น้ำตาล เผยมุมน่ารักของ ไผ่ รัก 8 ปี แง้มสเต็ปชีวิตคู่ รอแฟนบวชทดแทนคุณพ่อแม่

น้ำตาล เผยมุมน่ารักของ ไผ่ รัก 8 ปี แง้มสเต็ปชีวิตคู่ รอแฟนบวชทดแทนคุณพ่อแม่

ผ่านอาถรรพ์รัก 7 ปี มาได้แล้ว ย่างเข้าสู่ปีที่ 8 แบบสวยๆ สำหรับคู่รักนางเอก น้ำตาล พิจักขณา กับแฟนหนุ่ม ไผ่ พาทิศ เรียกว่าเป็นความรักไม่หวือหวาแต่มั่นคง ล่าสุด น้ำตาล เปิดใจในงานบวงสรวง ละคร สายลับลิปกลอส ถึงสเต็ปชีวิตคู่

วันเกิดปีนี้วางแผนว่ายังไงบ้าง ?
"ตอนนี้น่าจะต้องให้คิวละครเป็นหลักก่อนค่ะ แต่หลังจบละครก็คงได้ไปเที่ยวกัน อีกอย่างปีนี้น้ำตาลก็ไม่น่าจะจัดงานอะไรด้วย น่าจะเป็นการไปเที่ยวมากกว่า เพราะว่าตั้งแต่หลัง โควิด-19 เรายังไม่ได้ไปเที่ยยวเลย"

นานๆ ทีจะได้ออกไปเที่ยวแบบนี้ ต้องเป็นทริปสวีตเลยไหม ?
"ไม่สวีตค่ะ ไปกันหลายคน แถมตอนนี้พี่ไผ่เขาก็ติดน้องหมามากเลยด้วย เขามีสาวใหม่ ติดสาวค่ะ สาวน้อย เวลาไปไหนมาไหนก็จะต้องขอให้เอาน้องหมาไปด้วยตลอด"

น้อยใจไหมอยู่ดีๆ แฟนเราก็ปันใจให้กับน้องหมา ?
"ไม่สิ น้องน่ารัก (ยิ้ม) แต่จริงๆ ก็ดีนะคะเหมือนเราได้เห็นอีกมุมของเขา ได้เห็นว่าผู้ชายแมนๆ แบบเขาพอมีน้องหมาเข้ามาในชีวิต เขาถึงกับเปลี่ยนแปลงตัวเองไปได้ขนาดนี้เลย"

เขายังมีเวลาให้เราเท่าเดิมไหม ตั้งแต่ได้น้องมาดูแล ?
"เป็นตัวน้ำตาลมากกว่าค่ะที่มีเวลาให้เขาน้อยลง เพราะตั้งแต่เริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง น้ำตาลก็ต้องไปถ่ายงานในต่างจังหวัดเป็นเดือนๆ เลย แถมพอกลับมาถึงกรุงเทพปุ๊บละครก็เปิดกล้องอีก นี่เดี๋ยวก็ต้องถ่ายกันอีกยาวเลยค่ะ"

แต่ก่อนหน้านี้เห็นว่าเราสองคนก็เพิ่งจะไปเที่ยวปราณบุรีด้วยใช่ไหม ?
"ใช่ค่ะ ไปถ่ายรายการ ไปทำช่องนู่นนั่นนี่ ยังมีบ้างกรุบๆ (หัวเราะ)"

เพราะไปเที่ยวทะเลบ่อยจนถูกแซวว่าเป็น คู่รักภาคพื้นที่ทะเล เราพอจะทราบไหม ?
"พี่ไผ่เขาชอบค่ะ เขาชอบกิจกรรมทางน้ำ ส่วนน้ำตาลเองก็ไปได้บ้างตามโอกาส เพราะโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ผิวไวต่อแสง ผิวคล้ำง่าย ก็คือเขาชอบทะเล ส่วนเราชอบภูเขา"

แสดงว่าหลายๆ ทริปที่ผ่านมาเป็นทริปตามใจเขา ?

คบกันมานานแค่ไหนแล้วสำหรับเราสองคน ?
"เข้าปีที่ 8 แล้วค่ะ แต่ถามว่าได้คิดถึงอนาคตบ้างมั้ย เอ่อ…มีบ้างค่ะ มีคุยกันคร่าวๆ ว่าแต่ละขั้นตอนจะเป็นยังไงต่อไป แต่ไม่ใช่ใกล้ๆ นี้แน่นอนค่ะ"

ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายทราบไหมว่าเราได้มีการพูดคุยกันไว้บ้างแล้ว ?
"ยังไม่ถึงขั้นที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคุยกันค่ะ แต่ด้วยความที่เราสองคนคบกันมาค่อนข้างนาน สเต็ปชีวิตต่อไปมันก็จะต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่ที่เราคุยกันมันเป็นแค่การคุยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปเฉยๆ อย่างเช่นน้ำตาลก็ยังแฮปปี้กับการทำธุรกิจ การถ่ายละคร ส่วนพี่ไผ่เขาก็ยังมีความต้องการที่จะบวชให้คุณพ่อคุณแม่ ยังอยากทำงานก่อน คือมันเป็นการพูดคุยกันปกติทั่วไปค่ะ"

มีกำหนดเวลาคร่าวๆ ไหมว่าเมื่อไหร่ถึงจะเหมาะสม ?
"ไม่น่าจะใช่ช่วงเวลาใกล้ๆ นี้หรอกค่ะ น่าจะต้องอายุเลย 30 ไปอีก เราอยากทำชีวิตของเราให้มั่นคงกว่านี้ก่อนค่ะ"

คู่เราผ่าน 7 ปีอาถรรพ์ มาได้อย่างไร มีปัญหาเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า ?
"ง่ายมากเลยค่ะ คือก่อนหน้านี้ที่เราเคยมีปัญหากันและห่างกันไปสักระยะ ช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่เรารู้สึกว่าเราเองก็ปรับจูนกันค่อนข้างเยอะแล้ว ดังนั้นถ้ามันไม่ได้มีปัญหาอะไรนอกเหนือจากที่เคยเกิดขึ้น เราก็คิดว่าเราน่าจะไปต่อด้วยกันได้ อีกอย่างตอนนี้พอเรามีเรื่องธุรกิจ มีเรื่องของน้องหมาเข้ามา คือมันมีเรื่องให้เราพูดคุยกันมากกว่าแค่เรื่องของเราสองคน เราก็เลยยิ่งไม่ทะเลาะกันค่ะ"

แต่ตอนแรกก็ดูเรากังวลเรื่องอาถรรพ์ 7 ปีอยู่นะ ?
"กังวลค่ะ เพราะตอนแรกที่รู้จักกันเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ อย่างที่คนบอกว่า ‘คนที่ติสต์ เขาจะติสต์จริงๆ’ ตอนนั้นหนูก็ยังสงสัยนะคะว่ามันจะขนาดไหน แต่อย่างที่ทราบเนอะเขาเองก็เคยหายเข้าป่าไปเป็นเดือนๆ จนสุดท้ายเราทั้งคู่ต้องมานั่งปรับจูนความคิดกัน และต่างฝ่ายต่างก็เข้าใจได้ว่ามันควรจะต้องประมาณไหนค่ะ"

เห็นว่าตัวเราเองก็แอบใช้วิธีมูเตลูช่วยด้วยจริงไหม ?
"ยอมรับค่ะว่าเป็นคนที่ค่อนข้างเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้ เพราะตอนอายุ 25 ช่วงนั้นก็โดนหนักมากเหมือนกัน คือถ้าทำแล้วมันสบายใจก็อยากจะทำเนอะ แต่ส่วนใหญ่จะโดนดุค่ะเพราะไปหลายสายเหลือเกิน ตรงไหนดีเราก็ไป ใครบอกว่าดีเราก็ไป (หัวเราะ)"

ใกล้วันเกิดแล้วเห็นพี่ไผ่เขาโพสต์ว่า อยากได้อะไรก็บอกจะพาไปซื้อ ?
"แต่เขามีประโยคสุดท้ายไงคะว่าเขาจะรออยู่ที่รถ คือถ้าเขาให้บัตรมาอันนี้แฮปปี้ ให้เขารออยู่ที่รถได้เลย เอาบัตรกับรหัสมาก็พอ (หัวเราะ)"

ปกติเวลาเขาให้ของขวัญวันเกิด เขาจะให้ยังไง มีเซอร์ไพรส์หรือเปล่า ?
"เขาเคยเซอร์ไพรส์เยอะมากค่ะ แต่ก็อย่างที่บอก มัน 8 ปีแล้ว ตัวเขาเองก็น่าจะหมดมุขแล้วเหมือนกัน ดังนั้นมันก็อาจจะเป็นเหตุผลที่เขาบอกว่าอะไรที่อยากได้จริงๆ เขาก็จะพาไปซื้อ ส่วนเราก็ได้แต่ถามเขาว่าไหวหรือเปล่า (ยิ้ม) แซวค่ะ แซว เก็บเงินไว้ดีกว่าค่ะ ยุคนี้ต้องประหยัด"

ตั้งใจเก็บเงินไ

ว้เพื่องานแต่งเลยใช่ไหม ?
"ยังค่ะ ยังไม่แต่ง"

หลังจากที่โพสต์ข้อความแล้ว ไผ่เขาได้บอกไหมว่าเขาจะให้วงเงินเราเท่าไหร่ ?
"ยังไม่เห็นมีงบอะไรมานะคะ เขาน่าจะแซวมากกว่า อารมณ์ประมาณโยนหินถามทาง เขาคงอยากรู้แหละว่าเราอยากได้อะไร"

จริงๆ เป็นเพราะเขาอยากอ้อนเราผ่านโซเชียล ด้วยหรือเปล่า ?
"อาจจะมีบ้างค่ะ เพราะช่วงหลังมานี้ น้ำตาลก็บ่นบ่อยเหมือนกันว่าเดี๋ยวนี้เขาถ่ายแต่รูปน้องหมา ไม่ถ่ายรูปเราบ้างเลย แต่ไม่ได้อิจฉาน้องหมานะคะ (หัวเราะ)"

เฟรม วรณัน รับ เมฆ จิรกิตติ์ ตรงสเป๊ก ทัศนคติดี ลั่น ยังโสด! ไม่ใช่มือที่สาม

เฟรม วรณัน รับ เมฆ จิรกิตติ์ ตรงสเป๊ก ทัศนคติดี ลั่น ยังโสด! ไม่ใช่มือที่สาม


เฟรม วรณัน รับ เมฆ จิรกิตติ์ ตรงสเป๊ก – เคลียร์ข่าวเม้าธ์กันให้แซดเรื่องมือที่สาม สำหรับ เฟรม วรณัน นลัทวรสกุล เจ้าของฉายานางฟ้าเกณฑ์ทหาร ได้ให้สัมภาษณ์ในงาน บวงสรวงซีรีส์ "เสน่หาสตอรี่" ซีซั่น 3 ณ สตูดิโอ 1 บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด(มหาชน) เปิดใจถึงภาพหลุดกับเมฆ จิรกิตติ์ ที่ชาวเน็ตจับตามองกันว่าสองคนนี้ ซุ่มปลูกต้นรักกันหรือเปล่า หลังฝ่ายชายบอกว่าความรักไม่ปิดกั้นเรื่องเพศ หรือ กลุ่ม LGBT

มีข่าวออกมาว่าไปเป็นมือที่สาม?

"เป็นมือที่สาม หนูว่าไม่ใช่นะคะ ตอนนั้นหนูกับพี่เขาไม่ได้เป็นอะไรกันเลย ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เป็น คิดว่าน่าจะไม่ได้เกี่ยวกับหนูนะคะ "

หลายคนบอกสวีตกันมาก?

"ไม่ค่ะ ไม่มีอะไรตอนนั้นแค่ไปกินข้าวแล้วก็ไปช้อปปิ้งเฉยๆ แล้วมันแบบจังหวะจับมือใช่ไหม(ยิ้ม)"

จริงๆเรารู้จักกันไหม?

"ก็เป็นคนรู้จักกันเฉยๆค่ะ ไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น"

พี่น้องกัน?

"พี่น้องกันค่ะ ปรึกษากันได้ ก็คุยกันบ้าง"

คนเชียร์ว่าเมฆไม่ได้ปิดกั้นเรื่องเพศ?

"อันนี้ต้องถามพี่เขาแล้วล่ะค่ะ"

มีหยอกๆจีบๆไหม?

"หยอกๆไหมหรอ ไม่ได้รู้สึกขนาดนั้นนะคะว่าเขาหยอกอะไรแบบเนี่ย"

เขามีหวานๆบ้างไหม?

"ก็มีหวานๆค่ะ เขาเป็นคนเฟรนด์ลี่"

พอมีข่าวเหมือนเขาเข้ามาเทคแคร์เรา มีการพูดคุยยังไงบ้าง?

"ก็คุยนะคะมีการอินบ็อกมา ขอโทษที่ทำให้เป็นเรื่องแบบนี้ค่ะ ก็ไม่มีอะไรค่ะ"

ภาพลักษณ์ที่หลุดออกไปเราจะรู้ไหมว่าใครเป็นคนถ่าย?

"อืม…ไม่รู้เลยค่ะ ไม่ทราบว่าเขาถ่ายยังไงด้วย"

ซีเรียสไหมเมื่อเป็นข่าวกันเมฆ?

 

"หนูเองไม่ได้มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว หนูเลยไม่ได้ซีเรียส แค่เป็นห่วงในงานของเขาด้วยแล้วก็คนรอบข้างของเขาด้วยหนูก็ไม่อยากให้เขามีภาพลบ แบบไปเสิร์ชชื่อเขาแล้วเจอข่าวนี้ หนูก็ไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดีด้วย "

มีแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์บ้างไหม?

"ก็มีค่ะ มีทั้งดีและไม่ดี แต่เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรค่ะ "

มีงานด้วยกันไหม?

"อ๋อ…ก็ได้ไปถ่ายงานด้วยกันค่ะล่าสุด"

หลายคนบอกว่าเราสร้างกระแสหรือเปล่า เหมือนเริ่มมีงานในวงการบันเทิง?

"ไม่น่าจะเกี่ยวนะคะ เพราะงานนี้เพิ่งคอนเฟิร์มหลังจากข่าวออกมาได้ไม่นานเท่าไหร่ ไม่เกี่ยว ไม่ได้สร้างกระแส แล้วหนูก็ไม่อยากเป็นกระแสเรื่องนี้อยู่แล้ว"

สถานะตอนนี้เป็นยังไง?

"โสดค่ะ ยังโสดค่ะ"

พอมีข่าวแบบนี้เรารู้สึกยังไงบ้าง?

"ประทับใจที่เขาตอบดี ซึ่งทำให้เขามีฟีดแบ็กที่ดี ตอนแรกหนูกลัวมันจะแย่ กลัวมันแบบไม่ดีอย่างนี้ "

ส่วนตัวเรารู้สึกยังไงกับเมฆ จะพัฒนาไหม?

"อันนี้หนูไม่รู้เหมือนกันว่าหนูจะตอบยังไง เป็นเรื่องของอนาคต ถ้าเกิดมันคลิกกันก็ค่อยว่ากันค่ะ"

คุยส่วนตัวกันแค่ไหน?

"ก็มีนะคะ เพราะมีงานด้วยกันล่าสุดด้วย"

ถ้าเขาจีบก็ไม่ติดใช่ไหม?

"อุ้ย…หนูต้องติดอะไรด้วยหรอคะ(ยิ้ม) หนูเปิดใจ หนูเปิดใจอยู่แล้วค่ะ เพราะตอนนี้หนูไม่ได้มีใคร ก็ให้โอกาสทุกคนแหละค่ะ"

เป็นผู้ชายในสเป๊กไหม?

"ในระดับนึงนะคะ เพราะว่าเขาก็เป็นคนนึงที่ทัศนคติดีมาก พี่เขาน่ารักมาก"

 

“สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล”ตำนานสาวหล่อแห่งวงการยัดห่วงไทย

แฟนกีฬาชาวไทยอาจจะเคยเห็นปรากฏการณ์สนามแตกมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยื่งกับการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยในหลายๆแมตช์, วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยในหลายๆครั้ง และการชกของ เขาทราย แกแล็คซี่ อดีตแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่ในหลายๆไฟต์ ซึ่งปรากฏการณ์สนามแตก ที่มีแฟนกีฬาแห่เข้าไปชมจนล้นสนามนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ นอกจากจะเกิดกระแสฟีเวอร์หรือความนิยมต่อกีฬาชนิดนั้นจริงๆ
   อย่างไรก็ตาม ครั้งหนึ่งเคยเกิดปรากฏการณ์สนามแตกมาแล้ว กับการแข่งขันบาสเกตบอลหญิง ในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 18 ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพ เมื่อช่วงปลายปี 2538 ซึ่งน่าจะเป็นครั้งเดียวในประวัติศาสตร์วงการยัดห่วงไทย ที่มีแฟนกีฬาแห่เข้าไปชมบาสเกตบอลหญิงจนล้นสนาม

    และปฏิเสธไม่ได้ว่า นักกีฬาผู้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำให้เกิดกระแสฟีเวอร์ จนทำให้แฟนกีฬาต้องแย่งกันซื้อตั๋วเพื่อเข้ามาเชียร์ทีมบาสเกตบอลสาวไทยในซีเกมส์ครั้งดังกล่าว จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก "แว่น" สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล ตำนานสาวหล่อแห่งวงการยัดห่วงไทย

    แม้จะเกิดเป็นหญิง แต่จากการมีรูปร่างหน้าตาหล่อสมาร์ทโดนใจ ละม้ายคล้ายกับ ศรราม เทพพิทักษ์ พระเอกเบอร์ 1 แห่งวงการบันเทิงในยุคนั้น จึงทำให้เธอคนนี้ ได้รับการขนานนามจากสื่อมวลชนว่า "สาวหล่อ" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา อีกทั้งสื่อบางสำนัก ยังตั้งฉายาให้เธอว่า "ศรราม 2" อีกด้วย

    นอกจากรูปร่างหน้าตาจะหล่อโดนใจสาวๆทั้งประเทศแล้ว ด้วยความสามารถอันโดดเด่นในตำแหน่งพอยท์การ์ด ที่ไม่ได้เป็น 2 รองใคร จึงทำให้ สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล เป็นตัวหลักให้กับทีมบาสเกตบอลหญิงทีมชาติไทยมาตลอด 9 ปีที่รับใช้ชาติ ก่อนที่ชื่อของเธอ จะกลายตำนานที่ยังอยู่ในใจของแฟนกีฬาชาวไทยทั้งประเทศตลอดมา

    ย้อนกลับไปในอดีต ตำนานสาวหล่อแห่งวงการยัดห่วงไทยรายนี้ ไม่ได้ตั้งใจที่จะเล่นบาสเกตบอลตั้งแต่แรกแต่อย่างใด โดยคุณพ่อและคุณแม่ สนับสนุนให้ลูกสาวคนนี้เล่นกีฬาชนิดใดก็ได้ เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

    จนกระทั่งอายุ 12 ขวบ เส้นทางชีวิตได้มาบรรจบกับเกมกีฬายัดห่วงจนได้ เมื่อโรงเรียนวัดน้อยนพคุณ สถานศึกษาของเธอในเวลานั้น มีแผนการที่จะสร้างทีมบาสเกตบอลหญิงขึ้นมา โดยมี อาจารย์พงษ์ศักดิ์ แก้วใจดี เป็นเฮดโค้ช ก่อนที่อาจารย์ท่านนี้ จะทาบทามให้ ด.ญ.สิริรัตน์ เข้ามาเป็นนักบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียน

    นับจากนั้น สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล ได้เป็นนักบาสเกตบอลหญิงตัวหลักให้กับโรงเรียนวัดน้อยนพคุณมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับลงแข่งขันหลายรายการ อาทิ รายการของกรมพลศึกษา, รายการของกรุงเทพมหานคร, กีฬากองทัพอากาศ, กีฬาเยาวชนแห่งชาติ, กีฬาแห่งชาติ และอีกหลายๆทัวร์นาเมนต์ โดยยึดแบบอย่างจาก ไมเคิ่ล จอร์แดน ซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 แห่งวงการยัดห่วงเอ็นบีเอในขณะนั้นเป็นไอดอล

     สำหรับจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ชีวิตของเธอ ได้ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทย ได้เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 10 ที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อปี 2537 ในครั้งนั้น สิริรัตน์ เป็นตัวแทนของทีมยัดห่วงเขต 10 กรุงเทพมหานคร

 

    แม้จะได้เพียงรองแชมป์ ทว่าจากการโชว์ฟอร์มที่โดดเด่นเหนือกว่าผู้เล่นคนอื่น จึงทำให้เธอคว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์มาครอง ก่อนจะได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 8 นักกีฬาเยาวชนไทย ให้ได้รับโอกาสอันล้ำค่า กับการไปทัศนศึกษาดูงาน ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 12 ที่นครฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ภายในปีเดียวกัน

    ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมจากการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งดังกล่าว ได้ทำให้ชื่อของ สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ในปีต่อมา หรือปี 2538 ด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น

    สำหรับทัวร์นาเมนต์แรกที่ลงแข่งขันในนามทีมชาติก็คือ ศึกชิงแชมป์เอเชีย 1995 ซึ่งเป็นระดับดิวิชั่น 2 ที่เมืองชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2538 โดยเธอและเพื่อนร่วมทีม ผนึกกำลังพาทีมยัดห่วงสาวไทยคว้าแชมป์มาครอง และได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ

    จากนั้นในช่วงปลายปีเดียวกัน อีก 1 จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในชีวิตได้มาถึง ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 18 ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพ เมื่อ สิริรัตน์ ได้ฉายแววความเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 แห่งวงการยัดห่วงหญิงไทยในเวลานั้น กับการเป็นนักกีฬาที่มีแฟนคลับคลั่งไคล้มากที่สุดคนหนึ่งในซีเกมส์ครั้งดังกล่าว จนเกิดปรากฏการณ์สนามแตกทุกแมตช์ที่ทีมยัดห่วงสาวไทยลงแข่งขัน เนื่องจากแฟนกีฬาต่างแย่งกันซื้อตั๋วเพื่อเข้ามาชม “สาวหล่อ” ในสนาม เมื่อยามที่เธอได้บอลแต่ละครั้ง เสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ดังกึกก้องไปทั่วโรงยิมทุกครั้งเลยทีเดียว

    ด้วยแรงเชียร์ที่ล้นหลาม กลายเป็นกำลังใจที่สำคัญ ในการทำให้ทีมบาสเกตบอลหญิงไทยคว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 18 ได้สำเร็จ พร้อมกับพลิกชีวิตให้ สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล เปลี่ยนจากนักกีฬาธรรมดา กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศไปในทันที
 
    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคนรู้จักมากขึ้นแต่ซูเปอร์สตาร์ยัดห่วงสาวรายนี้ ยังใช้ชีวิตแบบสมถะเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ยังคงนั่งรถเมล์ไปเรียนมหาวิทยาลัยเป็นประจำ พอเจอแฟนคลับทักทายก็ยิ้มและพูดคุยแบบเป็นกันเองทุกครั้ง โดยไม่ถือตัวเลยแม้แต่น้อย

    หลังจากนั้น สิริรัตน์ ได้เล่นบาสเกตบอลให้กับทีมชาติไทยอีก 9 ปี ก่อนจะประกาศเลิกเล่นหลังจบศึกชิงแชมป์เอเชีย 2004 ที่เมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2547 ด้วยวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น

    เธอได้กล่าวถึงการตัดสินใจหันหลังให้กับกีฬาที่เธอรักว่า ในช่วงนั้นนอกจากจะต้องซ้อมบาสเป็นประจำแล้ว ยังต้องเรียนปริญญาโท อีกทั้งยังต้องทำงานประจำ กับการเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ผลิตรายการและละครทางโทรทัศน์ควบคู่กันไปด้วย หลังจากนั้น ตำนานสาวหล่อแห่งวงการยัดห่วงไทย ได้ทำงานที่เธอรักกับการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการผลิตรายการและละครทางทีวีมาโดยตลอด

    เธอได้กล่าวว่า จากการที่เป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงและหน้าตาดี จึงทำให้ช่วงที่ทำงานตอนแรก ครีเอทีฟเคยให้เธอทดลองเป็นนักแสดงหน้ากล้องเช่นกัน แต่ด้วยความเขินกล้อง และไม่ถนัดกับการแสดง จึงเลือกที่จะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังมากกว่า

    สำหรับปัจจุบันแม้ สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล จะลาออกจากงานประจำแล้ว เพื่อหันมาทำธุรกิจเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ที่มีชื่อร้านว่า "ก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟ ต้มยำ ไข่ออนเซน By แว่น สาวหล่อ" แต่ก็ยังไม่ทิ้งงานเบื้องหลังผลิตรายการโทรทัศน์ ซึ่งเธอยังเป็นฟรีแลนซ์ช่วยงาน "หม่ำ จ๊กมก" ศิลปินตลกชื่อดัง และยังเป็นผู้จัดการของ "อาร์ม" กรกันต์ สุทธิโกเศศ นักร้องและนักแสดงชื่อดังอีกด้วย

    ด้านร้าน "ก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟ ต้มยำ ไข่ออนเซน By แว่น สาวหล่อ" เพิ่งเปิดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาซึ่ง สิริรัตน์ ได้กล่าวว่า ที่จริงแล้วคุณพ่อกับคุณแม่ขายมาก่อน พอตนเองมาทำก็ได้ปรับปรุงให้รสชาติกลมกล่อมและอร่อยขึ้น โดยร้านตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 99/9 หมู่บ้านไทยสมบูรณ์ 3 ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และได้เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 12.00-20.30 น.

    แฟนกีฬาท่านใด ที่ยังคิดถึงตำนานสาวหล่อแห่งวงการยัดห่วงไทยรายนี้ สามารถไปพบปะและอุดหนุนเธอได้ ตามสถานที่ดังกล่าว หรือติดต่อทางหมายเลขโทรศัพท์ 0648269399 และยังสามารถติดตามรายละเอียดของร้านได้ที่เพจเฟสบุ๊ก "ก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟ ต้มยำ ไข่ออนเซน By แว่น สาวหล่อ" ได้อีก 1 ช่องทาง

 

2020 dota2 Meraki vs Infamous การวิเคราะห์ วันที่ 28 พ.ค.

Meraki ชนะ 1 แพ้ 2 ใน 3 เกมหลัง อัตราชนะ 33%

Infamous ชนะ 13 แพ้ 6 ใน 20 เกมหลัง อัตราชนะ 65% อันดับโลกของพวกเขาเหนือกว่า

ฟันธง Infamous

เว็บผลอีสปอร์ตสดที่เร็วกว่าเว็บทางการ 5 วินาที คลิกเข้าไป https://esports.7mth.com/live/index.html

2020 dota2 EgoBoys vs Sandblood การวิเคราะห์ วันที่ 28 พ.ค.

EgoBoys ชนะ 2 แพ้ 1 ใน 3 เกมหลัง

Sandblood ชนะ 2 แพ้ 4 ใน 8 เกมหลังสุด อัตราชนะมีแค่ 25% แต่อันดับโลกของพวกเขาเหนือกว่า

ฟันธง Sandblood

เว็บผลอีสปอร์ตสดที่เร็วกว่าเว็บทางการ 5 วินาที คลิกเข้าไป https://esports.7mth.com/live/index.html

2020 dota2 EgoBoys vs Sandblood ทีเด็ดอีสปอร์ต วันที่ 28 พ.ค.

EgoBoys ชนะ 2 แพ้ 1 ใน 3 เกมหลัง

Sandblood ชนะ 2 แพ้ 4 ใน 8 เกมหลังสุด อัตราชนะมีแค่ 25% แต่อันดับโลกของพวกเขาเหนือกว่า

ฟันธง Sandblood

เว็บผลอีสปอร์ตสดที่เร็วกว่าเว็บทางการ 5 วินาที คลิกเข้าไป https://esports.7mth.com/live/index.html

2020 dota2 Infamous vs Spirits Esports ทีเด็ดอีสปอร์ต วันที่ 28 พ.ค.

Infamous ชนะ 13 แพ้ 6 ใน 20 เกมหลัง อัตราชนะ 65% อันดับโลกของพวกเขาเหนือกว่า

ฟันธง Infamous

เว็บผลอีสปอร์ตสดที่เร็วกว่าเว็บทางการ 5 วินาที คลิกเข้าไป https://esports.7mth.com/live/index.html

2020 dota2 OG VS Alliance การวิเคราะห์ วันที่ 1 มิ.ย.

OG เสียไป 2 คะแนนรวดใน 3 แมตช์หลัง อัตราชนะน้อยมากสภาพทีมอ่อนแอ
Alliance ชนะ 3 แมตช์ติดต่อกัน แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาแพ้ไป 4 แมตช์ ถือว่ากลับฟอร์มดี อย่างไรก็ตาม ผลงานหลังสุดเหนือกว่า
ฟันธง Alliance
เว็บผลอีสปอร์ตสดที่เร็วกว่าเว็บทางการ 5 วินาที คลิกเข้าไป https://esports.7mth.com/live/index.html

2020 dota Hellraisers VS Team Unique การวิเคาะห์อีสปอร์ต วันที่ 2 มิ.ย.

Hellraisers ชนะ 4 แพ้ 6 จาก 10 เกมหลัง

Team Unique ชนะ 7 แพ้ 3 จาก 10 เกมหลัง แต่พวกเขาเพิ่งแพ้จากเกมหลัง เกมนี้อยากชนะกลับเส้นทางชัยแน่

เข้าข้าง Team Unique ชนะ

เว็บผลอีสปอร์ตสดที่เร็วกว่าเว็บทางการ 5 วินาที คลิกเข้าไป https://esports.7mth.com/live/index.html

2020 dota2 Meraki vs Infamous ทีเด็ดอีสปอร์ต วันที่ 28 พ.ค.

Meraki ชนะ 1 แพ้ 2 ใน 3 เกมหลัง อัตราชนะ 33%

Infamous ชนะ 13 แพ้ 6 ใน 20 เกมหลัง อัตราชนะ 65% อันดับโลกของพวกเขาเหนือกว่า

ฟันธง Infamous

เว็บผลอีสปอร์ตสดที่เร็วกว่าเว็บทางการ 5 วินาที คลิกเข้าไป https://esports.7mth.com/live/index.html