แชมป์เก่าฟอร์มโหดส่ง 4 แข้งนำทัพทีมยอดเยี่ยมไทยลีกแมตช์ที่6

ศึกฟุตบอลไทยลีกแมตช์ที่ 6 จบลงเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับฟอร์มอันสวยหรูของทัพกว่างโซ้งที่ส่ง 4 แข้งนำทัพทีมยอดเยี่ยม แต่ละตำแหน่งจะมีใครบ้างมาดูกัน

ผู้รักษาประตู : ดัง วาน ลัม (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)

ในเกมที่ กิเลนผยอง เปิดรังเจ๊า เขี้ยวสมุทร แบบไร้สกอร์ ส่วนหนึ่งต้องยกให้กับ ดัง วาน ลัม ที่มีจังหวะได้โชว์ซูเปอร์เซฟช่วย เอสซีจี เมืองทองฯ เอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่หลายจังหวะจนสามารถเก็บคลีนชีตได้ในเกมนี้

กองหลัง : อิรฟาน ฟานดี้ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)

เล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่งมากสำหรับ อิรฟาน ฟานดี้ สามารถหยุดเกมรุกทางฝั่งซ้ายของเจ้าถิ่น การท่าเรือ ได้อย่างอยู่หมัด จังหวะปะทะตัวต่อตัวก็ทำได้ดี ผู้เล่นตัวรุกผ่านได้ยาก ที่สำคัญการยืนแผงหลังร่วมกับ วิคเตอร์ กาโดโซ่ และอันเดรส ตูเญส ทำให้หลังบ้าน บีจี กลายเป็นปราการหินที่แกร่งเอามากๆ

กองหลัง : ยู จุน ซู (พีที ประจวบ เอฟซี)

ปราการหลังชาวเกาหลีใต้ยืนปักหลักแนวรับให้ พีที ประจวบ ได้อย่างยอดเยี่ยม คอยประกบดาวยิงตัวเก่ง บอสโควิช ไม่ให้หาโอกาสยิงได้ง่ายๆ แถมจังหวะเล่นลูกกลางอากาศก็ทำได้ดี ช่วยให้ พีที ประจวบ เก็บชัยชนะนัดแรกของฤดูกาล พร้อมกับทำคลีนชีตได้สำเร็จ

กองหลัง : ศราวุธ อินทร์แป้น (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

ยืนคุมแผงหลังได้อย่างแข็งแกร่งในเกมที่ต้องรับมือกับเกมรุกของเจ้าถิ่นอย่าง นครราชสีมา มาสด้า แต่ทว่าทาง ศราวุธ ก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมพร้อมช่วย กว่างโซ้ง เก็บชัยชนะ พร้อมคลีนชีตได้สำเร็จ

กองกลาง : โชติภัทร พุ่มแก้ว (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นต่อเนื่องจากเกมที่แล้วสำหรับ โชติภัทร ทั้งจังหวะการขึ้นเกมทางฝั่งขวาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ทะลุทะลวงเข้าเขตโทษลุ้นยิงประตูก็มีให้เห็นในเกมนี้ ก่อนที่สุดท้ายแล้วสามารถทำแอสซิสต์ให้กับ อัครวินท์ สวัสดี ทำประตูได้อีกด้วย

กองกลาง : ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (โปลิศ เทโร เอฟซี)

เป็นอีกหนึ่งแข้งที่โชว์ฟอร์มเด่นมาตั้งแต่นัดที่แล้วกับ การท่าเรือ สำหรับ ปฐมพล เป็นนักเตะที่มีความเร็ว และคล่องตัว บวกกับความกล้าเลี้ยง กล้าลุย ช่วยป่วนแนวรับ ราชบุรี อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งมาทำแอสซิสต์ช่วยให้ทีมได้ประตูขึ้นนำ ราชันมังกร ก่อนจบเกมด้วยผลเสมอ 1-1

 กองกลาง : สารัช อยู่เย็น (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)

 การเล่นของ สารัช ทำให้แดนกลางของ บีจี ปทุม แน่นขึ้นมาก โดยเฉพาะเมื่อได้เล่นร่วมกับ สุมัญญา และฐิติพันธ์ นอกจากนี้การขึ้นเกมของ เจ้าตังค์ ก็ทำได้โดดเด่นเลยทีเดียวมีจังหวะวางบอลสร้างสรรโอกาสให้เพื่อนหลายครั้ง ส่วนเกมรับก็ช่วยทีมเอาไว้ได้หลายครั้ง ช่วยให้ เดอะ แรบบิท บุกเอาชนะ การท่าเรือได้ 1-0

กองกลาง : อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

หากจะหานักเตะที่โดดเด่นที่สุดของทัพ แข้งเทพ ในเกมกับ สุพรรณบุรี หนึ่งในนั้นก็คงต้องยกให้ อานนท์ ที่เป็นผู้ยิงประตูชัยช่วย ทรู แบงค็อก เก็บสามแต้มสำคัญ แถมการกลับมาคราวนี้ดูเหมือนเจ้าตัวจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และที่ยังคงไว้คือความคล่องตัว พร้อมกับสกิลการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ

กองหน้า : อัครวินท์ สวัสดี (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

 ในเกมนี้ถือว่า อัครวินท์ เป็นอีกหนึ่งแข้งของ สิงห์ เชียงราย ที่โดดเด่นไม่น้อย โดยเฉพาะจังหวะเกมบุกที่มีการเปิดบอลสร้างสรรโอกาสให้เพื่อนได้อย่างยอดเยี่ยมหลายครั้ง แถมเกมนี้เจ้าตัวก็ยังก็ยังทำได้ 1 ประตูอีกด้วย

กองหน้า : เจนรบ สำเภาดี (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)

 การมาของ เจนรบ แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก ลงสนามเล่นไทยลีกเกมแรกให้กับ บีจี ปทุม ก็สามารถยิงประตูแรก และเป็นประตูชัยได้ทันที แถมการเล่นร่วมกับเพื่อนในทีมก็ทำออกมายอดเยี่ยมเอามากๆ

กองหน้า : บิลล์ โรซิมาร์ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

ด้วยผลงานการซัดแฮตทริกช่วยทัพ กว่างโซ้ง บุกเอาชนะ นครราชสีมา มาสด้า 4-0 โดยที่เกมนี้ บิลล์ โรซิมาร์ อาศัยทั้งความแข่งแกร่ง การจบสกอร์ที่เฉียบคม และไหวพริบของการเป็นศูนย์หน้าได้อย่างครบถ้วน แถมลูกสุดท้ายจังชิงจังหวะแย่งบอลจากเท้า แซมมวล เข้าไปยิงประตูช่วงทดเจ็บได้อีกด้วย

“วีระเทพ”สุดปลื้มเมืองทองฯคว้าชัยเก็บสามแต้มล้ำค่า

ควันหลงหลังเกมที่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ด้วยสกอร์ 2-1 โดยได้ประตูจาก แดร์เล และ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ เก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จ

หลังเกมทางด้าน วีระเทพ ป้อมพันธุ์ กองกลางจอมเทคนิคของทีมที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ได้ออกมาเผยว่า "มันเป็นเกมที่ยาก ราชบุรี คือทีมที่แข็งแกร่ง แต่เราเองช่วยกันเล่น ช่วยกันสู้ และได้ 3 คะแนน ที่ล้ำค่า ขอบคุณแฟนๆ ทุกคน ทั้งที่มาเชียร์ในสนาม รวมไปถึงจากทางบ้าน หวังว่าทุกคนจะมีความสุขที่ได้เห็น เมืองทองฯ กลับมาชนะอีกครั้ง"

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ เอสซีจี เมืองทอง จะบุกไปเยือน การท่าเรือ เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2563 เวลา18.00 น.

สุโขทัยแบโผ27แข้งลุยไทยลีกประเดิมดวลเมืองทองฯ

"ค้างคาวไฟ" สุโขทัย เอฟซี ประกาศชื่อ 27 แข้งบู๊ไทยลีก 2020 ด้าน "บาจโจ้" ลั่นพร้อมลุยมานานแล้ว แต่เสียดาย2เกมสำคัญต้องติดโทษแบน พร้อมประเดิมดวล เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 12 ก.ย.นี้

ความเคลื่อนไหวของทีมสุโขทัย เอฟซี ล่าสุดก่อนเกมวันเสาร์ ที่ 12 กันยายน ที่จะเปิดบ้านรับ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ประกาศผู้เล่นในสังกัดฤดูกาล 2020/2021 ทั้ง 27 คนหลังปิดตลาดซื้อ-ขาย รอบพิเศษแล้ว โดยมีจอห์น บาจโจ้ กองหน้าจากมาดากัสก้า สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม ขณะที่แดนหน้ายังมีคู่หู เอวานโดร เปาลิสต้า และ อิบสัน เมโล เป็น 3 ประสานในแดนหน้า

ในส่วนของเกมรับ พีระพงษ์ เรือนนินทร์ ยังคงจะเป็นมือหนึ่งรักษาหน้าด่าน แต่ต้องขับเคี่ยวกับ อนุรักษ์ ชมภูพฤกษ์ นายด่านประสบการณ์สูงที่ทีมพึ่งเสริมเข้ามา ส่วนกองหลัง มีให้เลือกหลายคนทั้ง ซอ มินตุน แนวรับทีมชาติเมียนมา ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกูล ,นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ , ศิลา ศรีกำปัง, นรงฤทธิ์ บุญสุข , ปิยะราษฏร์ ลาจังหรีด เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร และที่เสริมเข้ามาล่าสุดอย่าง ปัณณ์พันธุ์พงษ์ ปิ่นกอง

ส่วนกองกลาง ทีมงานเดิมยังอยู่กันครบ ทั้ง จุง เมียงโฮ กองกลางชาวเกาหลีใต้ ณัฐวุธ เจริญบุตร , คัพฟ้า บุญมาตุ่น , วรนาถ ทองเครือ ,พงศ์พัทธ์ หลิวรุ่งเรืองกิจ และที่เสริมเข้ามาใหม่อย่าง เดชา สอาดโฉม , มูฮำหมัดนาเซ กอและ ,กานต์พิชชา ชะนะการี และ ดิสดรณ์ พันธุ์จันทร์

สำหรับเกมไทยลีกนัดประเดิมคัมแบค นัดที่ 5  จอห์น บาจโจ้ ให้สัมภาษณ์ว่าทีมพร้อมเข้าสู่เกมแข่งขันที่รอคอยยาวนาน และดีใจกับแฟนบอลที่ได้สิทธิเข้าชมเกมแข่งขันในสนาม และได้ชมเกมที่สำคัญของทีม ทั้งนี้ในเกมที่สำคัญตนไม่สามารถลงแข่งขันได้ 2 เกมแข่งขันเพราะติดโทษแบน แต่ผมพร้อมจะสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสม ส่วนกรณีที่เอวานโดร เปาลิสต้า กองหน้าบราซิเลี่ยน บาดเจ็บนั้น ตนขอให้เขาหายและกลับสู่ทีมโดยเร็ว เพราะพวกเราต้องการเขา

“โค้ชอั๋น”เชื่อ “ค้างคาวไฟ” ดีพอล้ม “กิเลนผยอง”

"โค้ชอั๋น" สุรพงษ์ คงเทพ เชื่อ "ค้างคาวไฟ" มีดีพอเปิดบ้านล้ม "กิเลนผยอง"เอสซีจี เมืองทอง ประเดิม3แต้ม แม้ขาด"บาจโจ้" แต่เตรียมแผนรับมือไว้แล้ว

ความเคลื่อนไหวของทัพ"ค้างคาวไฟ"สุโขทัย เอฟซี ที่เตรียมเปิดสนามทะเลหลวง ต้อนรับการมาเยือนของ "กิเลนผยอง"เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดที่ 5 ในวันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2563 เวลา 20.00 น.

ล่าสุด "โค้ชอั๋น" สุรพงษ์ คงเทพ หัวหน้าผู้ฝึกสอน สุโขทัย เอฟซี เปิดถึงความพร้อมของทีมว่า ในส่วนของตัวผู้เล่นจะขาดเพียง จอห์น บาจโจ้ ปีกตัวจี๊ดและกัปตันทีมเพียงรายเดียวเท่านั้น นอกจากนั้นทุกคนฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามได้หมด ซึ่งแม้จะขาดตัวหลักอย่างบาจโจ้ไป แต่ตนเชื่อว่าคนอื่นๆสามารถที่จะลงมาทดแทนกันได้

 "แน่นอนว่า บาจโจ้ เป็นกำลังสำคัญของทีม การขาดเขาไปทีมอาจจลดประสิทธิภาพในเกมรุกไปบ้าง แต่เชื่อว่าคนอื่นทดแทนได้ เพราะเราเน้นระบบทีมเวิร์คมากกว่าตัวบุคคล และในช่วงเก็บตัวก่อนหน้านี้ เราได้ทดลองระบบการเล่นเพื่อเตรียมรับมือในเรื่องนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าทุกคนทำได้ดีและน่าพอใจ"

ส่วนเป้าหมายในเกมนี้ เฮดโค้ชค้างคาวไฟ กล่าวว่า "แน่นอนว่าการกลับมาของไทยลีกอีกครั้งหลังหยุดพักไปนาน รวมทั้งการได้เล่นในบ้าน เราตั้งเป้าที่ 3 คะแนนเพื่อประเดิมขวัญและกำลังใจให้กับทีม ซึ่งแม้ว่า เมืองทอง จะเป็นทีมที่ดี แต่ตนเชื่อว่า ด้วยศักยภาพของทีมเรา รวมถึงผลงานในการฝึกซ้อมที่ผ่านมา ที่ทุกคนเข้าใจในแท็กติก และทำได้ดี เชื่อว่าเราจะคว้า 3 แต้มได้"

มาริโอ กับบทบาทใหม่ใน”กิเลนผยอง”

จัดเป็นหนึ่งในตำนานนักเตะต่างชาติที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งของลีกไทย โดยเฉพาะการค้าแข้งให้กับทีม “กิเลนผยอง”เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สร้างชื่อให้กับ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้มากที่สุดในช่วงเวลาการเล่นอาชีพที่เมืองไทย

    แม้ยามนี้จะแขวนสตั๊ดไปแล้ว แต่ทางสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดย “บิ๊กเป้”รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผอ.สโมสร ได้เปิดเผยว่า ด้วยความผูกพันที่มาริโอ มีกับเมืองทอง จึงได้ร่วมงานกันอีกครั้งหลังจากเจ้าตัวเลิกเล่น โดยตอนนี้ได้ให้เจ้าตัวดูแลเกี่ยวกับเรื่องการสร้างเยาวชน

 
    “มาริโอ จะรับผิดชอบเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน MTUTD SOCCER SCHOOL ซึ่งจะเป็นสถาบันสอนเด็ก ๆ ที่มาเรียนฟุตบอลกับสโมสรของเรา และยังให้ดูแลการสร้างเด็กเยาวชน 19 ปีของสโมสร ด้วยฝีเท้าและประสบการณ์ที่ล้นเหลือของเขา เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาเด็กเยาวชนของสโมสรก้าวขึ้นมาสู่ชุดใหญ่อย่างมีคุณภาพตามแบบฉบับฝีเท้าของเขา”