กลับบ้านเก่า!เปเรย์ร่าลาวัตฟอร์ดหวนซบอูดิเนเซ่

โรเบร์โต้ เปเรย์ร่า มิดฟิลด์จอมพลิ้วเลือด "ฟ้า-ขาว" กลับมาสวมยูนิฟอร์ม อูดิเนเซ่ อีกครั้ง หลังออกไปหากินในลีกเมืองผู้ดีกับ วัตฟอร์ด 4 ปี

อูดิเนเซ่ สโมสรดังแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ประกาศยืนยัน เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมาว่า โรเบร์โต้ เปเรย์ร่า กองกลางดีกรีทีมชาติอาร์เจนตินา ได้ย้ายจาก วัตฟอร์ด สโมสรลูกหนังในศึก แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ กลับมาค้าแข้งในถิ่น สตาดิโอ ฟริอูลี่ อีกครั้ง ด้วยสัญญา 3 ปี

เปเรย์ร่า เคยอยู่กับ อูดิเนเซ่ เป็นเวลา 3 ฤดูกาล ก่อนย้ายไปร่วมทีม ยูเวนตุส ในปี 2014 (สัญญายืมตัว ก่อนย้ายขาดในปี 2015) จากนั้นเจ้าตัวก็เก็บข้าวของย้ายไปค้าแข้งในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีกับ "แตนอาละวาด" ด้วยค่าตัว 13.5 ล้านยูโร (ประมาณ 499.5 ล้านบาท) เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2016 และล่าสุด ดาวเตะวัย 29 ปี ได้กลับมาร่วมก๊วน อูดิเนเซ่ หลังจากที่ วัตฟอร์ด ตกชั้นจากเวที พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลที่ผ่านมา

"เรามีความสุขมากๆ ที่ได้ต้อนรับเขากลับสู่สโมสร เขาเป็นนักเตะชั้นยอด ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องแนะนำอะไร" ปิเอร์เปาโล มาริโน่ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ อูดิเนเซ่ กล่าว โดย เปเรย์ร่า จะได้สวมเสื้อหมายเลข 37

ทั้งนี้ เปเรย์ร่า ลงเล่นไปทั้งสิ้น 104 นัด ทำได้ 8 ประตู สำหรับช่วงแรกที่ค้าแข้งกับ อูดิเนเซ่ ระหว่างปี 2011-2014

 

เข้าใจหัวอก!โซลชาใจดีให้ “แม็กไกวร์” พักเพิ่ม

 

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไฟเขียวให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้พักนานกว่าเพื่อนร่วมทีม เพราะเข้าใจว่าตอนนี้จิตใจของนักเตะยังคงเหนี่อยล้า และอ่อนแอ จากเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศกรีซ
   
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อนุญาตให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีม ได้พักเพิ่มขึ้น หลังจากนักเตะต้องเจอกับช่วงเวลาวุ่นวายต้องขึ้นโรงขึ้นศาลจากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทที่ประเทศกรีซ

แม็กไกวร์ ต้องเจอกับวิบากกรรมหลังจากมีเรื่องทะเลาะวิวาท และขัดขืนการจัมกุมบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกาะมีโคนอส โดยจากเหตุการณ์ทำให้ศาลมีคำพิพากษาตัดสินให้ แม็กไกวร์ มีความผิด 3 กระทงได้แก่ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง,  พยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ และขัดขืนการจับกุมรวมทั้งพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามเจ้าพนักงาน ส่งผลให้ต้องโทษจำคุก 21 เดือนกับ 10 วันแต่ได้รับการลงอาญาเนื่องจากเป็นการกระทำผิดครั้งแรก

อย่างไรก็ตามทีมกฎหมายของ แม็กไกวร์ วัย 27 ปี ได้ทำเรื่องยื่นอุทธรณ์ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตามกฎหมายของประเทศกรีซ ระบุว่าหากมีการยื่นอุทธรณ์จะทำให้บทลงโทษที่ได้รับถือเป็นโมฆะ และจะต้องมีการพิจารณาคดีใหม่ทั้งหมดที่ศาลสูงสุด

จากเหตุการณ์วุ่นวายที่เข้ามารบกวนจิตใจของ แม็กไกวร์ ทำให้ โซลชา ตัดสินใจที่จะขยายเวลาการพักของนักเตะออกไป โดยบรรดาขุนพล "ปีศาจแดง" จะกลับมารวมตัวกันที่ แคร์ริงตัน สนามซ้อมของสโมสรในวันพุธที่ 2 กันยายนนี้ ส่วน ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ จะกลับมาร่วมทีมในช่วงสุดสัปดาห์

เดอะค็อปขนลุก! “คล็อปป์” ย้ำชัดแผนเดิมพัก1ปี

 

เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ลิเวอร์พูล ย้ำชัดแผนเดิมว่าจะลาวงการฟุตบอลอย่างน้อย 1 ปีเมื่อหมดสัญญากับ "หงส์แดง" ระบุช่วงเวลาที่ห่างจากเกมลูกหนังจะคิดทบทวนว่ายังต้องการคุมทีมอีกหรือไม่ ถ้าหากคำตอบว่าไม่ ก็ขอโบกมือลาถาวร

               เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤา ออกโรงยืนยันเกี่ยวกับแผนการที่จะพักจากวงการฟุตบอลเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี หลังจากที่หมดสัญญาปัจจุบันในถิ่นแอนฟิลด์

              นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช สลัดน้ำหมึกขยายสัญญากับ แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019/2020 ไปจนถึงปี 2024 เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวยอมรับว่าหากหมดสัญญากับ "เดอะ เร้ดส์" แล้วอาจจะหยุดพักจากวงการลูกหนังเพื่อไปพักผ่อนอย่างเต็มที่ และเป็นการชาร์จพลังไปในตัว

              จากคำถามที่ว่าแผนการที่เขาเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ เรื่องนี้ คล็อปป์ ย้ำชัดอีกรอบว่าทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง "ผมจะขอพัก 1 ปีจากนั้นผมจะลองถามตัวเองว่าผมยังคิดถึงฟุตบอลหรือไม่ ถ้าผมไม่คิดถึงแล้ว นั่นคงจะเป็นการจบอาชีพโค้ชของเจอร์เก้น คล็อปป์ ถ้าวันหนึ่งผมไม่ได้เป็นโค้ช มีสิ่งหนึ่งที่ผมจะไม่คิดถึงเลย นั่นก็คือความตึงเครียดอย่างรุนแรงเฉียบพลันก่อนเกม"

               ส่วนในเรื่องการป้องกันแชมป์ในฤดูกาล 2020/2021 คล็อปป์ ยืนยันว่าตนและลูกทีมพร้อมเต็มที่ โดยทุกๆ คนมีแรงกระตุ้นเต็มเกี่ยวที่จะนำ "หงส์แดง" ครองความยิ่งใหญ่ต่อไป "ทุกๆ คนในสโมสรเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นสำหรับฤดูกาลใหม่ เราอยากที่จะทำให้ดียิ่งกว่านี้ เราไม่ได้คิดเรื่องป้องกันแชมป์ เราอยากได้แชมป์ใหม่ เราเพิ่งจะเริ่มต้นชัยชนะเท่านั้น"

เหตุเกิดที่ฮ่องกง แข้งลาว 3 คนโดนโทษหนักห้ามเล่นตลอดชีวิต

สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี) ประกาศลงโทษแบนหนัก ทิพพรไซ อินทะวงสา ผู้รักษาประตูทีมชาติลาว ด้วยการห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลตลอดชีวิต หลังถูกตรวจพบว่ามีส่วนพัวพันกับเรื่องราวของการล็อคผลสกอร์การแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องระดับเอ แมตซ์ นัดที่ ลาวบุกไปพ่าย ฮ่องกง 0-4 ที่สนามกีฬาแห่งชาติมงก๊ก สเตเดี้ยม เกมนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ต.ค.60
   จากการตรวจสอบของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ที่เข้าไปเช็กรายละเอียดต่างๆ ซึ่งทำงานร่วมกับสปอร์ตเรดาห์ เกมการแข่งขันคู่ระหว่างฮ่องกง เอาชนะ ลาว 4-0  ในการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องนานาชาติ เกมระดับ เอ แมตซ์ ที่เอเอฟซี และ ฟีฟ่า รองรับ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.60 มีสิ่งที่เป็นเรื่องน่ากังขาหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องของผลสกอร์ ซึ่งทางเอเอฟซี ตรวจพบว่า  ทิพพรไซ  อินทะวงสา ผู้รักษาประตูทีมชาติลาวมีส่วนต่อการล็อคผลการแข่งขันจึงมีคำสั่งแบนจอมหนึบทีมชาติลาวตลอดชีวิต

   ก่อนหน้านี้ เอเอฟซี ได้ลงดาบหนักกับ 2 นักเตะทีมชาติลาวด้วยการแบนตลอดชีวิตกับ คำแพง ไซยาวุดทิ อดีตแข้งที่เคยมาแข้งในไทยลีก และ แลมโบ้ ไสสะนะ  เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในข้อหารับจ้างกำหนดผลการแข่งขัน ซึ่งเป็นเกมเดียวกับ ทิพพรไซ อินทะวงสา ผู้รักษาประตูทีมชาติลาว ที่โดนแบนล่าสุด ในเกมที่ ลาวบุกไปพ่าย ฮ่องกง 0-4   จากเกมการแข่งขันแมตซ์ดังกล่าวมีผู้เล่นทีมชาติลาวโดนแบนไปแล้วถึง 3 ราย
 

เจ้าพ่อเดินสาย ผู้กล้าปฏิเสธทีมจากยุโรป

 เรื่องราวของนักเตะรายหนึ่งซึ่งเป็นกองหน้าพรสวรรค์เคยติดทีมชาติไทยชุดใหญ่มามากมายหลายรายการ และครั้งหนึ่ง "เจ้าจ็อบ" ชายชาญ เขียวเสน โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงสคัพ ทำให้ทีมวีบอร์ก ของเดนมาร์ก ที่มาเล่นคิงสคัพในครั้งนั้นถูกใจและทาบทามไปเล่นอาชีพในยุโรป

    "ตอนนั้นตัวแทนวีบอร์กเข้ามาคุยว่าสนใจ ผมไปบอกกับพ่อ แต่พ่อบอกว่า ห้ามไปเด็ดขาด เพราะถ้าไปก็หมายถึงต้องลาออกจากการเป็นทหารเรือ ซึ่งพ่อไม่ยอมให้ลาออกเด็ดขาด สุดท้ายผมก็ปฏิเสธโอกาสนั้นไป"

     แต่สิ่งหนึ่งที่ "จ็อบ" ชายชาญ ไม่เคยปฏิเสธคือ การตระเวณเล่นฟุตบอลเดินสายไปทั่วประเทศ โดยใช้เวลาว่างจากการเล่นบอลลีกกับราชนาวีและทีมชาติ ไปเล่นบอลรายการคัพต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร

 

    "ผมเดินสายเล่นบอลตั้งแต่เป็นเด็กอยู่ที่ บ้านฉาง จ.ระยองแล้ว ตำบลไหน อำเภอไหน มีจัด ผมไปเล่นหมด แม้กระทั่งตอนติดทีมชาติผมก็ไปเล่น ถามว่ากลัวโดนเตะข้อหาหมั่นไส้ไหม ไม่กลัวนะครับ เคยโดนเตะเหมือนกัน แต่ไม่เคยเจ็บหนัก ขนาดบอลเล็ก ๆ จัดบนเกาะเสม็ด ที่ระยอง สนามไม่มีหญ้าขึ้น ผมยังไปเล่น แถมเล่นบ่อยด้วย ผมชอบเจอคนใหม่ ๆ เวลาไปเดินสาย ก็เหมือนไปเที่ยว บางวันเตะ 3 แห่ง 3 รายการก็เคยมาแล้ว"

    "ตั้งแต่เล่นมา ค่าตัวเยอะสุดเวลาเดินสายคือ 5 พันบาท น้อยสุดคือไม่ได้เลย แต่กินฟรี อยู่ฟรี เที่ยวฟรี แค่นั้น ตั้งแต่เดินสายมา ผมได้ถ้วยรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมสลับกับดาวซัลโวของรายการต่าง ๆ มา 40 กว่าใบ จนมาเลิกเดินสายอายุ 36 ปี หันมาเป็นโค้ชให้กองเรือยุทธการเต็มตัว"

สุดเศร้า!ดาวรุ่งอตาลันต้าเสียชีวิตแล้ว

 ถือเป็นข่าวเศร้าสำหรับวงการลูกหนังอิตาลี เมื่อล่าสุด อันเดรีย รินัลดี้ มิดฟิลด์อนาคตไกล อตาลันต้า เสียชีวิตลงแล้ว หลังป่วยหนักมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์
    อันเดรีย รินัลดี้ กองกลาวดาวรุ่งของ อตาลันต้า สโมสรดังแห่งศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 19 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่ต้องต่อสู้กับอาการป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง

    รินัลดี้ ซึ่งปัจจุบันเล่นให้กับ เลนญาโน่ สโมสรระดับ เซเรีย ดี ล้มป่วยขณะฝึกซ้อมอยู่ที่บ้าน เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่เมืองวาเรเซ่ทันที ซึ่งล่าสุด ดาวเตะวัย 19 ปี ได้จากโลกใบนี้ไปอย่างสงบในช่วงเช้าวันจันทร์ของประเทศอิตาลี

    "เขาเป็นคนที่เตรียมพร้อมเสมอ และคิดบวก เขารู้วิธีที่จะทำให้ตัวเองเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นๆ" แถลงการณ์จาก อตาลันต้า ระบุ

    สำหรับฤดูกาลนี้ รินัลดี้ ลงเล่นให้ เลนญาโน่ ไปทั้งสิ้น 23 นัด ทำได้ 1 ประตู

โรนัลโด้ ชี้มีแข้งอังกฤษเพียงคนเดียวที่เจ๋งพอเล่นให้บราซิล



โรนัลโด้ ตำนานกองหน้า ทีมชาติบราซิล ออกโรงยกย่องอดีตเพื่อนร่วมทีม เรอัล มาดริด อย่าง เดวิด เบ็คแฮม ว่าเป็นนักเตะอังกฤษคนเดียวที่มีดีพอสามารถเล่นให้บราซิลได้ จากรายงานของ thesun.co.uk เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563

        โรนัลโด้ และ เบ็คแฮม เคยเล่นร่วมกันที่ "ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว" ในยุค "กาลาติกอส" นาน 4 ปี โดยสามารถพา "ราชันชุดขาว" คว้าแชมป์ ลา ลีกา ไปครองได้ในปี 2007

        ล่าสุดทั้งคู่ได้ใช้เวลาว่างในช่วงกักตัวอยู่บ้านหนีการระบาดของเชื้อ COVID-19 ด้วยการวิดีโอคอลพูดคุยย้อนความหลังกันผ่านทางอินตาแกรม ซึ่งทาง เจ้าโล้นทองคำ ก็ได้อวย ดาวเตะเท้าชั่งทอง ชุดใหญ่โดยกล่าวว่า "สำหรับฉัน นายคือหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาลในแดนกลาง"

        "วิธีที่ที่นายสัมผัสลูกบอล และสามารถวางบอลไปที่ที่นายต้องการ และแม้จะไม่ได้มองมาที่ฉัน แต่บอลก็ยังลอยมาหาฉันอยู่ดี ฉันควรขอบคุณสำหรับการโยนบอลหลาย ๆ ลูกที่นายส่งมาให้ฉัน นายมันน่าเหลือเชื่อมาก ๆ"

        ขณะที่ เบ็คแฮม ก็บอกกับ โรนัลโด้ ว่า "เมื่อฉันย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งฉันอยู่ที่นั่นมาทั้งชีวิตเพื่อไปเล่นให้ เรอัล มาดริด มันเป็นการย้ายทีมครั้งสำคัญของฉัน หนึ่งในคนแรก ๆ ที่ฉันได้เจอก็คือนาย เมื่อนายเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวมันทำให้ฉันรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่กับสโมสรแห่งนี้"

        "ฉันจำได้ว่านายหันมาหาฉัน และพูดว่า ‘นักเตะบราซิลเชื่อกันว่าหากมีผู้เล่นอังกฤษคนใดที่จะสามารถเล่นให้บราซิลได้คนคนนั้นมันก็คือนาย’ แต่ฉันไม่อยากจะเชื่อนายหรอก เพราะผู้เล่นชาวบราซิลเป็นผู้เล่นที่เก่งสุด ๆ นายก็รู้นี่"

ยกมาทั้งสวน!หวานใจโด้อาบแดดโชว์ร่องอก



จอร์จิน่า โรดริเกซ สุดที่รักของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นึกว่าเป็นสาวเจ้าของสวนมะม่วง หลังโชว์อกร่อง (ร่องอก) ขณะกำลังนอนอาบแดดอย่างมีความสุขช่วงกักตัวหนีมหันตภัยเชื้อไวรัสมรณะ แถมยังโชว์ลีลาเสน่ห์ปลายจวักอีกด้วย

         จอร์จิน่า โรดริเกซ หวานใจสุดสวยของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ทำเอาบุรุษเพศทุกรุ่นทุกวัยใจสั่น หลังแม่เจ้าประคุณใช้เวลาว่างในช่วงกักตัวหนีเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการสวมบรานอนอาบแดดสบายอุรา

        สำหรับตอนนี้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส และครอบครัวของเขา ใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่บ้านเช่าสุดหรูราคา 3,500 ปอนด์ (ราว 133,000 บาท) ต่อสัปดาห์ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านชาวประมงที่แสนเงียบสงบในเกาะมาเดยร่า

       แม้จะต้องกักตัวเองอยู่แต่ในบ้านเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ แต่ โรดริเกซ ก็แสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้รู้สึกเบื่อเลย แถมยังมีความสุขด้วยซ้ำกับการอยู่ที่พักใหม่ เพราะได้มีโอกาสสวมชุดชั้นในนอนอาบแดดท้าลมร้อนมันซะเลย

      อดีตพนักงานขาย "กุชชี่" สินค้าแบรนด์เนมระดับโลก วัย 26 ปี ได้แชร์ภาพเซลพี่ในขณะที่สวมชั้นในสีแดงแรงฤทธิ์ ให้กับบรรดาแฟนคลับที่กดติดตาม อินสตาแกรม ในแอคเค้าท์ของเธอมากกว่า 17.5 ล้านฟอลโลว์ ได้เห็นเป็นบุญตา

      หลังจากที่โชว์เรียกน้ำลายแล้ว โรดริเกซ ก็โชว์เสน่ห์ปลายจวักเรียกน้ำย่อยด้วยการเค้กข้าวโอ๊ตแครอท ซึ่งเป็นของหวานเพื่อสุขภาพสำหรับ โรนัลโด้ และครอบครัว