ตัวเลขช่วยยัน! เมื่อ โอซิล ไม่จำเป็นกับ อาร์เซน่อล อีกต่อไป

ถ้าจะบอกว่าตอนนี้ เมซุต โอซิล แค่รอนับวันย้ายออกจาก อาร์เซน่อล อย่างเป็นทางการมันก็ไม่ผิดนัก เพราะเขาถึงขั้นไม่ถูกทีมใส่ชื่ออยู่ในขุมกำลังชุดที่จะได้สิทธิ์เล่นทั้งเกมระดับ พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก โดยสาเหตุที่ทำให้เป็นอย่างนั้นมีทั้งการลือว่ามันเป็นเพราะเรื่องผลงานของเขาล้วนๆ และเรื่องการตลาดจากการที่เจ้าตัวเคยด่าประเทศจีนในกรณีที่ปฎิบัติกับชาวอุยกูร์แบบไม่เป็นธรรม
    การที่นักเตะซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังระดับ โอซิล ถูกต้นสังกัดมองข้ามมากถึงขนาดนี้ทำให้หลายคนใจหายไม่น้อย เพราะคงมีไม่กี่คนที่จะเคยคิดว่านักเตะที่เคยได้แชมป์มากมายก่ายกอง รวมถึงรับค่าเหนื่อยสูงที่สุดของทีมที่ 350,000 ปอนด์ จะไม่มีที่ว่างแม้กระทั่งเป็นอะไหล่ด้วยซ้ำ

    ถึงกระนั้น ถ้ามองเฉพาะที่เรื่อง "ผลงานส่วนตัว" แล้วนั้น มันปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า โอซิล โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังจนถึงขนาดที่ต่อให้ไม่มีเขาอยู่ในทีมก็อาจจะไม่ได้ส่งผลเสียอะไรเลย

    จากการลงเล่นในลีก 38 นัดในฤดูกาลก่อนของ อาร์เซน่อล นั้น โอซิล ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงไป 18 นัด ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นการลงเล่นเป็นตัวจริงทั้งหมดใน 10 เกมแรกภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ด้วย ถึงกระนั้น ในช่วงเวลา 18 เกมที่ว่า อาร์เซน่อล เก็บชัยชนะได้เพียง 27.8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

    ในทางกลับกัน 20 เกมในลีกของ อาร์เซน่อล เมื่อฤดูกาลก่อนที่ โอซิล ไม่ได้เป็นตัวจริง และไม่ได้ลงเล่นนั้น "ไอ้ปืนใหญ่" สามารถเก็บชัยชนะได้สูงถึง 45 เปอร์เซนต์ ดังนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าค่าเฉลี่ยการได้แต้มต่อ 1 เกมนั้น อาร์เซน่อล จะได้แต้มมากกว่าเมื่อไร้เงา โอซิล เป็นตัวจริง เพราะพวกเขาทำได้ 1.6 แต้มต่อเกม ขณะที่พอมี โอซิล ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกม พวกเขาเก็บได้ 1.3 คะแนนต่อนัด

    ถ้าจะมีอะไรที่เท่ากันคงเป็นค่าเฉลี่ยจำนวนประตูที่ทำได้ต่อ 1 เกม เพราะไม่ว่าจะทั้งตอนที่ โอซิล ได้เป็นตัวจริง หรือตอนที่ทั้งไม่ได้เป็นตัวจริงกับไม่ได้ลงเล่นนั้น อาร์เซน่อล ก็ทำได้ 1.5 ประตูในลีกต่อเกมเท่ากันเป๊ะ

    นอกจากนี้ ถ้าย้อนกลับไปดูผลงานในช่วงหลายฤดูกาลก่อนแล้วล่ะก็ มันก็จะเห็นได้ชัดว่า โอซิล ฟอร์มดร็อปลงอย่างมากจริงๆ โดยในฤดูกาล 2015-16 เขาโชว์ฟอร์มการเป็นจอมปั้นเกมได้สุดยอดด้วยการทำได้ถึง 19 แอสซิสต์ในลีก จากการลงเล่น 3,047 นาที แถมยังทำได้ 6 ประตูด้วย

    อย่างไรก็ตาม พอถึงซีซั่น 2016-17 ถึงแม้เขาจะทำประตูในลีกได้ 8 ลูก แต่จำนวนการแอสซิสต์ลดฮวบเหลือเพียงแค่ 9 หนเท่านั้น ทั้งที่เขาเล่นในฤดูกาลดังกล่าวไป 2,847 นาที ซึ่งหลังจากนั้นผลงานการแอสซิสต์ของเขาก็ยังไม่ดีขึ้นเมื่อทำไปแค่ 8 แอสซิสต์ในซีซั่น 2017-18 จากการลงเล่น 2,164 นาที

    ส่วนในฤดูกาล 2018-19 กับ 2019-20 นั้น เขาก็กลายเป็นส่วนเกินของทีมไปแล้วจนทำให้คงไม่จำเป็นต้องนับรวมเพื่อเอามาเปรียบเทียบ แต่ถ้าใครอยากรู้ก็ขอบอกเลยว่าใน 2 ซีซั่นนั้นเขาทำได้ 2 แอสซิสต์เท่ากันจากการลงเล่น 1,741 นาที กับ 1,448 นาที ตามลำดับ

    ตารางเปรียบเทียบผลงานของ อาร์เซน่อล ในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 ระหว่างตอนที่ โอซิล เป็นตัวจริง กับตอนที่ โอซิล ไม่ได้เป็นตัวจริง/ไม่ได้ลงเล่น

      ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเทียบระหว่างดฤดูกาล 2015-16 กับ 2016-17 แล้วล่ะก็ โอซิล ยังมีค่าเฉลี่ยการสร้างโอกาสทำประตูลดฮวบได้ โดยในซีซั่น 2015-16 เขาสร้างโอกาสทำประตูในลีกจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ได้ถึง 4.31 ครั้งต่อเกม แต่ในซีซั่นต่อมาลดเหลือที่ 3.16 ครั้งต่อนัด

    แม้ว่าในฤดูกาล 2017-18 ตัวเลขด้านค่าเฉลี่ยการสร้างโอกาสทำประตูจะดีขึ้นนิดหน่อยจนมาอยู่ที่ 3.49 ครั้งต่อเกม แต่มันก็ยังไม่คู่ควรกับคนที่รับค่าเหนื่อย 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อยู่ดี

    ตัวเลขตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ในระดับหนึ่งว่าต่อให้ อาร์เซน่อล จะไม่มี โอซิล อยู่ในทีม แต่มันก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่เสียหายร้ายแรงอะไร ถ้าจะมีเรื่องที่น่าเสียดายก็คงจะเป็นการที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องแยกจากกันแบบไม่ดีเท่าไหร่นั่นเอง

    ตารางเปรียบเทียบผลงานของ โอซิล ใน พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 2015-16 เป็นต้นมา

อาร์เซน่อลบุกทุบเลสเตอร์ ลิ่วบาวคัพรอบ4โอกาสชน “หงส์แดง” มีสูง

"ปืนใหญ่" ขนสำรองลงสนามเกือบยกชุดก่อนจะเบียดเอาชนะเจ้าบ้าน เลสเตอร์ ซิตี้ ที่จัดแข้งสำรองเช่นกัน 2-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ คริสเตียน ฟุคส์ ก่อนที่ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ จะยิงนาทีสุดท้ายให้ อาร์เซน่อล ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย รอพบผู้ชนะระหว่าง ลินคอล์น ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล ในศึกคาราบาว คัพ รอบ 3 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

    "บิ๊กแมตช์" คาราบาว คัพ รอบ 3 เมื่อคืนวันพุธที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับมือ อาร์เซน่อล ซึ่งทั้งสองทีมต่างโชว์ฟอร์มเยี่ยมเก็บชัยชนะ 2 เกมในลีกมาด้วยกันทั้งคู่

    เกมนี้  เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แข้งสำรองเป็นหลักวาง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ หน้าเป้าและให้ เจมส์ แมดดิสัน, คีร์นาน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์, เดมาไร เกรย์ และมาร์ค อัลไบรท์ตัน ปั้นเกมสนับสนุน ส่วนทางฝั่ง มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ของอาร์เซน่อลโรเตชั่นส่งแข้งสำรองลงสนามเช่นกัน 3 ประสานแนวรุกวาง นิโกล่าส์ เปเป้,  เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และ รีสส์ เนลสัน

    ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาแค่ 3 นาที "ปืนใหญ่" ทีมเยือนได้ทักทายก่อนเลยหลัง รีสส์ เนลสัน ตัดบอลได้ทางซ้ายก่อนเลี้ยงตัดเข้าหน้ากรอบตะบันด้วยขวาบอลพุ่งจะฮุคใต้คานแต่ไปติดปลายนิ้วของ แดนนี่ วอร์ด

    นาทีที่ 6 ถัดมา มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปิดบอลไปให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ อัดด้วยซ้ายแต่บอลยังไม่ผ่านมือ แบร์นด์ เลโน่

    จังหวะเข้าทำของ "ปืนใหญ่" ดูดีกว่า นาที 17 ได้ลุ้นจากจังหวะที่ เปเป้ หลุดไปในกรอบทางขวาก่อนซัดไปติดบล็อค คริสเตียน ฟุคส์ และจากลูกเตะมุมถัดมา เซอัด โคลาซินัช ได้ซัดนอกกรอบเต็มแรงแต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไป

    อีก 2 นาทีถัดมา อาร์เซน่อล ได้เสียวอีกเมื่อ บูคาโย่ ซาก้า พาบอลถึงเส้นหลังแล้วปาดเลียดไปหน้ากรอบไม่ถึง 6 หลา แต่แข้งไอ้ปืนใหญ่ รวมทั้ง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ต่างเข้าชาร์ตไม่ถึงบอลผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย

    นาที 29 ทีมเยือนพลาดโอกาสชิงขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย หลัง รีสส์ เนลสัน เลี้ยงจี้เข้าไปหน้ากรอบแล้วปั่นด้วยขวาไปทางเสาไกล แต่บอลยังไปติดเซฟของ แดนนี่ วอร์ด ที่พุ่งปัดหวุดหวิด

    อีกครั้ง รีสส์ เนลสัน มีโอกาสหลัง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ จ่ายให้ซัดไม่ถึง 12 หลาหน้าประตูแต่แข้งวัย 20 ปีดันยิงด้วยขวาออกข้างไปอย่างน่าผิดหวัง

    นาที 39 ทัพ "จิ้งจอกสยาม" พลาดโอกาสทองที่จะชิงขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย หลัง เจมส์ แมดดิสัน โชว์สกิลแตะหลบแข้งอาร์เซน่อลก่อนปั่นโค้งๆนอกกรอบ แต่บอลพุ่งไปชนเสาก่อนจะมาเข้ามือ แบร์นด์ เลโน่

    จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ ยังเสมอกับ อาร์เซน่อล แบบไร้สกอร์ 0-0

    กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 47 เดมาไร เกรย์ จ่ายให้ต่อให้ เจมส์ แมดดิสัน ซัดด้วยขวานอกกรอบเหินหนีคานออกไปไกล

    นาที 57 กลายเป็น อาร์เซน่อล ที่บุกมาขึ้นนำ 1-0 จนได้ นิโกล่าส์ เปเป้ กระชากหนีแนวรับจิ้งจอกก่อนจะปาดไปติดมือ แดนนี่ วอร์ด บอลมาเข้าทาง เปเป้ ที่พยายามซ้ำแต่บอลพุ่งไปชนเสาก่อนกระดอนไปโดน คริสเตียน ฟุคส์ ปลิ้นเข้าประตูตัวเอง

    เจ้าบ้านโอกาสเข้าไปส่องแบบจะๆ แทบจะไม่มีเท่าไหร่ นาที 75 เจ้าหนู ลุค โธมัส จ่ายต่อให้ เดมาไร เกรย์ กดด้วยขวานอกกรอบแต่บอลพุ่งไปเข้ามือ แบร์นด์ เลโน่

    นาที 81 เลสเตอร์ ปล่อยโอกาสไล่ตีเสมอหลุดไปอย่างน่าเสียดายหลังได้ลุ้นจากฟรีคิกนอกกรอบ ก่อนที่ มาร์ค อัลไบรท์ตัน จะเปิดมาเสาแรกให้ อโยเซ่ เปเรซ โฉบมาโหม่งถากเสาออกไป

    นาทีสุดท้าย ลูกทีมของ อาร์เตต้า มาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ เบเยริน จ่ายเลียดเข้ากลางให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ยิงไปติดบล็อคแข้งเจ้าถิ่นก่อนตามซ้ำเข้าไปตุงตาข่าย

    จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ พ่ายคาบ้านให้ อาร์เซน่อล 0-2 ส่งผลให้ "ปืนใหญ่" ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยจะรอพบผู้ชนะระหว่าง ลินคอล์น ซิตี้ ทีมจากลีกวัน หรือลิเวอร์พูล ในช่วงสิ้นเดือนนี้

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        เลสเตอร์ (4-1-4-1) : แดนนี่ วอร์ด – แดเนี่ยล อมาร์ตี่ย์, เวส มอร์แกน, คริสเตียน ฟุคส์, ลุค โธมัส – ฮัมซ่า เชาด์รี่ – มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมส์ แมดดิสัน (เดนิน ปราต น.72), คีร์นาน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ (อโยเซ่ เปเรซ น.76), เดมาไร เกรย์ – เคเลชี่ อิเฮียนาโช่

        อาร์เซน่อล (3-4-3) : แบร์นด์ เลโน่ – ร็อบ โฮลดิ้ง, ดาวิด ลุยซ์, เซอัด โคลาซินัช – เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่,  โจ วิลล็อค (ดานี่ เซบายอส น.78) , บูคาโย่ ซาก้า (เอคตอร์ เบเยริน น.87) – นิโกล่าส์ เปเป้, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์, รีสส์ เนลสัน (วิลเลี่ยน น.72)

        ผู้ตัดสิน : ปีเตอร์ แบงค์ส

ประทับใจแต่ไม่ซื้อ! ปืนใหญ่เจรจาชุดขาวขอยืมตัว “เซบายอส” ต่ออีกปี

อาร์เซน่อล ใกล้จะบรรุข้อตกลงกับ เรอัล มาดริด ในการขอยืมตัว ดานี่ เซบายอส ออกไปอีก 1 ฤดูกาลอีก หลังจากเคยย้ายมาค้าแข้งในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แล้วเมื่อซีซั่นก่อน จากการรายงานของ เดลีเมล์ สื่อดังแดนผู้ดี

โดยทั้งสองทีมสามารถตกลงกันเกี่ยวกับสัญญายืมตัวในครั้งนี้ได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าจะยังคงไม่มีสัญญาผูกมัดในการซื้อขาดถาวรในอนาคตเช่นเดียวกับฤดูกาลที่ผ่านมา

เซบาญอส ทำผลงานได้อย่างโดนเด่นในแดนกาลกับทีมปืนใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงท้ายฤดูกาลหลังจากล็อกดาวน์ แต่หลังจาก พรีเมียร์ลีก จบซีซั่นลง ก็ไม่มีการดำเนินการซื้อขาดจากฟากของ อาร์เซน่อล แต่อย่างใด ทำให้นักเตะต้องขนของกลับไปอยู่กับต้นสังกัดเดิมอย่าง เรอัล มาดริด หลังจากนั้น

อย่างไรก็ตามมิดฟิลด์วัย 24 ปีรายนี้เป็นจัดว่าเป็นกำลังสำคัญในการพา เดอะกันเนอร์ส คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จ แถมยังยืนเป็นตัวหลักให้กับทีมมาโดยตลอดภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า จนกระทั่งหมดสัญญายืมตัวไปนั่นเอง

บาดหมาง?เก็นดูซี่เมินยินดีอาร์เซน่อลคว้าแชมป์เอฟเอ

มัตเตโอ เกนดูซี่ มิดฟิลด์ อาร์เซน่อล จุดประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังจากยังไม่โพสต์ยินดีที่ทีมได้แชมป์ เอฟเอ คัพ เลย แถมยังโพสต์ภาพเรื่องการไปเที่ยวของตัวเองแทนอีก
    มัตเตโอ เกนดูซี่ กองกลาง อาร์เซน่อล สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่โพสต์ฉลองที่ต้นสังกัดได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาล 2019-20 เมื่อวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา

    เกนดูซี่ ตกเป็นข่าวว่ามีปัญหากับ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมชาวสแปนิชและเพื่อนร่วมทีมบางคนมาพักหนึ่งแล้ว โดยลือกันว่าตอนที่ทีมไปเก็บตัวที่นครดูไบ ประเทสสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อช่วงต้นปีนี้ เขาทะเลาะกับ โซตราติส ปาปาสตาโธปูลอส อย่างรุนแรง ก่อนจะลามไปถึงการผิดใจกับ อาร์เตต้า ในเวลาต่อมา

    แม้ว่า อาร์เตต้า จะเคยให้โอกาส เกนดูซี่ ในช่วงหนึ่ง แต่เขาก็แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในเกมลีกที่ อาร์เซน่อล แพ้ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 1-2 เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพราะเขาไปบีบคอ นีล มัวเปย์ ดาวเตะของอีกฝ่าย แถมยังมีข่าวลืออีกว่าไปเย้ยบรรดาผู้เล่นฝั่ง ไบรท์ตัน ว่าได้ค่าเหนื่อยน้อยกว่าของเหล่าพ่อค้าแข้ง อาร์เซน่อล ตั้งเยอะด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้ อาร์เตต้า โมโหมากๆ จนถึงขั้นมีข่าวลือว่า อาร์เตต้า จับ เกนดูซี่ แยกไปซ้อมตัวคนเดียวเลย

    ทั้งนี้ ถึงแม้ อาร์เซน่อล จะคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้ แต่ เกนดูซี่ ก็ไม่คิดที่จะโพสต์ข้อความแสดงความยินดีเลย ต่างกับ เมซุต โอซิล ที่ยังโพสต์ข้อความแสดงความยินดีแม้ว่าเขาจะตกเป็นข่าวเรื่องย้ายทีมอย่างต่อเนื่องก็ตาม ซ้ำร้าย เกนดูซี่ ยังเลือกโพสต์ภาพตอนที่ตัวเองไปพักร้อนลงบน อินสตาแกรม พร้อมกับพิมพ์ข้อความในภาพว่า "วันหยุด" ซะอีก

ใครได้-ใครเสีย?อาร์เซน่อลหาทางออกส่งเกนดูซี่แลกคูตินโญ่

เดลี่ เมล์ สื่อจากประเทศอังกฤษ รายงานว่า อาร์เซน่อล เตรียมส่ง มัตเตโอ เกนดูซี่ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง เป็นข้อเสนอแลกตัวกับ ฟิลลิปเป้ คูตินโญ่ ให้แก่ บาร์เซโลน่า หลังแข้งชาวฝรั่งเศสดูเหมือนจะหมดอนาคตกับทีมเมื่อไม่มีชื่อในเกมเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

    มัตเตโอ เกนดูซี่ วัย 21 ปี ไม่ได้ลงสนามให้กับ อาร์เซน่อล อีกเลย นับตั้งแต่ก่อเรื่องแบบน่าเกลียดใส่ นีล โมปาย กองหน้าของ โบรท์ตัน ในเกมที่ "ปืนใหญ่" บุกไปพ่าย 1-2

    ซึ่งล่าสุด เดลี่ เมล์ ได้ระบุว่า อาร์เซน่อล เตรียมแผนที่จะส่ง เกนดูซี่ เพื่อแลกกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพลย์เมคเกอร์ของ บาร์เซโลน่า

    ทั้งนี้ เกนดูซี่ ไม่เป็นที่ชื่นชอบของ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือสแปนิช หลังจากมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมทั้งในและนอกสนาม โดยเกมล่าสุดที่ อาร์เซน่อล เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ในศึก เอฟเอ คัพ เกนดูซี่ ก็ไม่มีส่วนร่วมกับทีมเลย

หมดความอดทน!อาร์เตต้าจับเกนดูซี่แยกซ้อม-บอร์ดเตรียมชี้ชะตา

ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชื่อก้อง ระบุ มัตเตโอ เกนดูซี่ โดนจับแยกไปซ้อมกับโค้ชแบบตัวต่อตัว โดย มิเกล อาร์เตต้า หมดความอดทนในตัวดาวเตะชาวฝรั่งเศสแล้ว ภายหลังเจ้าตัวตกเป็นข่าวฉาวอย่างหนัก
    มัตเตโอ เกนดูซี่ กองกลาง อาร์เซน่อล สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกจับแยกไปซ้อมแบบตัวต่อตัวกับโค้ชฟิตเนส ตามรายงานของ ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชั้นนำ

    เกนดูซี่ กลายเป็นข่าวฉาวจากเกมลีกนัดที่ต้นสังกัดแพ้ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 1-2 เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากเกมนั้นเขาไปบีบคอ นีล มัวเปย์ ดาวเตะของอีกฝ่าย แถมยังมีข่าวลืออีกว่าไปเย้ยบรรดาผู้เล่นฝั่ง ไบรท์ตัน ว่าได้ค่าเหนื่อยน้อยกว่าของเหล่าพ่อค้าแข้ง อาร์เซน่อล ตั้งเยอะด้วย

    ทั้งนี้ ดิ แอธเลติก แฉว่าที่จริงแล้ว อาร์เตต้า กับ เอดู ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ อาร์เซน่อล ได้คุยกับดาวเตะชาวฝรั่งเศสเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในเกมกับ ไบรท์ตันฯ ไปแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ เกนดูซี่ ยังไม่แสดงให้เห็นท่าทีเลยว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง และยังไม่ยอมขอโทษเลย ซึ่งมันทำให้ อาร์เตต้า หงุดหงิดมากๆ เพราะเขามองว่าที่จริง เกนดูซี่ มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมจนน่าจะช่วยทีมได้

    กระทั่งล่าสุด ดิ แอธเลติก ก็บอกว่า อาร์เตต้า หมดความอดทนในตัว เกนดูซี่ แล้ว จนถึงขั้นไม่ให้เขาได้ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมอีกต่อไป โดยเชื่อกันว่าบอร์ดบริหารของ อาร์เซน่อล จะหารือถึงสถานการณ์ต่างๆ กับทีมตัวแทนของ เกนดูซี่ ในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้ด้วย

    ที่จริง เกนดูซี่ ก็เคยมีปัญหากับ อาร์เตต้า ในตอนที่ อาร์เซน่อล ไปเข้าแคมป์ซ้อมช่วงพักครึ่งฤดูกาลที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเหมือนกัน เพราะตอนนั้น เกนดูซี่ แสดงทัศนคติที่ย่ำแย่หลายครั้ง โดยที่ อาร์เตต้า เคยดร็อป เกนดูซี่ หลังกลับมาจากนครดูไบด้วย ก่อนที่จะเรียกใช้งานเขาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ในเกมกับ ไบรท์ตันฯ มันก็ทำให้ อาร์เตต้า ตัดสินใจดร็อป เกนดูซี่ อีกหน จนกลายเป็นว่า เกนดูซี่ ไม่ได้ลงเล่นมา 4 นัดติดต่อกันในทุกรายการแล้ว

แฟนอาร์เซน่อลทำใจ! อาร์เตต้ารับอาการ “เลโน่” น่าเป็นห่วง

 มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล รับ แบร์นด์ เลโน่ นายประตูมือหนึ่ง มีแววเจ็บหนักที่หัวเข่าขวา แต่เชื่อ นีล มัวเปย์ หัวหอก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ไม่ได้มีเจตนาร้าย 

      มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล เผยว่า ดูไม่ค่อยดีนักกับอาการบาดเจ็บตรงหัวเข่าข้างขวาของ แบร์นด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูคนเก่งชาวเยอรมัน หลังจากที่ เลโน่ ปะทะกับ นีล มัวเปย์ กองหน้า ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ระหว่างเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดล่าสุดที่ "ไอ้ปืนใหญ่" บุกไปแพ้ ไบรท์ตัน 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา

     เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงท้ายครึ่งแรก ซึ่ง มัวเปย์ พุ่งเข้าใส่ เลโน่ ในจังหวะที่กำลังจะรับบอล ก่อนที่นายประตูเลือดเบียร์จะตกลงพื้นผิดจังหวะจนได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าขวา ซึ่งบางสื่อรายงานว่า นายประตูวัย 28 ปี มีแววที่จะพักแข้งยาวจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้เลยทีเดียว 

         "อาการบาดเจ็บของ แบร์นด์ ดูไม่ดีเลย เราจะต้องประเมินอาการของเขาอีกครั้ง ซึ่งก็น่าจะเป็นในวันพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์) แต่เรื่องแบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว มันเป็นอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ซึ่งเราก็จะต้องประเมินดูความเสียหายที่เกิดขึ้น ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้มาก ต้องรอในวันพรุ่งนี้" นายใหญ่ อาร์เซน่อล ระบุ

         สำหรับเรื่องนี้ มัวเปย์ ได้กล่าวขอโทษเรียบร้อย ซึ่ง อาร์เตต้า ก็เชื่อว่า หัวหอกเลือดน้ำหอมวัย 23 ปี ไม่มีเจตนาทำให้ เลโน่ เจ็บ "ผมเชื่อว่า ไม่มีนักเตะคนไหนหรอก ที่อยากทำให้ใครเจ็บ ซึ่งในกรณีนี้ ผมก็คิดแบบนั้นเช่นกัน มันเป็นความโชคร้ายมากกว่า"

 

ร็อดเจอร์สรับติดเชื้อโควิดก่อนรักษาหายดีแล้ว

เผยมีกุนซือ พรีเมียร์ลีก อีกรายที่ติดโควิด-19 หลังเบรกซีซั่นไม่นาน แต่ตอนนี้หายแล้ว เจ้าตัวรับสุดทรมาน ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง ไม่ได้กลิ่น และไม่รับรู้รสชาติเลย

    เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่า ทั้งตัวเอง และภรรยาติดเชื้อโควิด-19 แต่เวลานี้หายดีแล้ว โดยยอมรับว่า ช่วงที่ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบเหมือนกับต้องปีนเขาคีลิมันจาโร่เลยทีเดียว

        ร็อดเจอร์ส เผยผ่าน บีบีซี เลสเตอร์ สปอร์ต เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมาว่า "ผมและภรรยาติดเชื้อหลังจากที่ฤดูกาลหยุด หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้นผมเริ่มมีอาการ ผมไม่ได้กลิ่น และไม่รับรู้รสชาติ"

        "ผมไม่มีแรง ผมต้องต่อสู้กับมันเช่นเดียวกับภรรยาของผม ผมและภรรยาเข้ารับการตรวจก่อนผลออกมาติดเชื้อ ผมแทบเดินไม่ได้เลย มันทำให้ผมนึกถึงตอนปีนเขาคีลิมันจาโร่ ยิ่งคุณปีนขึ้นไปสูง คุณก็ต้องหอบมากขึ้น

        "การเดินแค่ 10 หลายังรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมมาก ผมไม่สามารถวิ่งได้ ผมรู้สึกอ่อนแรง ผมไม่อยากกินอาหาร และมีความรู้สึกแปลกๆ เป็นเวลา 3 สัปดาห์กับการที่ไม่รู้สึกรสชาติอะไรเลย" ร็อดเจอร์ส กล่าว
    
        ทั้งนี้ ร็อดเจอร์ส เป็นกุนซือคนที่ 2 ใน พรีเมียร์ลีก ที่ยอมรับว่าติดโควิด-19 ต่อจาก มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ที่ติดเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่ลีกจะต้องระงับมาจนถึงเวลานี้

เซอร์ไพรส์!ลิเวอร์พูลจ้องฉกซาก้าเสริมแกร่งริมเส้น

ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวสนใจคว้าตัว บูกาโย่ ซาก้า ตัวริมเส้นดาวรุ่งของ อาร์เซน่อล หลังการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ไม่คืบหน้า อย่างไรก็ตาม มิเกล อาร์เตต้า ต้องการจะรั้งตัวแข้งรายนี้เอาไว้ให้ได้

    บูกาโย่ ซาก้า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในบทบาทแบ็กซ้าย หลัง เซอัด โคลาซินัช และ คีแรน เทียร์นี่ย์ ไม่สามารถลงเล่นได้ อย่างไรก็ตาม สัญญาฉบับปัจจุบันของเขากำลังจะหมดลงในปี 2021 และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเซ็นสัญญาฉบับใหม่เกิดขึ้น

    ฟุตบอล อินไซเดอร์ สื่อลูกหนังจากต่างประเทศ รายงานว่า ลิเวอร์พูล กำลังจับตาดูสถานการณ์นี้ ระหว่าง ซาก้า และ อาร์เซน่อล โดยทาง "หงส์แดง" ชื่นชอบกับการที่แข้งรายนี้สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งทางกราบซ้าย ถึงกระนั้น มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ของทัพปืนใหญ่ มีความตั้งใจที่จะเก็บรั้ง ซาก้า ไว้และพยายามโน้มน้าวสโมสรมอบสัญญา 5 ปีให้แก่ดาวรุ่งวัย 18 ปี

    สำหรับ ซาก้า ลงสนามในซีซั่นนี้ไปทั้งสิ้น 29 นัดในทุกรายการ และทำแอสซิสต์ได้ถึง 9 ครั้งด้วยกัน

แฟนปืนคึก! พ่อคอนเฟิร์ม’ปาร์เตย์’คุยอาร์เซนอล



บิดาของกองกลางตัวรับทีมตราหมีทำเอาสาวกกูนเนอร์สตาลุก เมื่อยืนยันว่าบุตรชายของเขาเปิดโต๊ะเจรจากับไอ้ปืนใหญ่จริง

จาค็อบ ปาร์เตย์ พ่อของ โธมัส ปาร์เตย์ คอนเฟิร์ม ลูกชายของเขากำลังเจรจากับ อาร์เซนอล หลังทั้งคู่มีโอกาสได้คุยกัน

กองกลางทีมชาติกานาทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ แอเลติโก้ มาดริด ท่ามกลางความสนใจจากบรรดาบิ๊กทีมในยุโรป หนึ่งในนั้นคือทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ที่อยากได้มิดฟิลด์ตัวรับเข้ามาไปเสริมทัพในซีซันหน้า

"ผมโทรไปหาลูกหลังได้ยินข่าวลือ เขาบอกผมว่ามันคือความจริง" พ่อของปาร์เตย์ กล่าวผ่านรายการ Sports World Show ทาง Tru FM

"เขาบอกผมว่า พวกเขากำลังคุยกับอาร์เซนอล"

"มันขึ้นอยู่กับแอต.มาดริดว่าต้องการข้อเสนอเท่าไร ถ้าเขาย้ายไปอาร์เซนอลก็ดีเลย เพราะพวกเขามีแฟนบอลอยู่เยอะในกานา"

"ผมจะมีความสุขถ้าเขาตัดสินใจย้ายไปอาร์เซนอล สิ่งที่พวกเขากำลังคุยกันตอนนี้คือ แอตเลติโก้จะปล่อยตัวเขาออกมาอย่างไร"

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ทีมตราหมีกำลังพยายามเจรจาสัญญาใหม่กับปาร์เตย์ด้วย เพราะไม่อยากเสียนักเตะคนสำคัญรายนี้ โดยจะเพิ่มค่าฉีกสัญญาของเขาเป็น 100 ล้านยูโรด้วย