ปืนแม่นซัดหงส์ร่วงกลางอากาศ ! ผ่า 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล พ่ายจุดโทษ อาร์เซน่อล

ลิเวอร์พูล โดน อาร์เซน่อล บุกมาถอนแค้นได้สำเร็จ โดยทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" เอาชนะจุดโทษ "หงส์แดง" 5-4 หลังเสมอกันในเวลา 90 นาที 0-0 ที่สนามแอนฟิลด์ ในศึกคาราบาว คัพ รอบ 4 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดผู้เล่นชุดผสมผสานระหว่างนักเตะมากประสบการณ์, ดาวรุ่ง และแข้งสำรอง โดยแมตช์นี้เจ้าบ้าน และทีมเยือน สร้างโอกาสในการยิงประตูไม่ค่อยมากนัก แต่เกมก็ไม่ได้ดูน่าเบื่อจนเกินไป ที่สำคัญนักเตะดาวรุ่งหลายคนของทั้งสองทีม โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นและมีอนาคตสดใสรออยู่

ขณะที่ ดีโอโก้ โชต้า ดูเหมือนว่าจะปรับตัวเข้ากรับระบบการเล่นของ "เดอะ เร้ดส์" ได้เป็นอย่างดี ขณะที่ ทาคูมิ มินามิโนะ ก็พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของ เนโก วิลเลี่ยมส์ และ รีส วิลเลี่ยมส์ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วน แบร์นด์ เลโน่ นายด่านอาร์เซน่อล ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นและคู่ควรกับคำว่าโกลระดับโลกแล้ว

1. มินามิโนะ ยิ่งเล่นยิ่งพัฒนา

ต้องยอมรับว่าเกมนี้แนวทางการเล่นของ ลิเวอร์พูล ที่เป็นสไตล์เฮฟวี่ เมทัล อย่างที่คอลูกหนังได้เห็นกันเป็นประจำไม่มีให้เห็นเลย แถมจะออกแนวป็อบที่ดูแล้วไม่น่าตื่นเต้นเร้าใจเท่าไหร่ ที่สำคัญโอกาสในการสร้างความหวาดเสียวใส่ อาร์เซน่อล ก็มีน้อยนิดเหลือเกิน

อย่างไรก็ตามหากจะมองหาผู้เล่น "หงส์แดง" ที่ทำผลงานได้น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด และเต็มไปด้วยการเล่นที่มุ่งมั่นนั่นก็คงหนีไม่พ้นฟอร์มของ ทาคุมิ มินามิโนะ โดย ดาวเตะชาวญี่ปุ่น มีส่วนในการเล่นเกมรุกของทีมอย่างมาก และมักจะยืนถูกที่ถูกเวลาเสมอ

มินามิโนะเกือบมีชื่อเป็นผู้ทำประตูอีกครั้ง หลังจากที่ตามซ้ำจังหวะที่ ดีโอโก้ โชต้า โหม่งไปโดน แบร์นด์ เลโน่ ปัดออกมา แต่น่าเสียดายที่ดันแม่นคานไม่งั้นคงทำให้ ลิเวอร์พูล กุมความได้เปรียบทันที และจะช่วยให้ทีมลงมาเล่นครึ่งหลังได้สบายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม   

อย่างไรก็ตามหากมองในแง่บวกเกมนี้ มินามิโนะ สามารถประสานงานกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โชต้า ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะความคล่องตัวและความไวของเขาสร้างความปั่นป่วนให้กับเกมรับ "เดอะ กันเนอร์ส" พอสมควร ฉะนั้น คล็อปป์ คงมองเห็นแล้วว่า ดาวเตะเลือดซามูไร เป็นทีเด็ดทีพร้อมลงสนามช่วยทีมในเกมพรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แน่นอน
    
2.  เลโน่ ฮีโร่ของปืน

 สำหรับเกมนี้ อาร์เซน่อล ทำผลงานได้ดีพอสมควรซึ่งฟอร์มในแมตช์นี้คงทำให้ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม รู้สึกตื่นเต้นสุดๆ กับนักเตะดาวรุ่งที่ได้รับโอกาสลงสนาม ขณะที่ แบร์นด์ เลโน่ นายทวารชาวเยอรมัน แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือโกลระดับโลกของจริง

เกมนี้นายด่านเลือดด๊อยท์ช ยืนตำแหน่งได้ดี มีความนิ่ง และยังรวดเร็วว่องไว โดยเซฟจังหวะสำคัญๆ ในครึ่งแรกช่วงทดเจ็บด้วยการพุ่งปัดลูกโหม่งระยะแค่ 10 หลาของ โชต้า เอาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ ก่อนที่ มินามิโนะ จะตามซ้ำบอลชนคานดังสนั่น

ยังไม่หมดแค่นั้นในครึ่งหลัง เลโน่ โชว์ซูเปอร์เซฟจากจังหวะยิงระยะเผาขนของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ก่อนที่จะทำผลงานเหนียวหนึบอีกครั้งด้วยการป้องกันจังหวะยิงของ โชต้า นอกจากนี้ยังมีจังหวะโชว์นิ่งด้วยการเซฟลูกยิงของ เนโก วิลเลี่ยมส์ ได้อยู่หมัด

ขณะที่ในช่วงดวลจุดโทษตัดสิน เลโน่ ก็แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในการอ่านทางบอลของคู่แข่ง และมีส่วนสำคัญในการนำ อาร์เซน่อล ทะลุเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อเซฟจังหวะการยิงของ ดิว็อค โอริกี้ และ แฮร์รี่ วิลสัน ได้เรียบวุธ ฉะนั้นคงไม่แปลกหากจะยกให้เขาเป็นนักเตะที่ฟอร์มเด่นที่สุดของ "ไอ้ปืนใหญ่" ในเกมนี้

3.  โชต้า ฟอร์มสดสมราคา

แม้ว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล จะจอดป้ายแค่รอบ 4 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ คล็อปป์ น่าจะยังยิ้มได้ก็คือฟอร์มการเล่นของ ดีโอโก้ โชต้า เพราะนักเตะเริ่มปรับตัวกับระบบการเล่นของ "หงส์แดง" ได้แล้ว และผลิตผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ โชต้า เพิ่งจะได้ลงเล่นเปิดตัวในเกมพรีเมียร์ลีกให้กับ ลิเวอร์พูล พร้อมกับโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นแม้จะลงสนามในช่วงท้ายเกมก็ตาม และยังยิงประตูได้ด้วย โดย กุนซือชาวเยอรมัน ตัดสินใจใช้งานเขาอีกครั้งในการเจอกับคู่ต่อกรเดิม และนักเตะก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

โชต้า เล่นได้อย่างโดดเด่นพยายามวิ่งหาตำแหน่ง และหาจังหวะยิงประตูได้พอสมควร ขณะเดียวกันก็ยังใช้ความสามารถเฉพาะตัวป่วนเกมรับของทีมเยือน ที่สำคัญเขามีโอกาสโหม่งจะๆ ในระยะ 10 หลา แต่น่าเสียดายที่ เลโน่ ปฏิกิริยาว่องไว ปัดได้ซะก่อน และยังมีโอกาสอีก 1-2 ครั้งแต่ก็ไม่ผ่านมือ โกลเลือดด๊อยท์ช

ผลงานของเขาในเกมนี้น่าจะเป็นการจุดประกายความหวังที่จะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง แม้ในเวลานี้อาจจะยากที่จะสอดแทรก 3 แนวรุก โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แต่ในอนาคตหากสามคนนี้ทำผลงานไม่คงเส้นคงวา มีสิทธิ์ที่จะโดน โชต้า แย่งตำแหน่งเอาได้ง่ายๆ
   
4. ดับเบิลวิลเลี่ยมส์โชว์ฟอร์มสุดยอด

เนโก วิลเลี่ยมส์ กลับมาตั้งสติและโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในแมตช์นี้ หลังจากที่นักเตะเพิ่งจะโดนแฟนบอล "หงส์แดง" บางรายโจมตีอย่างหนักในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของเขาในช่วงที่ผ่านมา และแมตช์นี้เจ้าตัวพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขามีศักยภาพมากแค่ไหน

วิลเลี่ยมส์ ได้โอกาสลงประจำแบ็กขวาตั้งแต่ต้นเกม และทำผลงานได้โดดเด่นโดยเฉพาะจังหวะการเปิดบอลให้ โชต้า ยิงประตู แต่น่าเสียดายที่ไม่เข้า ในส่วนของเกมรับแมตช์นี้ ดาวเตะเลือดเวลส์ เล่นได้ดีไม่มีที่ติสามารถจัดการกับ บูคาโย่ ซาก้า กับ นิโกล่าส์ เปเป้ ได้อยู่หมัด

โดยจังหวะเกมรับที่โดดเด่นของ วิลเลี่ยมส์ ก็คือการวิ่งเข้ามาสกัดในเขตโทษก่อนที่ ซาก้า จะได้ง้างเท้ายิง ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดและเต็มไปด้วยความมั่นใจของนักเตะ งานนี้ถือว่า วิลเลี่ยมส์ สามารถสอบผ่านเรื่องแรงกดดันได้แล้ว

ขณะที่ รีส วิลเลี่ยมส์ บอกเลยว่าเป็นกำลังเป็นศิษย์รักคนใหม่ของ คล็อปป์ เพราะผลงานของเขาถือว่าแข็งแกร่งอย่างมากในการจับคู่กับ ฟาน ไดค์ ที่สำคัญนักเตะเล่นด้วยความเยือกเย็นทั้งๆ ที่อายุเพียง 19 ปีเท่านั้นแถมจัดการกับลูกโด่งได้ดีเยี่ยม ด้วยสถิติชนะดวลลูกกลางอากาศ 5 หน ซึ่งมากกว่าทุกคนในสนาม    

ฉะนั้น 2 ศรีวิลเลี่ยมส์ ซึ่งไม่ใช่พี่น้องกันแต่นามสกุลเหมือนกัน มีอนาคตสดใสภายใต้การปลุกปั่นของ คล็อปป์ และหากทั้งสองคนยังคงพัฒนาฝีเท้า รวมทั้งสภาพจิตใจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น มีโอกาสที่พวกเขาจะได้ลงเล่นเป็นตัวหลักของทีมในอนาคตแน่นอน
 
5. ขุมกำลังเชิงรุก "หงส์แดง" น่าประทับใจ

หากตัดเรื่องความพ่ายแพ้ออกไป ต้องบอกเลยว่า ลิเวอร์พูล "ทีมสอง" ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมพอสมควร โดยเกมนี้ คล็อปป์ ตั้งใจที่จะใช้ผู้เล่นมากประสบการณ์ผสมผสานกับนักเตะดาวรุ่ง และผู้เล่นสำรอง ซึ่งทีมชุดนี้แสดงให้เห็นศักยภาพที่ใช้ได้เลยทีเดียว

โดยเฉพาะแผงกองกลาง ซึ่ง "เดอะ เร้ดส์" อุดมไปด้วยแข้งประสบการณ์ และมีศักยภาพชั้นยอด แต่งานนี้ คล็อปป์ ตัดสินใจให้โอกาส มาร์โก กรูยิช, แฮร์รี่ วิลสัน และ เคอร์ติส โจนส์ ได้ลงทำหน้าที่ประสานงานร่วมกัน ซึ่งทั้งสามคนก็โชว์ฟอร์มได้ดีไม่ทำให้นายใหญ่แดนไส้กรอกต้องผิดหวัง

ทั้งสามคนสามารถครองบอลได้นิ่ง, คุมพื้นที่ในแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม และยังสามารถกดดันแผนหลังของอาร์เซน่อลได้ตลอด โดยเฉพาะในรายของ กรูยิช ที่พัฒนาฟอร์มการเล่นอย่างต่อเนื่อง โดยเขามีส่วนสำคัญในการเชื่อมเกม และพยายามผ่านบอลเข้าไปในพื้นที่สุดท้าย นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลต่อเกมสูงทั้งรับและรุก สามารถแท็กเกิ้ลชนะถึง 5 ครั้ง พร้อมทั้งมีโอกาสลุ้นทำประตูด้วย

ฉะนั้นด้วยผลงานแบบนี้คงทำให้ คล็อปป์ พร้อมที่จะให้โอกาส กรูยิช ได้พิสูจน์ศักยภาพของตัวเองอีกแน่นอน แต่จะเป็นเกมไหน พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต้องจับตาดูกันต่อไป

 

 

 

 

 

จะเป็นยังไงเมื่อ อลีสซง มาในลุคใหม่

อลีสซง เบ็คเกอร์ จัดการเปลี่ยนทรงผมของตัวเอง ต้อนรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยสร้างความประหลาดใจให้แก่สาวกเดอะ ค็อป เป็นจำนวนมาก

   อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูมาดเท่ของ ลิเวอร์พูล ทำเอาแฟนๆ ตะลึงในทรงผมใหม่ ก่อนเกมที่จะลงสนามในศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ กับ อาร์เซน่อล ในคืนวันเสาร์นี้

    อลีสซง เผยภาพลุคใหม่ของตัวเองให้แฟนๆ ที่ติดตามกว่า 7 ล้านคนใน อินสตาแกรม ของตัวเอง ได้เห็นโดยเป็นการแชร์ภาพจาก แอคเคาท์ของ นาตาเลีย ภรรยาสาว มาลงในไอจีสตอรี่ เป็นรูปผมที่โดนตัดออก แล้วภาพถัดมาเป็นลุคใหม่ผมสั้นสุดเนี้ยบ

    โดย แคปชั่น ของ นาตาลี ใส่สั้นๆ เป็นภาษาโปรตุกีส ว่า "Meu lindo" ซึ่งมีความหมายคือ "ความสวยงามของฉัน"

ริโอชี้ท่าทีโอบาเมย็องเหมือนเตรียมลาอาร์เซน่อล

ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตแนวรับคนดัง กล่าวในรายการลูกหนังว่าการแสดงออกของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง หลังจบเกมนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นเหมือนการจะอำลาทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

    ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กองหน้ากัปตันทีมอาร์เซน่อล เหมาสองประตูพาต้นสังกัดพลิกกลับมาเอาชนะ เชลซี 2-1 ในศึกชิงดำ เอฟเอ คัพ และคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 14 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตามท่ามกลางอนาคตที่ตกเป็นข่าวย้ายออกจากทีมหลังสัญญาใกล้จะหมดลงยังคงไม่แน่นอน

    โดยหลังจบเกมดาวยิงทีมชาติกาบองเองก็เลี่ยงที่จะเอ่ยถึงอนาคต ซึ่งทาง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นกูรู ได้ให้ความเห็นผ่านรายการของ บีที สปอร์ต ว่าลักษณะแบบนี้เป็นเหมือนการที่เจ้าตัวใกล้จะบอกลาทีม

    "มันเหมือนว่าเขาไปแล้ว"

    "ที่เขาพูดว่า -ผมกำลังสนุกกับช่วงเวลานี้กับเพื่อนร่วมทีมและผมยังไม่อยากพูดอะไรเกี่ยวกับอนาคต-"

    "ถ้าพูดแบบนี้กับผม ผมคงจะรู้สึกว่ายังสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งว่ายังไม่มีการเจรจาเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่เชื่อ หรืออีกอย่างคือเขาได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะย้ายออกไป"

    "ผมพูดในมุมมองของตัวเอง หากผมยืนยันว่าจะอยู่กับทีมต่อไป นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่จะได้จัดการกับมัน -มันอาจยังไม่เสร็จซะทีเดียว แต่ผมก็จะพยายามทำให้เสร็จ-"

    "เขาไม่ต้องขอบคุณผมหรอก สิ่งที่เขาพูดออกมาเหมือนว่าใครบางคนที่ได้เลือกแล้วว่าจะย้ายออกไป"

    "อาร์เซน่อล จำเป็นต้องทำทุกทางเพื่อเก็บเขาไว้ ผลงาน 70 ประตู จาก 109 นัด มันบ่งบอกทุกอย่าง และประตูที่เขาทำได้(ลูกที่สอง) มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์จริงๆ "

ไม่โทษใคร! “แลมพาร์ด” รับเชลซีไม่ดีพอเอง

 แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ระบุ "สิงห์บลูส์" ไม่ดีพอจริงๆ หลังพ่าย อาร์เซน่อล 1-2 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงฯ พร้อมจวกลูกทีมที่ไม่ยอมสานต่อฟอร์มดีๆ ในช่วงต้นเกม

     แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี เผยว่า ทีมตนเล่นกันไม่ได้เรื่องเอง หลังจากที่ทัพ "สิงห์บลูส์" พลิกพ่าย อาร์เซน่อล 1-2 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่สังเวียนแข้ง เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา

     เชลซี ทำท่าว่าจะไปได้สวย หลังออกสตาร์ทได้ดี ด้วยการได้ประตูขี้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 5 จากการยิงของ คริสเตียน พูลิซิช ทว่านาทีที่ 28 อาร์เซน่อล ตามตีเสมอเป็น 1-1 จากการสังหารลูกจุดโทษเข้าไปอย่างเฉียบขาดของ ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมอยอง

     จากนั้นช่วงครึ่งหลัง ในนาทีที่ 67 กลายเป็น "ไอ้ปืนใหญ่" ที่ได้ประตูพลิกขึ้นนำ จากลูกยิงสุดเหนือชั้นของ โอบาเมยอง เจ้าเก่า และสถานการณ์ของ "สิงห์บลูส์" ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เพราะในนาทีที่ 73 พวกเขาต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน หลัง มาเตโอ โควาซิช โดนไล่ออก จากการได้รับใบเหลืองที่สอง และสุดท้ายจบเกมด้วยการเป็นฝ่ายปราชัย

         "เราทำได้ดีช่วง 15 นาทีแรก ซึ่งเราทำประตูได้ และสร้างโอกาสได้เพียบ แต่เราคงทำได้แต่โทษตัวเองที่ไม่ยอมสานต่อ เกม เอฟเอ คัพ นัดชิงฯ มันไม่ใช่เกมที่เราจะมาเดินเล่น เราปล่อยให้พวกเขากลับมาสู่เกม ซึ่งเมื่อคุณทำแบบนี้ มันก็ยากที่คุณจะกลับมาสู่เกม เราเล่นกันไม่ดีพอที่จะคว้าชัยชนะในเกมรอบชิงฯ ครั้งนี้" กุนซือวัย 42 ปี เปิดใจหลังเกม

ใครได้-ใครเสีย?อาร์เซน่อลหาทางออกส่งเกนดูซี่แลกคูตินโญ่

เดลี่ เมล์ สื่อจากประเทศอังกฤษ รายงานว่า อาร์เซน่อล เตรียมส่ง มัตเตโอ เกนดูซี่ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง เป็นข้อเสนอแลกตัวกับ ฟิลลิปเป้ คูตินโญ่ ให้แก่ บาร์เซโลน่า หลังแข้งชาวฝรั่งเศสดูเหมือนจะหมดอนาคตกับทีมเมื่อไม่มีชื่อในเกมเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

    มัตเตโอ เกนดูซี่ วัย 21 ปี ไม่ได้ลงสนามให้กับ อาร์เซน่อล อีกเลย นับตั้งแต่ก่อเรื่องแบบน่าเกลียดใส่ นีล โมปาย กองหน้าของ โบรท์ตัน ในเกมที่ "ปืนใหญ่" บุกไปพ่าย 1-2

    ซึ่งล่าสุด เดลี่ เมล์ ได้ระบุว่า อาร์เซน่อล เตรียมแผนที่จะส่ง เกนดูซี่ เพื่อแลกกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพลย์เมคเกอร์ของ บาร์เซโลน่า

    ทั้งนี้ เกนดูซี่ ไม่เป็นที่ชื่นชอบของ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือสแปนิช หลังจากมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมทั้งในและนอกสนาม โดยเกมล่าสุดที่ อาร์เซน่อล เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ในศึก เอฟเอ คัพ เกนดูซี่ ก็ไม่มีส่วนร่วมกับทีมเลย

แมนยูจ่อจับกรีนวู้ดต่อสัญญา-9เดือนเพิ่ม50เท่า

เมสัน กรีนวู้ด จ่อรับสัญญาใหม่จาก แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งผลให้จะได้ค่าเหนื่อยเพิ่มจากเมื่อ 9 เดือนก่อนถึง 50 เท่าเลยทีเดียว
     แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมจับ เมสัน กรีนวู้ด กองหน้าดาวรุ่งคนเก่ง ต่อสัญญายาว 5 ปี หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ จนยึดตำแหน่งตัวจริงไปแล้ว ตามรายงานจาก เดอะ มิร์เรอร์ สื่ออังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

    หัวหอกวัย 18 ปี ทำไปแล้ว 16 ประตูในซีซั่นนี้ รวมทั้งได้รับคำชมอย่างมากจากการยิงได้ทั้งสองเท้า และมีเทคนิคยอดเยี่ยม ส่งผลให้สโมสรเตรียมจับขยายสัญญาออกไปอีก ทั้งๆ ที่เพิ่งต่อสัญญาถึงปี 2023 ไปเมื่อกลางเดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมานี่เอง

    เมื่อ 9 เดือนที่แล้ว เจ้าหนูกรีนวู้ด ได้ค่าเหนื่อยอยู่ที่แค่ 800 ปอนด์ (ประมาณ 32,000 บาท) ต่อสัปดาห์เท่านั้น แต่หลังต่อสัญญาได้เพิ่มเป็น 25,000 ปอนด์ (ประมาณ 1 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ และคาดว่า หากต่อสัญญาในครั้งใหม่จะได้เพิ่มเป็น 40,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ หรือเพิ่มจากปีก่อนถึง 50 เท่าเลยทีเดียว

    ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมลงเตะกับ เชลซี ในศึก เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ คืนวันอาทิตย์นี้ (00.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) โดยผู้ชนะจะเข้าไปเจอ อาร์เซน่อล ในรอบชิงชนะเลิศ

 

เทียร์นี่ย์ สำนึกผิดขอโทษที่ชูนิ้วกลาง

เคียแรน เทียร์นี่ แบ็กซ้ายของ อาร์เซน่อล กล่าวขอโทษหลังจากที่เจ้าตัวไปชูนิ้วกลางหลังเกมที่ช่วยให้ต้นสังกัดพลิกล็อกเขี่ย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกรอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ

    เกมนี้ "เดอะ กันเนอร์ส" ได้ทั้งสองประตูจาก ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ในนาทีที่ 19 และ 71 ซึ่งหลังจบเกม บรรดานักเตะฝั่งผู้ชนะต่างถ่ายรูปเฉลิมฉลองกันในห้องแต่งตัว

    อย่างไรก็ตาม เคียแรน เทียร์นี่ย์ แบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นคนผ่านบอลให้ โอบาเมยอง หลุดเข้าไปยิงปิดบัญชี ได้แสดงออกไม่เหมาะสมด้วยการชูนิ้วกลาง โดยรูปดังกล่าวเผยแพร่กันทั่วในโลกโซเชียล

    หลังจากนั้น เทียร์นี่ย์ โดนวิพากษ์วิจารณ์ถึงการแสดงออกไม่เหมาะสม จนทำให้เจ้าตัวต้องออกมาทวีตขอโทษผ่าน ทวิตเตอร์ส่วนตัวพร้อมอธิบายว่าทำไมถึงออกไม้ออกมือเช่นนั้น "ไม่ได้ตระหนักเลยว่ารูปนี้จะถูกโพสต์ออกไป"

    "มันเป็นเรื่องเล่นๆ กับเจ้าหน้าที่เสื้อผ้า ผมขอโทษ หากทำให้ใครไม่สบายใจ ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ"

เฉลยแล้วสาวโดนจับคาสนามบินเป็นภรรยาแข้งอาร์เซน่อล

เบลล่า ภรรยาของ เซอัด โคลาซินัช ฟูลแบ็ก "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล คือสาวที่โดนเจ้าหน้าที่สนามบินรวบตัว หลังจากที่ถูกจับขณะที่พยายามลักลอบนำปืนและกระบองช็อตไฟฟ้าเข้าประเทศอังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

    สาววัย 27 ปี เริ่มพกอาวุธเอาไว้ป้องกันตัวหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่มีโจรใช้มีดพยายามปล้นรถของ เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์ชาวเยอรมัน ซึ่งในตอนนั้น โคลาซินัช สามีของเธอโดยสารไปด้วย และพยายามต่อสู้กับโจรด้วยมือเปล่า

 

     ตอนที่ เบลล่า เดินทางไปประเทศเยอรมนี เธอได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายในการพกพาอุปกรณ์ช็อตไฟฟ้า แต่เธอไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายในอังกฤษ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ เบลล่า โดน เจ้าหน้าที่พิทักษ์พรมแดนที่สนามบินลอนดอน บิ๊กกิน ฮิลล์ จับกุม

     ในตอนนั้น เบลล่า พยายามอธิบายทั้งน้ำตาว่าปืนและกระบองช็อตไฟฟ้า มีเอาไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้นแต่ก็ไม่เป็นผล ที่สำคัญความผิดของเธอมีโทษจำคุก 6 เดือนเลยทีเดียว โดย โฆษกส่วนตัวของ โคลาซินัช กล่าวว่า "ทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด อุปกรณ์ช็อตไฟฟ้ายังคงอยู่ในกล่อง และไม่ได้ใส่แบตเตอรี่

          "เบลล่า สามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอส่งอีเมลไปให้กับเจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน เพื่อทำให้แน่ใจว่าเธอสามารถนำเข้าสิ่งนี้ได้ สายการบินได้แจ้งกับศุลกากรไปแล้วว่าเธอมีอุปกรณ์ช็อตไฟฟ้าก่อนที่เครื่องบินจะลงจอด เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้เพราะเธอไม่คิดว่าเธอทำผิดอะไร"

         "อุปกรณ์เหล่านี้สามารถเอาไปใส่กระเป๋าได้ถูกต้องตามกฎหมายในเยอรมนี ถ้าหากเจ้าของได้รับอนุญาต แน่นอนว่าเธอตะหนักในเรื่องความปลอดภัย หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เซอัด และ เมซุต (เมื่อปีที่ผ่านมา)" โฆษกแข้งบอสเนีย วัย 26 ปี ระบุ

วอนพิจารณา! ปืนใหญ่สะกิดตราหมีสลับขั้ว “ลากาแซ็ตต์-เลอมาร์”

"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ตกเป็นข่าวว่าเตรียมส่ง อเล็กซองเดร ลากาแซ็ตต์ ไปให้ แอตเลติโก มาดริด เพื่อแลกตัวกับ โตมาส์ เลอมาร์

ลากาแซ็ตต์ หัวหอกวัย 28 ปี กำลังตกเป็นประเด็นพูดถึง หลังจากถูกมือดีปล่อยคลิปที่เจ้าตัวกำลังถ่ายขณะสูบแก๊สหัวเราะจากลูกโป่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทางด้าน แอตเลติโก มาดริด เองก็ต้องการตัวศูนย์หน้าเฟรนช์แมนตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเตรียมยื่นข้อเสนออีกครั้งในช่วงซัมเมอร์นี้

ล่าสุด มีการเปิดเผยว่า อาร์เซน่อล ยินดีที่จะปล่อย ลากาแซ็ตต์ ไป แอตฯ มาดริด แต่มีเงื่อนไขว่าทัพตราหมีต้องส่ง เลอมาร์ แนวรุกตัวจี๊ด วัย 24 ปี สลับขั้วมาสู่ถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

เซอร์ไพรส์!ลิเวอร์พูลจ้องฉกซาก้าเสริมแกร่งริมเส้น

ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวสนใจคว้าตัว บูกาโย่ ซาก้า ตัวริมเส้นดาวรุ่งของ อาร์เซน่อล หลังการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ไม่คืบหน้า อย่างไรก็ตาม มิเกล อาร์เตต้า ต้องการจะรั้งตัวแข้งรายนี้เอาไว้ให้ได้

    บูกาโย่ ซาก้า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในบทบาทแบ็กซ้าย หลัง เซอัด โคลาซินัช และ คีแรน เทียร์นี่ย์ ไม่สามารถลงเล่นได้ อย่างไรก็ตาม สัญญาฉบับปัจจุบันของเขากำลังจะหมดลงในปี 2021 และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเซ็นสัญญาฉบับใหม่เกิดขึ้น

    ฟุตบอล อินไซเดอร์ สื่อลูกหนังจากต่างประเทศ รายงานว่า ลิเวอร์พูล กำลังจับตาดูสถานการณ์นี้ ระหว่าง ซาก้า และ อาร์เซน่อล โดยทาง "หงส์แดง" ชื่นชอบกับการที่แข้งรายนี้สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งทางกราบซ้าย ถึงกระนั้น มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ของทัพปืนใหญ่ มีความตั้งใจที่จะเก็บรั้ง ซาก้า ไว้และพยายามโน้มน้าวสโมสรมอบสัญญา 5 ปีให้แก่ดาวรุ่งวัย 18 ปี

    สำหรับ ซาก้า ลงสนามในซีซั่นนี้ไปทั้งสิ้น 29 นัดในทุกรายการ และทำแอสซิสต์ได้ถึง 9 ครั้งด้วยกัน