,เซร์คิโอ บุสเก็ตส์-ลิโอเนล เมสซี่-หลุยส์ ซัวเรซ,อองตวน กริซมันน์
 

ผลการพบกันที่ผ่านมา 
วัน/เดือน/ปี    รายการ    ผลการแข่งขัน
30/10/19    ลา ลีกา    บาร์เซโลน่า    5-1    เรอัล บายาโดลิด   
17/02/19    ลา ลีกา    บาร์เซโลน่า    1-0    เรอัล บายาโดลิด
26/08/18    ลา ลีกา    เรอัล บายาโดลิด    0-1    บาร์เซโลน่า
08/03/14    ลา ลีกา    เรอัล บายาโดลิด    1-0    บาร์เซโลน่า
06/10/13    ลา ลีกา    บาร์เซโลน่า    4-1    เรอัล บายาโดลิด
        
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
เรอัล บายาโดลิด
08/067/20    แพ้ บาเลนเซีย 1-2 (เยือน)    ลา ลีกา
05/07/20    ชนะ อลาเบส 1-0 (เหย้า)    ลา ลีกา
02/07/20    เสมอ เลบันเต้ 0-0 (เหย้า)    ลา ลีกา
26/06/20    เสมอ เซบีย่า 1-1 (เยือน)    ลา ลีกา
24/06/20    เสมอ เคตาเฟ่ 1-1 (เหย้า)    ลา ลีกา
           
บาร์เซโลน่า
09/07/20     ชนะ เอสปันญ่อล 1-0 (เหย้า) ลา ลีกา
06/07/20     ชนะ บียาร์เรอัล 4-1 (เยือน) ลา ลีกา
01/07/20     เสมอ แอต.มาดริด 2-2 (เหย้า) ลา ลีกา
27/06/20     เสมอ เซลต้า 2-2 (เยือน) ลา ลีกา
23/06/20     ชนะ บิลเบา 1-0  (เหย้า) ลา ลีกา