เหมาะสมแล้ว!เฮนโด้เผยโหวตเดอบรอยน์ยอดเยี่ยมพีเอฟเอ

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล ระบุ ตนเลือกให้ เควิน เดอ บรอยนต์ เป็นเจ้าของรางวัลแข้งยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ซีซั่นก่อน พร้อมบอกว่า เดอ บรอยน์ สมควรได้รับรางวัลนั้น

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม ลิเวอร์พูล เปิดเผยว่าตนโหวตให้ เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ประจำฤดูกาล 2019-20 ไปครอง แม้ว่ามันจะส่งผลกับโอกาสการได้รางวัลของตัวเองก็ตาม

ซีซั่นก่อน เฮนเดอร์สัน ทำผลงานได้โดดเด่นอย่างมากจนมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ลีกไปครองเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ซึ่งมันก็ทำให้บางคนเชื่อว่าเขาสมควรได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ แต่ฤดูกาลที่แล้ว เดอ บรอยน์ ก็โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมสุดๆ เช่นกัน และสุดท้ายก็เป็นดาวเตะชาวเบลเยียมที่ได้รางวัลนั้นไปครอง

เฮนเดอร์สัน เผยว่า "ผมโหวตให้ เควิน ได้รางวัล พีเอฟเอ ต่อให้ผมจะพูดชมเขาในฐานะนักเตะมากแค่ไหนมันก็พูดไม่หมดหรอก เขาสมควรได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ ผมคิดว่าฤดูกาลที่แล้วเขาทำผลงานได้ยอดเดยี่ยม แต่ที่จริงเขาก็เล่นได้โดดเด่นมานานแล้วล่ะนะ เขาเป็นนักเตะระดับโลก เขาอาจจะเป็นกองกลางที่เก่งที่สุดในโลกด้วยซ้ำ ผมรู้สึกว่าเขาทำได้ดีมากทั้งเรื่องในสนามและนอกสนาม ผมเป็นแฟนตัวยงของเขาเลยล่ะ"

ทั้งนี้ กฎการโหวตของ พีเอฟเอ ก็คือห้ามนักเตะคนใดคนหนึ่งโหวตให้ตัวเอง และห้ามทำการโหวตให้เพื่อนร่วมทีมด้วย

 

    

รอชูเสื้อ!เบนฟิก้าเผยตกลงขายดิอาสให้แมนซิตี้

เบนฟิก้า บอกเอง ตกลงปล่อย รูเบน ดิอาส ไปซบ แมนฯ ซิตี้ แล้ว ด้วยค่าตัวรวม 65 ล้านปอนด์ ขณะเดียวกันพวกเขาก็บรรลุข้อตกลงการดึง นิโกลัส โอตาเมนดี้ มาร่วมทัพได้แล้วเช่นกัน โดย 2 ดีลนี้แยกเป็นคนละดีลกัน

เบนฟิก้า สโมสรดังแห่งศึก พรีเมยร่า ลีกา โปรตุเกส แถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมาว่าพวกเขาบรรลุข้อตกลงขาย รูเบน ดิอาส กองหลังชาวโปรตุกีสให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดิอาส ตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ซิตี้ อย่างรุนแรงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่ "เรือใบสีฟ้า" ต้องการเสริมตัวเลือกในเกมรับ โดยก่อนหน้านี้แข้งวัย 23 ปีก็สวมกอดกับเพื่อนร่วมทีมไปเป็นที่เรียร้อยจนส่อแววว่าจะได้ย้ายทีมเป็นที่แน่นอน

สำหรับค่าตัวของ ดิอาส นั้น จะอยู่ที่รวม 65 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,600 ล้านบาท) แบ่งเป็นการจ่ายทันที 62 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,480 ล้านบาท) ส่วนอีก 3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 120 ล้านบาท) จะเป็นค่าโบนัสหาก ดิอาส ทำผลงานได้ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้ โดย เบนฟิก้า เสริมว่าตอนนี้เหลือเพียงรอให้สามารถตกลงเงื่อนไขส่วนตัวให้ได้เท่านั้น

ในแถลงการณ์เดียวกันนี้ เบนฟิก้า ยังบอกด้วยว่าพวกเขาบรรลุข้อตกลงที่จะดึง นิโกลัส โอตาเมนดี้ กองหลังชาวอาร์เจนไตน์มาร่วมทัพเช่นกัน โดยค่าตัวของ โอตาเมนดี้ อยู่ที่ 13.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 544 ล้านบาท) และตอนนี้เหลือเพียงการตกลงเงื่อนไขส่วนตัวให้ได้เช่นกัน

 

 

เรื่องนี้อีกยาว! พ่อเมสซี่กับบาร์โตเมวคุยยังไม่ลงตัว

คงอีกนานกว่าจะได้บทสรุปเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของ ลิโอเนล เมสซี่ แข้งเทพ บาร์เซโลน่า เพราะล่าสุดยังคงหาทางออกร่วมกันไม่ได้ จากการประชุมระหว่างคุณพ่อและ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสร
 การประชุมกันระหว่าง โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธาน บาร์เซโลน่า และ ฮอร์เก้ เมสซี่ คุณพ่อของ ลิโอเนล เมสซี่ เมื่อคืนวันพุธที่ 2 ก.ย. ได้เสร็จสิ้นลงในแบบที่ยังไม่ได้บทสรุปแต่อย่างใด ตามรายงานจาก สปอร์ต สื่อกีฬาชั้นนำแดนกระทิงดุ

 เป็นที่ทราบกันดีว่า เมสซี่ ต้องการที่จะอำลาถิ่น คัมป์ นู ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ บาร์เซโลน่า ไม่ยินยอมที่จะให้นักเตะใช้เงื่อนไขยกเลิกสัญญา เพื่อย้ายทีมแบบไร้ค่าตัว โดยยืนยันที่จะขายตามค่าฉีกสัญญา 700 ล้านยูโร (ประมาณ 25,900 ล้านบาท) เท่านั้น ซึ่งคาดกันว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรเป้าหมายหลักที่ เมสซี่ อยากร่วมงานด้วย

 ล่าสุดเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา บาร์โตเมว และ ฮอร์เก้ เมสซี่ ได้มีการประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งทุกฝ่ายต่างก็คาดหวังที่จะได้บทสรุปเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของ เมสซี่ ทว่าตามรายงานจาก สปอร์ต ระบุว่า การพูดคุยกันครั้งนี้ที่กินเวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง เปล่าประโยชน์ และยังไม่มีการตกลงใดๆ เนื่องจาก ฮอร์เก้ ยังคงมุ่งมั่นที่จะให้ลูกชายได้ย้ายทีมแบบฟรีๆ ส่วน บาร์โตเมว ยืนกรานที่จะปล่อย เมสซี่ ตามค่าฉีกสัญญา

 สำหรับการประชุมครั้งนี้ นอกจาก บาร์โตเมว และ ฮอร์เก้ แล้ว ฝั่ง บาร์ซ่า ยังมี ฆาเบียร์ บอร์ดาส ผู้อำนวยการสโมสร ร่วมโต๊ะเจรจาด้วย ส่วนทางด้าน ฮอร์เก้ มี โรดริโก้ ลูกชายอีกคน (พี่ชายของ เมสซี่) และ ฮอร์เก้ เปกูร์ ทนายความส่วนตัว ช่วยเจรจา

 

เลสค็อตต์ชี้เดอบรอยน์ยังไม่เทียบชั้นยาย่า

โจลีออน เลสค็อตต์ อดีตกองหลังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชี้ว่าผลงานของ เควิน เดอ บรอยน์ ในฤดูกาลนี้ยังไม่เทียบซีซั่นที่พีคที่สุดของ ยาย่า ตูเร่ เมื่อปี 2013/14

 เดอ บรอยน์ มีส่วนร่วมกับประตูของทีม 33 ลูกในซีซั่นนี้ แบ่งเป็นการทำประตู 13 ลูกและแอสซิสต์อีก 20 หน ในการลงเล่น 35 เกมในพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2019/20 แต่ทาง เลสค็อตต์ มองว่ายังเทียบไม่ได้กับความยอดเยี่ยมของ ตูเร่

 "ยัง, เขาต้องทำมันให้ยาวนานมากกว่านี้อีกหน่อย" เลสค็อตต์ กล่าวเมื่อถูกถามว่า เดอ บรอยน์ เทียบได้กับ ตูเร่ หรือยัง

 "ฤดูกาลที่ดีที่สุดของ ยาย่า นั้นยอดเยี่ยมมากกว่า เขาทำ 20 ประตูในซีซั่นนี้, ปี 2013/14"

 นอกจากนี้ เลสค็อตต์ ยังกระตุ้น เดอ บรอยน์ ให้รักษาความยอดเยี่ยมเอาไว้ให้ได้ต่อเนื่องเพื่อจารึกชื่อเป็นตำนานของพรีเมียร์ลีก

 "สิ่งที่เขาทำและผลในแต่ละเกมนั้นน่าทึ่งมาก เขากำลังสร้างมาตรฐานใหม่"

 "ยุคของ เจอร์ราร์ด และ แลมพาร์ด – ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมบางคนในพรีเมียร์ลีก แต่สิ่งที่ เควิน ทำก็สุดยอดมาก ผมคิดว่าถ้าเขายังทำได้แบบนี้อีกสัก 3-4 ปี เขาจะอยู่ในการพูดถึง (ว่าคือยอดนักเตะของพรีเมียร์ลีก)"

บิ๊กทีมมาฟัง!คูลิบาลี่พูดเรื่องอนาคตตัวเองแล้ว

คาลิดู คูลิบาลี่ กองหลังของ นาโปลี เผยถึงกระแสย้ายทีมที่มีออกมาตามหน้าสื่ออย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าไม่เคยพูดเรื่องนี้กับสโมสรแต่อย่างใด และพร้อมที่จะแขวนสตั๊ดกับต้นสังกัดหากได้รับการต่อสัญญาออกไป
    คาลิดู คูลิบาลี่ แนวรับวัย 29 ปีตกเป็นข่าวย้ายทีมอย่างหนักกับหลายสโมสรชื่อดังทั่วยุโรป ไม่ว่าจะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สองทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ที่ต้องการเสริมทัพกองหลังฝีเท้าดี รวมถึง ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลน่า และปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ที่ให้ความสนใจเช่นเดียวกัน

    โดยทาง กาเซตโต้ เดลโล่ สปอร์ต สื่อชั้นนำจากประเทศอิตาลี รายงานว่า คูลิบาลี่ อยากที่จะจบอาชีพค้าแข้งที่ นาโปลี และล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้กับทางหนังสือพิมพ์แดนมักกะโรนีแล้วว่ายังไม่เคยเอ่ยปากย้ายทีมกับต้นสังกัดแต่อย่างใด "ผมไม่เคยพูดกับ นาโปลี เกี่ยวกับการย้ายทีมเลย หากเราหาทางออกกันได้ เราก็จะทำ แต่ผมน่ะไม่เคยพูดเรื่องที่เกี่ยวกับตลาดซื้อขายเลยนะ"

    "ผมเจอข่าวเรื่องอนาคตของตัวเองตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ เหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมอยากคิดเกี่ยวกับการลงเล่นเท่านั้น ผมเต็มที่กับ นาโปลี 100 เปอร์เซ็นต์ และมันก็น่าหงุดหงิดมากๆ ที่ผมต้องมาตกเป็นข่าวกับทีมต่างๆ ในทวีปยุโรปทุกวัน"

    "เราจะได้เห็นสิ่งที่ท่านประธาน(ออเรลิโอ เด ลอเรนทิส) ตัดสินใจ และหากเขาประสงค์ที่จะขยายสัญญาของผมแล้วล่ะก็ มันก็จะทำให้ผมยุติอาชีพที่นี่ได้"

เทียร์นี่ย์ สำนึกผิดขอโทษที่ชูนิ้วกลาง

เคียแรน เทียร์นี่ แบ็กซ้ายของ อาร์เซน่อล กล่าวขอโทษหลังจากที่เจ้าตัวไปชูนิ้วกลางหลังเกมที่ช่วยให้ต้นสังกัดพลิกล็อกเขี่ย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกรอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ

    เกมนี้ "เดอะ กันเนอร์ส" ได้ทั้งสองประตูจาก ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ในนาทีที่ 19 และ 71 ซึ่งหลังจบเกม บรรดานักเตะฝั่งผู้ชนะต่างถ่ายรูปเฉลิมฉลองกันในห้องแต่งตัว

    อย่างไรก็ตาม เคียแรน เทียร์นี่ย์ แบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นคนผ่านบอลให้ โอบาเมยอง หลุดเข้าไปยิงปิดบัญชี ได้แสดงออกไม่เหมาะสมด้วยการชูนิ้วกลาง โดยรูปดังกล่าวเผยแพร่กันทั่วในโลกโซเชียล

    หลังจากนั้น เทียร์นี่ย์ โดนวิพากษ์วิจารณ์ถึงการแสดงออกไม่เหมาะสม จนทำให้เจ้าตัวต้องออกมาทวีตขอโทษผ่าน ทวิตเตอร์ส่วนตัวพร้อมอธิบายว่าทำไมถึงออกไม้ออกมือเช่นนั้น "ไม่ได้ตระหนักเลยว่ารูปนี้จะถูกโพสต์ออกไป"

    "มันเป็นเรื่องเล่นๆ กับเจ้าหน้าที่เสื้อผ้า ผมขอโทษ หากทำให้ใครไม่สบายใจ ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ"

แฟนเก่าแฉวอล์คเกอร์นอกใจหลายหนแต่ยังให้อภัย สุดท้ายรับไม่ได้เพราะทำหญิงคนดังท้อง

แอนนี่ คิลเนอร์ อดีตแฟนสาวของ ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ ออกมาแฉถึงพฤติกรรมของอดีตคู่รู้ใจที่ไปคบชู้จนหญิงคนนั้นตั้งท้อง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เคยให้อภัยมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ดาวเตะ แมนฯซิตี้ ก็ยังไม่เลิกเล่นชู้กับสาวอื่น

    แอนนี่ คิลเนอร์ วัย 27 ปี คบหาดูใจกับ ไคล์ วอล์คเกอร์ ดาวเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มานานถึง 11 ปี และมีลูกด้วยกัน 3 คน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายหญิงได้ออกมาแฉพฤติกรรมนอกใจของอดีตคนรักว่าแอบไปคบหากับ ลอรีน กู้ดแมน อินฟลูเอ็นเซอร์คนดังวัย 29 ปี จนตั้งท้องและเพิ่งคลอดลูกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

    "สิ่งที่เขาทำกับฉันและลูก ๆ มันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดได้เลย"

    "ตอนปลายเดือนมีนาคม ปีก่อน เขาทรยศด้วยการไปยุ่งกับ ป็อปสตาร์รายการทีวี ฉันมารู้เรื่องในอีกหนึ่งเดือนต่อมา ซึ่งมันเจ็บปวดมาก ๆ เขาขอร้องฉันให้อภัย แต่ตอนเดือนกรกฎาคมเขาก็ทำมันขึ้นอีก"

    "มันไม่ใช่แค่นั้นนะ อีกสามเดือนต่อมามีคนตั้งท้อง แล้วใครเป็นคนทำล่ะ? ฉันไม่รู้อีกแล้วว่าตอนนั้นฉันคิดอะไรและรู้สึกยังไง ฉันรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น ในแต่ละวันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด"   

    "เรื่องที่เขาทำลงไป ฉันจึงไม่คิดว่าเขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว มันทำให้ฉันเศร้ามาก ๆ และสิ่งที่ฉันได้รับมันเจ็บปวด ฉันไม่ควรจะมาเจออะไรแบบนี้"

 

    "ฉันรัก ไคล์ มากที่สุด และฉันก็จะรักเขาตลอดไป แต่เมื่อมาทำเรื่องนี้กับฉัน..หลังจากมีลูกด้วยกัน 3 คน? ฉันก็พยายามจะเกลียดเขาแต่ฉันจะเกลียดคนที่เป็นพ่อของลูก ๆ ได้ยังไงกันล่ะ? ก่อนที่เขาจะนอกใจ เขาคือเพื่อนที่ดีที่สุด เป็นคู่ชีวิต ฉันไว้ใจเขาทุก ๆ เรื่อง"

    "แต่มันไม่มีอะไรที่ฉันรับรู้ได้ว่าเป็นเรื่องจริง เพราะเขามาแทงข้างหลัง"

    นอกจากนี้ แอนนี่ ยังเผยถึงเรื่องที่เธอต้องใจแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากการที่ วอล์คเกอร์ มีลูกกับหญิงอื่น หลังจากที่เธออุตส่าห์ให้โอกาสเขาได้แก้ตัวเป็นครั้งสุดท้ายภายหลังจากที่เคยพบว่าเขาแอบมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ ลอร่า บราวน์

    "ฉันเคยยกโทษให้เขา ฉันรู้ดีว่าฉันไม่สามารถให้เขาเลิกมีนิสัยแบบนั้นได้อีกแล้วหลังจากที่เขามีอะไรกับ ลอร่า บราวน์"

    "เหมือนกับว่าการปล่อยโจรไปจากร้านหลังจากที่จับได้คาหนังคาเขาว่าพวกเขาขโมยของ แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลับมาพยายามปล้นอีกครั้ง"

    "ฉันปล่อยให้เขาสบายใจนานเกินไป บางทีฉันอาจจะไม่ควรทำอย่างนั้นก็ได้ ฉันเติบโตมาในครอบครัวที่แสนสุข และยึดมั่นในหลักศีลธรรม"

    "ฉันมีลูก 3 คนที่ต้องเลี้ยงดู และฉันก็ไม่ได้ซึมเศร้าไปกับมันมากนัก ฉันก็แค่ตัดสินใจเดินไปข้างหน้า ฉันพร้อมที่จะให้โอกาสสุดท้ายกับเขาเพื่อผลประโยชน์ของลูกๆ ฉันรุ้ดีว่ามันมีโอกาสที่ ไคล์ จะทำอย่างนั้นอีกครั้ง แต่การทำให้คนท้องมันถือเป็นฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุด"

    "การที่เธอมีลูกกับเขามันถือว่าจะทำให้ทั้งคู่ต้องเกี่ยวข้องกันไปตลอดกาล ฉันต้องใช้ชีวิตอยู่กับเรื่องนั้นในทุกวัน ฉันจิตใจแตกสลายเพราะเรื่องเหล่านั้น ฉันคิดว่าตัวเองคงไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว"

ริโอ-เทอร์รี่-ฟานไดค์?ก็องปานีชี้ใครกองหลังเจ๋งสุดพรีเมียร์ลีก

หนึ่งในสุดยอดเซนเตอร์แบ็กให้ความเห็นเอง! แว็งซองต์ ก็องปานี ชี้นักเตะคนไหนคู่ควรถูกยกให้เป็นกองหลังที่เจ๋งสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก
    แว็งซองต์ ก็องปานี อดีตปราการหลังกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยกย่องให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เซนเตอร์แบ็ก ลิเวอร์พูล เป็นกองหลังที่ยอดเยี่ยมสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก โดยเหนือกว่า ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ จอห์น เทอร์รี่ สองตำนาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี เสียอีก

    ก็องปานี ที่เวลานี้ไปอยู่กับ อันเดอร์เลชท์ สโมสรในลีกเบลเยียม เผยผ่าน สปอร์ฟ สื่อบ้านเกิดว่า "ผมเลือก เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ให้เป็นกองหลังที่ยอดเยี่ยมสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก มันอาจเป็นตัวเลือกที่แปลกอยู่บ้าง เพราะเขายังไม่ได้เล่นมานานเหมือน เทอร์รี่ และ เฟอร์ดินานด์"

    "ทั้งสองคนนั้นเล่นในลีกเป็นเวลายาวนานมาก แต่สัญญาณที่ ฟาน ไดค์ ส่งออกมาในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา บ่งบอกชัดเจนว่า เขาเล่นได้ในระดับสูงสุด และจะดียิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต เขาสร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับทีมของเขา"

    "เขาไม่เคยยืนคนเดียว มันเกี่ยวกับการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม และวิธีการทำให้ทีมของคุณแข็งแกร่งขึ้น ลิเวอร์พูล ก่อนมี ฟาน ไดค์ เป็นอีกแบบ แต่หลังมี ฟาน ไดค์ เป็นทีมที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงเลือกเขาให้เป็นกองหลังดีสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก" ก็องปานี กล่าว

    ในฤดูกาลนี้ ฟาน ไดค์ ลงเล่นไป 41 นัดทุกรายการ ทำได้ 4 ประตู และ 2 แอสซิสต์ รวมทั้งช่วยให้ ลิเวอร์พูล เก็บ 12 คลีนชีตใน พรีเมียร์ลีก