เวรกรรมมีจริง!แฟนหงส์คอมเมนต์ไอจีลูกาส์ ดีญหลังโดนใบแดง

แฟนบอลลิเวอร์พูล ได้ทีเอาคืนหลัง ลูกาส์ ดีญ กองหลังทีม "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน โดนใบแดงในเกมพ่ายเซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังเจ้าตัวเคยโพสต์แซว ริชาร์ลิซอน ที่ถูกใบแดงเกมเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้ กับทีม "หงส์แดง"
    แฟนๆ ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พากันเอาคืนไปโพสต์ในอินสตราแกรมของ ลูกาส์ ดีญ กองหลังทีม "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาพที่เจ้าตัวโพสต์เหตุการณ์ที่ไปพยายามดึงใบแดงจากกระเป๋าผู้ตัดสิน ในเกมที่ ริชาร์ลิซอน ถูกไล่ออกหลังไปเสียบหนักใส่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ในเกมเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้

    โดน ชาว "เดอะค็อป" ต่างพากันชอบใจ ที่ได้เห็น ลูกาส์ ดีญ โดนใบแดงไปเสียเองในเกมที่ เอฟเวอร์ตัน พ่าย เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังทีมนักบุญ ได้สองประตูจาก เจมส์ วอร์ด-เพราส์  กับ เช อดัมส์ ในช่วงครึ่งแรก ก่อนครึ่งหลังในนาทีที่ 72 "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ต้องมาเสียเปรียบเมื่อ ลูกาส์ ดีญ ไปเข้าหนักใส่ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

 

    ลูกาส์ ดีญ ได้โพสต์ภาพของตัวเองในอินสตาแกรม ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะพยายามซ่อนใบแดงของผู้ตัดสิน หลังจากเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 พร้อมกับคำบรรยายว่า "ผมพยายามทำให้ดีที่สุด"

    โดยแฟนบอลลิเวอร์พูลคนหนึ่งมาตอบว่า " ลูกาส์ ดีญ สนุกกับเหตุการณ์ของ ริชาร์ลิซอน กับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยรูปนี้ วันนี้เขาได้รับกรรมของเขาแล้ว"

    ส่วนอีกรายมาคอมเมนต์ว่า "กรรมมันได้ตามทันแล้ว ไม่ต้องรอนาน"

    ก่อนแฟนหงส์รายที่สามคอมเมนต์ว่า "ดีญทำเป็นเล่นกับใบแดงของ ริชาร์ลิซอน และกรรมก็ได้ตามทันเขาแล้วในสุดสัปดาห์นี้!"

 

ริชาร์ลิซอนยันจังหวะเสียบติอาโก้เป็นอุบัติเหตุ

ริชาร์ลิซอน ออกโรงชี้แจงกรณีที่ไปเข้าเสียบ ติอาโก้ อัลกันตาร่า จนโดนใบแดงในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ที่ต้นสังกัดเปิดบ้านเสมอกับ ลิเวอร์พูล 2-2 เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา

เอฟเวอร์ตัน ทีมจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก เปิดสนามกูดิสัน พาร์ค เสมอกับ ‘แชมป์เก่า’ ลิเวอร์พูล 2-2 ซึ่งในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 90 ริชาร์ลิซอน แนวรุกชาวแซมบ้าของเจ้าถิ่นไปพุ่งเข้าเสียบใส่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์ของ ‘หงส์แดง’ จนโดนใบแดงโดยตรง และจากการให้สัมภาษณ์หลังจบเกมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ฝั่งทีมเยือนดูเหมือนว่าแข้งสแปนิชจะมีอาการบาดเจ็บจากจังหวะดังกล่าว

ในเวลาต่อมา ริชาร์ลิซอน ได้กล่าวขอโทษผ่านเว็บไซต์ โดยมีเนื้อหาใจยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นพวกนักเตะใช้ความรุนแรง และตนก็ได้ส่งข้อความไปขอโทษ ติอาโก้ แล้ว

"ทุกคนที่รู้จักผมจริงๆ จะรู้ว่าผมไม่ได้เป็นผู้เล่นใช้ความรุนแรงเลย" กองหน้าทีมชาติบราซิล กล่าว

"สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คืออุบัติเหตุจากความทุ่มเทเต็มที่ ผมไม่ได้จะโต้แย้งนั้นด้วยการเจตนาทำร้าย ติอาโก้"

"เมื่อผมเห็นว่าการปะทะกำลังจะเกิดขึ้น ผมก็รีบยกเท้าตัวเองขึ้นแล้วเข่าผมก็ไปชนกับเขาซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วจากความเร็วของการเล่น"

"ผมส่งข้อความไปขอโทษเขาแล้ว และผมก็มาเปิดเผยต่อที่สาธารณะ ผมหวังว่าเขาจะไม่เจ็บอะไรมาก และทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี"

"ผมขอโทษต่อเพื่อนร่วมทีม, สโมสร และแฟนๆ ของผมที่ผมทิ้งพวกเขาไปในช่วงท้ายเกม"

"น่าเสียดายที่มันไม่มีอะไรที่ผมทำได้เพื่อเปลี่ยนแปลงกับสิ่งที่เกิดขึ้นนอกเหนือไปจากการไตร่ตรอง, ทำงาน และก้าวต่อไป"

เปิดโผทีมยอดแย่พรีเมียร์ลีก นัดที่ 5

ทีมยอดแย่พรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ที่ 5 จะมีใครบ้าง ทีมงาน Siamsport จัดให้แฟนๆ ได้ชมกัน ไปดูได้เลย

ผู้รักษาประตู : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี)

แม้จะมีช็อตเซฟในช่วงท้ายเกม แต่จังหวะเสียประตูที่เกิดจากความผิดพลาด(อีกแล้ว) นับเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น

กองหลัง : โจเอล วอร์ด (คริสตัล พาเลซ)

จริงๆ ทำหน้าที่ได้ตามมาตรฐานเกือบตลอดทั้งเกม แต่มาสกัดบอลไม่ดีในช่วงท้ายจนทำให้ พาเลซ เสียประตูตีเสมอ อดคว้า 3 แต้มเหนือ ไบรท์ตัน ในบ้านตัวเอง

กองหลัง : ดาวินซอน ซานเชซ (สเปอร์ส)

เป็นเกมที่ไม่น่าจดจำสำหรับปราการหลังทีมชาติโคลอมเบีย เพราะนอกจากคุมแนวรับหลวมแล้ว ยังโหม่งเข้าประตูตัวเอง พร้อมเป็นการจุดประกายความหวังให้กับทีมเยือนด้วย

กองหลัง : ลูอิส ดังค์ (ไบรท์ตัน)

ตลอดทั้งเกมไม่ต้องรับภาระหนักมากกับการเจอแนวรุกของ พาเลซ แต่ในช่วงท้ายเกม เจ้าตัวไปเล่นอันตรายใส่คู่แข่งแบบรุนแรง จึงทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

กองหลัง : เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ (นิวคาสเซิล)

โดนแนวรุก แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นงานในช่วงท้ายจนทีมเสียถึง 3 ประตู

กองหลัง : เอคตอร์ เบเยริน (อาร์เซน่อล)

ยืนตำแหน่งผิดพลาด และควรที่จะเคลียร์บอลทิ้งได้ก่อนที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ทำประตู

กองกลาง : ยูรี่ ตีเลอมันส์ (เลสเตอร์)

เรื่องเกมรับยังคงไว้ใจได้ แต่โดยภาพรวมถือว่าแข้งเบลเจี้ยนต่ำกว่ามาตรฐานไปเยอะ คุมเกมไม่ได้เหมือนอย่างที่เคยเป็น

กองกลาง : อัลลัน (เอฟเวอร์ตัน)

โดนแผงมิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล กดดัน และต้องใช้เกมหนักเข้าหยุดคู่แข่ง ก่อนมาโดนใบเหลืองช่วงท้ายเกม
   
กองกลาง : ริชาร์ลิซอน (เอฟเวอร์ตัน)

มีโอกาสทำประตูแต่โชคร้ายบอลไปชนเสา ก่อนมาโดนไล่ออกช่วงท้ายเกม หลังไปสกัดเข้าใส่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า อย่างรุนแรง

กองหน้า : เคลิชี่  อิเฮียนาโช่ (เลสเตอร์)

แม้ครึ่งแรกจะเก็บบอลได้ดี และจ่ายบอลสวยๆ หลายครั้ง แต่ในครึ่งหลังกลับคนละเรื่อง ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมเลย

กองหน้า : แพทริค แบมฟอร์ด (ลีดส์)

ไม่ได้สร้างความอันตรายให้แก่แนวรับ วูล์ฟส์ ได้เลย มีโอกาสส่องประตู 3 ครั้งแต่พลาดเป้าไปหมด

แฟนหงส์สบายใจ!ติอาโก้โพสต์รูปพ้นกักตัวโควิดแล้ว

งานนี้ทำเอาสาวกเดอะ ค็อป สบายใจกันถ้วนหน้า เมื่อ ติอาโก้ อัลกันตาร่า พ้นช่วงกักตัวจากไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังถูกตรวจพบว่าติดเชื้อเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา

ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล ถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา และต้องกักตัวเอง 10 วันตามระเบียบของรัฐบาลสหราชอาณาจักร จนทำให้เจ้าตัวพลาดการลงสนามในเกมกับ อาร์เซน่อล และ แอสตัน วิลล่า รวมถึงโปรแกรมทีมชาติสเปน ในช่วงเวลานี้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ติอาโก้ ได้โพสต์ภาพตัวเองผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยเป็นรูปที่เขาเดินในเมือง ลิเวอร์พูล พร้อมแคปชั่นว่า ‘Liverpool walks’ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ติอาโก้ หายจากเชื้อไวรัสนี้แล้ว และพ้นช่วงเวลากักตัว 10 วันเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับ ติอาโก้ เพิ่งลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล เพียง 45 นาทีเท่านั้นในเกมที่บุกชนะ เชลซี 2-0 เมื่อวันที่ 20 กันยายน โดยเกมต่อไปของทีมคือการออกไปทำศึก เมอร์ซี่ย์ ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ กับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งมีโอกาสสูงที่ กองกลางกระทิงดุ จะมีชื่อติดทีมในเกมนี้

18เอเยนต์ฟันธงดีลลิเวอร์พูลเจ๋ง-ห่วยสุดคาวานี่

รอดูกัน! สื่อเมืองผู้ดีจับ 18 เอเยนต์มาวิเคราะห์ดีลเจ๋งสุดและห่วยสุดประจำซัมเมอร์ มอง แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ควรคว้า เอดินสัน คาวานี่ เพราะอายุเยอะ แถมค่าเหนื่อยแพงอีกต่างหาก

ดิ แอธเลติก สื่ออังกฤษ สอบถามความเห็นจากเอเยนต์นักเตะ 18 รายว่า ช่วงเปิดตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา การย้ายทีมของใครที่เป็นดีลแย่สุดและดีสุด โดยผลออกมาเป็น เอดินสัน คาวานี่ กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กองกลาง ลิเวอร์พูล ตามลำดับ

จากผลสำรวจมี 28 เปอร์เซ็นต์ที่มองว่า "ปีศาจแดง" ไม่ควรดึง คาวานี่ มาเข้าถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เนื่องจากอายุ 33 ปีแล้ว แถมยังต้องจ่ายค่าเหนื่อยสูงถึง 200,000 ปอนด์ (ประมาณ 8 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ แม้ไม่ต้องเสียค่าตัวเนื่องจากเป็นนักเตะไร้สังกัดก็ตาม

ผลโหวตดีลห่วยสุดประจำซัมเมอร์

เอดินสัน คาวานี่ มา แมนฯ ยูไนเต็ด        28 เปอร์เซ็นต์
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค มา แมนฯ ยูไนเต็ด        11 เปอร์เซ็นต์
นาธาน อาเค่ มา แมนฯ ซิตี้            6 เปอร์เซ็นต์
อาหมัด ดิยัลโล่ มา แมนฯ ยูไนเต็ด         6 เปอร์เซ็นต์
เกรดี้ ดิอังกาน่า มา เวสต์บรอมวิช            6 เปอร์เซ็นต์
เวสเล่ย์ โฟฟาน่า มา เลสเตอร์            6 เปอร์เซ็นต์
ไค ฮาแวร์ทซ์ มา เชลซี            6 เปอร์เซ็นต์
โธมัส ปาร์เตย์ มา อาร์เซน่อล            6 เปอร์เซ็นต์
คัลลั่ม โรบินสัน มา เวสต์บรอมวิช        6 เปอร์เซ็นต์   
เนลซอน เซเมโด้ มา วูล์ฟส์            6 เปอร์เซ็นต์
ฟาบิโอ ซิลวา  มา วูล์ฟส์            6 เปอร์เซ็นต์
คาร์ลอส วินิซิอุส มา สเปอร์ส            6 เปอร์เซ็นต์
วูล์ฟส์ ขาย แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้            6 เปอร์เซ็นต์

 

ผลโหวตดีลเจ๋งสุดประจำซัมเมอร์

ติอาโก้ อัลกันตาร่า มา ลิเวอร์พูล            28 เปอร์เซ็นต์
ฮาเมส โรดริเกซ มา เอฟเวอร์ตัน            22 เปอร์เซ็นต์
อัลลัน มา เอฟเวอร์ตัน                11 เปอร์เซ็นต์
คัลลัม วิลสัน มา นิวคาสเซิ่ล            11 เปอร์เซ็นต์
แกเร็ธ เบล มา สเปอร์ส            6 เปอร์เซ็นต์
เบน ก็อดฟรีย์ มา เอฟเวอร์ตัน            6 เปอร์เซ็นต์
ดิโอโก้ โชต้า มา ลิเวอร์พูล            6 เปอร์เซ็นต์
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ มา แอสตัน วิลล่า        6 เปอร์เซ็นต์
โธมัส ปาร์เตย์ มา อาร์เซน่อล            6 เปอร์เซ็นต์
 

ใครหลุด-ใครติด!ลิเวอร์พูลส่งรายชื่อนักเตะบู๊ชปล.

เปิดโผรายชื่อนักเตะ ลิเวอร์พูล ชุดลงเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ขาดแค่ แฮร์รี่ วิลสัน คนเดียวเท่านั้น
    ลิเวอร์พูล ส่งรายชื่อนักเตะชุดที่จะลงเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2020/21 ให้กับสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เรียบร้อยแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยดาวดังมากันครบครัน

    "หงส์แดง" อยู่ในกลุ่ม ดี ร่วมกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์), อตาลันต้า (อิตาลี) และ มิดทิลแลนด์ (เดนมาร์ก) โดยรอบแบ่งกลุ่มจะเล่นตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ไปจนถึงวันที่ 9 ธ.ค. นี้

รายชื่อนักเตะ ลิเวอร์พูล ลิสต์ เอ ชุดลงเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

ผู้รักษาประตู : อลีสซง เบ็คเกอร์, อาเดรียน, ควีวิน เคลเลเฮอร์

กองหลัง : เฟอร์จิล ฟานไดค์, โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, คอสตาส ชิมิกาส

กองกลาง : ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

กองหน้า : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ทาคูมิ มานามิโนะ, ดิโอโก้ โชต้า, ดิว็อค โอริกี้, เซอร์ดาน ชากิรี่, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

ลิสต์ บี (อายุต่ำกว่า 21 ปี) : เคอร์ติส โจนส์, เนโก วิลเลี่ยมส์ และ รีส วิลเลี่ยมส์

เกปาแจกโชค! มาเน่เบิ้ลพาลิเวอร์พูลบุกอัดเชลซี10คน-ติอาโก้ประเดิม

ซาดิโอ มาเน่ ตะบันคนเดียวสองประตูพาแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล บุกไปปราบเจ้าถิ่น เชลซี ที่เหลือ10คน 2-0 เกมนี้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ประเดิมนัดแรกลงสำรองในครึ่งหลังก่อนพา "หงส์แดง" คว้าชัย2นัดติด มี 6 คะแนนเต็ม ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

   บิ๊กแมตช์ที่ เดอะ บริดจ์ เจ้าถิ่น เชลซี ปรับหนึ่งตำแหน่งจากชุดล่าสุดโดยให้ มาเตโอ โควาซิช ปักหลักแดนกลางแทน รูเบน ลอฟตัส-ชีค ขณะที่ 2 แข้งใหม่ชาวเยอรมันอย่าง ติโม แวร์เนอร์ และ ไค ฮาแวร์ทซ์ พร้อมลุย ส่วน ติอาโก้ ซิลวา กับ ฮาคิม ซิเย็ค ยังไม่มีชื่อในทีม

    ด้าน ลิเวอร์พูล เปลี่ยนแนวรับหลังโดนลีดส์เจาะถึง 3 เม็ด โดยให้ ฟาบินโญ่ รับหน้าที่เซ็นเตอร์แบ็กแทน โจ โกเมซ ขณะที่แนวรุก ซาลาห์, บ๊อบบี้ และ มาเน่ ลงพร้อมกัน แถม ติอาโก้ อัลกันตาร่า แข้งใหม่มีชื่อสำรองด้วย ทว่า ดีโอโก้ โชต้า ยังไม่มีส่วนร่วม

    เริ่มเกมมา14นาที เป็นฝั่งผู้มาเยือน ลิเวอร์พูลได้เสียวก่อน เมื่อ เกปา ออกมาเล่นบอลทางฝั่งซ้ายของกรอบเขตโทษ แต่กลับกลายเป็นสปีดของ ซาลาห์ ดีกว่า จึงถึงบอลและปาดบอลเข้ากลางประตู โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เกือบจะได้ยิงโล่งๆแล้ว แต่ยังดีที่ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ยังตามาบล็อคช่วยเชลซี สกัดบอลออกหลังได้อย่างหวุดหวิด

    นาทีที่19 ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาบอลลุยเข้าไปถึงกรอบเขตโทษแล้ว ก่อนได้ง้างยิง ยังดีที่แนวรับ เชลซี ช่วยกันบล็อคได้ทัน ก่อนใช้จังหวะโต้กลับเล่นงานทีมเยือน แต่ในจังหวะสุดท้ายที่บอลมาถึง ติโม แวร์เนอร์ เจ้าตัวตัดสินใจยิงช้าไปหน่อย แนวรับลิเวอร์พูล เลยลงมาทันช่วยเบรกไว้พอดี

    นาทีที่34 หงส์แดง ยังทำได้ดีกว่าในพื้นที่สุดท้าย โดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เอาบอลลงได้ในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนเปิดยัดเข้ากลางประตู แต่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เข้าชาร์จไม่ถึงบอล บอลเลยผ่านหน้าประตูไปแบบได้แค่เสียว

    อีก 4 นาทีต่อมา ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดขึ้นไปทางด้านขวาก่อนปาดเลียดมาให้ ติโม แวร์เนอร์ ยิงโล่งๆ หลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าเป็นจังหวะที่ ฮาแวร์ตซ์ ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

    ช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 45 วีเออาร์ ได้ทำงานครั้งแรก จากจังหวะที่ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ไปทำฟาวส์ ซาดิโอ มาเน่ ก่อนถึงกรอบเขตโทษ ตอนแรกผู้ตัดสิน พอล เทียร์นี่ย์ ให้แค่ใบเหลือง แต่หลังจากที่เช็กที่จอวีเออาร์แล้ว พอล เทียร์นี่ย์ มองว่าคริสเตนเซ่น เป็นตัวสุดท้าย เลยเปลี่ยนใจให้ใบแดงโดยตรง ทำให้ เชลซี เหลือ10คนตั้งแต่ท้ายครึ่งแรก

     ลิเวอร์พูล แม้ได้ฟรีคิกในจังหวะต่อเนื่องนี้ แต่ก็ยิงข้ามคานออกไปเอง ทำให้ หมดครึ่งแรก เชลซี ยังเสมอ ลิเวอร์พูล อยู่ 0-0 แต่ตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรองเนื่องจากตัวผู้เล่นเหลือน้อยกว่า

    กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ทั้งสองทีมมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น เชลซี ที่เหลือแค่ 10 คนส่ง ฟิคาโย่ โทโมรี่ เซ็นเตอร์แบ็กลงไปเล่นแทน ไค ฮาแวร์ตซ์ ขณะที่ "หงส์แดง" ถอดเอา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ออกแล้วส่ง ติอาโก้ อัลคันทาร่า แข้งใหม่ป้ายแดงที่ซื้อมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ลงสนามเป็นนัดแรก

    นาที 50 ประตูแรกของเกมกลายเป็น ลิเวอร์พูล ที่บุกมาชิงขึ้นนำก่อน 1-0 จากการประสานงานของ 3 แนวรุกหงส์แดง ซาลาห์ แทงบอลทะลุให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ถึงเส้นหลังก่อนครอสมากลางประตูให้ ซาดิโอ มาเน่ โฉบมาโขกบอลหนีมือ เกปาเสียบมุมตาข่าย

    นาที 54 สกอร์ของทีมเยือนนำห่างเป็น 2-0 อย่างรวดเร็ว จากความผิดพลาดของ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ที่พยายามจ่ายเลียดหน้าประตูให้ จอร์จินโญ่ แต่โดน ซาดิโอ มาเน่ วิ่งมาตัดบอลได้ก่อนดาวยิงชาวเซเนกัลจะตามไปซัดโล่งๆเข้าไปไม่เหลือเป็นประตูที่สองของ มาเน่ ในเกมนี้

    นาที 68 "สิงห์บลูส์" มีโอกาสได้ส่องบ้าง เมสัน เมาท์ ได้บอลทางซ้ายก่อนจะปั่นด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งแรงก่อนหล่นบนหลังตาข่ายแบบได้เสียว

    นาที 73 เชลซี มาได้ลูกที่จุดโทษหลัง ติอาโก้ วิ่งมากระแทก ติโม แวร์เนอร์ ล้มลงไปผู้ตัดสินชี้ให้จุดโทษทันที ทว่า จอร์จินโญ่ มือสังหารของเจ้าบ้านดันยิงไปติดเซฟของ อลีสซง ชวดได้ประตูตีไข่แตก ทำให้สกอร์ยังเป็นทีมเยือนบุกมานำ 2-0เหมือนเดิม ซึ่งเป็นการเซฟจุดโทษแรกของนายด่านทีมชาติบราซิลนับแต่ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล

    นาที 82 ติอาโก้ ได้โอกาสยิงบ้างหลังกดด้วยขวานอกกรอบแต่บอลยังหลุดเสาออกไป อีกนาทีต่อมา แทมมี่ อบราฮัม ตัวสำรองของ เชลซี ที่เพิ่งลงมาได้หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาแต่ยังไม่ผ่านมือ อลีสซง ที่โชว์ซูเปอร์เซฟอีกครั้ง

    จบเกม เชลซี พ่ายคาบ้านให้ ลิเวอร์พูล 0-2 ส่งผลให้ "หงส์แดง" คว้าชัยสองเกมติดมี 6 คะแนน

     รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

     เชลซี  (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – รีซ เจมส์,  อันเดรียส คริสเตนเซ่น (ใบแดง น.45), เคิร์ต ซูม่า, มาร์กอส อลอนโซ่ – จอร์จินโญ่,  เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช – ไค ฮาแวร์ตซ์, ติโม แวร์เนอร์, เมสัน เมาท์

     สำรอง : วิลลี่ กาบาเยโร่, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ฟิคาโย่ โทโมรี่, รอสส์ บาร์คลี่ย์, แทมมี่ อับราฮัม, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

     เทรนเนอร์ : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

     ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์-เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ , ฟาบินโญ่, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน- นาบี เกอิต้า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม- โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่,ซาดิโอ มาเน่

     สำรอง : อาเดรียน, เคอร์ติส โจนส์, ดิว็อค โอริกี้, ทาคูมิ มินามิโนะ, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, เจมส์ มิลเนอร์

     เทรนเนอร์ :  เจอร์เก้น คล็อปป์

     ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์

ยังไม่หนำใจ! สื่อดังเผย ลิเวอร์พูล รุกต่อเจรจาคว้าตัว “ซาร์” แข้งวัตฟอร์ด

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรแชมป์พรีเมียร์ลีก มีแผนเดินหน้าเสริมทัพอย่างต่อเนื่องล่าสุดตกเป็นข่าวกำลังให้ความสนใจในตัวของ อิสไมล่า ซาร์ ปีกทีมชาติเซเนกัลของ วัตฟอร์ด จากการรายงานของ ฟร้องซ์ ฟุตบอล สื่อดังในประเทศฝรั่งเศส

สื่อเจ้าดังเผยว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่หงส์แดง กำลังต้องการเสริมแนวรุกเข้ามาสู่ทีมอีก โดยพร้อมจ่ายเงินจำนวน 36 ล้านปอนด์ (ราว 1,442 ล้านบาท) ให้กับ วัตฟอร์ด ทีมจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เพื่อขอแลกกับการคว้าตัว ดาวเตะวัย 22 ปี ที่ยังเหลือสัญญากับต้นสังกัดอีก 4 ปี

ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ ลิเวอร์พูล จะเสริมทัพไปแล้ว 2 รายทั้ง ธีอาโก้ อัลกันตาร่า และ ดีโอโก้ โชต้า แต่ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของกุนซือชาวเยอรมนี ที่รู้ดีว่าการขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ในซีซั่นนี้จะเข้มข้นมากกว่าเดิม

สำหรับ อิสไมล่า ซาร์ ย้ายจาก แรนส์ ทีมในลีกเอิง ฝรั่งเศส มาเล่นในลีกอังกฤษเมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีสถิติลงสนามในลีกให้ "แตนอาละวาด" ทั้งหมด 28 เกม ทำไปได้ 5 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถช่วยทีมให้รอดพ้นการตกชั้นได้

ต้องการเซ็นเตอร์แบ๊คอีกมั้ย?

เป็นสัปดาห์ที่เปลี่ยนแปลงเร็วมากสำหรับลิเวอร์พูล

จากชนะลีดส์แบบไม่สวย เกมรับหลวม โดนแฟนเคืองเรื่องไม่เสริมตัวเจ๋งๆ "นี่งัย บอกแล้ว" ถัดมาไม่กี่วัน มีเซอร์ไพรส์การชูเสื้อของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์ระดับโลกที่อยู่ในกระแสความสนใจไม่ต่ำกว่าสามเดือนจนนึกว่าไม่ได้แล้ว จากนั้นยังตามมาด้วยการเสริม ดีโอโก้ โชต้า ซึ่งจะมาเป็นเงื่อนไขในแดนหน้า เล่นได้หลากหลายบทบาท

ปิดด้วยการไปเยือนเชลซี ซึ่งเสริมตัวแบบตื่นตาตื่นใจ, ดูขุมกำลังแล้วเหมือนว่าจะพร้อมแย่งชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ – ทีมของคล็อปป์กลับมาเล่นดีผิดหูผิดตา คืนฟอร์มเก่ง การทำงานหนักเป็นทีม

เห็นแบบนี้แล้ว แฟนหงส์น่าจะอุ่นใจกันนะครับ

1. "ฟาบินโญ่" เซ็นเตอร์แบ๊คชั่วคราว หรือถาวรดี

เพราะการบาดเจ็บเล็กน้อยของขาประจำในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ๊ค โจ โกเมซ ทำให้เห็นภาพเงื่อนไขที่อุ่นใจในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ๊คของลิเวอร์พูลขึ้นมาบ้าง

โกเมซ ไม่น่าเป็นห่วงอะไรนะครับ เจอร์เก้น คล็อปป์ บอกว่าอาจจะเป็นแค่วันนี้นี่แหล่ะ ส่วนโฌแอล มาติป นั้นอาการกล้ามเนื้อทำให้ยังใช้บริการไม่ได้ ต้องขาดหายยาวต่อไป  (แฟนหงส์น่าจะชินแล้ว)

นั่นเลยทำให้เห็น การใช้ ฟาบินโญ่ จากบทบาทคุ้นตาเป็นมิดฟิลด์ตัวรับมาเคียงข้าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ในการไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์  – แม้เป็นหมากที่แฟนหงส์คิดเผื่อไว้แล้วหล่ะ กรณีลุ้นซื้อเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนใหม่ไม่สำเร็จ และโกเมซ / มาติป มีปัญหา หากไม่น่าจะคิดว่า เอ๊ะ มันต้องลองใช้ตั้งแต่นัดที่สองของฤดูกาลแบบนี้เลยเหรอ

ปรากฎ ฟาบินโญ่ เล่นได้นิ่งมาก เข้าแย่งบอลสวยๆ จากติโม แวร์เนอร์ กองหน้าทีมชาติเยอรมัน, ทำหน้าที่ตลอดเกมเหมือนตรงนั้นเป็นพื้นที่ประจำของเขา

จากเล่นตำแหน่งประจำตรงแดนกลางไม่ได้ดั่งใจกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์นัก ในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่สั้นมาก จนเปิดฤดูกาลกับลีดส์ โดนถอดไปเป็นตัวสำรอง มาวันนี้ น่าสนใจนะครับว่า ฟาบินโญ่ ควรได้เล่นตรงเซ็นเตอร์แบ๊คนี้ยาวๆ หรือเปล่า (เพื่อนๆ มีความเห็นเช่นไร ลองแสดงทัศนะด้านล่างกันครับ)

 2. ใบแดงท้ายครึ่งแรก สมควรและสำคัญต่อเกม

 ลิเวอร์พูลยังคงให้แนวหลังเล่นไลน์สูงนะครับ แต่สิ่งที่แตกต่างจากเกมลีดส์คือตั้งแต่แดนหน้าเพรสได้ดี ก็เลยคุมสถานการณ์ได้ อาจจะมีสวนน่ากลัวบ้าง อันนั้นเป็นเรื่องธรรมดาของทัพคุณภาพอย่างเชลซี ซึ่งช่วงนี้อาวุธยังไม่ครบมือ ตัวใหม่หลายคนยังไม่พร้อมใช้งาน ฮาคิม ซีเย็ค, เบน ชิลเวลล์, ติอาโก้ ซิลวา รวมทั้งตัวเก่าที่อันตรายมากๆ คริสเตียน พูลิซิช

ครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเหนือกว่าเห็นได้ชัด หากขาดจังหวะจะแจ้ง ดังนั้นเชลซีก็ยังอยู่ในเกม!

ก่อนฮาล์ฟไทม์ จังหวะเหมาะเหม็งมาก คนผ่านยาว กัปตันเฮนโด้ , คนวิ่งโฉบ ซาดิโอ มาเน่

มาเน่บอกกับ อันเดรียส คริสเตนเซ่น นะครับว่า "เพื่อนเอ๋ย มันเป็นใบแดง" ก่อนที่ผู้ตัดสินจะวิ่งไปดูจอข้างสนาม วีเออาร์เปลี่ยนคำตัดสินจากควักแค่ใบเหลือง มาเป็นใบแดง เสียอีก

ใบแดงจริงๆ ครับ กองหลังตัวสุดท้าย เหนี่ยวแบบนั้น จังหวะหลุดตรงกลางเลย

3. ความขยันของมาเน่

โอเคหล่ะ ทั้งโหม่ง และยิง เหมาสองประตู หัวหอกเซเนกัล ต้องมีความดีความชอบอยู่แล้ว

หากอยากให้มองการทำงานหนักในสนามของเขา การทำให้คริสเตียนเซ่น โดนใบแดง

การเข้าไปโหม่งกระทุ้งประตูแรก หลังจากโม กะบ๊อบบี้ ประสานกันมา สวยงามในแง่ยืนอยู่ด้านไกล แล้วโฉบเข้าไปในตำแหน่งเข้าทำตรงจังหวะ

แต่ที่ชอบที่สุด ประตูที่สอง ทุกคนอาจมองไปที่ความผิดพลาดในการออกบอลของเกป้า หากอยากให้ย้อนไปดูก่อนหน้าด้วย  "มาเน่ จ่ายบอลให้บ๊อบบี้แรงไป / เขาแสดงท่าโมโหตัวเองออกมา / จากนั้นแทนที่จะหยุดเฉย เสียบอลแล้วก็ต้องไล่สิ วิ่งเข้าไปหาคีพเพอร์แล้วอ่านทาง ไปดักจนได้บอลยิงเฉย" – เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำงานหนักด้วยนะ

4. ติอาโก้ สมราคาเวิลด์ คลาส

พักครึ่งกัปตันเฮนโด้ บอกเจ้านายว่ามีปัญหาเล็กน้อย อยากจะเล่นต่อนะ แต่คล็อปป์ไม่เสี่ยง ก็เลยได้เห็น ตีอาโก้ ลงประเดิมนัดแรกทันที

แม้จะทำเสียจุดโทษแบบไม่น่า ดีนะที่ อลีสซอน เบ๊คเกอร์ เข้าฟอร์มเซฟจอร์จินโญ่ได้ ไม่เช่นนั้น ถึงเชลซีจะมีสิบคน ก็ยังได้ลุ้นต่อในสิบห้านาทีสุดท้าย

โดยรวมแล้วเยี่ยมเลย ข้อมูลจาก opta  (เก็บสถิติต่างๆ ในการเล่น) บอกว่า ตีอาโก้ ผ่านบอลสมบูรณ์ 75 ครั้ง มากกว่าผู้เล่นเชลซีทุกคนตลอดเกม!

เล่นแบบธรรมชาติมากครับ ไม่มีตัวเพิ่มมากกว่านี้ ผมก็ว่า ลิเวอร์พูลพร้อมท้าชนได้หมดแล้วนะ เพื่อนๆ หล่ะครับ ว่างัย

คล็อปป์เผยติอาโก้ต้องพลาดลงสนามนานแค่ไหน

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ อาร์เซน่อล เปิดเผยก่อนเกมทุบ อาร์เซน่อล ว่า ติอาโก้ อัลกันตาร่า น่าจะอดลงเล่นจนกว่าจะจบโปรแกรมเกมทีมชาติ ทำให้เขาต้องรอถึงเกม เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ในช่วงกลางเดือนหน้าถึงจะกลับมาช่วยทีมได้

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่า ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์คนใหม่ของทีมน่าจะต้องพักจนกว่าจะสิ้นสุดโปรแกรมเกมทีมชาติครั้งที่จะถึงนี้

หลายวันก่อนมีการคาดกันว่า ติอาโก้ จะได้ลงเล่นในเกมลีกที่ ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ อาร์เซน่อล 3-1 เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา แต่ไม่นานมานี้เขามีปัญหาบางอย่างจนทำให้ไม่แน่นอนว่าจะลงเล่นนัดสำคัญได้หรือไม่ และสุดท้ายเขาก็ไม่มีชื่อแม้กระทั่งเป็นตัวสำรอง

คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์ในช่วงไม่นานก่อนที่ทีมของเขาจะชนะ อาร์เซน่อล ว่า "หลังจากจบโปรแกรมเกมทีมชาติแล้วน่ะเขาก็จะโอเคดีแน่นอน นั่นคือสถานการณ์ในตอนนี้ ตอนนี้เขายังฟิตไม่พอที่จะลงเล่นในวันนี้ ก็แค่นั้นแหละ"

จากเรื่องดังกล่าว ทำให้ ติอาโก้ จะพลาดช่วยทีมในเกม คาราบาว คัพ รอบ 4 ที่ ลิเวอร์พูล มีคิวเปิดบ้านเจอกับ อาร์เซน่อล อีกครั้ง ในวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคมนี้ และเกมลีกที่ "หงส์แดง" ต้องไปเยือน แอสตัน วิลล่า วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคมนี้ โดยเขาจะพร้อมช่วยทีมในเกมลีกนัด เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ที่ ลิเวอร์พูล มีคิวยกพลไปดวลกับ เอฟเวอร์ตัน วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคมนี้