“มุ้ย”มาแน่! บีจีโอเคซิวธีรศิลป์ล่าแชมป์ ค่าตัวไม่ธรรมดา-สัญญาเกิน3ปี

“มุ้ย”​ ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกทีมชาติไทย เตรียมหวนกลับมาค้าแข้งที่บ้านเกิดอีกครั้งในสีเสื้อ บีจี ปทุมฯ หลังมีรายงานว่า “เดอะ แร็บบิต”​ บรรลุข้อตกลงกับทาง ชิมิสึ เอส-พัลส์ และตัวนักเตะเรียบร้อย งานนี้เปิดค่าตัวอยู่ที่ 24 ล้านบาท พร้อมสัญญายาว 3 ปีครึ่งหรือ 42 เดือน

กลายเป็นข่าวฮือฮาวงการลูกหนังไทย เมื่อมีรายงานจากแหล่งข่าววงในว่า บีจี ปทุมฯ​ ตกลงคว้า ธีรศิลป์ กองหน้าทีมชาติไทยกลับคืนสู่แดนสยามแล้ว ด้วยค่าตัว 24 ล้านบาทแบบซื้อขาด พร้อมสัญญาระยะเวลา 3 ปีครึ่ง โดยคาดว่า “มุ้ย” จะบินมาร่วมทัพกับจ่าฝูงไทยลีกหลังจากที่สัญญาที่เซ็นไว้กับ ชิมิสึ เมื่อ 31 ม.ค. 2020 หมดอายุในวันที่ 31 ม.ค.​ 2021 หรือหลังเดือนแรกของปีหน้านั่นเอง

ขณะที่ตัวเลขค่าแรงของดาวยิงช้างศึกที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ดังอย่าง transfermarkt ปัจจบันระบุไว้ที่ 725,000 บาทต่อเดือน ซึ่งหากย้ายสู่ถิ่น ลีโอ สเตเดี้ยม ก็คงได้รับไม่น้อยจากเดิมอย่างแน่นอน

สำหรับ “มุ้ย”​ ธีรศิลป์ ปัจจุบัน อายุ 32 เคยมีประสบการณ์การค้าแข้งในต่างแดนกับทั้ง แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ),​ กราสฮ็อปเปอร์ ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์),​ อัลเมเรีย (สเปน) และในเจลีกกับ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า รวมถึงล่าสุดกับ ชิมิสึ เอส-พัลส์

“มุ้ย” เคยได้แชมป์ไทยลีก กับ เอสซีจี เมืองทองฯ 4 สมัย, รองแชมป์ เอฟเอ คัพ 3 สมัย, แชมป์ถ้วย ก 1 สมัย, แชมป์ลีกคัพ 2 สมัย,​ แชมป์ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ 1 สมัย, แชมป์ แม่โขง คลับ 1 สมัย และรองแชมป์ เจลีก ปี 2018 กับ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า

ในระดับชาติ ธีรศิลป์ติดทีมชาติไทยชุดเยาวชน 17 ปี เป็นหนแรก ตั้งแต่ ปี 2002 จากนั้นติด ยู-19, ยู-23 และชุดใหญ่ โดยเคยได้แชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 1 สมัย, รองแชมป์อีก 2 สมัย, แชมป์ คิงส์คัพ 1 สมัย, แชมป์ซีเกมส์ 1 สมัย ขณะที่รางวัลส่วนตัว เคยเป็นดาวซัลโว เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 3 สมัย รวมถึงติดทีม 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ และครองตำแหน่งดาวซัลโวไทยลีกมาแล้วเมื่อปี 2012

หาเหตุผลทีมเจลีก ไม่เลือกใช้ ‘กวินทร์’ และ ‘ธีรศิลป์’

รายแรก ‘ธีรศิลป์ แดงดา’ กองหน้าวัย 32 ปี ไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง 2 เกมเจลีกหลังสุด มีกระแสข่าวอย่างหนักว่า สามารถตกลงค่าตัวที่ 24 ล้านบาท พร้อมค่าเหนื่อย 750,000 ต่อเดือน เตรียมเข้ามาเล่นให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในช่วงเลกสองไทยลีกฤดูกาล 2020-2021 นี้ เคสนี้ ‘มุ้ย’ ไม่ได้หมดอนาคตของ ‘ชิมิสึ เอส-พัลส์’ แต่ว่าเป็นการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตนเอง

สัญญาของกองหน้าทีมชาติไทยจะหมดลงกับยอดทีมแห่งถิ่นนิฮงไดระ สเตเดี้ยม หลังจบฤดูกาล 2021 สอดคล้องกับเจลีกฤดูกาลนี้ไม่มีการตกชั้น ทำให้เราเห็นได้ว่า ‘ปีเตอร์ ชคลามอสกี้’ กุนซือใหญ่ได้ทำการทดลองทีมที่แตกต่างออกไป แม้จะดูเหมือนยังหาความลงตัวไม่ได้จากผลงานที่ย่ำแย่ นั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าเขายังจะได้ทำทีมต่อไปในฤดูกาลหน้าแน่นอน จึงได้ทำการทดลงระบบการเล่นทั้งแผนการเล่น 4-2-3-1 ในช่วงต้นฤดูกาล จนเปลี่ยนมาเป็น 3-5-2 ในปัจจุบัน

กุนซือชาวออสเตรเลียวัย 41 ปี ใช้ผู้รักษาประตู 3 คน , ให้โอกาสผู้เล่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ลงสนามประเดิมเจลีกฤดูกาลนี้หลายต่อหลายคน , ยกเลิกสัญญายืมตัว มาโกโตะ โอกาซากิ กองหลังวัย 22 ปี ที่ยืมมาจากเอฟซี โตเกียว กลับต้นสังกัด เพราะคงเลือกที่จะไม่ใช้งานแน่นอนในฤดูกาลหน้า เพราะถ้าหากอยากใช้ต่อจริง ก็คงมีสัญญาซื้อขาดไปแล้ว

นั่นหมายความว่าหาก ‘ปีเตอร์’ ไม่ได้มอง ‘มุ้ย’ ในแผนงานการทำทีมฤดูกาลหน้า ที่จะเข้มข้นเพราะระบบการแข่งขันปกติมีการตกชั้นจะกลับมา ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานเพื่อแผนอนาคต การย้ายออกจากทีมไปสู่ทีมไทยลีกที่ลุ้นแชมป์ไทยลีก และพื้นที่ถ้วยเอเชีย นั่นเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว

กรณีของ ‘กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์’ ก็เช่นกัน ตั้งลงเล่น 90 นาทีเต็ม 2 เกมในฟุตบอลถ้วย แต่กลับในเกมลีกไม่ได้รับโอกาสลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว ซ้ำร้ายพอ ทาคาโนริ ซูเกโนะ นายทวารตัวจริงวัย 36 ปี ฟอร์มตก ‘ตอง’ กลับไม่ได้รับโอกาสลงสนาม แต่ ‘มิไฮโล เปโตรวิช’ เลือกใช้ ‘โคจิโร่ นากาโนะ’ นายทวารวัย 21 ปี เจ้าของส่วนสูง 2 เมตร ที่ยังเรียนหนังสือในระดับมหาวิทยาลัยลงเล่นเป็นตัวจริงไปแล้ว 3 เกม

แบบนี้ไม่ใช่เรื่องของการต้องการผู้รักษาประตูใช้เท้าเพื่อให้เข้ากับสไตล์เจลีกอะไรแล้ว คำถามก็คือสัญญายืมตัวของ ‘กวินทร์’ 2 ฤดูกาล บอร์ดบริหารซัปโปโรมีท่าที่อย่างไรกับสัญญานี้ เพราะหากยังเป็นสัญญายืมตัวอยู่ มันเป็นเหตุผลได้ที่ กุนซือชาวเซอร์เบีย ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผู้รักษาประตูในทีมชาติไทย เพราะว่านี่ไม่ใช่การสร้างทีมเพื่อต่อยอดในอนาคต

สถานะของนายทวารวัย 30 ปี ต้องการโอกาสการลงเล่น เพราะในตอนนี้เขาเสียสถานะมือหนึ่งทีมชาติไทยไปได้สักพัก ฉะนั้นโอกาสการลงสนามเพื่อสูจน์ตัวเอง เรียกความมั่นใจกลับมาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากยังไม่ได้รับโอกาสแบบนี้ การหาทางออกกลับมาเล่นไทยลีกอีกครั้งเป็นทางออกที่เป็นไปได้และมีประโยชน์ที่สุดแล้ว

ฮือฮา! บีจีปทุมยื่นข้อเสนอให้ชิมิสึ ทาบมุ้ย-ธีรศิลป์คืนไทยลีก

"เดอะ แร็บบิท" บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยอดทีมไทยลีก ยื่นข้อเสนอให้ ชิมิสึ เอส-พัลส์ เพื่อหวังดึง "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าทีมชาติไทยกลับมาเล่นในไทยลีกอีกครั้ง จากการเปิดเผยของแหล่งข่าววงในเมื่อ 21 ก.ย. 63

รายงานระบุว่า บีจี ปทุมฯ รองจ่าฝูงไทยลีก ต้องการกองหน้าตัวเป้าเข้ามาเพื่อล่าความสำเร็จ หลังเสริมทัพไปหลายตำแหน่งในช่วงที่ผ่านมา และได้เล็งไปที่ ธีรศิลป์ โดยได้ทาบทามหวังให้รีเทิร์นสู่ไทยลีกในช่วงต้นปีหน้าภายใต้สัญญาซื้อขาดแบบถาวร ซึ่งตลาดซื้อขายผู้เล่นของเมืองไทย จะเปิดทำการอีกครั้งระหว่างวันที่ 28 ธ.ค. 63-10 ม.ค. 64

สำหรับ "มุ้ย" อดีตหัวหอก เอสซีจี เมืองทองฯ ปัจจุบันวัย 32 เพิ่งย้ายไปค้าแข้งในเจลีกรอบสองในฤดูกาลนี้ โดยผลงานล่าสุดของเขากับ ชิมิสึ เอส-พัลส์ ซัดไป 2 ประตู หลังเคยถูกยืมตัวไปที่ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า มาแล้วในฤดูกาล 2018

สมุทรปราการ ซิตี้ “เขี้ยวสมุทร” อย่าเพิ่งกาชื่อพวกเขาทิ้ง สตาร์ทไม่ดีใช่ว่าจะไม่มีลุ้นแชมป์

การออกสตาร์ทแบบผิดฟอร์มของสมุทรปราการ ซิตี้ ใน 4 เกมแรก ถือว่าน่าจะเป็นงานหนักของ มาซาทาดะ อิชิอิ และลูกทีมมากๆ เพราะช่องว่างตามหลังพื้นที่ลุ้นแชมป์ อยู่ถึง 11 แต้ม จากการลงสนาม เสมอ 1 แพ้ถึง 3 เกม มีแค่ 1 แต้มเท่านั้น
    ช่วงพักเบรคโควิด-19 มองในแง่ดีก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อทีม เพราะจะทำให้พวกเขาไปทบทวนกับข้อผิดพลาดดังกล่าว เพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้กลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ และขอเอี่ยวในโควต้าเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 ที่จะยึดเอา 1-4 ของตารางคะแนนไทยลีกเลกแรก ไปเตะในฤดูกาลถัดไป

    จุดนี้เองที่พวกเขาก็หวังลึกๆ ว่า ถ้าทุกอย่างเข้าที่ ลงตัว "เขี้ยวสมุทร" จะกลับมาฟอร์มพีค เหมือนตอนต้นฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งพวกเขาเกาะกลุ่มนำมาตลอด จนสุดท้ายจบที่ 6 แต่กับการออกตัวในซีซั่นสะดุดไปมากทีเดียว ทำให้ก็ถือว่ากับ 11 นัดที่เหลือ พวกเขาต้องเครื่องร้อนสุดๆ จริง ถ้าหากอยากพลิกสถานการณ์ แต่ทุกอย่างยังเป็นไปได้ทั้งนั้นอย่างที่ มาซาทาดะ อิชิอิ บอก

    "สิ่งที่เราต้องปรับแก้จาก 4 เกมแรก เรื่องแรกก็คือการจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคมเท่าไหร่ และอีกเรื่องคือเกมรับ ในการป้องกันลูกตั้งเตะในจุดต่าง"

    "แน่นอนว่าแม้เราจะเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก แต่เราเองยังหวังที่จะไป เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้ ส่วนเป้าหมายทั้งปี แน่นอนว่า เราเองก็มองการเป็นแชมป์เช่นกัน"

    กุนซือดีกรีแชมป์เจลีก เอ่ยถึงสถานการณ์ของทีม และเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก ก่อนที่ลีกจะกลับมาห้ำหั่นกันอีกครั้งในวันที่ 12 กันยายน ส่วนบรรดาแข้งแกนหลักของทีมอย่าง นพพล พลคำ มิดฟิลด์ฮาร์ดแมน ก็ยังหวังเช่นกันว่า เพื่อนๆ จะสามารถเรียกฟอร์มเก่ง กลับมาให้ได้เร็วตั้งแต่วันที่ลีกกลับมารีสตาร์ท เชื่อว่า โอกาสยังเปิดกว้างมากๆ เพราะทุกทีมก็เบรคเหมือนกัน ต้องเริ่มกันใหม่หมด โดย "เป้" มองไปที่การจบเลกแรกด้วยคว้าตั๋วเอซีแอล อยู่ในมือ

    "เป้าหมายหลังจากนี้ คือเต็มที่กับการฝึกซ้อมและทำตัวให้พร้อมอยู่เสมอ เพื่อลงสนามช่วยทีม ที่สำคัญคือต้องการจะพาทีมให้กลับมาทำผลงานที่ดีอีกครั้ง เพื่อทำอันดับติด 1 ใน 3 ของศึกไทยลีกปีนี้ และคว้าโควต้าไปแข่งขันฟุตบอล ACL ให้ได้ ซึ่งทุกคนเชื่อมั่นว่าทีมจะสามารถกลับมาได้ แม้อันดับตอนนี้จะไม่ดีก็ตาม"

    ขณะเดียวกัน เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ปีกตัวจี๊ดของทีมก็มองว่า ข้อผิดพลาด 4 เกมแรก ได้รับการแก้ไขแล้ว ทุกอย่างกำลังลงตัวสุดๆ เพื่อนๆ นักเตะพร้อมที่จะกลับมาสู่เส้นทางทั้งการลุ้นไปเล่นถ้วยเอเชีย และล่าแชมป์

    "ตอนนี้ทีมเริ่มลงตัวขึ้นเรื่อยๆ เราปรับตัวกันได้ดีขึ้น หลังจากมีนักเตะใหม่เข้ามา เราเริ่มจูนเข้ากันได้แล้ว ตอนนี้โค้ชพยายามเน้นเรื่องระบบทีม และความเข้าใจของนักเตะ เราต้องแก้ไขจุดอ่อนที่ทำให้เราออกสตาร์ทได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะการจบสกอร์ ที่จะต้องทำให้ดีขึ้น ละเอียดมากขึ้น เพราะอย่างอื่นก็ถือว่าทำได้โอเค"

    "ในส่วนเป้าหมายของทีม ขอเน้นทีละเกม เราไม่อยากมองไกล เพราะสิ่งสำคัญคือ การได้รับผลการแข่งขันที่ดี ส่วนตัวผมเองอยากทำให้ดีที่สุดในทุกๆ นัดที่ลงสนาม" แนวรุกสมุทรปราการซิตี้ กล่าว

    แฟนๆ อย่าเพิ่งกาชื่อของพวกเขาออกจากลิสต์ลุ้นแชมป์ และตั๋วเอซีแอล กับเวลาที่เหลือ ยังพอมีให้พวกเขางัดศักยภาพที่เคยทำได้เมื่อปีที่แล้ว ออกมาใช้งาน ซึ่งถ้าหากทำได้พีคๆ เหมือนครั้งก่อน บอกเลยว่า "เขี้ยวสมุทร" ทีมนี้หยุดยาก!

ธีรศิลป์ยิงได้! เช็คคะแนนแข้งไทยจากสื่อญี่ปุ่น

เว็บไซต์ ชื่อดัง soccerdigestweb ให้คะแนนของผู้เล่นไทยในศึกเจลีกในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีแข้งไทยได้รับโอกาสลงสนามทั้ง3 คน แต่ต้นสังกัดของทุกคนไร้แต้มติดมือ

"มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าชิมิสึ เอส พัลส์ ที่ลงสนามเป็นตัวสำรองในนาที 76 ในเกมพ่าย คาชิม่า แอนท์เลอร์ส 1-2 โดยเจ้าตัวยิงประตูหลังจากลงสนามได้เพียง 3 นาที ได้ 6.5 คะแนน พร้อมคำอธิบายว่า "สามนาทีหลังจากลงสนาม เขาทำประตูด้วยสัมผัสแรกที่ชำนาญและยิงเข้ามุม เป็นเวลานานแล้วที่เขายิงไม่ได้ แต่เขาใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มีค่อนข้างจำกัด และทำประตูได้"

"เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นตัวจริงในรอบ3เกมให้กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ก่อนถูกเปลี่ยนออกนาที 64 ในเกมเปิดบ้านพ่าย อูราวะ เรดส์ ไดมอนส์ 3-4  ได้ 6 คะแนน พร้อมคำอธิบายว่า "จะพูดได้ว่า มีการพัฒนาขึ้นหลังจากพักรักษาตัวเอง และการพาบอลแทรกผ่านผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามทำได้ดี แต่เป็นเกมที่ทีมพ่ายแพ้"

"อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส และเล่นเต็มเกมในนัดโดน เซเรโซ โอซาก้า บุกยิงคาบ้าน 2-1 ได้  5.5 คะแนน พร้อมคำอธิบายว่า "มีทำเกมบุกโจมตีคู่แข่งอยู่เรื่อยๆแต่ตอนท้ายเกมไม่สามารถสกัดการบุกของซากาโมโตะได้ จนนำมาสู่การเสียประตู"

สื่อญี่ปุ่นตัดเกรด!เช็คคะแนนแข้งไทยนัดกลางสัปดาห์

เว็บไซต์ ชื่อดังอย่าง soccerdigestweb ได้มีการออกมาให้คะแนนของผู้เล่นไทยในศึกเจลีกในนัดกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนักเตะไทยได้รับโอกาสลงสนามสองคน
    "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าชิมิสึ เอส พัลส์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที75 เกมบุกเยือน โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ก่อนพ่ายไป 0-3 ได้ 5 คะแนน พร้อมคำอธิบายว่า "ในเกมแดนหน้า เป็นเรื่องยากที่จะทำประตูได้หลังมีการสร้างเกมบุกได้เป็นครั้งคราวไม่ต่อเนื่อง"

    ขณะที่ "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริงกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร นัดบุกชนะ ซางัน โทสุ 2-0 เกมนี้ ชนาธิป เล่นได้เพียง45 นาทีแรกเท่านั้น ได้ 6 คะแนน พร้อมคำอธิบายว่า "แสดงพลังขับเคลื่อนบอลไปด้านหน้าและเข้าโจมตีทีมคู่ต่อสู้ ดูเหมือนว่าเขาจะเจ็บขาในช่วงกลางครึ่งแรก ดังนั้นเขาจึงมีส่วนร่วมในครึ่งแรกเท่านั้น"

 

เปิดรายได้ เจ,อุ้ม, มุ้ย รับอู้ฟู่ในเจลีก งานนี้ “เจ” น้อยสุด

 เว็บไซต์ soccer-money.net  ของญี่ปุ่นออกมานำเสนอข้อมูลเงินเดือนนักเตะในศึกฟุตบอลเจลีก 1 ฤดูกาล 2020 จำนวน 566 ราย  จาก 18 สโมสร ที่ลงทะเบียนในช่วงเลกแรกที่ผ่านมา โดยนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยต่อปีสูงสุดอย่างที่ราบคือทางด้านของ อันเดรส อิเนียสต้า กองดีกรีทีมชาติสเปนของสโมสรฟุตบอลวิสเซิล โกเบ รับค่าเหนื่อยปีละ 3,250 ล้านเยน(ประมาณ 950 ล้านบาท)
    ค่าเฉลี่ยอายุผู้เล่นเจลีกช่วงเลกแรก อยู่ที่ 26.78 ปี เงินเดือนเฉลี่ยทั้งลีกอยู่ที่ 34.46 ล้านเยน (ประมาณ 10.07ล้านบาท) ต่อปีต่อคน  โดยเวบไซต์ดังกล่าวได้เปิดข้อมูลตัวเลขของนักเตะไทย 3 รายในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล 2020 ประกอบไปด้วยข้อมูลของ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรทร บุญมาทัน และ ธีรศิลป์ แดงดา ถึงอัตราค่าเหนื่อยต่อปีในหมวดหมู่ของผู้เล่นเจลีก 566 รายล็อตแรกตามสัญญาที่ระบุไว้ในช้อมูลการว่าจ้าง

    โดย "อุ้ม" ”ธีรทร บุญมาทัน รับค่าเหนื่อยจากโยโกฮาม่า เอฟ มารีนอส ปีละ 50 ล้านเยน (ประมาณ 14.6 ล้านบาทเศษ) เท่ากับ ธีรศิลป์ แดงดา ของชิมิสึ เอส พัลส์  ที่รับค่าเหนื่อย 50 ล้านเยน ต่อปีเช่นกัน ซึ่งทั้งคู่รับเงินเดือนในเลตอันดับที่ 88 ร่วมของเจลีก ส่วน ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เป็นดาวเด่นของ คอนซาโดเล ซัปโปโร รับค่าเหนื่อยปีละ 40 ล้านเยน (ประมาณ 11.68 ล้านบาทเศษ)

    ค่าจ้างต่อปีที่สโมสรจ่ายให้นักเตะไทยทั้ง 3 ราย หากคำนวณรายรับเป็นรายเดือน ธีรทร บุญมาทัน รับเดือนละ  1.22 ล้านบาท  ธีรศิลป์ แดงดา รับเดือนละ 1.22 ล้านบาท และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ รับเดือนละ 9.74 แสนบาท เงินก้อนดังกล่าวไม่รวมโบนัสแมตซ์ชนะและเงินพิเศษอื่นๆ

    ที่มาแหล่งข้อมูล: https://www.soccer-money.net/players/in_players.php

 

“ชนาธิป”เผยจังหวะพลาดจุดโทษ-ปลื้มเกมรับทีมดีขึ้น

"เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เผยพอใจภาพรวมเกมทีมที่ เปิดบ้านเสมอกับ นาโกย่า แกรมปัส ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ส่วนลูกโทษที่ลูคัส เฟอร์นานเดส ยิงพลาดนั้น ถือว่าเป็นเกมฟุตบอลเป็นวินาทีแห่งการตัดสินใจ หลังจากนี้ทุกคนต้องมาโฟกัสที่ผลงานทีมกันใหม่ เราทุกคนต้องทำงานร่วมกัน
     ควันหลงเกมเจลีกคู่ระหว่าง คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ที่สนามซัปโปโร โดม เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา เปิดบ้านเสมอ นาโกย่า แกรมปัส 0-0 ซึ่งเกมนี้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ได้จุดโทษนาทีสุดท้ายแต่ ลูคัส เฟอร์นานเดส  ยิงไม่เข้าทำให้ได้เพียงแต้มเดียวเท่านั้น

    หลังจบเกมทาง "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์  ที่ลงเป็นตัวจริงในเกมนี้ได้เผยว่า "จริงๆทีมมั่นใจในจุดโทษเพราะ ลูคัส เฟอร์นานเดส  ก็ซ้อมมา พอมาในสนามวินาทีนั้นมันมีเข้ากับไม่เข้า แต่สุดท้ายมันก็จบไปแล้วไม่เป็นไร เกมนี้พวกเราเล่นได้ดีขึ้น เกมรับแน่นขึ้นและทุกคนเล่นดุดันทำให้สนุกกับเกมนี้เป็นอย่างมาก"

    ชนาธิป กล่าวถึงเกมต่อไปที่จะเจอกับ มารินอส ในศึกลูวานคัพว่า "การเจอ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส นั้นยากอยู่แล้วปีนี้เล่นในบ้านชนะเขาได้แต่พอไปเยือนแพ้เขา แต่การที่เล่นในบ้านหวังว่าทีมจะชนะแล้วผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้"

สื่อญี่ปุ่นตัดเกรด! เช็คผลงานแข้งไทยในเจลีกนัด12

เว็บไซต์ชื่อดังอย่าง  soccerdigestweb ได้ให้คะแนนของผู้เล่นไทยในศึกเจลีกในนัดที่ 12 โดยสัปดาห์นี้มีผู้เล่นจากประเทศไทยลงสนามเพียง 2 คนเท่านั้น
    ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าชิมิสึ เอส พัลล์ ลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 69 นัดเมื่อวันเสาร์ที่เปิดบ้าน ไอเอไอ สเตเดียม พ่ายต่อ โยโกฮาม่า เอฟซี 2-3 ได้ 5.5 คะแนน พร้อมคำอธิบายว่า เมื่อเขาได้บอลตรงหน้า มักจะมีโอกาสตัดสินใจในการทำประตู แต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้

    ส่วนทางด้าน ธีราทร บุญมาทัน กลับมายึดตัวจริงอีกครั้งหลังได้พักในนัดที่แล้ว โดยนัดนี้ ธีราทร จัดไปหนึ่งแอสซิสต์ช่วยให้ทีมแชมป์เก่าโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เก็บชัยชนะเหนือ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า 3-1 ได้ 6 คะแนน พร้อมคำอธิบายว่า แม้จะมีความผิดพลาดจากการทำฟาวล์โดยที่ไม่จำเป็นจนนำไปสู่การเสียประตู แต่เขาสามารถแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตู จากลูกครอสที่ยอดเยี่ยม

 

สื่อญี่ปุ่นตัดเกรด! เช็คผลงานแข้งไทยในเจลีกนัด11

เว็บไซต์ ชื่อดังอย่าง soccerdigestweb ให้คะแนนของผู้เล่นไทยในศึกเจลีกในนัดที่ 11 โดยสัปดาห์นี้มีผู้เล่นจากประเทศไทยลงสนามเพียง 2 คนเท่านั้น

    ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าชิมิสึ เอส พัลล์ ลงสนามเป็นตัวสำรอง นาทีที่ 88 นัดทำศีกไทยดาร์บี้พ่าย โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ที่ไร้ชื่อของ ธีราทร บุญมาทัน 3-4 ไม่มีคะแนน พร้อมคำอธิบายว่า เป็นการแข่งขันหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของแฟนฟุตบอลในประเทศไทย แม้ว่าเวลาในการลงสนามของเขาจะมีเพียงไม่กี่นาที แต่ก็ตอบสนองความคาดหวังของคนไทยได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่ได้สามคะแนนก็ตาม

    ด้าน ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงเป็นตัวจริงแถมบู๊90 นาทีเต็ม ช่วยให้คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เปิดบ้านไล่ตามตีเสมอ ทรินิตะ โออิตะ 1-1 ได้ 6 คะแนน พร้อมคำอธิบายว่า มีโอกาสยิงประตูคู่ต่อสู้ แต่ยังไม่ดีพอ ด้านการเลี้ยงบอลก็ไม่ได้หวือหวามากนัก แต่เปลี่ยนบอลจากรับเป็นเกมรุกก็ยังทำได้แน่นอนอยู่