“ดร.ก้อง”มั่นใจไทยลีกเตะต่อได้รับยังดีตรวจเจอเชื้อก่อนลงสนาม

จากกรณีที่ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วนเมื่อเย็นวานนี้ หลังพบ อัคบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ กองกลางตัวรับ ชาวอุซเบกิสถาน อายุ 29 ปี ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ติดเชื้อโควิด 19 จากการตรวจคัดกรอง ระหว่างวันที่ 8-9 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ประจำจังหวัด 15 แห่งทั่วประเทศ รอบสุดท้าย ส่งผลให้ บ.ไทยลีก จำกัด ตัดสินใจเลื่อนโปรแกรมแข่งฟุตบอลไทยลีก 1 เกมที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในวันที่ 13 ก.ย. ออกไปก่อน เช่นเดียวกับที่ราชบุรี เอฟซี จะเล่นกับทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และเกมไทยลีก 2 ระหว่าง ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบ ราชนาวี ต้องเลื่อนออกไปเช่นกัน

ล่าสุด "บิ๊กก้อง" ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันเรามีการเตรียมการที่ดี เนื่องจากในการจัดการแข่งขันฟุตบอล เรามีการเตรียมการล่วงหน้า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ประสานกับ กระทรวงสาธารณสุข ถึงขั้นตอนต่างๆ ทำให้มีการทำงานที่เป็นมืออาชีพจริงๆ มีการตรวจอย่างเข็มข้น ละเอียดทุกขั้นตอน

"ในการตรวจพบนักกีฬาติดเชื้อนั้น ก็ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดังนั้นมันสามารถเกิดขึ้นได้ อย่างที่คุณหมอได้บอกแล้วว่า แม้เราจะมีการปฎิบัติตามขั้นตอน มีการกักตัว 14 วัน แต่ก็ยังมีโอกาสที่เชื้อจะใช้ระยะฟักตัวมากกว่า14 วันได้"

 "เรื่องนี้เท่าที่ทราบข้อมูลยังไม่ได้ชี้ชัดว่านักกีฬาติดเชื้อจากที่ไหน และมีโอกาสที่จะติดเชื้อมาจากต้นทางก่อนเดินทางมายังประเทศไทย แต่จะมีการตรวจสอบอย่างแน่นอน แต่ในชั้นนี้ยืนยันว่า การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป เพียงแต่โปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยน เพื่อให้นักกีฬาที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ และทีมได้มีการทำตามมาตรการ ดังนั้นอยากจะสร้างความเชื่อมั่นให้แฟนกีฬาชาวไทยว่า นักกีฬาที่ลงสนามทุกคนผ่านการตรวจอย่างละเอียดและมีความปลอดภัยแน่นอน"

เบลยินดีซบผี,หงส์เล็งสตาร์กลัดบัค!อัพเดตข่าวเด่นตลาดนักเตะลีกดังยุโรป

เที่ยวนี้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีข่าวในตลาดซื้อ-ขายนักเตะมาให้อัพเดตเพียบเลยทีเดียว ขณะที่ ลิเวอร์พูล กำลังจับตามองของดีในทีม โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค แถมมีความเคลื่อนไหวล่าสุดในการล่าตัว ติอาโก้ อัลกันตาร่า ด้วย ส่วนในเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี น่าจะมีดีลใหญ่ๆ เกิดขึ้นหลายรายในเร็ววันนี้ แต่จะเป็นใครและย้ายไปไหนบ้างนั้น เราไปหาคำตอบกันได้เลย

– (Official) เซบีย่า คว้าตัว มาร์กอส อากุนญ่า แบ็กซ้ายทีมชาติอาร์เจนตินา มาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร (ประมาณ 370 ล้านบาท) บวกโบนัสอีก 2 ล้านยูโร (ประมาณ 74 ล้านบาท) โดยนักเตะเซ็นสัญญาค้าแข้งในถิ่น รามอน ซานเชซ ปิซฆวน เป็นเวลา 4 ปี

– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมยื่นข้อเสนอไปทาบซื้อ เซร์คิโอ เรกีลอน แบ็กซ้าย เรอัล มาดริด อย่างเป็นทางการครั้งแรก แต่คาดว่าไม่ถึงระดับ 30 ล้านยูโร (ประมาณ 1,110 ล้านบาท) ตามที่ "ราชันชุดขาว" เรียกร้อง (Guardian)

– "ปีศาจแดง" กำลังเจรจากับ "ราชันชุดขาว" ในการขอซื้อตัว เรกีลอน ( (Marca))

 – เรอัล มาดริด หวังใส่เงื่อนไข "ซื้อกลับ" ลงไปในสัญญาขาย เซร์คิโอ เรกีลอน ทว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่โอเคด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำสัญญารูปแบบใดตาม (Fabrizio Romano)

 – หลังจากที่ส่อแววยอมแพ้ในการล่าตัว เจดอน ซานโช่ ปีกดาวรุ่ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ล่าสุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มอง แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด), ดั๊กลาส คอสต้า (ยูเวนตุส) และ อีวาน เปริซิช (อินเตอร์ มิลาน) เป็น 3 ทางเลือกในการเสริมทัพตำแหน่งปีกช่วงซัมเมอร์นี้  (Telegraph)

 – เบล มีความยินดีที่จะย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถ้าหาก "ปีศาจแดง" กับ "ราชันชุดขาว" สามารถตกลงกันได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบดีลย้ายขาดหรือยืมตัว (Sky Sports)

 – เรอัล มาดริด พร้อมปล่อย เบล แบบสุดถูกในราคาเพียงแค่ 20 ล้านยูโร (ประมาณ 740 ล้านบาท) (Mundo Deportivo)

– ขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสดีในการสอย อเล็กซ์ เตลเลส แบ็กซ้ายจอมบุก ปอร์โต้ เนื่องจากยอดทีมแดนฝอยทองพร้อมขาย ดาวเตะวัย 27 ปี ซัมเมอร์นี้ ในราคาเพียงแค่ 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 738 ล้านบาท) เท่านั้น ถึงแม้นักเตะมีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 35 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,435 ล้านบาท) ก็ตาม (A Bola)

 – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้มีการยื่นข้อเสนอเงินจำนวน 89 ล้านยูโร (ประมาณ 3,293 ล้านบาท) ไปให้ แอตเลติโก มาดริด พิจารณา สำหรับการขอซื้อตัว โฮเซ่ คิเมเนซ เซนเตอร์แบ็กจอมแกร่งทีมชาติอุรุกวัย ทว่าถูกปฎิเสธทันควัน เนื่องจาก "ตราหมี" ไม่ยอมขาย คิเมเนซ ในราคาที่ต่ำกว่า 120 ล้านยูโร (ประมาณ 4,440 ล้านบาท) (AS)

 – ลิเวอร์พูล พร้อมที่จะรอจนถึงช่วงสัปดาห์สุดท้ายของตลาดนักเตะรอบนี้ ก่อนยื่นข้อเสนอทาบซื้อ ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์จอมเทคนิคของ บาเยิร์น มิวนิค อย่างเป็นทางการ (Talksport)

 – เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ได้เล็ง เดนิส ซากาเรีย กองกลางเลือดสวิสของ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เป็นแข้งเป้าหมายสำหรับการเสริมทัพช่วงปีหน้า (Bild)

 – ดิว็อค โอริกี้ หัวหอกสำรอง "หงส์แดง" กำลังได้รับความสนใจจาก แอสตัน วิลล่า, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และ ฟูแล่ม รวมถึงสโมสรยักษ์ใหญ่ลีกตุรกีอย่าง เฟเนร์บาห์เช่ (Mirror)

 – อาร์เซน่อล กำลังพิจารณาปล่อยตัว ลูคัส ตอร์เรร่า กองกลางทีมชาติอุรุกวัย ให้ โตริโน่ หรือไม่ก็ ฟิออเรนติน่า ยืมใช้งาน (Fabrizio Romano)
 
 – ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มีลุ้นได้ตัว วิลเลี่ยน โชเซ่ กองหน้าเลือดแซมบ้าของ เรอัล โซเซียดาด มาเสริมแนวรุก เนื่องจาก โซเซียดาด พร้อมพิจารณาปล่อยตัว หัวหอกวัย 28 ปี พ้นทีมซัมเมอร์นี้ (El Desmarque)

 – นอกจากนี้ "ไก่เดือยทอง" มีความสนใจที่จะคว้าตัว แดนนี่ อิงส์ หัวหอก เซาธ์แฮมป์ตัน มาเสริมแนวรุก (Football.London)

 – ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หวังที่จะคว้าตัว ลีออน เบลีย์ ปีกจรวด ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาร่วมทีมก่อนปิดตลาด ถึงแม้ "ห้างขายยา" ตั้งค่าหัว ดาวเตะวัย 23 ปี ไว้สูงถึง 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,640 ล้านบาท) ก็ตาม (Sky Sports)

 – นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้มีการติดต่อไปยัง อาแอส โรม่า เพื่อขอยืมตัว เจงกิส อุนแดร์ ปีกทีมชาติตุรกี มาใช้งาน ขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็มีความสนใจในตัว ดาวเตะวัย 23 ปี เช่นกัน (Inside Futbol)

 – แอสตัน วิลล่า กำลังจะได้ตัว แบร์กทร็องด์ ตราโอเร่ กองหน้าจอมพลิ้ว โอลิมปิก ลียง มาร่วมทัพ หลังตกลงค่าตัวได้เรียบร้อยที่ 17 ล้านปอนด์ (ประมาณ 697 ล้านบาท) (Sky Sports)
 

 – เท่านั้นยังไม่พอ "สิงห์ผงาด" ยังหวังปิดดีลคว้าตัว มิลอต ราชิซ่า ดาวเตะ แวร์เดอร์ เบรเมน อีกราย (Birmingham Mail)

 – คริสตัล พาเลซ มีความมั่นใจว่าจะสามารถปาดหน้าหลายสโมสร ชิงตัว ซาอิด เบนราห์มา กองหน้า เบรนท์ฟอร์ด มาร่วมทีมได้สำเร็จ ในราคา 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 820 ล้านบาท) (Daily Mail)

 – โรดริโก้ เด ปอล ปีกทีมชาติอาร์เจนตินาของ อูดิเนเซ่ พร้อมที่จะย้ายร่วมก๊วน ลีดส์ ยูไนเต็ด โดยตอนนี้เหลือแค่การตกลงค่าตัวระหว่างสองสโมสร ซึ่งคาดว่า อูดิฯ ต้องการระดับ 40 ล้านยูโร (ประมาณ 1,480 ล้านบาท) (Fabrizio Romano)

 – บาร์เซโลน่า ยังคงมอง เมมฟิส เดอปาย กองหน้าจอมพลิ้ว โอลิมปิก ลียง เป็นแข้งเป้าหมายหลัก และเตรียมยื่นข้อเสนอไปทาบซื้ออย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ หลังตกลงสัญญาส่วนตัวกับนักเตะได้เรียบร้อยตั้งแต่หลายวันก่อน (Fabrizio Romano)

 – อันซู ฟาติ ปีกดาวรุ่งคนเก่ง บาร์เซโลน่า ซึ่งเคยมีข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่ย้ายไปไหนในช่วงซัมเมอร์นี้ นอกจากนี้ บาร์ซ่า ยังคงไม่มีการยื่นข้อเสนอไปทาบซื้อ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม กองกลาง ลิเวอร์พูล อย่างเป็นทางการ (Fabrizio Romano)

 – อาร์ตูโร่ วิดาล กองกลางชาวชิเลียนของ บาร์เซโลน่า ได้ตอบตกลงที่จะย้ายไปร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน ด้วยราคาเพียงแค่ 500,000 ยูโร (ประมาณ 18.5 ล้านบาท) + โบนัส โดยที่ บาร์ซ่า จะช่วย "งูใหญ่" จ่ายค่าเหนื่อยส่วนหนึ่งของ วิดาล ในสัญญาปีสุดท้ายที่เหลือในถิ่น คัมป์ นู ด้วย (RAC 1)

 – วิดาล เตรียมเดินทางไปยังประเทศอิตาลีในวันนี้ เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายกับ อินเตอร์ ภายใน 48 ชั่วโมง (RAC 1)

 – อาแอส โรม่า จ่อได้ตัว อาร์เคดิอุสซ์ มิลิค กองหน้าเลือดโปลของ นาโปลี มาร่วมทีมในราคา 25 ล้านยูโร (ประมาณ 925 ล้านบาท) บวกโบนัสอีก 5 ล้านยูโร (ประมาณ 185 ล้านบาท) (Radio Kiss Kiss)

– อย่างไรก็ตาม มิลิค ยังไม่ตอบตกลงที่จะย้ายไปร่วมทีม "จัลโล่รอสซี่" เนื่องจากยังคงแอบหวังที่จะได้ย้ายไป ยูเวนตุส ซึ่งถือเป็นสโมสรตัวเลือกแรกของเจ้าตัว (Sky Sport Italia)

 – ขณะที่ เอดิน เชโก้ หัวหอกตัวเก๋า อาแอส โรม่า มีแววที่จะได้ย้ายไป ยูเวนตุส เนื่องจากกุนซือ อันเดรีย ปีร์โล่ มอง เชโก้ เป็นกองหน้าเป้าหมายหลักเหนือ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิง บาร์เซโลน่า (Calciomercato)

 – อาแอส โรม่า พร้อมที่จะหยุดเจรจากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการขอซื้อตัว คริส สมอลลิ่ง ปราการหลังเลือดผู้ดี หลังมีแววที่จะได้ มารัช คุมบูลล่า เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่ง เฮลลาส เวโรน่า มาใช้งานแบบสัญญายืมตัว 1 ซีซั่น พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดในราคา 30 ล้านยูโร (ประมาณ 1,110 ล้านบาท) (Sky Sport Italia)

 – อนาคตของ ดาวิด อลาบา กองหลังสารพัดประโยชน์ บาเยิร์น มิวนิค ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและซับซ้อน โดยถึงแม้ปัจจุบัน อลาบา เหลือสัญญาอีกแค่ปีเดียว และต้องการย้ายทีม แต่ "เสือใต้" ยังคงหวังที่จะเก็บ ดาวเตะทีมชาติออสเตรียวัย 28 ปี ไว้ใช้งานต่อ และต้องการจับขยายสัญญาออกไป (Fabrizio Romano)

บีจี ปทุม เปิดคู่มือ ศบค เกมฉะ บุรีรัมย์ ดูได้เฉพาะตั๋วปี

ประกาศ ‼️ เรื่อง ข้อกำหนดและแนวทางปฏิบัติของแฟนคลับ BGPU การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก นัดที่ 5 ระหว่าง สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบกับ สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ ที่ 13 กันยายน 2563

เนื่องด้วยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ออกประกาศกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่อง คู่มือการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมด้านกีฬาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพฯ ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ดังนั้น สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ออกข้อกำหนดและแนวทางปฏิบัติของแฟนคลับ BGPU ดังนี้

1. เฉพาะแฟนคลับที่เป็นสมาชิกตั๋วปี 2020 เท่านั้น ที่จะสามารถเข้าชมฟุตบอลในนัดนี้ได้ 
(ไม่เปิดขายบัตรชมฟุตบอลรายแมตช์และผู้มีชื่อเป็นสมาชิกตั๋วปีเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าชมการแข่งขัน)

2. เปิดเข้าชมฟุตบอลโซน S1 W1 W3 W4 W5 W6 แบบไม่ระบุเลขที่นั่ง และรักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร

3. ปิดโซน NH เนื่องจากต้องมีการจัดระยะห่างของกองเชียร์ทีมเยือนที่โซน N โดยโซน N จะเข้าได้เฉพาะผู้ชมการแข่งขันของฝั่งทีมเยือนเท่านั้น ขอให้สมาชิกตั๋วปีโซน NH นั่งชมฟุตบอลที่โซน W4 แทน

4. เนื่องจากการเว้นระยะห่างตามมาตรการของ ศบค. ทำให้ที่นั่งมีจำนวนจำกัด สโมสรจึงขอความร่วมมือสมาชิกตั๋วปีที่มาที่สนาม และโซนที่นั่งเต็มแล้ว ขอให้ท่านย้ายไปนั่งในโซน อื่นดังนี้
– สมาชิกตั๋วปี โซน S1 สามารถเข้าชมฟุตบอลได้ที่โซน W6
– สมาชิกตั๋วปี โซน W3 สามารถเข้าชมฟุตบอลได้ที่โซน W1

5. เปิดจำหน่ายตั๋วปีเพิ่มสำหรับแฟนคลับบีจี ในโซน W4 จำนวน 110 ใบ และ W6 จำนวน 90 ใบ
ในราคาใบละ 780 บาท ไม่มี Gift Voucher (สำหรับจำนวนนัดเหย้า 13 นัด) แบบไม่ระบุเลขเก้าอี้นั่ง เพื่อ
เป็นการบันทึกข้อมูลของแฟนบอลที่เข้าชมในสนามตามมาตรการที่ ศบค. กำหนด

6. สามารถสมัครสมาชิกตั๋วปีได้ตั้งแต่วันอังคารที่ 8 ก.ย. 63 ถึงวันที่ 11 ก.ย. 63 ได้ทาง Line Official : @BGPU หรือ
คลิ๊ก >>> https://lin.ee/iISwspA
สโมสรมีสิทธิในการยกเลิกและปิดการรับสมัครเมื่อจำหน่ายตั๋วปีครบจำนวนตามที่ประกาศ

7. แฟนบอลจะต้องตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสนาม ทำแบบคัดกรองความเสี่ยง และยินยอมให้บันทึกภาพ โดยในกรณีที่ตรวจพบหรือพบว่าท่านใดมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียสสโมสรขอความร่วมมือให้งดเข้าชมฟุตบอล

8. สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะชมฟุตบอล
 
9. ห้ามนำอุปกรณ์เชียร์ทุกชนิดเข้าสนาม ยกเว้นผ้าพันคอ สามารถส่งเสียงเชียร์ในระดับเสียงปกติได้

10. ห้ามลุกยืนเชียร์ฟุตบอล

11. งดการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และบูธกิจกรรมหน้าสนาม

12. สโมสรจัดชุดน้ำดื่ม ขนม และของที่ระลึกแจกฟรี ให้กับแฟนคลับที่เข้าชมฟุตบอลทุกท่าน ณ ทางเข้าแต่ละโซน (คนละ 1 ชุด) โดยไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มทุกประเภทเข้ามาเองในบริเวณที่จัดการแข่งขัน

13. ร้าน The Rabbits  ปิดให้บริการในวันแข่งขัน 1 วัน

14. แฟนบอลที่มาชมฟุตบอล สามารถซื้อสินค้าที่ BGPU SHOP ได้ตามปกติ โดยมีการจำกัดจำนวนการเข้าต่อรอบ

15. สโมสรสงวนสิทธิในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและแนวทางปฏิบัติของแฟนคลับ BGPU ฉบับนี้ และออกข้อกำหนดและแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย

เผยหวานใจฟานเดอเบ็คเป็นลูกตำนานอาร์เซน่อล

 

ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กองกลาง อาแจ็กซ์ ที่มีข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างหนาหูนั้น เป็นคนรักของ เอสเทลล์ ลูกสาวของ เดนนิส เบิร์กแคมป์ อดีตยอดหัวหอก อาร์เซน่อล ด้วย โดยทั้งคู่ยืนยันถึงความสัมพันธ์กันไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน
   
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค มิดฟิลด์ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรดังในศึก เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ ที่ตกเป็นข่าวว่ากำลังจะย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้น กำลังคบหาดูใจอยู่กับ เอสเทลล์ ลูกสาวของ เดนนิส เบิร์กแคมป์ ตำนานกองหน้า อาร์เซน่อล

ฟาน เดอ เบ็ค ตกเป็นข่าวว่าเตรียมจะทำการตรวจร่างกายเพื่อที่จะมาซบ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้ โดยที่จริงหลายเดือนก่อนเขาเคยมีข่าวกับ เรอัล มาดริด มาแล้ว แต่สุดท้ายตอนนั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ย้ายออกจาก อาแจ็กซ์

ฟาน เดอ เบ็ค ยืนยันถึงการเดตกับ เอสเทลล์ ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ ปีก่อนแล้ว ขณะที่เมื่อช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ถ่ายภาพตอนที่กอดกันอย่างหวานชื่นหน้าต้นคริสต์มาสด้วย โดยที่ฝ่ายสาวเอามันมาโพสต์บน อินสตาแกรม เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง พร้อมกับพิมพ์แคปชั่นว่า "สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ จากเราทั้งสองคน"

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา เอสเทลล์ ก็โพสต์ภาพตอนที่เธอเดินเที่ยวกับแข้งวัย 23 ปีลงบน อินสตาแกรม เช่นกัน พร้อมกับบอกว่า "อยู่กับคนรักของฉันมา 1 ปีแล้ว ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่โชคดีที่สุดและมีความสถขมากที่สุดในโลก รอไม่ไหวแล้วที่จะได้ทำการผจญภัยด้วยกันอีกครั้ง รักคุณมากๆ นะคะ" ขณะที่ในช่วงเดียวกันนั้น ฟาน เดอ เบ็ค ก็โพสต์ภาพตอนที่อยู่กับคนรักแล้วพิมพ์ว่า "วันนี้มันถือว่าครบรอบ 1 ปีที่เราอยู่ด้วยกันแล้ว ผมรักคุณนะ" เหมือนกัน

แมนยูแถลงข่าวคืบหน้าคดีแม็กไกวร์โดนรวบที่กรีซ

"ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด แถลงข่าวรับทราบกรณี แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทจนโดนรวบที่กรีซ ยันเจ้าตัวให้ความร่วมมือกับตำรวจเต็มที่
   แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แถลงยืนยันว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังกัปตันทีม ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกรีซอย่างเต็มที่ หลังโดนรวบตัวเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา

    เซนเตอร์แบ็กทีมชาติอังกฤษ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวหลังมีส่วนพัวพันกับการวิวาทหน้าบาร์แห่งหนึ่งช่วงดึกคืนวันเสาร์ และทำร้ายเจ้าหน้าที่ในเกาะ มีโคนอส ประเทศกรีซ โดยคู่กรณีที่มีเรื่องด้วยเป็นนักท่องเที่ยวชาวเมืองผู้ดีเหมือนกัน ก่อนถูกรวบตัวไปทั้งหมด 3 ราย

    "ปีศาจแดง" แถลงว่า "สโมสรรับทราบเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในมีโคนอส เมื่อคืนที่ผ่านมา เราได้ทำการติดต่อกับ แฮร์รี่ แล้ว และเขาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของกรีซอย่างเต็มที่ ในเวลานี้เราจะยังไม่ขอให้ความเห็นเพิ่มเติม"

    ทั้งนี้ แม็กไกวร์ เดินทางไปพักร้อนกับแฟนสาวหลังปิดฤดูกาล ก่อนที่ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นใหม่มีโปรแกรมจะเปิดสนามด้วยการไปเยือน เบิร์นลี่ย์ วันเสาร์ที่ 12 กันยายน แต่นัดนี้จะถูกเลื่อนไปก่อน เพราะได้พักหลังทีมเพิ่งผ่านเกมฟุตบอลถ้วย ยูโรปา ลีก มาไม่นาน

ช็อก!แข้ง-สตาฟฟ์พรีเมียร์ลีกติดโควิด14ราย

เดลี่ เมล สื่อของอังกฤษแฉว่าตอนนี้มีนักเตะกับสตาฟฟ์ของทีมใน พรีเมียร์ลีก ติดเชื้อโควิด-19 รวมกัน 14 คน หลังจากทำการตรวจคนเหล่านั้นในการเข้าแคมป์ช่วงปรี-ซีซั่น แต่มันก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับโปรแกรมการแข่งขันแต่อย่างใด

    มีนักเตะและสตาฟฟ์จากทีมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถึง 14 คนด้วยกัน จากการตรวจระหว่างการเข้าแคมป์ช่วงปรี-ซีซั่นของ 12 สโมสรในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ตามรายงานของ เดลี่ เมล สื่อชั้นนำของประเทศอังกฤษ

    ไม่มีการเปิดเผยว่า 12 ทีมที่โดนตรวจในครั้งนี้มีทีมไหนบ้าง แต่เชื่อกันว่าสาเหตุที่ทำให้มีคนติดเชื้อเยอะขนาดนี้เป็นเพราะหลายคนกลับมาจากการไปเที่ยวพักผ่อนในประเทศต่างๆ ซึ่ง พรีเมียร์ลีก ยังไม่ชี้แจงหรือประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องในครั้งนี้แต่อย่างใด

    ทั้งนี้ การที่มีคนติดเชื้อ 14 คนในครั้งนี้นั้น ถือว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงที่ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 กลับมาเตะกันเยอะพอตัว เพราะตลอดทั้งช่วงดังกล่าวมีการตรวจนักเตะกับสตาฟฟ์รวมแล้วราว 35,000 ครั้ง และพบว่ามีคนติดเชื้อเพียง 30 รายเท่านั้น

    เดลี่ เมล เสริมว่าการที่มีนักเตะและสตาฟฟ์ติดเชื้อรวม 14 คนในครั้งนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับโปรแกรม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นใหม่ที่จะเริ่มเตะกันในวันที่ 12 กันยายนนี้ แต่ฝ่ายจัดการแข่งขันของ พรีเมียร์ลีก ก็เตือนสโมสรต่างๆ ว่ายังต้องดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวดเพื่อทำให้ทั้งสนามแข่งและสนามซ้อมปลอดเชื้อโควิด-19 ต่อไป โดยเชื่อกันว่าในฤดูกาล 2020-21 นั้น พรีเมียร์ลีก จะตรวจบรรดานักเตะของทีมในลีก 1 ครั้งต่อสัปดาห์ น้อยกว่าช่วงที่กลับมาแข่งกันเมื่อซีซั่นก่อนที่ทำการตรวจ 2 ครั้งต่อสัปดาห์

ขัดคำสั่งแม่เพื่อสานต่อพรสวรรค์

มาเซโอ, ประเทศบราซิล ติดท็อป 10 ในแง่เมืองอันตรายมากสุดของโลก เหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นสูงถึง 135 ครั้งต่อประชากร 1 แสนคน เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไรหากคนเป็นแม่ไม่อยากให้ลูกเติบโตขึ้นมาเจออะไรแบบนี้ แต่ด้วยสถานะครอบครัวยากลำบาก สิ่งแวดล้อมรอบกายบังคับให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เธอจะทำอย่างไรเพื่อให้เด็กน้อยฟีร์มีโน่ ที่เกิดมา ไม่เป็นเหมือนคนทั่วไปในเมืองนี้
    มาเรียน่า คุณแม่ของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกชายไม่ออกไปเจอสังคมเลวร้ายรอบ ๆ บ้าน

    ทุกตารางนิ้วบนถนนในเมืองมาเซโอ เต็มไปด้วยความอันตราย เธอเกรงว่า ฟีร์มีโน่ จะตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม และสิ่งเดียวที่เธอคิดว่าจะเป็นเกราะป้องกันดีที่สุดคือการไม่ให้ ฟีร์มีโน่ ออกจากบ้าน

    "ฉันไม่อยากให้ โรแบร์โต้ ออกไปเล่นข้างนอกเลย บนถนนมันเต็มไปด้วยความอันตรายมาก ๆ" มาเรียน่า ระบุ

    โอกาสเดียวที่ ฟีร์มีโน่ จะได้ออกนอกบ้านคือการไปช่วยคุณพ่อที่ทำธุรกิจเล็ก ๆ เก็บขวดบนท้องถนนมาขาย ซึ่งเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณพ่อหามาได้ ก็นำมาเลี้ยงปากท้องคนในครอบครัว

    อย่างไรก็ตาม เด็กชายฟีร์มีโน่ หลงใหลฟุตบอลเป็นพิเศษจากการที่ได้ซึบซับบรรยากาศลูกหนังตามสนามบอลที่ตัวเองติดสอยหอยตามคุณพ่อ แต่ปัญหาใหญ่ที่เขาต้องเจอคือกำแพงเหล็กของคุณแม่ที่ทำทุกวิถีทางไม่ให้ลูกชายออกไปไหน

    ถึงกระนั้นในความพยายามของคุณแม่ ก็ยังมีความพยายามของคุณลูกเช่นเดียวกัน

    เด็กน้อยฟีร์มีโน่ ใช้กุญแจพิเศษเพื่อไขประตูสู่โลกภายนอก โดยการแอบปีนออกจากบ้านในช่วงที่คุณแม่ยังไม่ตื่นนอน โดยใช้บันไดพาดกำแพงปีนข้ามไป

    "ขณะที่ฉันยังหลังอยู่น่ะ เขาตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปเตะฟุตบอล โดยทำการย่องเบา ๆ ให้เงียบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และก็กระโดดข้ามกำแพงมันไปเลย" คุณแม่ บ็อบบี้ เผย

    ว่ากันตรง ๆ ฟีร์มีโน่ เจอความยากลำบากตั้งแต่เกิด และพอเขาอายุได้แค่ราว ๆ 8 ขวบ ฟีร์มีโน่ ก็รู้ตัวเองแล้วว่าจะดิ้นรนอย่างไรเพื่อให้พ้นจากความยากจนนี้ไปให้ได้

    ซึ่งเหตุผลที่ว่าก็คือ เรื่องฟุตบอล

    …

    ครอบครัวของฟีร์มีโน่ เริ่มเปิดใจและเข้าใจแล้วว่าการจับลูกชายให้อยู่แต่กับบ้านมีแต่ตัดทอนโอกาสให้ ฟีร์มีโน่ ประสบความสำเร็จ   

    ต้องขอบคุณเพื่อนบ้านหลายคนที่เข้ามาบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าลูกชายของทั้งคู่มีพรสวรรค์เรื่องการเล่นฟุตบอล

    "ปล่อยเขาไปเถอะ เขาเกิดมาพร้อมกับพรสรรค์ ความสำเร็จของเขาคือโอกาสที่จะพาให้เราพ้นจากความจนและความทุกข์ยาก" เพื่อนบ้าน ระบุ

    ซึ่งทั้งคุณพ่อ คุณแม่ ก็ปล่อยเขาเป็นอิสระให้ออกไปเตะฟุตบอลตามท้องถนน และทุกครั้งหลังเหน็ดเหนื่อยจากการเล่นฟุตบอล คุณแม่เล่าว่า ฟีร์มีโน่ จะนอนหลับปุ๋ยพร้อมกอดลูกบอลไว้แนบแน่น

    ตอนอายุได้ 14 ปี คือช่วงที่ ฟีร์มีโน่ เริ่มได้ออกไปเรียนรู้โลกกว้าง

    ฟีร์มีโน่ เรียนรู้เรื่องชีวิตด้วยวิธีที่ยากลำบาก ถึงขั้นต้องยืมเงินคนอื่นเพียงเพื่อจะออกไปซ้อม

    "ครอบครัวของ ฟีร์มีโน่ ยากจนมาก ๆ แต่ก็สมถะสุด ๆ ด้วย" ลุยซ์ โค้ชท้องถิ่นเล่าถึงลูกศิษย์คนโปรด

    "เขาพร้อมลงเล่นในสภาพไม่ใส่รองเท้า ตอนที่้เขามาอยู่กับทีมใหม่ ๆ ตอนนั้นคุณพ่อของเขาไม่มีงานทำด้วย คุณพ่อของเขาทำแค่ธุรกิจเล็ก ๆ เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ดังนั้นผมเลยช่วยออกค่าเดินทางกับค่าใช้จ่ายให้กับเขา, ช่วยเรื่องชุดแข่งของเขา และพาเขาไปชมการแข่งขัน"

    "ตอนนั้นเขาตัวผอม ๆ และสูงเก้งก้าง เป็นคนเงียบ ๆ แต่ก็เอาตัวรอดได้ด้วยวิธีที่ดี ผมเคยเห็นเยาวชนหลายคนที่หันไปค้ายาและปล้นรถ แต่ผมรู้ดีว่าเขาไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย"


    …

    ฟีร์มีโน่ วัย 16 ปีเซ็นสัญญากับ ทอมเบนเซ่ ที่อยู่ห่างจากบ้านเกิดถึง 1,600 ไมล์ แล้วจากนั้นก็ไปอยู่ ฟิกูเรนเซ่ ทีมระดับดิวิชั่น 2 ที่ตั้งอยู่ทางใต้ออกไปประมาณ 1,000 ไมล์

    การอยู่ห่างไกลบ้านขนาดนี้ ไม่แปลกที่เขาจะคิดถึงบ้าน และแน่นอนว่าเมื่อลูกชายไม่สบายใจมันก็ทำให้คนในครอบครัวต่างพาเป็นกังวัลกันสุด ๆ

    ทว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การที่พวกเขาไม่มีกำลังมากพอที่จะเดินทางไปเยี่ยม ฟีร์มีโน่ ได้

     "มีหลายครั้งที่เขาโทรศัพท์หาฉันเพื่อบอกว่าเขาอยากกลับบ้านมาก เขาบอกว่า -แม่ครับ มารับผมที ผมทนไม่ไหวแล้ว- ทุกคนในครอบครัวร้องไห้กันอย่างหนัก เขาเองก็ร้องไห้เหมือนกัน แต่ปัญหาคือเราไม่มีเงินมากพอที่จะเอาเขากลับบ้านได้"

    "ฟีร์มีโน่ ทำได้เพียงต้องรอนานหลายเดือนกว่าจะเก็บเงินได้มากเพื่อกลับมาที่บ้าน เขาใช้เงินกับเรื่องที่พักและค่าอาหารไปน้อยมาก" คุณแม่เปิดใจ

    ขณะเดียวกัน ฟีร์มีโน่ ก็รู้ดีว่าคนที่เป็นห่วงเขามากที่สุดคือ มาเรีย ผู้เป็นแม่

    "มันยากจริง ๆ นะที่ต้องอยู่ห่างจากครอบครัว และผมก็รู้ดีเลยว่าคุณแม่ของผมร้องไห้ทุกวันตอนที่ผมจากมา"

    ตลอด 2 ปีที่ ฟิกูเรนเซ่ ฟีร์มีโน่ คือหัวใจสำคัญของทีม ซึ่งวาสนาก็พาให้เขาไปเข้าตาแมวมองคนเยอรมัน และถูกดึงไปเล่นฟุตบอลอาชีพที่ บุนเดสลีกา ในอีก 3 ปีต่อมา

    การเดินทางครั้งนี้ของ ฟีร์มีโน่ วัย 20 ปีเขาให้คำมั่นไว้ว่าครอบครัวของเขาจะต้องสุขสบาย ไม่ต้องกลับไปทำงานหลังขดหลังแข็งอีกต่อไป

    "ครอบครัวของผมจะต้องไม่กลับไปทำงานอีก"

    …

    ฟีร์มีโน่ พูดเสมอว่าการติดทีมชาติบราซิล คือความฝันตั้งแต่วัยเด็ก และเขาก็ถูก ดุงก้า เฮดโค้ชในเรียกติดทัพเซเลเซา ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อปี 2014

    ความภูมิใจครั้งนี้ ไม่มีใครเกินไปกว่าคุณแม่ของ ฟีร์มีโน่..

    เธอบอกว่า ในวันอาทิตย์เธอจะตื่นมาตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ เพื่อไปโบสถ์ในสภาพสวมเสื้อที่ ฟีร์มีโน่ ใส่ในตอนที่ลูกชายตัวเองประเดิมสนามกับทีมชาติ

    "ตอนฉันไปโบสถ์ ทุกคนจ้องมาที่ฉันกันหมดจากการที่ฉันใส่เสื้อตัวนั้นไปโบสถ์"

    "ฉันสวดภาวนาให้เขาในช่วงก่อนที่เขาจะลงเล่นเกมทีมชาติทุกนัด พอจบพิธีกรรมที่โบสถ์ ฉันก็จะรีบกลับมาที่บ้านเพื่อดูเขาทางทีวี"

    "ตอนที่ลูกชายลงมาเล่นในช่วงครึ่งหลังแล้วทำประตูได้ ฉันดีใจจนแทบจะหัวใจวายตายเลยในตอนที่ได้เห็นประตูกับท่าดีใจของเขา หลังจบเกมกับ ฝรั่งเศส (เดือนมีนาคม ปี2015) ฉันได้คุยกับเขาทางโทรศัพท์ เขาถามฉันว่า -เป็นอะไรครับ แม่ ?- ซึ่งฉันก็ตอบไปว่า -ลูกทำให้แม่ดีใจมากเลย-"

    …

    รอยสักบนแขนขวาของ ฟีร์มีโน่ มีชื่อคุณแม่กับคุณพ่ออยู่ตรงนั้น เช่นเดียวกับบนหน้าอกที่มีข้อความภาษาเยอรมันที่แปลว่า -ครอบครัวไม่เคยที่จะหมดรัก-

    "คุณพ่อคุณแม่ ท่านยอมเสียสละหลายอย่างเพื่อผมในตอนที่ผมโตมาเป็นผู้ใหญ่"

    "เราอาศัยอยู่ในย่านยากจน แถวนั้นมีพวกแก๊งอันธพาลเต็มไปหมด และแม้ว่าคุณแม่ของผมท่านจะทำให้มั่นใจว่าผมจะได้รับการศึกษาที่ดีที่โรงเรียน แต่พวกเขาก็ยังอนุญาตให้ผมได้เล่นฟุตบอลตามความฝันของผมเช่นกัน" ฟีร์มีโน่ เปิดใจตอนช่วงปีแรกที่ย้ายมาอยู่ ลิเวอร์พูล

    และหนึ่งในวันที่สำคัญสุดในชีวิต ก็คือวันแต่งงาน

    ฟีร์มีโน่ เดินเข้าพิธีโดยมีคุณแม่เป็นคนส่งเขาไปยังแท่นบูชาในโบสถ์ศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นอันส่งต่อชีวิตของลูกชายให้ไปสร้างครอบครัวใหม่เต็มตัวกับ ลาลิสซ่า เปเรยร่า ภรรยาคู่ชีวิตที่ตอนนี้มีลูกสาวสองคนเป็นสักขีพยานรัก

    ทุกวันนี้ "โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่" ลูกชายของ มาเรียน่า โด่งดังสุด ๆ บนเวทีลูกหนังโลก ประสบความสำเร็จมากมายกับ ลิเวอร์พูล รวมถึงแชมป์ระดับทวีปในนามทีมชาติบราซิล

    ซึ่งหากย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อน ครอบครัวนี้คงไม่เชื่อหรอกว่า โรแบร์โต้ จะมาได้ไกลถึงเพียงนี้..

    …

    ความหวังดีของพ่อ, แม่ บางอย่าง ก็เป็นเรื่องยากที่ลูก ๆ จะเข้าใจ

    บางคนพ่อ, แม่ไม่อยากให้ออกไปเที่ยวไหน

    บางคนถูกบังคับให้อยู่ในกรอบหรือให้ทำอะไรที่ตัวเองไม่อยากทำ

    ถามว่ากำแพงเหล่านั้นที่ถูกสร้างขึ้นเกิดจากอะไร? ถ้าไม่ใช่จากความหวังดี หรือไม่อยากให้ลูกตัวเองเจออะไรที่แย่ ๆ

    แต่หากใครอยากจะข้ามกำแพงนั้น มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ได้รักหรือไปอกกตัญญูต่อท่าน

    คนทุกคนมีความปรารถนาสิ่งที่อยากทำ ขอเพียงไม่ไปทำเรื่องผิดกฎหมายหรือทำอะไรให้ใครเดือดร้อน อาจจะขุ่นเคืองกับท่านเล็กน้อย ก็ต้องอาศัยการพูดคุยปรับความเข้าใจกัน

    และสุดท้าย ถึงคุณจะไปทำอะไรในแบบฉบับของตัวเอง คนที่จะคอยหนุนหลังและให้กำลังใจอยู่เสมอก็คือท่านทั้งสองนั่นแหละ…

เจ้าพ่อเดินสาย ผู้กล้าปฏิเสธทีมจากยุโรป

 เรื่องราวของนักเตะรายหนึ่งซึ่งเป็นกองหน้าพรสวรรค์เคยติดทีมชาติไทยชุดใหญ่มามากมายหลายรายการ และครั้งหนึ่ง "เจ้าจ็อบ" ชายชาญ เขียวเสน โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงสคัพ ทำให้ทีมวีบอร์ก ของเดนมาร์ก ที่มาเล่นคิงสคัพในครั้งนั้นถูกใจและทาบทามไปเล่นอาชีพในยุโรป

    "ตอนนั้นตัวแทนวีบอร์กเข้ามาคุยว่าสนใจ ผมไปบอกกับพ่อ แต่พ่อบอกว่า ห้ามไปเด็ดขาด เพราะถ้าไปก็หมายถึงต้องลาออกจากการเป็นทหารเรือ ซึ่งพ่อไม่ยอมให้ลาออกเด็ดขาด สุดท้ายผมก็ปฏิเสธโอกาสนั้นไป"

     แต่สิ่งหนึ่งที่ "จ็อบ" ชายชาญ ไม่เคยปฏิเสธคือ การตระเวณเล่นฟุตบอลเดินสายไปทั่วประเทศ โดยใช้เวลาว่างจากการเล่นบอลลีกกับราชนาวีและทีมชาติ ไปเล่นบอลรายการคัพต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร

 

    "ผมเดินสายเล่นบอลตั้งแต่เป็นเด็กอยู่ที่ บ้านฉาง จ.ระยองแล้ว ตำบลไหน อำเภอไหน มีจัด ผมไปเล่นหมด แม้กระทั่งตอนติดทีมชาติผมก็ไปเล่น ถามว่ากลัวโดนเตะข้อหาหมั่นไส้ไหม ไม่กลัวนะครับ เคยโดนเตะเหมือนกัน แต่ไม่เคยเจ็บหนัก ขนาดบอลเล็ก ๆ จัดบนเกาะเสม็ด ที่ระยอง สนามไม่มีหญ้าขึ้น ผมยังไปเล่น แถมเล่นบ่อยด้วย ผมชอบเจอคนใหม่ ๆ เวลาไปเดินสาย ก็เหมือนไปเที่ยว บางวันเตะ 3 แห่ง 3 รายการก็เคยมาแล้ว"

    "ตั้งแต่เล่นมา ค่าตัวเยอะสุดเวลาเดินสายคือ 5 พันบาท น้อยสุดคือไม่ได้เลย แต่กินฟรี อยู่ฟรี เที่ยวฟรี แค่นั้น ตั้งแต่เดินสายมา ผมได้ถ้วยรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมสลับกับดาวซัลโวของรายการต่าง ๆ มา 40 กว่าใบ จนมาเลิกเดินสายอายุ 36 ปี หันมาเป็นโค้ชให้กองเรือยุทธการเต็มตัว"

บาดหมาง?เก็นดูซี่เมินยินดีอาร์เซน่อลคว้าแชมป์เอฟเอ

มัตเตโอ เกนดูซี่ มิดฟิลด์ อาร์เซน่อล จุดประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังจากยังไม่โพสต์ยินดีที่ทีมได้แชมป์ เอฟเอ คัพ เลย แถมยังโพสต์ภาพเรื่องการไปเที่ยวของตัวเองแทนอีก
    มัตเตโอ เกนดูซี่ กองกลาง อาร์เซน่อล สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่โพสต์ฉลองที่ต้นสังกัดได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาล 2019-20 เมื่อวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา

    เกนดูซี่ ตกเป็นข่าวว่ามีปัญหากับ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมชาวสแปนิชและเพื่อนร่วมทีมบางคนมาพักหนึ่งแล้ว โดยลือกันว่าตอนที่ทีมไปเก็บตัวที่นครดูไบ ประเทสสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อช่วงต้นปีนี้ เขาทะเลาะกับ โซตราติส ปาปาสตาโธปูลอส อย่างรุนแรง ก่อนจะลามไปถึงการผิดใจกับ อาร์เตต้า ในเวลาต่อมา

    แม้ว่า อาร์เตต้า จะเคยให้โอกาส เกนดูซี่ ในช่วงหนึ่ง แต่เขาก็แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในเกมลีกที่ อาร์เซน่อล แพ้ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 1-2 เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพราะเขาไปบีบคอ นีล มัวเปย์ ดาวเตะของอีกฝ่าย แถมยังมีข่าวลืออีกว่าไปเย้ยบรรดาผู้เล่นฝั่ง ไบรท์ตัน ว่าได้ค่าเหนื่อยน้อยกว่าของเหล่าพ่อค้าแข้ง อาร์เซน่อล ตั้งเยอะด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้ อาร์เตต้า โมโหมากๆ จนถึงขั้นมีข่าวลือว่า อาร์เตต้า จับ เกนดูซี่ แยกไปซ้อมตัวคนเดียวเลย

    ทั้งนี้ ถึงแม้ อาร์เซน่อล จะคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้ แต่ เกนดูซี่ ก็ไม่คิดที่จะโพสต์ข้อความแสดงความยินดีเลย ต่างกับ เมซุต โอซิล ที่ยังโพสต์ข้อความแสดงความยินดีแม้ว่าเขาจะตกเป็นข่าวเรื่องย้ายทีมอย่างต่อเนื่องก็ตาม ซ้ำร้าย เกนดูซี่ ยังเลือกโพสต์ภาพตอนที่ตัวเองไปพักร้อนลงบน อินสตาแกรม พร้อมกับพิมพ์ข้อความในภาพว่า "วันหยุด" ซะอีก

ชีวิตหลงทางผิด..พ่อป่วยหนัก เป็นตัวแถมที่ใครไม่เอา

ในบรรดานักฟุตบอลดาวรุ่งเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา ชื่อของ "โก้" สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ จัดเป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่งระดับแถวหน้าที่น่าจับตามองในฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นและลูกยิงไกลที่เรียกกันว่า "ลูกไฟ" ติดตาแฟนบอลในหลาย ๆ ประตู
    เส้นทางฟุตบอลของ "เจ้าโก้" เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนอายุ 5 ขวบ คุณพ่อจะเป็นคนคิดตำราขึ้นมาสอนลูกชายทั้ง 3 คน ซึ่งประกอบด้วยคนโต ปกเกล้า คนกลาง บารมี และคนเล็ก คือตัวของ สรรเสริญ และทุกคนก็เล่นในตำแหน่งกองกลางด้วยกันทั้งหมด

    จนเมื่ออายุ 12-13 ปี มีโอกาสโชว์ฟอร์มเข้าตาโค้ชทีมเยาวชนจากนิวซีแลนด์ และถูกทาบทามไปเรียนและเล่นที่นั่น ด้วยสัญญา 3 ปี โดยการชักชวนของ วินสตัน ลูเฟอร์ อดีตดาวเตะทีมเบรเมน ในบุนเดสลีกา ของเยอรมัน โดยไปกัน 2 คนพี่น้อง บารมี และ สรรเสริญ

    แม้สัญญาจะเซ็นกัน 3 ปี แต่ 2 คนพี่น้องตระกูล ลิ้มวัฒนะ ได้อยู่ 4 ปีที่นิวซีแลนด์ โดยปีสุดท้ายมีโอกาสได้เล่นในลีกสูงสุดของนิวซีแลนด์ แต่เล่นไปแค่ 3 แมตช์ ดันเจ็บยาว ประกอบกับคุณย่าแท้ ๆ เสียชีวิต จึงตัดสินใจเดินทางกลับไทย ทิ้งการเล่นฟุตบอล และการเรียนที่ยังไม่จบในระดับม.ปลายไปด้วย

    เมื่อกลับมา "เจ้าโก้" มีอายุ 17 ปี ได้เล่นให้กับ ศรีราชาบ้านบึง รุ่นเดียวกับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ในดิวิชั่น 1 ก่อนจะย้ายไปพร้อมกับพี่ชาย บารมี ไปที่บุรีรัมย์

    จากบุรีรัมย์เล่นไปเกือบ 2 ปี เจ้าตัวย้ายออกมาอยู่กับแบงค็อก ยูไนเต็ด แต่ถูกยืมไปเล่นพิจิตร เอฟซี กลับมาเล่นแบงค็อก อีก 1 ปี ก็ถูกปล่อยยืมไป อุบล ยูเอ็มที 1 ปี และยืมไปสุโขทัย เอฟซี อีก 1 ปี กลายเป็นนักเตะจอมพเนจร เมื่อหมดสัญญากับแบงค็อก จึงย้ายมาอยู่กับการท่าเรือ เอฟซี

    การย้ายมาท่าเรือครั้งนี้ มีข่าวว่า เจ้าตัวถูกแถมมากับดีลการซื้อ สุมัญญา มาอยู่ท่าเรือ ทั้งที่เจ้าตัวเคยโด่งดังกับการเล่นให้ทีมเยาวชนไทย 17 ปี, 19 ปี, 21 ปี และ 23 ปีชิงแชมป์เอเชีย


    สิ่งที่ทำให้ "เจ้าโก้" สรรเสริญ ไปไม่ไกลเท่าที่หลาย ๆ คนคาดหวัง เจ้าตัวเปิดใจว่า มาจากการใช้ชีวิตกินเที่ยวกลางคืน เหมือนคนเก็บกด เพราะตอนย่างวัยรุ่นอยู่ที่นิวซีแลนด์ไม่มีเงินใช้จ่าย ไม่ได้เที่ยว เมื่อกลับมาอยู่เมืองไทย มีโอกาสได้อยู่ทีมใหญ่อย่างบุรีรัมย์ และแบงค็อก ได้เงินเดือนสูง ทำให้เจ้าตัวเที่ยวสะบัด

    "ผมเที่ยวกลางคืนทุกครั้งที่ว่าง ใช้ชีวิตแบบเสเพลสุด ๆ บางทีก็มีอาการแฮ้งค์ตอนมาซ้อม มีผลต่อสภาพร่างกายชัดเจน ผมซ้อมหนักแบบคนอื่นไม่ไหว ทำให้ถูกปล่อยยืมเป็นว่าเล่น กลายเป็นทีมต้นสังกัดไม่ต้องการ แต่ตอนนั้นก็ยังติดเที่ยวไม่ได้คิดอะไร"

    จุดเปลี่ยนที่ทำให้เจ้าตัวคิดได้ คือ เมื่อมาอยู่ท่าเรือ แบบแถมมาในแพ็คเกจของ สุมัญญา นั่นคือสิ่งที่ทำให้ กองกลางดาวรุ่งรายนี้คิดได้

    "ผมมานั่งคิดว่า ทำไมผมเป็นนักเตะที่ไม่มีทีมไหนเอา เหมือนเขาไล่ผมไปอยู่ทีมโน้นทีมนี้ ผมก็อยากเล่นให้กับทีมตัวเองบ้าง อย่างท่าเรือแม้จะได้ข่าวว่าแถมมา แต่ผมต้องขอบคุณ มาดามแป้ง คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ที่ให้โอกาสผมอีกครั้ง"

    "อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเลิกเสเพล คือ คุณพ่อผมป่วยหนัก เป็นมะเร็ง ทำให้ผมอยากทำอะไรเพื่อให้พ่อที่คอยปลุกปั้นผมมาจนถึงทุกวันนี้ได้ชื่นใจบ้าง และสองอย่างนี้คือ เหตุผลที่ทำให้ผมเปลี่ยนตัวเอง เลิกเที่ยว และหันมาฟิตซ้อมดูแลร่างกายตัวเองเต็มที่ จากปีที่แล้วน้ำหนักผม 78 ก.ก. ตอนนี้เหลือ 69 ก.ก.แล้ว เหมือนผมกลับมาเริ่มที่ศูนย์ใหม่ และเริ่มนับหนึ่งใหม่ ตอนนี้ผมอายุ 23 ปีแล้ว ผมยังเชื่อว่าผมจะกลับมาได้ ผมอยากจะโชว์ฟอร์มเป็น "นิวโก้" เพื่อยึดตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ของการท่าเรือ และอยากติดทีมชาติชุดใหญ่กับเขาสักครั้งหนึ่ง"