บอลเป็นเหตุสังเกตได้!สาวเล่นชู้เซ็งผัวคลั่งลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูลเกี่ยวอะไรด้วย !? ซาช่า อิสตรีท่านหนึ่ง เปิดใจเหตุผลที่เธอนอกใจสามีเพราะเบื่อหน่ายที่เขามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการชมเกมลูกหนังของ "หงส์แดง" จนละเลิกการทำ "การบ้าน" เป็นประจำ ทำให้เธอต้องหาทางออกเพื่อคลายกำหนัดด้วยการเล่นเว็บหาคู่ จนสุดท้ายต้องลงเอยด้วยการมีชู้ แถมไม่รู้สึกผิดเพราะกำลังคิดเล่นชู้กับชายอีกคน เนื่องจากพอลองทำแล้วรู้สึกตื่นเต้นกับชีวิต
               ลิเวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดนลากไปเอี่ยวว่าเป็นสาเหตุทำให้ชีวิตครอบครัวร้าวฉาว หลังอิสตรีรายหนึ่งอ้างว่าเธอนอกใจสามีเพราะเบื่อหน่ายที่ฝ่ายชายมัวแต่สนใจดูเกม "หงส์แดง" มากกว่าที่จะทำกิจกรรมเข้าจังหวะบนเตียง

               ซาช่า วัย 32 ปีซึ่งงานเป็นช่างทันตกรรม เริ่มนอกใจ สตีฟ สามีของเธอที่เป็นสาวก "เดอะ ค็อป" พันธ์แท้ที่มัวไปยุ่งวุ่นวายกับการเชียร์ ลิเวอร์พูล ทำศึกพรีเมียร์ลีก มากกว่าที่จะเปิดสงครามใต้สะดือกับเธอ และตัดสินใจที่หันไปเล่น IllicitEncounters เว็บไซต์หาคู่ในเมืองผู้ดี จนกระทั่งได้สร้างสัมพันธ์สวาทกับผู้จัดการบริษัทไอทีแห่งหนึ่ง

               สาวผู้อาภัพชีวิตคู่เพราะเกมลูกหนัง กล่าวว่า "ความจริงที่น่าเศร้าก็คือ สตีฟ มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับ เจอร์เก้น คล็อปป์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และนักเตะคนอื่นๆ ของลิเวอร์พูล ชีวิตของเขาวนเวียนอยู่กับเรื่องฟุตบอล และถ้าเขาไม่ได้ดูทีวี เขาก็จะออกไปผับพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขาเพื่อพูดคุยเรื่องเกมฟุตบอล"

              "มันยิ่งเลวร้ายมากๆ เมื่อปีที่ผ่านมาตอนที่ ลิเวอร์พูล กำลังจะคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกในรอบ 30 ปี ฉันคิดว่ามีหลายสิ่งที่อาจจะแก้ไขได้ช่วงระหว่างที่ล็อกดาวน์ เมื่อการแข่งขันหยุดแข่งไปสักพัก แต่หลังจากนั้นเขาก็เอาแต่ตึงเครียดเนื่องจากกังวลว่าฤดูกาลจะถูกยกเลิกหรือไม่"

              "ฉันพยายามอ้อนวอนเขาเพื่อให้เสียสละเวลามาอยู่กับฉันมากขึ้น แต่เขาเอาแต่หมกมุ่นเรื่องฟุตบอล ชีวิตเซ็กซ์ของเรามันค่อยๆ เหือดหายไป และฉันก็ถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างอ้างว้างในบ้านเพียงลำพังหลายชั่วโมง"

              หลังจากนั้นเพื่อนของ ซาช่า ซึ่งใช้เว็บไซต์หาคู่ดังกล่าว จนได้แต่งงาน พยายามแนะนำให้เธอลองเล่นเว็บนี้ จนกระทั่งเธอได้รับข้อความถึง 15 ข้อความจากหนุ่มๆ ที่อยากออกเดทกับเธอ โดย ซาช่า เผยต่อไปว่า "ฉันรู้ว่าหากฉันใส่ประวัติของฉันลงไปฉันคงได้รับความสนใจพอสมควร แต่ฉันรู้สึกว่าชีวิตของฉันมันน่าเบื่อหน่ายมากๆ และต้องการเปลี่ยนแปลง"

             "แค่ 24 ชั่วโมงที่เข้าไปเล่นในเว็บนี้ ฉันได้รับ 15 ข้อความในอินบล็อกเพื่อขอออกเดท ฉันคัดคนที่ดีที่สุดเหลือแค่ 3 คน และสุดท้ายก็มีเพียง พอล ซึ่งเป็นผู้จัดการบริษัทไอที แถมยังอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับฉัน และเขาก็เบื่อหน่ายชีวิตแต่งงานของเขาหลังจากผ่านไป 4 ปี"

            "ไม่รู้ว่าเราพร้อมจะเลิกกับคู่ของเราหรือไม่ แต่เราอยากได้แรงกระตุ้นที่น่าตื่นเต้นจากคนใหม่ๆ เราออกไปดื่มที่ผับ และก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี ภายในไม่กี่สัปดาห์ทุกอย่างก็เรียบร้อย เราไปหลับนอนกันกัน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับฉันที่จะได้พบกับ พอล เพราะฉันแอบออกจากบ้านเมื่อไหร่ก็ตามที่ลิเวอร์พูลแข่ง"

            "สตีฟ จะใช้เวลาในการชมเกมแต่ละแมตช์อย่างน้อย 5 ชั่วโมง จากนั้นเขามักจะโพสต์อะไรก็ตามร่วมกับแฟนบอลคอเดียวกันหลังจบเกมอีกหลายชั่วโมง เขาไม่เคยสังเกตเลยว่าฉันออกจากบ้าน ฉันติดต่อกับผู้ชายคนอื่นที่มีเสน่ห์มากๆ ในเว็บไซต์ IllicitEncounters.com และฉันอยากที่จะเริ่มนอกใจครั้งที่สอง เพราะมันทำให้ฉันสนุกตื่นเต้นมากๆ" ซาช่า ระบุ

ค่าเหนื่อยแพงก็ยอม!เรอัลมาดริดเล็ง “คาวานี่” เสริมทัพ

เรอัล มาดริด เล็งสอย เอดินสัน คาวานี่ หัวหอกฟรีเอเจนต์มาร่วมทีม หลังสโมสรกำลังประสบปัญหาในเรื่องการยิงประตู เนื่องจากแนวรุกในปัจจุบันฟอร์มไม่เข้าที่เข้าทาง แต่งานนี้ติดแค่ปัญหาเรื่องค่าเหนื่อยที่ ดาวยิงอุรุกวัยต้องการค่อนข้างสูงมาก

เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน พร้อมยื่นข้อเสนอคว้าตัว เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าชาวอุรุกวัย อดีตหัวหอก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมแกร่งในลีก เอิง ฝรั่งเศส มาร่วมทีม จากการเปิดเผยของ มาร์ก้า สื่อชั้นนำในดินแดนกระทิงดุ

หัวหอกมากประสบการณ์วัย 33 ปี กลายเป็นนักเตะฟรีเอเจนต์ หลังจากที่โบกมือลา "เปแอสเช" ซึ่งเขาสร้างผลงานสุดยอดด้วยการตะบันไป 200 ประตู นับตั้งแต่ที่หมดสัญญากับสโมสรเมื่อช่วงต้นซัมเมอร์นี้ โดยปัจจุบันนักเตะยังไม่ตัดสินใจเลือกว่าจะย้ายไปเล่นให้กับทีมไหน

ขณะที่ มาร์ก้า รายงานว่า บอร์ดบริหาร "ราชันชุดขาว" แสดงความสนใจอยากได้ คาวานี่ ไปร่วมทีมเนื่องจากผลงานของนักเตะเป็นที่ถูกอกถูกใจของสโมสร อย่างไรก็ตามมีปัญหาติดอยู่แค่เรื่องเดียวนั่นก็คือค่าเหนื่อยของนักเตะที่ค่อนข้างสูงพอสมควร

มีการเปิดเผยว่า คาวานี่ ต้องการค่าเหนื่อยอย่างน้อย 120,000 ปอนด์ (ราว 4.56 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ พร้อมสัญญา 2 ปี แม้ในตอนแรก เรอัล มาดริด อาจจะคิดหนักในเรื่องนี้ แต่หลังจากผลงานของกองหน้าในปัจจุบันที่ไม่สามารถยิงประตูได้ในเกมเสมอ เรอัล โซเซียดาด 0-0 ทำให้พวกเขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมีหัวหอกชั้นดีมาช่วยทีม

ทั้งนี้ คาวานี่ กำลังฝึกซ้อมเพียงลำพังที่ประเทศอุรุกวัย บ้านเกิด เพื่อเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมสำหรับการย้ายไปเล่นให้กับต้นสังกัดใหม่ โดยนอกจาก "โลส บลังโกส" แล้ว ยังมี "ม้าลาย" ยูเวนตุส ที่แสดงความสนใจอยากใช้บริการนักเตะเช่นกัน

 

โลกส่วนตัวสูง อินดี้ คลั่งเซ็กซ์! เพราะอะไร “โรมาริโอ” ต้องลาบาร์เซโลน่า?

ย้อนไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 1994 โรมาริโอ ได้ชูโทรฟี่เวิลด์ คัพ ร่วมกับ บราซิล หลังจากทำผลงานได้อย่างสุดยอดในซีซั่นแรกกับ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ซึ่งเขาช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์ลา ลีกา และทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
          จากนั้นอีกประมาณปีกว่าๆ ดาวเตะชาวบราซิเลียน ตัดสินใจอำลาถิ่นคัมป์ นู เนื่องจากฟอร์มการเล่นไม่โดดเด่นเหมือนเดิม แต่ทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องในสนามเท่านั้น เพราะยังมีปัญหาไม่กินเส้นกับ ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ คู่หูถล่มประตู ด้วย

          ทุกคนยอมรับว่า โรมาริโอ ทำผลงานได้อย่างสุดยอดนับตั้งแต่ที่ย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาเล่นในถิ่นคัมป์ นู หลังจากซัดไป 31 ประตูในซีซั่นสุดท้ายในลีกสูงสุดประเทศฮอลแลนด์ เขายังคงโชว์ฟอร์มชั้นยอดอย่างต่อเนื่องในสีเสื้อ "เลือดหมูน้ำเงิน" ด้วยการตะบันไป 30 ประตูในลีกแดนกระทิงดุ

          ซีซั่นนั้น บาร์เซโลน่า ซัดไป 91 ประตูส่งผลให้ทีมในยุคที่ โยฮัน ครัฟฟ์ กุมบังเหียนคว้าแชมป์ลีกได้อย่างยิ่งใหญ่

          อย่างไรก็ตามก่อนจบฤดูกาลดังกล่าว เริ่มเกิดรอยร้าวภายในปี และ สตอยช์คอฟ ได้เคยเตือนเกี่ยวกับพฤติกรรมของ โรมาริโอ กับเพื่อนร่วมทีม ไม่ไหวตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีใครยอมฟัง จนสุดท้ายทุกอย่างก็พังหมด

         "โรมาริโอ สนใจแค่สองเรื่องเท่านั้น : ฟุตบอล กับอึ๊บสาว ไลฟ์สไตล์ของโรมาริโอ เขามักจะทำเรื่องแบบนี้ และมันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหามากมายกับภรรยาของเขา" ตำนานกองหน้าทีมชาติบัลแกเรีย กล่าวกับนิตยสารโฟร์โฟร์ทู

         ขณะเดียวกัน ฮอร์เก้ วัลดาโน่  อดีตผู้อำนวยการสโมสร เรอัล มาดริด แสดงความเห็นว่า "โรมาริโอ มีทักษะในการใช้ร่ายกายหลอกล่อได้อย่างสุดยอดเมื่ออยู่ในสนาม สุดท้ายเขาก็ต้องพบกับหายนะ เมื่อโกหกประธานสโมสรของเขาเพื่อออกไปเที่ยวกับสาวผลบลอนด์ 2 คน"

        ในฤดูกาล 1993/94 เป็นหนึ่งในซีซั่นที่ โรมาริโอ โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดกับ บาร์เซโลน่า เพราะเขาประสานงานกับ สตอยช์คอฟ ได้อย่างสุดยอด

 อย่างไรก็ตามหลังจบฟุตบอลโลกที่สหรัฐอเมริกา โรมาริโอ ไม่เคยกลับมาอยู่ในฟอร์มที่สุดยอดกับ บาร์ซ่า ได้อีกเลย

        "โรมาริโอ ไม่เคยกลับมาเหมือนเดิมหลังจบฟุตบอลโลก ร่างกายของเขาอยู่ที่สโมสร แต่จิตใจยังอยู่ที่ริโอ" สตอยช์คอฟ กล่าว โดยความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และ ดาวเตะเลือดแซมบ้า  แยกไปซ้อมตามลำพัง แถมไม่ค่อยคุยกับเพื่อนร่วมทีมนับตั้งแต่กลับมาอยู่ร่วมกับต้นสังกัด

       "เขาแยกไปฝึกซ้อมคนเดียว และเราแทบไม่คุยกันเลย หลังจากนั้นพวกเราก็มีปากเสียงกัน เพราะผมไม่อยากให้เพื่อนๆ ของผมต้องเป็นแบบนี้ ผมพยายามเข้าไปแยกเขาออกจากคนอื่นๆ แต่ผมเซ็งสุดๆ มันไม่เคยเหมือนเดิมอีกเลย" บิ๊กตอย กล่าว

       ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะ โรมาริโอ กับ ครัฟฟ์ ก็มีความสัมพันธ์ที่แย่ลงอย่างมาก ที่สำคัญนักเตะก็ไม่แคร์เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ทำให้กุนซือชาวดัตช์ปวดเศียรเวียนเกล้า "เขาขาดระเบียบวินัย" ครัฟฟ์ เปิดใจในตอนนั้น

       สำหรับในกรณีนี้ โรมาริโอ ได้สวนกลับว่า "มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทะเลาะกับ ครัฟฟ์ และไม่ใช่ครั้งสุดท้ายด้วย ผมพูดในสิ่งที่ผมคิด และไม่มีใครเปลี่ยนจุดยืนของผมได้" หลังจากนั้นในเดือนมกราคม 1995 เขาก็เก็บข้าวของออกจากถิ่นคัมป์ นู

       โรมาริโอ ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงเวลาที่เล่นให้สโมสรในลีกบ้านเกิด โดยยิงประตูได้ถึง 113 เกม จาก 168 แมตช์ในลีกช่วงที่ค้าแข้งกับ ฟลาเมงโก้, วาสโก ดา กาม่า และ ฟูลมิเนนเซ่ ขณะเดียวกันก็มีโอกาสได้เล่นแบบยืมตัวกับ บาเลนเซีย แต่ผลงานเทียบไม่ได้เลยกับช่วงเล่นสโมสรในลีกแซมบ้า

      ขณะเดียวกันหลังจากคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก โรมาริโอ ก็ยังช่วยชาติสอยแชมป์โกปา อเมริกา ในปี 1997 แต่น่าเสียดายที่ได้รับบาดเจ็บหนักทำให้พลาดโอกาสช่วยทัพ "เซเลเซา" คว้าแชมป์โลกสองสมัยติดต่อกันที่ฝรั่งเศส ปี 1998 (บราซิล แพ้ ฝรั่งเศส)

      เมื่อมองย้อนกลับไปเกี่ยวกับอาชีพพ่อค้าแข้งของ โรมาริโอ ต้องยอมรับว่าเขาทำผลงานได้ดีเยี่ยม และยิงประตูได้มากมาย แต่หากเจ้าตัวมีระเบียบวินัย และทุ่มเทให้กับ บาร์เซโลน่า มากกว่านี้ คาดว่าความสำคัญคงหลั่งไหลมากมายมหาศาลแน่นอน

ศราวุฒิเข้าพบนายกส.บอลแล้ว ชี้แจงกรณีที่หายตัวติดต่อไม่ได้

ศราวุฒิ มาสุข อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ได้เข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ประธานคณะกรรมการวินัยและมารยาทฯ, พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ที่ปรึกษาสมาคมฯ และ นายยงยศ พึ่งธรรม รองเลขาธิการ (ฝ่ายกฎหมาย) ณ ห้องทำงานนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อให้ข้อมูลชี้แจงรายละเอียดตามที่ตกเป็นข่าวว่าหายตัวลึกลับ เพราะหลงผิดพัวพันกับเรื่องการพนัน
   โดย นายศราวุฒิ มาสุข ได้ให้ข้อมูลว่า ตนเองมีปัญหาหลายด้าน ทั้งปัญหาครอบครัว และปัญหาด้านการเงิน แต่ยืนยันว่ากรณีปัญหาด้านการเงินไม่เกี่ยวกับการเล่นการพนันฟุตบอลแต่อย่างใด ส่วนกรณีปัญหาครอบครัวเกิดจากตนเองได้แยกทางกับภรรยามาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังมีปัญหาการตกลงเรื่องบุตร ซึ่งเพิ่งจะตกลงกันได้โดยให้ภรรยาเป็นผู้เลี้ยงดู และตนเองจะเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งเสียค่าเลี้ยงดูจำนวนหนึ่ง

   สำหรับปัญหาด้านการเงิน เนื่องจากก่อนหน้านี้นายศราวุฒิฯ เคยสังกัดสโมสรใหญ่มีรายได้จำนวนมาก จึงไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายมากนัก แต่ต่อมาเมื่อมาสังกัดสโมสรเล็กลงรายได้เริ่มไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องไปหยิบยืมจากเพื่อนๆ และญาติๆ จึงทำให้เกิดความเครียดจากปัญหาส่วนตัวดังกล่าว ประกอบกับในช่วงที่ฟุตบอลถูกเลื่อนการแข่งขันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งในช่วงที่ไม่มีการแข่งขัน

   ศราวุฒิฯ ได้ไปใกล้ชิดกับกลุ่มเพื่อนที่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จึงทำให้เกิดความเครียดมากขึ้น และเกรงว่าถ้าหากไปร่วมซ้อมกับทางสโมสร ตนเองอาจจะเป็นพาหะแพร่เชื้อให้กับบุคคลอื่นได้ จึงได้ตัดสินใจแยกตัวไปอยู่ตามลำพังและไม่ยอมติดต่อกับบุคคลหนึ่งบุคคลใด เพื่อหลบหนีสภาวะความเครียดด้านต่างๆ ที่มารุมเร้าอย่างหนักอยู่ระยะหนึ่งจนพ้นกำหนดระยะเวลากักตัว โดยนายศราวุฒิฯ ยังยืนยันว่ามีความประสงค์ที่จะกลับมาเล่นกีฬาฟุตบอลในฐานะฟุตบอลอาชีพอีกครั้งหนึ่ง"

   ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้องในเรื่องดังกล่าว และเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้งเป็นการช่วยเหลือเยียวยา นายศราวุฒิ ตามสมควรแก่กรณี นายกสมาคมฯ จึงแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ประธานคณะกรรมการวินัยและมารยาทฯ, พล.ต.ต.ประยนต์  ลาเสือ ที่ปรึกษาสมาคมฯ และ นายยงยศ  พึ่งธรรม รองเลขาธิการ (ฝ่ายกฎหมาย) เป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป

เก็บแรงเล่นเซ็กซ์, ครัวซองต์แลกสาว กินไม่เลือก ! วิบัติอาชีพ คาสซาโน่ กับ เรอัล มาดริด

ย้อนกลับไปเมื่อ 14 ปีก่อน อันโตนิโอ คาสซาโน่ เคยมีโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตเมื่อได้ย้ายไปเล่นให้ เรอัล มาดริด แต่เขาดันกลับทิ้งโอกาสที่แสนยิ่งใหญ่ในครั้งนั้นออกไป เนื่องจากพฤติกรรมที่ไร้ความเป็นมืออาชีพ จนทำให้อนาคตในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว มีแต่ล่องจุ๊น !
ในปี 2006 "คาสซ่า" ตัดสินใจย้ายจาก "หมาป่าเหลืองแดง" โรม่า มาเล่นให้ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวแค่ 5 ล้านยูโร (ราว 175 ล้านบาท)  และที่นี่ "ปีเตอร์แพน" ได้สร้างตำนานด้านมืดให้ผู้คนได้จดจำมากมาย

 

 ช่วงที่ คาสซาโน่ ใช้ชีวิตกับ เรอัล เขาเปรียบดั่งซูเปอร์สตาร์ เพราะมีทั้งชื่อเสียงเงินทอง และยังได้เล่นให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ฉะนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือบรรดาสาวๆ และความสบาย ซึ่งนั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตที่ทำให้เขาต้องพบกับหายนะ

 เรื่องราวของ คาสซาโน่ ต้องบอกเลยว่ายิ่งกว่านิยายเพราะชีวิตที่เต็มไปด้วยความความหรูหรา นำไปสู่จุดจบของพรสวรรค์ในเกมลูกหนัง

ครัวซ็องต์เสียวสะท้าน

 ตลอดช่วงกว่า 2 ทศวรรษในวงการฟุตบอล คาสซาโน่ มีโอกาสได้เล่นฟุตบอลกับสโมสรดังๆ มากมาย แต่น่าเสียดายที่เขาดันโชว์ฟอร์มสวนทางกับพรสวรรค์ โดยเฉพาะการยิงประตู ซึ่งสาเหตุมาจากพฤติกรรมนอกสนามล้วนๆ

 ด้วยการที่มีไลฟ์สไตล์แบบเพลย์บอยทำให้ คาสซาโน่ เลือกที่จะทำตัวขี้เกียจ และไม่ยอมซ้อม โดยในช่วงระหว่างเดือนมกราคม 2006 จนถึงเดือนสิงหาคม 2007 เจ้าตัวอาศัยกินนอนที่โรงแรมมาตลอดและที่นั่นคือสวรรค์สำหรับเขาอย่างแท้จริง

 คาสซาโน่ ยอมรับว่ามักจะอ้อมแรงเวลาซ้อมเพื่อนำแรงทั้งหมดไปใช้กับสาวๆ ที่รออยู่ในโรงแรม โดยอิสตรีเหล่านี้จะมีบริการคนหนึ่งที่สนิทกันคอยจับหามาให้ และเมื่อเสร็จกามกิจเขาจะนำอาหารมาเสิร์ฟเพื่อให้ตนกลับมามีกำลังวังชาอีกครั้ง

 "ผมมีเพื่อนเป็นหนึ่งในบริกรที่โรงแรม" คาสซาโน่ เปิดใจผ่านหนังสืออัตชีวประวัติส่วนตัวว่า "งานของเขาก็คือการเอาครัวซองต์สามหรือสี่ชิ้นมาเสิร์ฟให้ผมหลังจากที่ผมเสร็จจากการมีเซ็กซ์"

  ยังมีทีเด็ดกว่านั้น ด้วยความที่สนิทกับบริกร เวลาที่เขานำครัวซองต์ คาสซาโน่ ก็แสนใจดีด้วยการมอบสาวที่เพิ่งจัดการสวาปามเรียบร้อยให้เป็นของกำนัล "เขาจะเอาครัวซองต์มาให้ผมที่บันได ผมก็จะนำสาวไปหาเขา และเราจะแลกเปลี่ยนกัน เขาพาสาวไป ส่วนผมก็ซัดครัวซองต์เพิ่มพลัง เซ็กซ์ตามด้วยอาหาร….ค่ำคืนแสนเพอร์เฟกต์ !"

  พฤติกรรมมักมากในกามของ คาสซาโน่ นั้นเจ้าตัวก็ยอมรับและระบุด้วยว่าที่เป็นแบบนี้เนื่องจากคนเองเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูง แถมการไม่ได้เป็นคนหล่อแต่ดันดังเพราะอาชีพ ทำให้มีโอกาสฟาดสาวใหญ่สาวน้อยเป็นว่าเล่น ที่สำคัญยังคุยโวว่าจัดหนักมาแล้วกว่า 600 คน เลยทีเดียว
 
หม่อมถนัด…รับประทาน

 เรื่องผู้หญิงก็เป็นสิ่งที่สร้างหายนะให้กับ คาสซาโน่ แล้ว เรื่องกินก็เช่นกัน เพราะเขาไม่เคยปฏิเสธที่จะกินอาหารไร้ประโยชน์โดยเฉพาะในช่วงที่ อยู่กับ "ราชันชุดขาว" โดยอาหารโปรดของเจ้าตัวก็คือครัวซองต์ (ติดใจจริงๆ) และพวกอาหารอื่นๆ ที่ไม่มีอยู่ในเมนูโภชนาการของสโมสร

 หลังจบฤดูกาล 2006/2007 สโมสรได้จัดการดันสันดานเรื่องการกินของ คาสซ่า ด้วยการสั่งปรับเงินตามจำนวนน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น แต่ขอบอกว่า "ปีเตอร์แพน" ยักไหล่ไม่ยี่หระ และยินดีให้ปรับเงินแบบสบายอุรา

 "ผมมีความสุขเมื่อผมได้กินพาสต้า, ขนมปัง, ของหวาน และแฮม ผมเสพติดอาหารพวกนี้มาจนถึงปัจจุบัน" คาสซาโน่ ยอมรับหน้าชื่นตาบาน

 ด่าหมดถ้าสดชื่น

 ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดตอนที่อยู่ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว เกิดขึ้นในวันที่ 28 ตุลาคม 2006 โดยเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับอาหาร หรือผู้หญิง แต่คนที่เกี่ยวข้องก็คือ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือจอมเฮี้ยบชาวอิตาเลียนนั่นเอง

 ช่วงเวลานั้น คาเปลโล่ นั่งกุมบังเหียน "ลอส บลังโกส" เรื่องราวสุดแสบของ คาสซาโน่ เกิดขึ้นเมื่อต้นสังกัดออกไปเยือน กิมนาสติก โดยนักเตะมีปากเสียงกับ กุนซือหน้าหงอ ซึ่่งแนะนำให้เขาไปอบอุ่นร่างกายที่ริมเส้น…ตลอดช่วงครึ่งหลัง

 หลังเหตุการณ์นั้น คาเปลโล่ ไม่เคยจับเขาลงสนามอีกเลย งานนี้ คาสซาโน่ ซึ่งเคยยกให้ "บิ๊กดอน" เป็นดั่งพ่อคนที่สองสมัยที่อยู่ด้วยกันกับ โรม่า จัดการตราหน้าว่าเป็น "พวกจอมปลอมยิ่งกว่าธนบัตรในเกมเศรษฐี"ซะอีก

  ขณะเดียวกันสโมสรได้สวนกลับว่า "นี่เป็นพฤติกรรมที่ไร้ระเบียบวินัย และขาดความเคารพต่อโค้ช" ด้าน คาเปลโล่ จัดการดร็อป คาสซาโน่ ทันที และจับเขาฝึกซ้อมเพียงลำพังคนเดียว หลังจากนั้นคงไม่ต้องนะว่าอนาคตของเขาจะเป็นยังไง !!

เสียดายพรสวรรค์

 จริงๆ แล้ว คาสซาโน่ คือหนึ่งในนักเตะระดับพรสวรรค์ของประเทศอิตาลี จริงๆ และเคยเป็นแข้งความหวังใหม่ของทัพ "อัซซูรี่" แต่ด้วยพฤติกรรมหัวแข็ง กร้าวร้าว อารมณ์ร้อน และยอมหักดีกว่ายอมงอ มันบดบังรัศมีในเชิงลูกหนังของเขาไปหมด

 ตอนที่อยู่ เรอัล มาดริด นี่คือโอกาสที่นักฟุตบอลทั่วโลกอยากได้ แต่ คาสซาโน่ โยนมันทิ้งลงถังขยะด้วยความขี้เกียจ และไร้ความเคารพผู้อื่น โดย ราอูล กอนซาเลซ กัปตันทีมในเวลานั้น ยอมรับว่าเสียดายอนาคตของอดีตเพื่อนร่วมทีมสุดแสบจริงๆ

 "หากเขาตั้งใจฝึกซ้อมทำงานหนักเพื่อคนอื่น, รู้สึกถ่อมตัว, ทำงานเพื่อเป้าหมายเดียวกัน และรู้ว่าเราได้อยู่กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่"  ราอูล กล่าว

  การได้เล่นให้ เรอัล มาดริด คือความใฝ่ฝันของนักฟุตบอลทุกคน แต่น่าเสียดายที่ คาสซาโน่ เลือกที่จะใช้ช่วงเวลาเหล่านั้นไปกับความละโมบทางด้านอารมณ์ และนำไปสู่วิบัติในอาชีพ
 
 บอกตามตรงหากเขาทุ่มเทให้กับตัวเองและเรอัล มาดริด ป่านนี้ชื่อของ "คาสซ่า" คงเป็นหนึ่งในตำนานแห่งถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ไปแล้ว