หล่อเลย! “ธนวัฒน์” ดาวรุ่งไทยซัดเปิดซิงเม็ดแรกให้ เลสเตอร์ ได้แล้ว

"เจ้ากัน" ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ดาวรุ่งไทยยิงประตูแรกให้ "จิ้งจอกสยาม" ได้แล้วหลังลงมาเป็นสำรองซัดตีไข่แตก ทว่าเกมนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ ยู-23 สุดต้านบุกไปพ่ายให้ ฮาโรเกท ทาวน์ 1-3 ในเกม อีเอฟแอล โทรฟี่ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
   
ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ดาวรุ่งแข้งไทยวัย 20 ปี ซีซั่นนี้เพิ่งย้ายมาร่วมทัพ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังพรีเมียร์ลีกที่มีเจ้าของเป็นคนไทย โดยเซ็นสัญญาเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งเจ้าตัวถูกจัดให้อยู่ในทีมชุด ยู-23

    สำหรับเกมเมื่อคืนวันอังคารที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น "เจ้ากัน" ยังมีชื่อเดินทางไปกับแข้ง "ยังฟ็อกซ์" ในเกมบุกไปเยือนถิ่น คีพโมท สเตเดี้ยม เพื่อลงบู๊กับเจ้าถิ่น ฮาโรเกท ทาวน์ ในเกมที่สองของศึก อีเอฟแอล โทรฟี่ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช หลังเกมแรกนั้น เลสเตอร์ บุกไปเฉือนเอาชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 2-1 มาได้

    โดย ธนวัฒน์ ยังคงต้องรอโอกาสลงเป็น 11 แข้งตัวจริงต่อไป หลังมีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง ซึ่งเป็นแมตช์ที่ 3 แล้ว หลังนัดแรกในลีกพรีเมียร์บีก 2 ดิวิชั่น 1 ได้ลงในฐานะตัวสำรองเกมบุกพ่าย แบล็คเบิร์น 0-4 ก่อนที่เกมล่าสุดที่บุกแพ้ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าตัวจะไม่ได้รับโอกาสเปลี่ยนลงสนามเลย

    ครึ่งแรก สถานการณ์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ค่อนข้างเลวร้ายหลังเจอเกมรุกของเจ้าถิ่นเล่นงานก่อนจะมีสกอร์ตามหลัง 0-2 กระนั้น "จิ้งจอก" แก้เกมก่อนจบครึ่งแรกด้วยการส่ง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ลงเป็นสำรองคนแรก

    ในครึ่งหลัง เจ้าถิ่น ฮาโรเกท มาพังประตูหนีห่างเป็น 3-0 ไปอีก แต่ก่อนจบการแข่งขัน ในนาที 84  "เจ้ากัน" ธนวัฒน์ มายิงประตูแรกให้ต้นสังกัดได้สำเร็จ หลังซัดตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3 แต่ไล่ไม่ทัน จบการแข่งขัน เลสเตอร์ ซิตี้ ยู-23 บุกแพ้ ฮาโรเกท 1-3

กุนซือเด็กเลสเตอร์ยินดีธนวัฒน์หลังทำประตูได้

หลังจาก ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร แข้งดาวรุ่งของไทยทำประตูในเกมที่ทีมเด็กของ เลสเตอร์ แพ้ ฮาร์โรเกท ได้แล้วนั้น สตีฟ บีเกิ้ลโฮ กุนซือทีมเยาวชนของ "สุนัขจิ้งจอก" ก็กล่าวชม ธนวัฒน์ ว่าเป็นแข้งที่ดี พร้อมทั้งร่วมยินดีที่ทำประตูได้ แถมเชื่อด้วยว่านักเตะทุกคนจะได้ประสบการณ์ที่ดีต่อให้แพ้ก็ตาม
    สตีฟ บีเกิ้ลโฮ ผู้จัดการทีมระดับเยาวชนของ เลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวชมและแสดงความยินดีกับ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ดาวรุ่งชาวไทยที่ทำประตูได้ในเกม อีเอฟแอล โทรฟี่ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช นัดที่ทีมเด็กของ "สุนัขจิ้งจอก" ออกไปแพ้ ฮาร์โรเกท ทาวน์ 1-3 เมื่อวันอังคารที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา

    แม้ว่าตามการลงทะเบียนแล้ว เลสเตอร์ จะลงทะเบียนเอาไว้ว่าทีมชุดที่ลงเล่นรายการดังกล่าวเป็นทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี แต่ขุมกำลังส่วนใหญ่ก็มาจากชุดรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่ง ธนวัฒน์ ก็อยู่ในขุมกำลังชุดที่ว่าด้วย และเกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาก็เป็นเกมแรกที่เขาทำประตูให้กับทีมได้

    บีเกิ้ลโฮ เผยว่า "ผมพอใจกับฟอร์มในครึ่งหลังมากกว่าช่วงครึ่งแรก ธนวัฒน์  ซึ่งเป็นคนที่เราดึงมาร่วมทีมด้วยน่ะสามารถทำประตูได้ ผมดีใจแทนเขามากๆ เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยม"

    "ผมคิดว่าในครึ่งหลังเราเล่นเกมบุกกันได้ดีขึ้น และผมก็ผิดหวังที่เราเสียประตู ที่จริงผมคิดยว่าเราน่าจะได้แต้มจากเกมนี้ แต่เราก็ทำไม่สำเร็จ เราเปิดช่องให้พวกเขาเล่นมากเกินไปในจังหวะสวนกลับเร็ว เราต้องเล่นกันให้แข็งแกร่งกว่านี้เวลาที่เล่นเกมรุก"

    "อย่างไรก็ตาม นี่ก็ถือเป็นทีมใหม่ และเราก็คอยส่งดาวรุ่งลงเล่น 1 หรือ 2 คนอยู่เสมอ ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่ดี ประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับจะทำให้พวกเขาได้ประโยชน์ในการก้าวไปข้างหน้า ผมผิดหวังที่เราแพ้ เพราะผมอยากชนะเป็นธรรมดา แต่ในครึ่งหลังมันก็มีเรื่องดีๆ หลายเรื่องเหมือนกัน"

คิง เพาเวอร์สานพลังบอลไทยไป เลสเตอร์ ซิตี้

สโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดงานแถลงข่าว "สานพลังบอลไทย ไป เลสเตอร์ ซิตี้" เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพนักเตะไทย โดยเปิดโอกาสให้ 3 นักเตะดาวรุ่งอย่าง "เช็ค" สุภโชค สารชาติ, "อาร์ม" ศุภชัย ใจเด็ด และ "แบงค์" ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา  เดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ หลังฟุตบอลไทยลีกจบการแข่งขันฤดูกาล 2020 เป็นเวลา 1 เดือน

คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า "เราเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย และความตั้งใจแรกของเราที่เข้าบริหารสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ คือเราจะสนับสนุนความสามารถของนักเตะไทย เลสเตอร์ ซิตี้ ให้ความสำคัญกับบุคลากรและการพัฒนาศักยภาพของนักเตะรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะมาพัฒนาทักษะ ซึ่งเรามองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนด้านฟุตบอลระยะยาว ปัจจุบันเรามีศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่ที่ทันสมัยที่สุดในยุโรป และมีศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่ดีที่สุดเพื่อให้นักเตะทุกคนสามารถฟื้นฟูร่างกายได้ในทุกช่วงเวลา"

"การที่ 3 นักเตะดาวรุ่งได้ไปทดสอบฝีเท้าที่เลสเตอร์ ซิตี้ นับว่าเป็นโอกาสที่นักเตะจะได้โชว์ฝีเท้าและความสามารถของตัวเองในระดับยุโรป ถ้าผลการทดสอบออกมาตามเกณฑ์ จะสนับสนุนให้ไปเล่นต่อที่สโมสรในยุโรป อาทิสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และสโมสรฟุตบอลโอเอช ลูเวิน ประเทศเบลเยียม ในอนาคต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของทั้ง 3 คน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีหากการทดสอบไม่ประสบความสาเร็จอย่างน้อยก็มีรายชื่ออยู่ในฐานระบบ Scouting ของยุโรป ที่ผ่านมาเลสเตอร์ ซิตี้ เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของคนไทยในด้านกีฬามาโดยตลอด โครงการต่างๆ ที่เลสเตอร์ และคิง เพาเวอร์ ทำมาเพื่อตอบโจทย์ว่าเราอยากเห็นคนไทยไปเล่นในสโมสรในยุโรป"

ด้านนักเตะทั้ง 3 รายดังกล่าวต่างมีการให้สัมภาษณ์เป็นเสียงเดียวกันว่า พร้อมจะเดินทางไปทำหน้าที่และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ครั้งนี้อย่างเต็มที่ เพื่อโอกาสที่จะได้เล่นในลีกยุโรป และเพื่อเป็นการเปิดประตูให้กับน้องๆรุ่นหลัง รวมถึงจะได้นำมาพัฒนาฝีเท้าเองเพื่อช่วยทีมชาติไทยต่อไปอีกด้วย

พลาดลงสนาม!2แข้งใหม่เชลซียังเดี้ยงชวดเกมเปิดซีซั่น

ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชื่อก้อง ระบุ ในนัดเปิดฤดูกาลของ เชลซี ที่ต้องไปเยือน ไบรท์ตันฯ ในวันที่ 14 ก.ย. นี้นั้น ฮาคิม ซิเย็ค กับ เบน ชิลเวลล์ จะอดช่วยทีมทั้งคู่ หลังยังไม่หายขาดจากอาการเดี้ยงตรงหัวเข่าและส้นเท้า ตามลำดับ แต่ คริสเตียน พูลิซิช อาจจะหายทันกลับมาเล่นให้ทีมได้

ฮาคิม ซิเย็ค กับ เบน ชิลเวลล์ 2 ดาวเตะคนใหม่ของ เชลซี จะอดช่วยต้นสังกัดในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแรกของฤดูกาล 2020-21 ที่ทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" มีคิวไปเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในวันจันทร์ที่ 14 กันยายนนี้ หลังจากทั้งคู่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ตามรายงานของ ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชั้นนำ
 
ซิเย็ค มีอาการหัวเข่าบิดในเกมอุ่นเครื่องที่ เชลซี บุกไปเสมอกับ ไบรท์ตันฯ 1-1 เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ ชิลเวลล์ มีปัญหาตรงส้นเท้ามาตั้งแต่ปลายซีซั่นก่อนกับ เลสเตอร์ ซิตี้ แล้ว ซึ่งตอนแรก เชลซี ยังหวังว่าทั้งคู่จะหายทันนัดเปิดซีซั่น

ทั้งนี้ ดิ แอธเลติก เสริมว่านอกจากเตรียมจะอดลงเล่นในวันที่ 14 ก.ย. นี้แล้วนั้น ซิเย็ค ยังต้องพักอีกหลายสัปดาห์ด้วย ส่วนรายของ ชิลเวลล์ อาจจะต้องใช้เวลาอีกราว 2 สัปดาห์กว่าที่จะพร้อมประเดิมสนามให้ทีม อย่างไรก็ตาม สื่อเจ้าดังกล่าวบอกด้วยว่า คริสเตียน พูลิซิช ปีกชาวอเมริกันที่เคยเจ็บตรงเอ็นหลังหัวเข่าในเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศที่ เชลซี แพ้ อาร์เซน่อล 1-2 เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้น อาจจะมีลุ้นฟิตทันช่วยทีมในนัดเปิดซีซั่น หลังจากที่เขาฟื้นตัวได้ดีสุดๆ

เชลซี เข้าสู่การเจรจาขั้นสุดท้ายกับ “ชิลเวลล์” แล้ว

 

มิคกี้ อดัมส์ อดีตผู้จัดการทีม เลสเตอร์ ซิตี้ เชื่อว่า เบน ชิลเวลล์ แบ็คซ้ายวัยรุ่นเตรียมย้ายออกจากถิ่นคิงพาวเวอร์ไปอยู่กับ เชลซี ตามข่าวลือเต็มตัวแล้ว เหลือแค่เจรจาเรื่องเงินกันให้จบเท่านั้นเอง

"ผมเชื่อว่าดีลนี้มีความคืบหน้าเร็วมากและที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ เบน ชิลเวลล์ เองแล้วว่าจะเอายังไง เพราะยุคสมัยนี้ถ้านักเตะอยากย้าย ใครก็ห้ามไม่อยู่" อดัมส์ กล่าวกับ Daily Star

"และถ้าใจของเขาไปอยู่กับ เชลซี หมดแล้วจริง ๆ ตามที่ผมได้ยินมา ขั้นตอนสุดท้ายก็คือ เจรจาค่าตัว, ค่าเหนื่อยและผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้จบ จากนั้นคือรอชูเสื้ออย่างเดียว"

"อย่าลืมนะว่า เลสเตอร์ ซิตี้ ถึงแม้จะเคยเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อหลายปีก่อน แต่พวกเขายังไม่ใช่ทีมใหญ่ ฉะนั้นหากมีใครยื่นซื้อผู้เล่นสำคัญด้วยค่าตัวที่สูงมากพอ ยังไงก็ต้องยอมปล่อยร้อยเปอร์เซ็นต์"

จับตา!เชลซีจ่อได้ “ชิลเวลล์” ร่วมก๊วน

"สิงห์บลูส์" เชลซี จ่อได้แข้งดาวดังอีกคนแล้ว โดยล่าสุดมีข่าวใกล้ที่จะปิดดีลในรายของ เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้าย เลสเตอร์ ซิตี้ เผยค่าตัวถูกกว่าที่ตั้งไว้ตอนแรกเยอะมาก
     เชลซี สโมสรมหาเศรษฐีแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใกล้ที่จะตกลงกับ เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรคู่แข่งร่วมลีก ได้แล้ว สำหรับการขอซื้อตัว เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้ายเลือดผู้ดี มาเสริมทัพ ตามรายงานจาก ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชั้นนำเมืองผู้ดี เมื่อวันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา

     ชิลเวลล์ ตกเป็นเป้าหมายเสริมทัพของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม "สิงห์บลูส์" มาอย่างยาวนาน โดยที่ตอนแรก เลสเตอร์ ตั้งค่าหัวนักเตะไว้ไม่ต่ำกว่า 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,280 ล้านบาท) ทว่าล่าสุด ดิ แอธเลติก ระบุว่า ทั้งสองสโมสรจ่อที่จะตกลงกันได้แล้ว ซึ่งค่าตัวของ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษวัย 23 ปี น่าจะลดลงมาอยู่ที่ราว 45-50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,845-2,050 ล้านบาท)

     ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ชิลเวลล์ ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจร่างกายแล้ว และถ้าหากทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เจ้าตัวก็จะกลายเป็นแข้งใหม่ของ เชลซี รายที่สามในซัมเมอร์นี้ ต่อจาก ฮาคิม ซิเยค และ ติโม แวร์เนอร์ พร้อมกับจะทำให้ "สิงห์บลูส์" ใช้เงินเสริมทัพไปแล้วมากกว่า 110 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,510 ล้านบาท)

สิงห์ยังมีงบให้เสริมทัพอีก200ล้านปอนด์

แดนนี่ ฮิ๊กกิ้นบ็อทแธม อดีตเด็กเก่าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้ว่าทีมจะต้องเก็บตัวเก่งอย่าง ปอล ป็อกบา กับ ดาบิด เด เคอา เอาไว้กับทีมต่อไปให้ได้เดอะ มิร์เรอร์ สื่อเจ้าดังของอังกฤษเผยว่า เชลซี ยังมีงบให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เสริมทีมอีก 200 ล้านปอนด์เพื่อสู้ศึกฤดูกาลหน้า

 "สิงห์บลูส์" เสริมทัพอย่างน่าสนใจด้วยการคว้า ฮาคิม ซิเย็ค กับ ทิโม แวร์เนอร์ มาเสริมทัพตั้งแต่ฤดูกาลยังไม่ปิดด้วยค่าตัวรวมกันร่วม 90 ล้านปอนด์ แต่ยังมีนักเตะที่ยังต้องเสริมทีมอีกหลายตำแหน่ง

 เชลซี ยังมีนักเตะอีกอย่างน้อย 3 คนที่ต้องการตัวมาร่วมทีมและเป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่องอย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์ ของ เลเวอร์คูเซ่น, เบน ชิลเวลล์ ของ เลสเตอร์ ซิตี้ และ เดแคลน ไรซ์ ของ เวสต์แฮม ซึ่งอาจจะรวมถึงผู้รักษาประตูอีกตำแน่งด้วย

 ล่าสุดสื่อแดนผู้ดีเผยว่าบอร์ดบริหารพร้อมที่จะทุ่มเงินอีก 200 ล้านปอนด์เพื่อดึงเป้าหมายของกุนซือมาร่วมทีม ซึ่งโดยรวมแล้วสามเป้าหมายค่าตัวรวมถึงก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 200 ล้านปอนด์อยู่แล้ว

ลิเวอร์พูลเอาไง!นอริชขอ20ล.ปอนด์แลกขายลูอิส

ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชื่อก้อง ตีข่าว นอริช ตั้งค่าหัวของ จามาล ลูอิส แบ็กซ้ายที่ ลิเวอร์พูล แอบเหล่อยู่เอาไว้ที่ 20 ล้านปอนด์ โดยตอนแรก "หงส์แดง" กะให้ค่าตัวเพียง 10 ล้านปอนด์เท่านั้น
    นอริช ซิตี้ สโมสรที่เพิ่งตกชั้นไปเล่นใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ต้องการเงิน 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 800 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าตัวของ จามาล ลูอิส แบ็กซ้ายดาวรุ่งของทีม ตามรายงานของ ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชั้นนำ

    ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ลูอิส กำลังเป็นที่สนใจของ ลิเวอร์พูล หลังจากที่ "หงส์แดง" ต้องการแบ็กอัพของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายคนเก่งของทีม ซึ่งว่ากันว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ถูกใจฝีเท้าของแข้งวัย 22 ปีเป็นการส่วนตัวด้วย

    เป็นที่เชื่อกันว่า ลูอิส สนใจที่จะย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล เช่นกัน แม้ว่าจะต้องเป็นเพียงตัวสำรองก็ตาม ซึ่ง ลิเวอร์พูล ก็คิดที่จะยื่นขอซื้อเขาด้วยเงิน 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 400 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ดิ แอธเลติก เผยว่า นอริช ต้องการเงินมากกว่านั้นอีก 1 เท่า เพราะพวกเขาเอาเงินที่ได้จากการขาย เจมส์ แมดดิสัน ให้ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2018 มาเป็นบรรทัดฐานในการขายดาวรุ่งทุกคนของทีม โดยตอนนั้น นอริช ปล่อย แมดดิสัน ให้กับ "สุนัขจิ้งจอก" หลังได้ค่าตัวมากกว่า 20 ล้านปอนด์

กัปตันจอมอึด! สถิติน่าทึ่ง “แม็กไกวร์” กับแมนยูซีซั่นนี้ ทาบตำนาน25ปีก่อน

เปิดสถิติ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการทีมหลังค่าตัวแพงสุดในโลก ลงสนามรับใช้ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีกครบทุกนาทีในฤดูกาลที่เพิ่งจบลง
     แม็กไกวร์ ย้ายมาจาก เลสเตอร์ ด้วยค่าตัวสุดแพงราว 80 ล้านปอนด์ (ราว 3,200 ล้านบาท) และหลังลุยครบ 90 นาทีเต็มในเกมบุกชนะทีมเก่า 2-0 ถึง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม พร้อมคว้าอันดับสามและตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันปิดซีซั่น เท่ากับว่า ปราการหลังจอมแกร่งลงสนามให้ "ปีศาจแดง" ครบทุกนาทีในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้

    ทั้งนี้ แม็กไกวร์ ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด นับเป็นผู้เล่นคนแรกของ "เร้ด อาร์มี่" นับตั้งแต่ แกรี่ พัลลิสเตอร์ ที่เล่นเกมลีกครบทุกนาทีในหนึ่งฤดูกาล ซึ่ง "พัลลี่" ทำสถิติไว้เมื่อฤดูกาล 1994/95

ร็อดเจอร์สรับติดเชื้อโควิดก่อนรักษาหายดีแล้ว

เผยมีกุนซือ พรีเมียร์ลีก อีกรายที่ติดโควิด-19 หลังเบรกซีซั่นไม่นาน แต่ตอนนี้หายแล้ว เจ้าตัวรับสุดทรมาน ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง ไม่ได้กลิ่น และไม่รับรู้รสชาติเลย

    เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่า ทั้งตัวเอง และภรรยาติดเชื้อโควิด-19 แต่เวลานี้หายดีแล้ว โดยยอมรับว่า ช่วงที่ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบเหมือนกับต้องปีนเขาคีลิมันจาโร่เลยทีเดียว

        ร็อดเจอร์ส เผยผ่าน บีบีซี เลสเตอร์ สปอร์ต เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมาว่า "ผมและภรรยาติดเชื้อหลังจากที่ฤดูกาลหยุด หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้นผมเริ่มมีอาการ ผมไม่ได้กลิ่น และไม่รับรู้รสชาติ"

        "ผมไม่มีแรง ผมต้องต่อสู้กับมันเช่นเดียวกับภรรยาของผม ผมและภรรยาเข้ารับการตรวจก่อนผลออกมาติดเชื้อ ผมแทบเดินไม่ได้เลย มันทำให้ผมนึกถึงตอนปีนเขาคีลิมันจาโร่ ยิ่งคุณปีนขึ้นไปสูง คุณก็ต้องหอบมากขึ้น

        "การเดินแค่ 10 หลายังรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมมาก ผมไม่สามารถวิ่งได้ ผมรู้สึกอ่อนแรง ผมไม่อยากกินอาหาร และมีความรู้สึกแปลกๆ เป็นเวลา 3 สัปดาห์กับการที่ไม่รู้สึกรสชาติอะไรเลย" ร็อดเจอร์ส กล่าว
    
        ทั้งนี้ ร็อดเจอร์ส เป็นกุนซือคนที่ 2 ใน พรีเมียร์ลีก ที่ยอมรับว่าติดโควิด-19 ต่อจาก มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ที่ติดเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่ลีกจะต้องระงับมาจนถึงเวลานี้