เอวร่าขอแจงหลังบอกแมนยูไม่ต้องมีฟานเดอเบ็ค

ปาทริซ เอวร่า อดีตแบ็กซ้ายคนดังของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชี้แจง ที่บอกว่า ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ไม่ใช่คนที่ "ปีศาจแดง" จำเป็นต้องมีอยู่ในทีมนั้น ตนหมายถึงเฉพาะในช่วงนี้เท่านั้น แต่ก็บอกว่าแข้งชาวดัตช์ยังสู้ ปอล ป็อกบา และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไม่ได้เหมือนกัน
    ปาทริซ เอวร่า อดีตยอดแบ็กซ้ายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้แจงว่าที่ก่อนหน้านี้บอกว่า "ปีศาจแดง" ไม่จำเป็นต้องมีนักเตะแบบ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ตนหมายความเพียงว่า ฟาน เดอ เบ็ค ไม่จำเป็นกับทีมในตอนนี้เท่านั้น

    ชีวิตของ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนที่คนพูดถึงกันในช่วงที่ผ่านมา เพราะทั้งที่เขาย้ายมาอยู่กับทีมด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกแม้แต่นัดเดียว และถ้านับเป็นนาทีเขาก็ลงเล่นในลีกไปเพียง 60 นาทีเท่านั้น จนหลายคนมองว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจพลาดที่ไม่ใช้งานเขามากเท่าที่ควร

    ทั้งนี้ ในเกมล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ เชลซี 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น ฟาน เดอ เบ็ค ถึงขั้นไม่ถูกเปลี่ยนลงสนามด้วยซ้ำ ซึ่ง เอวร่า กล่าวถึงเรื่องนี้ระหว่างทำหน้าที่กูรูของ สกายสปอร์ตส์ ว่าไม่เข้าใจเลยว่าอดีตทีมของตัวเองจะซื้อ ฟาน เดอ เบ็ค ทำไม พร้อมบอกว่าตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่จำเป็นต้องพึ่งพานักเตะแบบเขาเลย และมันก็ทำให้ "เร้ด อาร์มี่" บางส่วนไม่พอใจกับคำพูดของเขา

    เอวร่า เผยผ่านคลิปที่โพสต์ใน อินสตาแกรม เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิตว่า "ถึงแฟนบอล ยูไนเต็ด ที่รักของผม ไม่นานมานี้ผมได้แสดงความเห็นผ่านทาง สกาย ว่าที่จริงเราไม่จำเป็นต้องมีนักเตะแบบ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เลย เอาล่ะ ผมจะยกตัวอย่างสักหน่อยแล้วกันว่าทำไมผมบอกว่าเรายังไม่จำเป็นต้องมีคนแบบเขา ฟังนะ เรามี เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เนมานย่า มาติช อยู่ในทีม ซึ่งไม่ว่าพวกคุณจะรักพวกเขาหรือเกลียดพวกเขาน่ะ คุณก็ต้องยอมรับว่าเมื่อถึงเวลาที่เราต้องเล่นเกมใหญ่แล้วนั้นพวกเขามักจะทำผลงานได้ดีอยู่เสมอ นั่นคือมุมมองของผม"

    "ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เก่งกว่า ปอล ป็อกบา รึเปล่า ? ไม่เลย เขาเก่งกว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ หรือเปล่า ? ก็ไม่อีกนั่นแหละ แน่นอนว่าผมอยากเห็นเขาเล่นให้กับ ยูไนเต็ด ด้วยฟอร์มเหมือนตอนที่เขาเล่นกับ อาแจ็กซ์ แต่เรามีปัญหาอยู่ 1 อย่าง นั่นคือฤดูกาลนี้เขาได้เป็นตัวจริงไปแล้วกี่นัดกัน ? นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องพึ่งคนอย่างเขา ผมพูดแบบนั้นเพราะเขาไม่ใช่คนที่จำเป็นกับทีมแบบปัจจุบันทันด่วนอย่างเช่นในตอนนี้"

    "ผมไม่พอใจกับเรื่องนั้น และผมก็เห็นใจเด็กคนนั้นด้วย เพราะเมื่อคุณย้ายทีมด้วยค่าตัวระดับ 40 ล้านปอนด์ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณย่อมคาดหวังว่าจะได้เล่นมากกว่านี้ แต่ผมเชื่อมั่นในตัว โอเล่ คนเป็นนักเตะก็ต้องเชื่อมั่นในตัว โอเล่ เขาต้องใจเย็นเข้าไว้ แล้วเดี๋ยวเขาก็จะได้รับโอกาสของเขาเองนั่นแหละ ดังนั้นอย่าดัดแปลงคำพูดของผมไปในทางที่ผิดๆ เพราะผมบอกไปเพียงว่า ดอนนี่ ไม่ใช่คนที่ทีมจำเป็นต้องมีแบบปัจจุบันทันด่วน"

ใช่เหรอ? “พ่อปาร์เตย์” เผยแนะลูกปฏิเสธ “2 ทีมดัง” ชี้ไม่ท้าทายเพราะได้เล่นชปล.

เจค็อบ ปาร์เตย์ คุณพ่อบังเกิดเกล้าของ โธมัส ปาร์เตย์ ออกมาเปิดเผยว่าลูกชายของเขาได้รับความสนใจจาก ยูเวนตุส และ เชลซี ก่อนจะลงเอยกับ อาร์เซน่อล

ปาร์เตย์ เป็นกองกลางคนสำคัญของ แอตเลติโก มาดริด โดยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนตกเป็นข่าวกับ อาร์เซน่อล มาอย่างยาวนาน

มิดฟิลด์ทีมชาติกานาวัย 27 ปีเพิ่งย้ายมาร่วมทัพอาร์เซน่อล เมื่อตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ โดยล่าสุด พ่อของเขาออกมาเปิดเผยว่า

"เรารู้ว่ามีความสนใจจาก ยูเวนตุส และ เชลซี ผมสังเกตว่าลูกชายอยากเล่นให้ทีมระดับยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ผมก็แนะนำเขาไปว่าทำไมไม่ลองไปทีมที่ไม่ได้เล่น แล้วช่วยให้พวกเขาได้ไปเล่นล่ะ?"

อยากให้ลูกทีมทำบ้าง!แลมพาร์ดกับลูกยิงงามหยดนัดเจอพาเลซ (มีคลิป)

แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี เตรียมต้องนำทีมทำศึก ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ กับ คริสตัล พาเลซ วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคมนี้ โดยปัจจุบัน "ดิ อีเกิ้ลส์" มีคะแนนมากกว่า "สิงโตน้ำเงินคราม" อยู่ 2 แต้ม

อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปในสมัยที่เขายังค้าแข้งอยู่นั้น แลมพาร์ด เคยทำประตูสุดสวยใส่ พาเลซ มาแล้ว ในเกมที่ เชลซี ชนะ พาเลซ 4-1 เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ปี 2005 และวันนี้เราก็มีคลิปลูกนั้นมาให้ได้ชมกันอีกครั้ง

 

เก่งมากๆ!รังนิคชูฮาแวร์ทซ์เหมือนครัฟฟ์

ราล์ฟ รังนิค ระบุ ไค ฮาแวร์ทซ์ มิดฟิลด์ เชลซี เป็นนักเตะที่เก่งมากๆ จนถ้าให้เปรียบเทียบแล้วก็เหมือนเป็น โยฮัน ครัฟฟ์ ในยุคปัจจุบัน พร้อมเชื่อว่าการมาอยู่กับ "สิงโตน้ำเงินคราม" จะเป็นผลดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย

ราล์ฟ รังนิค อดีตเทรนเนอร์ ชาลเก้ 04 และ แอร์เบ ไลป์ซิก กล่าวยกย่อง ไค ฮาแวร์ทซ์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งของ เชลซี ว่าเป็นนักเตะที่มีฝีเท้าสุดยอดจนเหมือนกับ โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานดาวเตะชาวดัตช์

ฮาแวร์ทซ์ กลายเป็นที่สนใจของหลายคนหลังจากทำผลงานได้โดดเด่นกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ก่อนที่ เชลซี จะเป็นฝ่ายได้เขามาร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์ของปีนี้ด้วยค่าตัวในเบื้องต้น 62 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,480 ล้านบาท) และจะสูงถึง 71 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,840 ล้านบาท) ถ้าหากแข้งชาวเยอรมันทำผลงานได้ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 เกมแรกกับทีมนั้นแข้งวัย 21 ปียังโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ก่อนที่จะมาระเบิดแฮตทริกในเกม คาราบาว คัพ รอบ 3 ที่ต้นสังกัดถล่ม บาร์นส์ลี่ย์ 6-0 เมื่อวันพุธที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา

รังนิค เผยว่า "ผมมั่นใจว่าเขาจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และจะกลายเป็นหนึ่งในนักเตะชั้นยอดในอีก 2 หรือ 3 ปีต่อจากนี้ บางทีเขาอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวสัก 2 สัปดาห์ เพราะเขามีพื้นเพด้านครอบครัวที่ยอดเยี่ยม ผมรู้เรื่องนั้นก็เพราะผมเคยพยายามที่จะดึงเขาไปอยู่กับ ไลป์ซิก มาแล้ว แต่เขามุ่งมั่นกับการเล่นให้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มากๆ"

"เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ผมมองไม่เห็นว่ามีจุดอ่อนในเกมการเล่นเลย ถ้าให้เทียบแล้วเขาก็เหมือนกับเป็น โยฮัน ครัฟฟ์ ในยุคปัจจุบัน เขาสามารถทำประตูได้และทำแอสซิสต์ได้, สามารถเล่นเป็นกองหน้าแบบพวกนักเตะหมายเลข 9 หรือถอยมายืนต่ำนิดๆ ก็ได้ ผมมองว่าเขาไม่เหมาะกับการเป็นปีกหรอกนะ ผมมองว่าเขาเหมาะกับการยืนตรงกลางสนามมากกว่า เขาจะมีประโยชน์มากๆ หากได้เล่นแถวนั้น ผมมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าการย้ายทีมครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อทั้ง เชลซี และ ไค"

ต้องการเซ็นเตอร์แบ๊คอีกมั้ย?

เป็นสัปดาห์ที่เปลี่ยนแปลงเร็วมากสำหรับลิเวอร์พูล

จากชนะลีดส์แบบไม่สวย เกมรับหลวม โดนแฟนเคืองเรื่องไม่เสริมตัวเจ๋งๆ "นี่งัย บอกแล้ว" ถัดมาไม่กี่วัน มีเซอร์ไพรส์การชูเสื้อของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์ระดับโลกที่อยู่ในกระแสความสนใจไม่ต่ำกว่าสามเดือนจนนึกว่าไม่ได้แล้ว จากนั้นยังตามมาด้วยการเสริม ดีโอโก้ โชต้า ซึ่งจะมาเป็นเงื่อนไขในแดนหน้า เล่นได้หลากหลายบทบาท

ปิดด้วยการไปเยือนเชลซี ซึ่งเสริมตัวแบบตื่นตาตื่นใจ, ดูขุมกำลังแล้วเหมือนว่าจะพร้อมแย่งชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ – ทีมของคล็อปป์กลับมาเล่นดีผิดหูผิดตา คืนฟอร์มเก่ง การทำงานหนักเป็นทีม

เห็นแบบนี้แล้ว แฟนหงส์น่าจะอุ่นใจกันนะครับ

1. "ฟาบินโญ่" เซ็นเตอร์แบ๊คชั่วคราว หรือถาวรดี

เพราะการบาดเจ็บเล็กน้อยของขาประจำในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ๊ค โจ โกเมซ ทำให้เห็นภาพเงื่อนไขที่อุ่นใจในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ๊คของลิเวอร์พูลขึ้นมาบ้าง

โกเมซ ไม่น่าเป็นห่วงอะไรนะครับ เจอร์เก้น คล็อปป์ บอกว่าอาจจะเป็นแค่วันนี้นี่แหล่ะ ส่วนโฌแอล มาติป นั้นอาการกล้ามเนื้อทำให้ยังใช้บริการไม่ได้ ต้องขาดหายยาวต่อไป  (แฟนหงส์น่าจะชินแล้ว)

นั่นเลยทำให้เห็น การใช้ ฟาบินโญ่ จากบทบาทคุ้นตาเป็นมิดฟิลด์ตัวรับมาเคียงข้าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ในการไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์  – แม้เป็นหมากที่แฟนหงส์คิดเผื่อไว้แล้วหล่ะ กรณีลุ้นซื้อเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนใหม่ไม่สำเร็จ และโกเมซ / มาติป มีปัญหา หากไม่น่าจะคิดว่า เอ๊ะ มันต้องลองใช้ตั้งแต่นัดที่สองของฤดูกาลแบบนี้เลยเหรอ

ปรากฎ ฟาบินโญ่ เล่นได้นิ่งมาก เข้าแย่งบอลสวยๆ จากติโม แวร์เนอร์ กองหน้าทีมชาติเยอรมัน, ทำหน้าที่ตลอดเกมเหมือนตรงนั้นเป็นพื้นที่ประจำของเขา

จากเล่นตำแหน่งประจำตรงแดนกลางไม่ได้ดั่งใจกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์นัก ในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่สั้นมาก จนเปิดฤดูกาลกับลีดส์ โดนถอดไปเป็นตัวสำรอง มาวันนี้ น่าสนใจนะครับว่า ฟาบินโญ่ ควรได้เล่นตรงเซ็นเตอร์แบ๊คนี้ยาวๆ หรือเปล่า (เพื่อนๆ มีความเห็นเช่นไร ลองแสดงทัศนะด้านล่างกันครับ)

 2. ใบแดงท้ายครึ่งแรก สมควรและสำคัญต่อเกม

 ลิเวอร์พูลยังคงให้แนวหลังเล่นไลน์สูงนะครับ แต่สิ่งที่แตกต่างจากเกมลีดส์คือตั้งแต่แดนหน้าเพรสได้ดี ก็เลยคุมสถานการณ์ได้ อาจจะมีสวนน่ากลัวบ้าง อันนั้นเป็นเรื่องธรรมดาของทัพคุณภาพอย่างเชลซี ซึ่งช่วงนี้อาวุธยังไม่ครบมือ ตัวใหม่หลายคนยังไม่พร้อมใช้งาน ฮาคิม ซีเย็ค, เบน ชิลเวลล์, ติอาโก้ ซิลวา รวมทั้งตัวเก่าที่อันตรายมากๆ คริสเตียน พูลิซิช

ครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเหนือกว่าเห็นได้ชัด หากขาดจังหวะจะแจ้ง ดังนั้นเชลซีก็ยังอยู่ในเกม!

ก่อนฮาล์ฟไทม์ จังหวะเหมาะเหม็งมาก คนผ่านยาว กัปตันเฮนโด้ , คนวิ่งโฉบ ซาดิโอ มาเน่

มาเน่บอกกับ อันเดรียส คริสเตนเซ่น นะครับว่า "เพื่อนเอ๋ย มันเป็นใบแดง" ก่อนที่ผู้ตัดสินจะวิ่งไปดูจอข้างสนาม วีเออาร์เปลี่ยนคำตัดสินจากควักแค่ใบเหลือง มาเป็นใบแดง เสียอีก

ใบแดงจริงๆ ครับ กองหลังตัวสุดท้าย เหนี่ยวแบบนั้น จังหวะหลุดตรงกลางเลย

3. ความขยันของมาเน่

โอเคหล่ะ ทั้งโหม่ง และยิง เหมาสองประตู หัวหอกเซเนกัล ต้องมีความดีความชอบอยู่แล้ว

หากอยากให้มองการทำงานหนักในสนามของเขา การทำให้คริสเตียนเซ่น โดนใบแดง

การเข้าไปโหม่งกระทุ้งประตูแรก หลังจากโม กะบ๊อบบี้ ประสานกันมา สวยงามในแง่ยืนอยู่ด้านไกล แล้วโฉบเข้าไปในตำแหน่งเข้าทำตรงจังหวะ

แต่ที่ชอบที่สุด ประตูที่สอง ทุกคนอาจมองไปที่ความผิดพลาดในการออกบอลของเกป้า หากอยากให้ย้อนไปดูก่อนหน้าด้วย  "มาเน่ จ่ายบอลให้บ๊อบบี้แรงไป / เขาแสดงท่าโมโหตัวเองออกมา / จากนั้นแทนที่จะหยุดเฉย เสียบอลแล้วก็ต้องไล่สิ วิ่งเข้าไปหาคีพเพอร์แล้วอ่านทาง ไปดักจนได้บอลยิงเฉย" – เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำงานหนักด้วยนะ

4. ติอาโก้ สมราคาเวิลด์ คลาส

พักครึ่งกัปตันเฮนโด้ บอกเจ้านายว่ามีปัญหาเล็กน้อย อยากจะเล่นต่อนะ แต่คล็อปป์ไม่เสี่ยง ก็เลยได้เห็น ตีอาโก้ ลงประเดิมนัดแรกทันที

แม้จะทำเสียจุดโทษแบบไม่น่า ดีนะที่ อลีสซอน เบ๊คเกอร์ เข้าฟอร์มเซฟจอร์จินโญ่ได้ ไม่เช่นนั้น ถึงเชลซีจะมีสิบคน ก็ยังได้ลุ้นต่อในสิบห้านาทีสุดท้าย

โดยรวมแล้วเยี่ยมเลย ข้อมูลจาก opta  (เก็บสถิติต่างๆ ในการเล่น) บอกว่า ตีอาโก้ ผ่านบอลสมบูรณ์ 75 ครั้ง มากกว่าผู้เล่นเชลซีทุกคนตลอดเกม!

เล่นแบบธรรมชาติมากครับ ไม่มีตัวเพิ่มมากกว่านี้ ผมก็ว่า ลิเวอร์พูลพร้อมท้าชนได้หมดแล้วนะ เพื่อนๆ หล่ะครับ ว่างัย

เกปาพาลงเหว! ตัดเกรดแข้งเชลซีเกมพ่ายลิเวอร์พูลคาบ้าน

เกมแรกของ เชลซี ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในฤดูกาลนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้หลัง "หงส์แดง" บุกมาสอยคารังสองประตู เป็นเกมที่ "สิงห์บลูส์" ตั้งรับเป็นส่วนใหญ่และกำลังไปได้สวยแต่ดันมาเหลือ 10 คนทำให้กลายเป็นงานยากขึ้นมาทันที มีหนึ่งแข้งที่ได้คะแนนแค่ 4 แต้มเท่านั้นหลังก่อความผิดพลาดจนเสียประตู มาเช็กผลสอบของนักเตะเชลซีกันที่นี่เลย

เชลซี

เกปา อาร์รีซาบาลาก้า 4

ตัดสินใจหลายอย่างผิดพลาดไปหมด ครึ่งแรกมีจังหวะที่จะออกมาตัดบอลแต่โดน ซาลาห์ ตัดหน้ายังดีที่ไม่เสียประตู แต่ครึ่งหลังต้องรับเต็มๆกับการจ่ายบอลพลาดจน มาเน่ ฉกไปยิงประตู แต่ยังพอทีเซฟสวยๆอยู่บ้างในเกมนี้

รีซ เจมส์ 5.5

ไม่ได้เติมเกมรุกเท่าไหร่นักเพราะต้องปะทะกับ มาเน่ ตลอด พอเหลือ 10 คนในครึ่งหลังยิ่งต้องเล่นเกมรับเป็นส่วนใหญ่ สุดท้ายตามประกบ มาเน่ พลาดจนโดนลงโทษเสียประตูแรก

อันเดรียส คริสเตนเซ่น 5 (ใบแดง)

มีบล็อกสำคัญคือลูกเปิดของ ซาล่าห์ ในจังหวะที่ เกปา ออกไปตัดบอลพลาด ความจริงเขาคุมเกมรับได้ดีทีเดียวจนกระทั่งมารวบ มาเน่ จนโดนใบแดง

เคิร์ต ซูม่า 6

พยายามสุดความสามารถในการป้องกันเกมบุกหงส์แดง ซ้อน อลอนโซ่ ได้ดีหลายครั้งรวมถึงเคลียร์ลูกเซ็ตพีซและลูกครอส แต่จ่ายบอลพลาดบ่อยจากการโดนผู้เล่นหงส์เพราสซิ่งในขณะที่ เชลซี พยายามสร้างเกมรุกมาจากแดนหลัง

มาร์กอส อลอนโซ่ 5.5

เป็นฝั่งที่ต้องเจองานยากอยู่แล้วกับการสู้กับ ซาลาห์ และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซึ่งก็ทำได้โอเคระดับหนึ่ง กระทั่งมาเจอลูกชิ่งหนึ่งสองของ ซาลาห์,ฟีร์มีโน่ จนเสียประตู

จอร์จินโญ่ 5

ไม่สามารถช่วยให้ทีมครองบอลแดนกลางได้ ยิ่งตอนเหลือ 10 คนและลิเวอร์พูล นำ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ลงสนามมาทำให้สู้แทบไม่ได้ พลาดจุดโทษกับเชลซีเป็นครั้งแรก

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ 6.5

ครึ่งแรกโดดเด่นมากทั้งการไล่เพรสซิ่งมิดฟิลด์คู่แข่ง การแย่งบอล รวมถึงการพาบอลขึ้นแดนหน้า มีโอกาสทองที่จะง้างยิงในเขตโทษแต่เลือกมองหาตัวจ่าย

มาเตโอ โควาซิช 6

เป็นคนที่ไว้ใจได้ในการเก็บบอลกับตัว จ่ายบอลสวยๆให้ แวร์เนอร์ แต่ไม่ได้จบสกอร์ ทว่าด้วยการที่เชลซีปล่อยให้ หงส์แดง ครองบอลเลยทำให้มิดฟิลด์เชลซีไม่ได้ช่วยเกมรุกมากนัก

ไค ฮาแวร์ตซ์ 5

มีจังหวะจับบอลสวยๆอยู่บ้าง แต่มีส่วนร่วมกับเกมรุกน้อยมาก เป็นนักเตะเชลซีที่สัมผัสบอลน้อยที่สุดในครึ่งแรก ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่ง

ติโม แวร์เนอร์ 7

พยายามเลี้ยงผ่าน ฟาบินโญ่ อยู่หลายครั้งแต่ล้มเหลว มีจังหวะง้างยิงน้อยเพราะขาดการสนับสนุน แต่เป้นเรียกจุดโทษให้กับทีมในครึ่งหลัง

เมสัน เมาท์ 6

ชยันวิ่งช่วยเกมรับอยู่ตลอดโดยเฉพาะการตาม โรเบิร์ตสัน แต่เชื่อมเกมรุกกับเพื่อนร่วมทีมได้น้อยมาก

ตัวสำรองที่ลงสนาม

ฟิคาโย่ โทโมรี่ 6 (ลงมาแทน ไค ฮาแวร์ตซ์ น.46)

พยายามสุดความสามารถในป้องกันเกมรับ มีบล็อกสำคัญอยู่บ้าง

รอสส์ บาร์คลี่ย์ – (ลงมาแทน มาเตโอ โควาซิช น.79)

ลงมาท้ายเกมแล้ว

แทมมี่ อับราฮัม – (ลงมาแทน จอร์จินโญ่ น.79)

ลงมาท้ายเกมแล้ว

 

เกปาหมดอนาคต?เชลซียันได้โกลคนใหม่

แฟนบอล เชลซี อุ่นใจได้ หลัง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยันได้โกลคนใหม่มาเฝ้าเสาแล้ว ส่งผลให้ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า น่าจะหมดอนาคตในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์
    แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี ประกาศยืนยันเมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมาว่า "สิงห์บลูส์" ได้ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูชาวเซเนกัล ของ แรนส์ มาเฝ้าเสาแน่นอนแล้ว โดยเหลือเพียงแค่ขั้นตอนการตรวจร่างกายเท่านั้น

    แลมพาร์ด เผยว่า "ใช่ เมนดี้ กำลังเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างที่เราพูด หากทุกอย่างเรียบร้อยเขาจะกลายเป็นนักเตะใหม่ของเราอย่างเป็นทางการทันที"

    สำหรับค่าตัวบวกโบนัสตามเงื่อนไขของ เมนดี้ วัย 28 ปี อยู่ที่ราว 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,000 ล้านบาท) และจะเข้ามาแย่งมือ 1 กับ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูชาวสแปนิช ที่ผลงานย่ำแย่จนมีโอกาสสูงที่จะหลุดไปเป็นตัวสำรอง

    ในช่วงซัมเมอร์นี้ เชลซี ใช้เงินเสริมทัพทะลุ 200 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,000 ล้านบาท)  ไปแล้วกับการดึงนักเตะอย่าง ฮาคิม ซิเย็ค, ติโม แวร์เนอร์, เบน ชิลเวลล์, เมนดี้ และ ไค ฮาแวร์ทซ์ มาเสริมแกร่ง
 

เด็กมันขอสู้! “เช็ก” ยัน “เกปา” ยังมีอนาคตในถ้ำสิงห์

ปีเตอร์ เช็ก ตำนานผู้รักษาประตูของเชลซี วัย 38 ปี ออกมายืนยันว่านายด่านค่าตัวแพงอย่าง เกปา อาร์ริซาบาลากา ยังคงมีอนาคตกับทีม

เชลซี ทุ่มเงินมหาศาลถึง 71.6 ล้านปอนด์คว้า เกปา มาจาก แอธเลติก บิลเบา เมื่อปี 2018 ซึ่งถือว่าเป็นค่าตัวสถิติโลกในตำแหน่งผู้รักษาประตู

อย่างไรก็ตาม นายด่านชาวสแปนิชวัย 25 ปี กลับทำผลงานได้สวนทางกับค่าตัวอันแสนแพง จนมีข่าวว่าเขาหมดอนาคตในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ และเตรียมถูกขายทิ้งในซัมเมอร์นี้

ล่าสุด เช็ก ที่ปัจจุบันรับหน้าที่ผู้อำนวยการด้านเทคนิคให้สิงห์บลูส์ ยืนยันว่า "สโมสรลงทุนหนักและมอบสัญญาระยะยาวให้เขา (เกปา) เพราะเราเชื่อว่าเขามีคุณภาพและจะประสบความสำเร็จ"

"ไม่มีใครหมดหวังในตัวเขาหรอก เขาก็พร้อมพิสูจน์ตัวเองต่อเช่นกัน ซึ่งทุกคนก็หวังว่าเขาจะมีอนาคตที่ยอดเยี่ยมต่อไป"

เกลียดจริง?โคลเผยเสี่ยหมีไม่สนขายนักเตะให้สเปอร์ส

คาร์ลตัน โคล อดีตหัวหอกคนดัง เผยถึงความเฮี้ยบของ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรเชลซี ที่สั่งห้ามตนย้ายไปเล่นกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทั้งๆที่ตอนนั้นเรื่องทุกอย่างใกล้จะสมบูรณ์อยู่แล้ว โดย "เสี่ยหมี" ทราบเรื่องปั๊บได้ติดต่อให้ตนกลับถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทันที พร้อมวลีเด็ด ไม่ต้องการทำธุรกิจกับ "ไก่เดือยทอง"

คาร์ลตัน โคล อดีตกองหน้าชาวอังกฤษ เปิดเผยว่า โรมัน อบราโมวิช อภิมหาเศรษฐีเจ้าของสโมสร "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี แสดงจุดยืนชัดเจนไม่คิดจะขายนักเตะให้กับ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ส่งผลให้ตนไม่ได้ย้ายไปเล่นกับ สเปอร์ส

"สิงห์บลูส์" กับ สเปอร์ส มีความเป็นไม้เบื่อไม้เมาในฐานะสโมสรร่วมกรุงลอนดอน โดย อบราโมวิช ซึ่งเข้ามาบริหารยอดทีมแห่งถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อปี 2003 ได้เพิ่มดีกรีความเป็นคู่อริร่วมเมืองด้วยการปฏิเสธที่จะทำการขายผู้เล่นของทีมให้กับ "ไก่เดือยทอง"

เรื่องนี้เป็นการยืนยันจากปากของ โคล ที่เผยว่าตนโดนปฏิเสธย้ายไปเล่นให้กับ สเปอร์ส ทั้งๆ ที่กำลังจะเตรียมตัวเพื่อเข้ารับการตรวจร่างกาย ที่สำคัญมีนักเตะแค่คนเดียวเท่านั้นที่ย้ายจาก เชลซี ไปเล่นให้ "ไก่เดือยทอง" นั่นก็คือ คาร์โล คูดิชินี่ ซึ่งย้ายไปแบบไม่มีค่าตัวเมื่อปี 2009

โคล ย้อนความหลังในช่วงที่โดน "เสี่ยหมี" สั่งห้ามย้ายไปเล่นกับ สเปอร์ส ทั้งๆ ที่เรื่องทุกอย่างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว "ผมเกือบได้ย้ายไปเล่นกับ สเปอร์ส ผมเดินทางเพื่อเข้ารับการตรวจร่างกาย และทุกๆ อย่าง โรมัน อบราโมวิช ทราบเรื่องนี้ และเขาก็พูดว่า -นายต้องกลับมาเดี๋ยวนี้ นายไม่มีสิทธิ์ย้ายไปเล่นให้กับพวกเขา- เขายังพูดต่อไปว่า -นายไม่มีทางได้ย้ายไปเล่นกับ สเปอร์ส ผมไม่ทำธุรกิจกับพวกเขา-"

เปลืองค่าเหนื่อย! 7 แข้งเชลซีส่อถูกเขี่ยทิ้งเปิดทางนักเตะใหม่

ตลาดซัมเมอร์ปีนี้นับว่า เชลซี ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการคว้าตัวผู้เล่นเป้าหมาย โดยพวกเขาเซ็นสัญญานักเตะมาแล้วถึง 6 คนด้วยกัน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ถลุงเงินไปทั้งสิ้น 231 ล้านปอนด์และคาดว่าพวกเขาจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ ในทางกลับกันเมื่อมีนักเตะเข้ามาเยอะคงต้องมีผู้เล่นจำนวนหนึ่งเดินออกจากสโมสรไป แข้งส่วนเกินเชลซีในลิสต์เหล่านี้มีค่าเหนื่อยรวมกันมากถึง 559,000 ต่อสัปดาห์เลยทีเดียว พวกเขาจำเป็นต้องถูกเขี่ยพ้นทีมไม่อย่างนั้นจะเสียเงินโดยสูญเปล่า

1.มิชี่ บาตชูอายี่

สัญญาถึงเดือนมิถุนายน 2021

ค่าเหนื่อย: 90,000 ต่อสัปดาห์

เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีศักยภาพมากที่สุดในบรรดาลิสต์ที่จะโดนขายทิ้ง บาตชูอายี่ ยิงประตูทั้งหมด 6 ลูกในฤดูกาลที่ผ่านมาและปัจจุบันเขารับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่การมาของ ติโม แวร์เนอร์ ทำให้กองหน้าในทีมค่อนข้างล้นทีเดียว ลำพังแค่ แทมมี่ อับราฮัม และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ก็เบียดตัวจริงยากแล้ว

เขาเคยถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นให้กับ คริสตัล พาเลซ, บาเลนเซีย และ ดอร์ทมุนด์ คาดว่าซัมเมอร์นี้จะถึงเวลาที่เขาได้ออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แบบถาวรและมันจะเป็นการเซฟค่าเหนื่อยของทีมไปอีกราวเกือบแสนปอนด์เลยทีเดียว

2.มาร์โก ฟาน กิงเคล

สัญญาถึงเดือนมิถุนายน 2021

ค่าเหนื่อย: 28,000 ต่อสัปดาห์

ไม่น่าเชื่อว่า ฟาน กิงเคล ยังคงมีสัญญาอยู่กับ เชลซี หลังจากย้ายจาก วิเทสส์ มาร่วมทีมเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ความจริงแล้วมิดฟิลด์วัย 27 ปีถูกคาดหมายว่าจะโดนขายในซัมเมอร์นี้เนื่องจากไม่ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่เลยแต่กลายเป็นเขาต่อสัญญากับทีมออกไปอีกหนึ่งปีแบบเหนือความคาดหมาย

นับตั้งแต่เขาจรดปากกาเซ็นสัญญากับทีมเมื่อ 7 ปีก่อน ฟาน กิงเคล ใช้เวลาค้าแข้งทีมอื่นมากกว่าต้นสังกัดแม่เสียอีก ไม่ว่าจะเป็นกับ เอซี มิลาน (2014-15), สโต๊ค ซิตี้ (2015-16) หรือ พีเอสวี (2016-2018) อย่างไรก็ตามปัญหาใหญ่ของเขาคืออาการบาเดเจ็บที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง นั่นทำให้แทบจะไม่มีชื่อทีมที่สนใจมาซื้อต่อเลยในซัมเมอร์นี้ ดังนั้นมีโอกาสที่เขาจะถูกปล่อยยืมตัวมากกว่า

3.วิคเตอร์ โมเซส

สัญญาถึงเดือนมิถุนายน 2021

ค่าเหนื่อย: 75,000 ต่อสัปดาห์

วิคเตอร์ โมเซส เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2016-17 และอันโตนิโอ คอนเต้ ก็มองว่าเขาเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในตำแหน่งวิ่งแบ็กในแผนของกุนซือรายนี้ เมื่อ คอนเต้ ออกจากสแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาก็ตามไปเล่นกับนายใหญ่คู่ใจที่อินเตอร์ มิลานในฤดูกาลที่ผ่านมา

เขายังคงเป็นนักเตะของเชลซีอยู่แต่ แลมพาร์ด ไม่ได้สนใจใช้งานมากนักเนื่องจากตำแหน่งมี เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ที่เป็นตัวจริงรวมถึง รีซ เจมส์ ที่ก้าวขึ้นมาทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัว เชื่อว่าดาวเตะไนจีเรียวัย 29 ปีมีโอกาสสูงที่จะถูกขายดีกว่าเดินไปเดินมาเฉยๆอีกหนึ่งฤดูกาล

4.ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า

สัญญาถึงเดือนมิถุนายน 2022

ค่าเหนื่อย: 70,000 ต่อสัปดาห์

แบ็กขวาวัย 28 ปีย้ายมา เชลซี ในปี 2017 แต่ไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงได้ ดังนั้นทางออกจึงไม่ต่างจาก โมเซส มากนัก ฤดูกาลที่แล้วเขาย้ายไปร่วมทัพ โรม่า แบบยืมตัวแต่ได้รับบาดเจ็บช่วงเดือนตุลาคมจึงทำให้เขาไม่ได้ทำผลงานอะไรที่อิตาลีเลยโดยลงเล่นแค่ 7 นัดเท่านั้น

แต่เชื่อว่ายังมีทีมในอิตาลีน่าจะสนใจเขาอยู่โดยเฉพาะ อตาลันต้า ที่เป็นข่าว เชลซี คงต้องใช้พลังการโน้มน้าวใจกุนซือกาสเปรินี่ให้รีบมาซื้อ ซัปปาคอสต้า ออกจากทีมไปให้ได้ในซัมเมอร์นี้

5.ตีเอมูเอ้ บากาโยโก้

สัญญาถึงเดือนมิถุนายน 2022

ค่าเหนื่อย: 110,000 ต่อสัปดาห์

กองกลางวัย 26 ปีเดินเข้ามาสวมเสื้อ “สิงห์บลูส์” ในปี 2017 ด้วยค่าตัวมากถึง 40 ล้านปอนด์เลยทีเดียวแต่ผลงานของเขากลับทำแฟนเชลซีผิดหวังจนสองซีซั่นหลังสุดถูกปล่อยให้ไปเล่นกับ เอซี มิลาน และ โมนาโก

ในสถานการณ์แบบนี้ เชลซี คงต้องจำใจขาย บากาโยโก้ แบบขาดทุนเพื่อเขี่ยนักเตะให้พ้นทีมออกไป ซึ่งล่าสุด ฟาบริซิโอ โรมาโน่ เหยี่ยวข่าวชื่อดัง คอนเฟอร์มว่า เอซี มิลาน ใกล้บรรลุข้อตกลงกับทางเชลซีแล้วแต่เป็นการยืมตัวอีกครั้งโดยมีค่ายืมทั้งหมด 3 ล้านปอนด์พร้อมอ็อปชั่นซื้อขาด 30 ล้านยูโร น่าจะเป็นนักเตะคนแรกในลิสต์นี้ที่จะออกจากทีม

6.แดนนี่ ดริ๊งค์วอเตอร์

สัญญาถึงเดือนมิถุนายน 2022

ค่าเหนื่อย: 100,000 ต่อสัปดาห์

ดริ๊งค์วอเตอร์ ถือเป็นส่วนเกินของทีมตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อ 3 ปีที่แล้วด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ เขาลงเล่นให้กับทีมทั้งหมด 19 นัดก่อนจะถูกปล่อยยืมไปให้กับ เบิร์นลี่ย์ และ แอสตัน วิลล่า

แทนที่จะทำผลงานให้ดีเพื่อได้ลงเล่นมากขึ้นในช่วงยืมตัว ดริ๊งค์วอเตอร์ กลับไปทะเลาะกับเพื่อนร่วมทีมแอสตัน วิลล่าจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายเลยทีเดียว สุดท้ายมิดฟิลด์วัย 30 ปีกลับมายังเชลซีและตอนนี้ยังไม่มีข่าวว่าทีมไหนสนใจซื้อเลยแถมเขากินค่าเหนื่อยเป็นแสนปอนด์ด้วย การเหลือสัญญาอีก 2 ปีก็ดูยากที่จะได้ราคาถูก ดังนั้นการปล่อยยืมตัวอีกครั้งอาจจะเป็นคำตอบ

7.บาบ้า ราห์มาน

สัญญาถึงเดือนมิถุนายน 2022

ค่าเหนื่อย: 86,000 ต่อสัปดาห์

อีกหนึ่งนักเตะที่เหลือสัญญากับเชลซีอีก 2 ปีแต่คาดว่าจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เขาถูกปล่อยยืมตัวไปถึง 3 สโมสร ได้แก่ ชาลเก้, แร็งส์ และมายอร์ก้า แต่เจ้าตัวเพิ่งเข้าผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเมื่อเดือนมกราคมทำให้การยืมตัวกับ มายอร์ก้า ไปราบรื่นเท่าไหร่นัก

การมาของ เบน ชิลเวลล์ ทำให้แบ็กซ้ายแทบจะหมดโอกาสชิงพื้นที่จึงไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะอยู่กับทีมต่อไป อาชีพของเขาเหมือนหยุดอยู่กับที่นับตั้งแต่ย้ายมาเชลซีปี 2015 สโมสรคงต้องหาทางให้เขาเดินออกจากสโมสรไป