“แม็กไกวร์” ทำสถิติหายากหลังโดนไล่ออกที่เวมบลีย์

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังร่างใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำสถิติหายากในทีมชาติอังกฤษ ที่ก่อนหน้านี้มีเพียงแค่ 2 รายที่ทำได้ หลังเจ้าตัวถูกไล่ออกในเกมเจอกับ เดนมาร์ก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
                แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นแข้งทีมชาติอังกฤษรายที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ที่ถูกไล่ออกในการเตะที่สังเวียนแข้ง เวมบลีย์ หลังเจ้าตัวได้รับใบแดงตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เอ กลุ่มสอง นัดที่ "สิงโตคำราม" แพ้ เดนมาร์ก คาบ้าน 0-1 เมื่อวันพุธที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา

              แม็กไกวร์ ได้รับใบเหลืองแรกตั้งแต่นาทีที่ 5 ก่อนมาโดนอีกเหลืองในนาทีที่ 31 หลังเข้าหนักใส่ แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก ทำให้ ปราการหลังร่างยักษ์วัย 27 ปี กลายเป็นนักเตะ "ทรีไลอ้อนส์" คนที่ 3 ที่โดนไล่ออกในเกมที่ เวมบลีย์ ต่อจากสองตำนานมิดฟิลด์อย่าง พอล สโคลส์ (เจอ สวีเดน เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 1999) และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด (เจอ ยูเครน เมื่อเดือนกันยายน ปี 2012) 

              เกมนี้ เดนมาร์ก ได้ประตูชัยจากการสังหารลูกจุดโทษของ คริสเตียน อีริคเซ่น ในนาทีที่ 35 ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ อังกฤษ เสียประตูจากลูกจุดโทษและมีผู้เล่นถูกไล่ออกในเกมเดียวกัน นับตั้งแต่เกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก เวิลด์ คัพ 1998 ที่ อังกฤษ เจอกับ อาร์เจนตินา (เดวิด เบ็คแฮม โดนไล่ออก)

จบไหม!มูรินโญ่เปิดใจฟอร์มเบลเกมสเปอร์สเสมอเวสต์แฮม

โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ส่ายหัวไม่สนบรรดานักข่าวที่พยายามเสี้ยมให้เจ้าตัวแสดงความเห็นเกี่ยวกับผลงานของ แกเร็ธ เบล ในแมตช์เสมอ เวสต์แฮม 3-3 เกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชี้ชัดนี่มันเรื่องของการแข่งขันของสองทีมจะมาเน้นอะไรกับผลงานของคนๆ เดียว

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมจอมแท็คติก "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ปฏิเสธที่จะวิจารณ์ผลงานของ แกเร็ธ เบล ปีกมากประสบการณ์ที่ลงเล่นเปิดตัวให้ต้นสังกัดในแมตช์เสมอ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา

เบล ถูกส่งลงมาเล่นในครึ่งหลังนาทีที่ 72 โดยในเวลานั้น สเปอร์ส ยังมีสกอร์นำห่าง "เดอะ แฮมเมอร์ส" 3-0 แต่หลังจากนั้นทีมเยือนยิงได้ 2 ประตูรวดในเวลาไม่ถึง 5 นาที ทำให้สกอร์ตามมาเป็น 3-2 อย่างไรก็ตาม สตาร์ชาวเวลส์ มีโอกาสทองที่จะยิงประตูฝัง เวสต์แฮม เมื่อหลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ดันยิงออกไปหน้าตาเฉย

จนกระทั่งเกิดเหตุเสมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด เมื่อ เวสต์แฮม มาได้ประตูสุดงามจากการยิงแบบผีจับยัดของ มานูเอล ลานซินี่ ในนาทีที่ 90+4 ส่งผลให้ทีมของกุนซือเดวิด มอยส์ บุกมาแบ่งแต้มไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ โดยหลังจบเกม มูรินโญ่ ยังคงรู้สึกผิดหวังที่ทีมพลาดเก็บชัยชนะ แต่ก็ชื่นชม "ขุนค้อน" ที่เล่นด้วยความทุ่มเท

สำหรับคำถามเกี่ยวกับผลงานของ เบล ซึ่งลงเล่นเกมแรกนับตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่กับต้นสังกัดนั้น มูรินโญ่ กล่าวว่า "ก่อนเกมพวกคุณอยากพูดเกี่ยวกับ แกเร็ธ และหลังเกมพวกคุณก็ยังคงอยากพูดเรื่อง แกเร็ธ แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดมันเกี่ยวกับ ท็อตแน่ม-เวสต์แฮม และนั่นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด"

 

เลสเตอร์ดุดัน! เรียงหน้าซัดซอร์ย่าเริ่มต้นยูโรปาลีกสุดแจ่ม

"จิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ คือฟอร์มดุอีกครั้ง ไล่ยำ ซอร์ย่า ลูแฮงค์ สโมสรแกร่งจากยูเครน ไปราบคาบ 3-0 กำสามคะแนนประเดิมทัวร์นาเมนต์นี้สวยงาม ในการแข่งขันศึกฟุตบอลยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดแรก คืนวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

     ศึกฟุตบอลยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดแรก คืนวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา "จิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ เกมลีกสองนัดหลังสุดไม่มีแต้มติดมือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมเจ้าบ้านเร้าลูกทีมคือฟอร์มเก่งใหได้ ยังขาด เจมี่ วาร์ดี้ ที่บาดเจ็บอยู่จำเป็นต้องส่ง "เคเลชี่ อิเฮียนาโช่" ยืนหน้าทะลงสกอร์ทีมเยือน ซอร์ย่า ลูแฮงค์ สโมสรแกร่งจากยูเครน วิคเตอร์ สคริปนิค โค้ชของทีมส่งดาวเตะชุดใหญ่ มีความหวังอยู่ที่ศูนย์หน้า "วลาดิสลาฟ คาบาเยฟ" โดยแมตช์นี้มีกรรมการเป็นสุภาพสตรีลงทำหน้าที่ตัดสินเกม

     ผ่านมาถึงนาทีที่ 22 เจมส์ แมดดิสัน วิ่งมารับบอลจ่ายจากเพื่อนหลุดเข้าไปในเขตโทษทางซ้าย ก่อนชิพบอลข้ามตัวนายทวารทีมเยือน ทว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของเจ้าตัวก่อนแล้ว

     จิ้งจอกออกนำนาทีที่ 29 เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ถอยต่ำมารับบอลกลางสนาม จ่ายออกข้างทางซ้ายไปที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ลากอบลมาปั่นไปชนเสาสองด้านเขากระดอนมาหน้าปากประตู เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ พยายามจะยิงซ้ำแต่บอลกลิ้งไปถูกแนวรับทีมเยือนมาหา เจมส์ แมดดิสัน จิ้มเข้าไปตุงตาข่าย

     เจ้าบ้านรุกหนักนาทีที่ 33 ยูริ ตีเลมันส์ แทงบอลออกมาให้ ติโมธี คาสตานเญ่ ที่เติมขึ้นมาทางขวาคนเดียวไร้ตัวประกบ วางบอลย้อยเข้าเขตโทษด้านซ้าย ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ตั้งศีรษะโหม่งบอลแต่บังคับทิศทางไม่ได้ออกหลังไป

     ต่อมานาทีที่ 37 เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงมาเก็บบอล ก่อนส่งเร็วให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เลี้ยงหนีผู้เล่นซอร์ย่าเข้าในเขตโทษ บรรจงยิงหักข้อแต่ว่า มีคีต้า เชฟเชนโก้ นายด่านทีมเยือนพุ่งปัดก่อนตามตะครุบไว้ได้

     เดอะฟ็อกซ์เล่นสบายนาทีที่ 45 คริสเตียน ฟลุคส์ ดันขึ้นสูงมาส่งบอลมากลางสนามให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ใช้ตัวบังก่อนเขี่ยต่อไปที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ปรี่มารับกระชากหลุดแผงแนวรับทีมเยือน เข้าไปโยกหลอกนิดนึงก่อนดีดข้ามตัวนายทวารคู่แข่ง จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งห่าง 2-0

     ยังเป็นเจ้าถิ่นลุยนาทีที่ 49 เจมส์ แมดดิสัน ยกบอลกลางสนามทิ้งมาที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ลากบอลลุยเข้ามาทางเขตโทษด้านซ้ายตบย้อนมาที่ เจมส์ แมดดิสัน โยกจังหวะหลอกหนึ่งหนยิงนอกกรอบเขตโทษ บอลไปติดบล็อก วิตาลี่ เวอร์นีดุบ กองหลังทีมเยือนออกหลัง

     ถัดมานาทีที่ 56 เจมส์ แมดดิสัน ครอสลูกเตะมุมทางขวา มาเขตโทษประมาณ 8 หลา เวสลี่ย์ โฟโฟน่า สบโอกาสโขกบอลเต็มแรงแต่ว่าบอลกระเด้งออกข้างเสาสองทางซ้ายกลิ้งออกหลังแทน

     จิ้งจอกแทบปิดเกมนาทีที่ 65 ดมิโทร อิวานิเซเนีย กองกลางซอร์ย่า ลงไปช่วยเกมรับทว่าเจ้าตัวจ่ายย้อนให้เพื่อนแนวรับไปเข้าทาง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ จับบอลพลิกตัวซัดในเขตโทษส่งบอลเข้าประตูไปอีกลูก จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ซอร์ย่า ลูแฮงค์ 3-0 เก็บชัยชนะนัดเปิดยูโรปาลีก

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-1-4-1): แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล,ติโมธี คาสตานเญ่ (เจมส์ จัสติน น.82),เวสลี่ย์ โฟโฟน่า,จอนนี่ อีแวนส์ (เวส มอร์แกน น.82),คริสเตียน ฟลุคส์,น็อมปาลิส เมนดี้,เจมส์ แมดดิสัน (เจนกิซ อุนเดอร์ น.65),ยูริ ตีเลมันส์ (อโยเซ่ เปเรซ น.71),เดนนิส ปราต์,ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์,เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (ฮัมซ่า เชาด์รี่ น.71)

ซอร์ย่า ลูแฮงค์ (4-3-3): มีคีต้า เชฟเชนโก้,เดนิส ฟาโวรอฟ (อากรอน รูฟาติ น.76),วิตาลี่ เวอร์นีดุบ,ลอฟโร่ ซเว็ค,ดมิโทร คอมเชนโนฟสยี่ (อังเครย์ส ซิกานิคส์ น.76),เยกอร์ นาซารีน่า,ดมิโทร อิวานิเซเนีย,วลาดิสลาฟ โคเชอร์กิน (เซอร์ฮี ฮาริน น.85),มัคซิม ลุนยอฟ (โอเล็คซานเดอร์ ฮลาดกี้ย์ น.65),วลาดเลน ยูร์เชนโก้,วลาดิสลาฟ คาบาเยฟ (มิไฮโล เปโรวิซ น.65)

ลิเวอร์พูลหืด-แมนยูใส!พี่มาร์คฟันธงพรีเมียร์ฯ

กูรูดังแดนผู้ดีฟันธง พรีเมียร์ลีก วีกนี้ เชื่อ ลิเวอร์พูล ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด ไม่ง่าย ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน และ แอสตัน วิลล่า สองทีมที่ยังไม่แพ้จะพลาดพร้อมกัน
    มาร์ค ลอว์เรนสัน นักวิเคราะห์เกมคนดังของ บีบีซี สื่อชั้นนำของอังกฤษ ออกโรงแสดงทรรศนะถึงฟุตบอล พรีเมียร์ลีก นัดที่ 6 ของฤดูกาล 2020/21 โดยเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านชนะ เชลซี 2-0 ส่วน ลิเวอร์พูล เฉือน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หืดจับ 2-1

    ทรรศนะของ ลอว์เรนสัน
    วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม

แอสตัน วิลล่า แพ้ ลีดส์ 1-2

    วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม

เวสต์แฮม เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1
ฟูแล่ม แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-2
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 2-0
ลิเวอร์พูล ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-1

    วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม

เซาธ์แฮมป์ตัน ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0
วูล์ฟส์ ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0
อาร์เซน่อล ชนะ เลสเตอร์ 2-1

    วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม

ไบรท์ตัน ชนะ เวสต์บรอมวิช 2-0    
เบิร์นลี่ย์ ชนะ สเปอร์ส 2-1

ดีกรีรองแชมป์โลกก็มี!5นายทวารทางเลือกที่ลิเวอร์พูลควรเซ็นมาช่วยอลีสซง

หลังจากที่ ลิเวอร์พูล บุกไปพ่าย แอสตัน วิลล่า แบบยับเยินหมดสภาพด้วยสกอร์ 2-7 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม ถือเป็นบทพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า อาเดรียน นายประตูสำรองชาวสแปนิช ไม่สามารถเป็นที่พึ่งพาของทีมยามจำเป็นได้ หากโกลมือหนึ่งอย่าง อลีสซง เบ็คเกอร์ มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน ซึ่งนั่นทำให้ตลอดช่วงที่ผ่านมา มีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะว่า "หงส์แดง" อาจจะมีการดึงผู้รักษาประตูคนใหม่เข้ามา ถึงแม้กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ บอกว่ายังเชื่อมั่นในตัว อาเดรียน ก็ตาม และนี่คือผู้รักษาประตูอีก 5 ทางเลือกที่น่าสนใจ นอกเหนือจาก แจ็ค บัตแลนด์ นายด่าน สโต๊ค ซิตี้ ที่มีข่าวมาตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา
 – ดานิเยล ซูบาซิช (ไร้สังกัด)

  ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะนี่คือนายประตูที่สามารถเซ็นสัญญาร่วมทัพได้ทุกเมื่อ เนื่องจากตอนนี้ ซูบาซิช กำลังอยู่ในสถานะนักเตะฟรีเอเจนต์ หลังจากที่หมดสัญญากับ อาแอส โมนาโก ช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยนายประตูชาวโครแอตวัย 35 ปี ผ่านเกมระดับสูงมาอย่างโชกโชน เพราะนอกจากอยู่ในทีม โมนาโก ชุดคว้าแชมป์ ลีก เอิง เมื่อซีซั่น 2016/17 แล้ว เขายังเป็นมือหนึ่งทีมชาติโครเอเชีย ที่ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศศึก เวิลด์ คัพ 2018 ที่ประเทศรัสเซีย (แต่แพ้ ฝรั่งเศส 2-4) อีกด้วย โดยที่ผ่านมา ซูบาซิช มีข่าวเกี่ยวโยงกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, โอลิมเปียกอส และ อัล-นาสเซอร์ แต่สุดท้ายยังไม่มีสโมสรใดคว้าเขาไปร่วมทัพ

 – มิเชล ฟอร์ม (ไร้สังกัด)

  เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในตลาดฟรีเอเจนต์ โดย ฟอร์ม เพิ่งหมดสัญญากับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งถ้าหากพูดถึงเรื่องฝีมือ ถือว่าไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เพราะเจ้าตัวมีดีกรีเป็นถึงอดีตนายประตูทีมชาติฮอลแลนด์ แถมมีประสบการณ์ในเวที พรีเมียร์ลีก จากการเฝ้าเสาให้กับ สวอนซี ซิตี้ และ สเปอร์ส แต่ปัญหาคือ ตลอดช่วง 2 ซีซั่นหลังสุดกับ "ไก่เดือยทอง" นั้น นายทวารชาวดัตช์วัย 36 ปี ได้รับโอกาสลงเฝ้าเสารวมกันแค่ 5 นัด!!!

 – ออร์ยาน นีลันด์ (ไร้สังกัด)

  นายด่านทีมชาตินอร์เวย์วัย 30 ปี เพิ่งตกลงยกเลิกสัญญากับ แอสตัน วิลล่า มาหมาดๆ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ดังนั้น นีลันด์ จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าจับตามองไม่น้อยในตลาดฟรีเอเจนต์ ถึงแม้ฤดูกาลก่อนเจ้าตัวลงเฝ้าเสาให้ "สิงห์ผงาด" รวมทุกรายการแค่ 11 นัด

 – อัสเมียร์ เบโกวิช (บอร์นมัธ)

  ด้วยการที่ตลาดนักเตะภายในประเทศยังคงเปิดอยู่จนถึงวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม ทำให้ ลิเวอร์พูล สามารถมองหาผู้รักษาประตูฝีมือดีจากลีกล่างได้ และ เบโกวิช ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะผ่านเกม พรีเมียร์ลีก มาอย่างมากมาย ทั้งตอนเล่นให้กับ สโต๊ค ซิตี้, เชลซี และ บอร์นมัธ ซึ่งถ้าหาก "หงส์แดง" เอาจริง และยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจไปทาบทาม ก็มีลุ้นที่จะได้ตัวเช่นกัน เพราะปัจจุบัน นายทวารร่างยักษ์ทีมชาติบอสเนียฯ วัย 33 ปี เหลือสัญญากับ "เดอะ เชอร์รี่ส์" แค่จบฤดูกาลนี้เท่านั้น

 – เบน ฟอสเตอร์ (วัตฟอร์ด)

  แม้อายุ 38 ปีแล้ว แต่ อดีตนายประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เบอร์มิงแฮม ซิตี้ และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน คนนี้ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแก้ปัญหาในระยะสั้น เพราะ ฟอสเตอร์ สามารถเล่นในเกมระดับ พรีเมียร์ลีก ได้สบายๆ หลังจากผ่านประสบการณ์เกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมาเกือบ 300 นัด

3 กุนซือได้ดวล มูรินโญ่ เยอะแต่ไม่เคยชนะ

"คุณคงไม่คิดจะทำบทใดบทหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณเจอกับคู่แข่งบางคนประมาณ 12 หรือ 14 เกม แต่ไม่เคยชนะได้อยู่แล้ว เพราะงั้นทำไมเขาถึงควรจะพูดถึงผมในหนังสือของเขาด้วยล่ะ ? หนังสือน่ะมันควรจะต้องเป็นสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข, ทำให้คุณรู้สึกภาคภูมิใจ ดังนั้นก็ทำให้ผมเข้าใจได้ดีว่าทำไมเขาถึงเลือกทำอย่างนั้น"

นั่นคือคำพูดของ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หลังจากที่โดนถามว่าเขาคิดยังไงกับการที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่พูดถึงชื่อของเขาเลยแม้แต่นิดเดียวในหนังสืออัตชีวประวัติของ เวนเกอร์ โดยคำพูดของ มูรินโญ่ มันเหมือนกับเป็นการเหน็บ เวนเกอร์ ไปในตัวว่าไม่เคยเอาชนะเขาได้นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้ว เวนเกอร์ เคยเอาชนะ มูรินโญ่ ได้ 2 หน จากการเจอกันทั้งหมด 19 นัด จนทำให้หลายคนมองว่ากุนซือชาวโปรตุกีสพูดผิดที่ให้ข้อมูลไปแบบนั้น ในทางกลับกัน มันก็มีกุนซือหลายคนจริงๆ ที่ไม่เคยคว่ำ มูรินโญ่ ได้แม้แต่นิดเดียว ซึ่งวันนี้เราจะมานำเสนอ 3 คนที่มีโอกาสดวลกึ๋นกับ มูรินโญ่ มากที่สุดหากนับเป็นจำนวนนัด แต่ไม่เคยเอาชนะเขาได้เลย ลองไปดูดีกว่าว่ามีใครบ้าง

– แซม อัลลาร์ไดซ์
มูรินโญ่ ได้ดวลกึ๋นกับ อัลลาร์ไดซ์ ครั้งแรกในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2004 โดยตอนนั้นต่างฝ่ายต่างก็คุม เชลซี กับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ตามลำดับ ซึ่งผลจบลงที่การเสมอกัน 2-2 โดยที่ เชลซี นำไปก่อน 2 ลูก แต่โดน โบลตัน ไล่ตามตีเสมอได้

หลังจากนั้นเป็นต้นมา มูรินโญ่ ก็ทำผลงานได้เหนือกว่า อัลลาร์ไดซ์ มาโดยตลอด จนทำให้จากการเจอกันทั้งหมด 12 ครั้งนั้น มูรินโญ่ เป็นฝ่ายชนะไปถึง 9 เกม และที่เหลือเป็นการเสมอกัน 3 นัด โดยครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่ดวลกันคือตอนที่ มูรินโญ่ นำ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อวันที่ 1 มกราคม ปี 2018

เผยสถิติน่าทึ่ง”เคน-ซน”หลังเกมกับเวสต์แฮม

แฮร์รี่ เคน และ ซน ฮึง-มิน สองสตาร์ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ขึ้นแท่นเป็นสุดยอดดูโอคู่หนึ่งในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก เรียบร้อย หลังสลับกันยิงและจ่ายในเกมล่าสุดที่เจอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
    
แฮร์รี่ เคน และ ซน ฮึง-มิน สองซูเปอร์สตาร์แนวรุกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ผลัดกันเป็นฝ่ายยิงและจ่ายรวมกันไปแล้ว 28 ประตูในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งมากสุดอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์ หลังจบเกมล่าสุดที่ "ไก่เดือยทอง" ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา

เกมดังกล่าว เคน แอสซิสต์ให้ ซน ทำประตูขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 1 ก่อนที่ ซน จะเป็นคนผ่านบอลให้ เคน จบสกอร์ 2-0 ในนาทีที่ 8 และหลังจากนั้น เคน ก็ทำประตูที่สองให้กับตัวเอง พร้อมช่วย สเปอร์ส ออกนำไปไกล 3-0 นาทีที่ 16 ทว่าน่าเสียดายสำหรับ "ไก่เดือยทอง" เพราะสุดท้าย เวสต์แฮม ไล่ตีเสมอได้จาก 3 ประตูช่วงท้ายเกม

การสลับกันเป็นฝ่ายยิงและจ่ายระหว่างคู่หู "เคน-ซน" ในเกมล่าสุด (รวม 2 ประตู) ทำให้มีประตูที่เกิดขึ้นจากการประสานงานกันของทั้งคูในศึก พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 28 ลูก ซึ่งมากสุดอันดับ 4 ในประวัตศาสตร์ ต่อจากคู่หู แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา (36 ประตู), ดาบิด ซิลบา กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ (29 ประตู) และ โรแบร์ ปิแรส กับ เธียร์รี่ อองรี (29 ประตู) เท่านั้น

นอกจากนี้ นับตั้งแต่ที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ก้าวเข้ามาคุมทัพ "ไก่เดือยทอง" เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีก่อน เคน (33 ประตู) กับ ซน (30 ประตู) เป็นสองนักเตะที่มีส่วนร่วมกับการทำประตูรวมทุกรายการมากสุด เหนือทุกคนในเวที พรีเมียร์ลีก

 

พลิกไปพลิกมา!บ่อนปรับราคาแชมป์พรีเมียร์ฯ

ร้านพูลเมืองผู้ดี ปรับราคาแชมป์ พรีเมียร์ลีก อีกรอบ หลังเห็นอาการ ลิเวอร์พูล ไม่ค่อยดี ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ เริ่มน่ากลัวมากขึ้น
   
บริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายแทบทุกแห่งในประเทศอังกฤษ ปรับราคาให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นมาเป็นเต็ง 1 คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020/21 อีกครั้ง หลังจากเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม เฉือนชนะ อาร์เซน่อล 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ ลิเวอร์พูล หล่นไปเป็นเต็ง 2

นัดล่าสุด "หงส์แดง" บุกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมือง 2-2 หลังจากเกมที่แล้วแพ้ แอสตัน วิลล่า เละเทะ 2-7 แต่สิ่งที่ทำให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล กังวลใจมากที่สุดคืออาการบาดเจ็บหัวเข่าของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังตัวเก่ง ที่มีรายงานว่า อาจต้องพักทั้งซีซั่นเลยทีเดียว
  
วิลเลี่ยม ฮิลล์ ร้านพูลชื่อดังเมืองผู้ดี ยกให้ แมนฯ ซิตี้ เป็นเต็ง 1 ที่อัตราต่อรอง 10/11 (แทง 11 จ่าย 10 ไม่รวมทุน) ส่วน ลิเวอร์พูล หล่นเป็นเต็ง 2 ราคา 2/1 (แทง 1 จ่าย 2 ไม่รวมทุน) ตามมาด้วย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่อัตราต่อรอง 12/1 (แทง 1 จ่าย 12 ไม่รวมทุน)

อัตราต่อรองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ วิลเลี่ยม ฮิลล์

1. แมนฯ ซิตี้         10/11 (แทง 11 จ่าย 10 ไม่รวมทุน)
2. ลิเวอร์พูล        2/1
3. สเปอร์ส            12/1
4. เชลซี            16/1
5. เอฟเวอร์ตัน        20/1
6. อาร์เซน่อล        25/1
7. แมนฯ ยูไนเต็ด        40/1
8. เลสเตอร์        66/1
9. ลีดส์            125/1
9. แอสตัน วิลล่า        125/1
11. วูล์ฟส์            200/1
11. เซาธ์แฮมป์ตัน        200/1
13. นิวคาสเซิ่ล        500/1
13. เวสต์แฮม        500/1
15. คริสตัล พาเลซ        750/1
15. ไบรท์ตัน        750/1
15. เบิร์นลี่ย์        750/1
18. เชฟฯ ยูไนเต็ด        1,000/1
19. เวสต์บรอมวิช        1,500/1
20. ฟูแล่ม            2,000/1

 

 

เปิดโผทีมยอดแย่พรีเมียร์ลีก นัดที่ 5

ทีมยอดแย่พรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ที่ 5 จะมีใครบ้าง ทีมงาน Siamsport จัดให้แฟนๆ ได้ชมกัน ไปดูได้เลย

ผู้รักษาประตู : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี)

แม้จะมีช็อตเซฟในช่วงท้ายเกม แต่จังหวะเสียประตูที่เกิดจากความผิดพลาด(อีกแล้ว) นับเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น

กองหลัง : โจเอล วอร์ด (คริสตัล พาเลซ)

จริงๆ ทำหน้าที่ได้ตามมาตรฐานเกือบตลอดทั้งเกม แต่มาสกัดบอลไม่ดีในช่วงท้ายจนทำให้ พาเลซ เสียประตูตีเสมอ อดคว้า 3 แต้มเหนือ ไบรท์ตัน ในบ้านตัวเอง

กองหลัง : ดาวินซอน ซานเชซ (สเปอร์ส)

เป็นเกมที่ไม่น่าจดจำสำหรับปราการหลังทีมชาติโคลอมเบีย เพราะนอกจากคุมแนวรับหลวมแล้ว ยังโหม่งเข้าประตูตัวเอง พร้อมเป็นการจุดประกายความหวังให้กับทีมเยือนด้วย

กองหลัง : ลูอิส ดังค์ (ไบรท์ตัน)

ตลอดทั้งเกมไม่ต้องรับภาระหนักมากกับการเจอแนวรุกของ พาเลซ แต่ในช่วงท้ายเกม เจ้าตัวไปเล่นอันตรายใส่คู่แข่งแบบรุนแรง จึงทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

กองหลัง : เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ (นิวคาสเซิล)

โดนแนวรุก แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นงานในช่วงท้ายจนทีมเสียถึง 3 ประตู

กองหลัง : เอคตอร์ เบเยริน (อาร์เซน่อล)

ยืนตำแหน่งผิดพลาด และควรที่จะเคลียร์บอลทิ้งได้ก่อนที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ทำประตู

กองกลาง : ยูรี่ ตีเลอมันส์ (เลสเตอร์)

เรื่องเกมรับยังคงไว้ใจได้ แต่โดยภาพรวมถือว่าแข้งเบลเจี้ยนต่ำกว่ามาตรฐานไปเยอะ คุมเกมไม่ได้เหมือนอย่างที่เคยเป็น

กองกลาง : อัลลัน (เอฟเวอร์ตัน)

โดนแผงมิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล กดดัน และต้องใช้เกมหนักเข้าหยุดคู่แข่ง ก่อนมาโดนใบเหลืองช่วงท้ายเกม
   
กองกลาง : ริชาร์ลิซอน (เอฟเวอร์ตัน)

มีโอกาสทำประตูแต่โชคร้ายบอลไปชนเสา ก่อนมาโดนไล่ออกช่วงท้ายเกม หลังไปสกัดเข้าใส่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า อย่างรุนแรง

กองหน้า : เคลิชี่  อิเฮียนาโช่ (เลสเตอร์)

แม้ครึ่งแรกจะเก็บบอลได้ดี และจ่ายบอลสวยๆ หลายครั้ง แต่ในครึ่งหลังกลับคนละเรื่อง ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมเลย

กองหน้า : แพทริค แบมฟอร์ด (ลีดส์)

ไม่ได้สร้างความอันตรายให้แก่แนวรับ วูล์ฟส์ ได้เลย มีโอกาสส่องประตู 3 ครั้งแต่พลาดเป้าไปหมด

สปิริต!มูรินโญ่ชูเวสต์แฮมสู้สุดยอดจนไล่เจ๊าสเปอร์ส

ยอมเลย… โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยกเครดิตให้คู่แข่ง หลังทีมออกนำ 3-0 แต่สุดท้ายโดน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไล่เจ๊า 3-3 ระบุงานนี้ต้องเคลียร์กับบรรดาแข้ง "ไก่เดือยทอง" กันแบบภายใน 

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กล่าวชื่นชม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่สู้ได้อย่างสุดยอด และสามารถกลับมาได้ทั้งที่มีสกอร์ตามหลัง 0-3 ช่วงครึ่งแรก ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ทัพ "ไก่เดือยทอง" ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ "ขุนค้อน" 3-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ดูเหมือนชัยชนะกำลังจะตกเป็นของ สเปอร์ส อย่างง่ายดาย หลังจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นำ 3-0 จาก ซน ฮึง-มิน ตั้งแต่นาทีที่ 1, แฮร์รี่ เคน เหมาสองตุงในนาทีที่ 8 และ 16 อย่างไรก็ตาม เวสต์แฮม กลับมาสู้ได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งหลัง และมาได้สามประตูรวดในช่วงท้ายเกมจาก ฟาเบียน บัลบูเอน่า นาทีที่ 82, การทำเข้าประตูตัวเองของ ดาวินซอน ซานเชซ นาทีที่ 85 และ มานูเอล ลานซินี่ นาทีที่ 90+4 ซึ่งถึงแม้ทำสามแต้มหลุดมือ แต่ "เฮียมู" ก็ยกเครดิตให้กับทีมคู่แข่งเต็มที่

 "พวกเขาสมควรได้รับคำชื่นชม แต่สำหรับเราแล้ว มันเป็นการแพ้ 0-3 ในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งนั่นหมายความว่า ช่วงครึ่งหลังเราเล่นไม่ได้ดีแบบครึ่งแรก และสุดท้ายเราก็โดนลงโทษ เรามีโอกาสเปลี่ยนสกอร์เป็น 4-0 จากการที่ แฮร์รี่ เคน ยิงไปชนเสา และมีโอกาสที่จะเป็น 4-2 จาก แกเร็ธ (เบล) เราทุกคนต่างคิดว่า เราควบคุมเกมได้ แต่มันไม่ใช่เลย"

" หนึ่งลูกฟรีคิกของพวกเขา ได้นำพวกเขากลับมาสู่เกม และก็ยังทำประตูที่สวยงามปิดท้าย แน่นอน เราจะคุยกันเป็นภายในเกี่ยวกับเกมนี้ เราสำหรับพวกคุณ ผมอยากให้ยกย่อง เวสต์แฮม มากกว่า" มูรินโญ่ เปิดใจหลังเกม