มิลานจุก!ชาลาโนกลูเดี้ยงพักกว่าสัปดาห์

"ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน เจอข่าวไม่สู้ดีนัก เพราะล่าสุด ฮาคาน ชาลาโนกลู จอมทัพคนสำคัญ ได้รับบาดเจ็บระหว่างซ้อม และต้องพักราวสัปดาห์ครึ่ง

ฮาคาน ชาลาโนกลู กองกลางตัวรุกคนเก่งของ เอซี มิลาน สโมสรดังแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี จะพลาดช่วยทีมอย่างน้อยเป็นเวลา 10 วัน เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บที่ข้อเท้า ตามรายงานจาก สกาย สปอร์ต อิตาเลีย สื่อกีฬาชั้นนำแดนมะกะโรนี เมื่อวันอังคารที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ชาลาโนกลู ได้รับบาดเจ็บระหว่างซ้อมเมื่อวันอังคาร และต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงในการเดิน และล่าสุด สกาย สปอร์ต อิตาเลีย ระบุว่า ผลการตรวจเช็คอาการบาดเจ็บของ ดาวเตะทีมชาติตุรกีวัย 26 ปี ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งพบว่า เจ้าตัวข้อเท้าแพลง และจะต้องพักแข้ง 10 วันเป็นอย่างต่ำ

นั่นหมายความว่า ชาลาโนกลู จะไม่ได้ช่วย มิลาน ในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2 นัดที่เจอกับ เซลติก (วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม) และ สปาร์ต้า ปราก (วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม) รวมถึงเกมลีกที่จะดวลกับ อาแอส โรม่า วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม

 

ซัคเคโรนี่ชูซลาตันมีอิทธิพลมากกว่าโรนัลโด้

อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ ระบุ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มีผลกระทบกับวงการฟุตบอลอิตาลีเยอะกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พร้อมแปลกใจที่นักเตะระดับ อิบราฮิโมวิช ไม่เคยได้รางวัล บัลลง ดอร์ เลย

อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ กุนซือว่างงานคนดัง แสดงความเชื่อว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอก เอซี มิลาน มีผลกระทบกับวงการฟุตบอลอิตาลีมากกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งซูเปอร์สตาร์ของ ยูเวนตุส ด้วยซ้ำ

อิบราฮิโมวิช เพิ่งโชว์ฟอร์มแกร่งด้วยการเหมาคนเดียว 2 ลูกจนช่วยให้ต้นสังกัดเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน คู่อริร่วมเมือง 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทั้งที่ตอนนี้เขามีอายุ 39 ปีเข้าไปแล้ว โดยตอนนี้ดาวเตะชาวสวีดิชก็ทำประตูให้กับ มิลาน ไปแล้วถึง 16 ประตูจากการลงเล่น 23 นัดในทุกรายการ นับตั้งแต่ที่ย้ายกลับมาอยู่กับ "รอสโซเนรี่" เมื่อช่วงปลายปีก่อนด้วย

อดีตนายใหญ่ มิลาน, ลาซิโอ และ ยูเวนตุส เผยว่า "ในอาชีพของผมน่ะผมเองเคยเป็นโค้ชให้คนที่เก่งระดับแชมเปี้ยนหลายคน ตั้งแต่ (โอลิเวอร์) เบียร์โฮฟฟ์ ไปจนถึง (จอร์จ) เวอาห์ และ อาเดรียโน่ แต่สิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกเสียใจก็คือผมไม่เคยเป็นโค้ชให้กับ อิบราฮิโมวิช มาก่อนเลย เขาคือตำนานระดับที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล และจนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่เคยได้รางวัล บัลลง ดอร์ เลย"

"ในอิตาลีน่ะ เขาทำให้เกิดความสั่นคลอนได้มากกว่า โรนัลโด้ ด้วยซ้ำ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่นักเตะเยาวชนหลายคนพัฒนาขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ที่เขามาเล่นที่นี่ เขาไม่ได้มีดีแค่การทำประตูได้เท่านั้น แต่เขายังส่งต่อความมั่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีมทุกคน รวมถึงช่วยให้ทีมรอดตายในช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ด้วย"

ปีร์โล่ดวลกัตจัง! ยูเวนตุสบู๊เดือดนาโปลี,”โด้”ลงฉะ”เมอร์เท่นส์”

อันเดรีย ปีร์โล่ นายใหญ่ "ม้าลาย" ยูเวนตุส นัดก่อนสะดุดเจ๊า เกมนี้มีคิวปะทะเพื่อนเก่าที่มิลานอย่าง เจนนาโร่ กัตตูโซ่ เฮดโค้ช ”อัซซูร่า" นาโปลี ที่ฟอร์มร้อนแรงคว้าชัยสองนัดติด แถมยังไม่โดนเจาะตาข่าย ในการแข่งขันฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คืนวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2563

ปรีวิวฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2563
ยูเวนตุส (7) – นาโปลี (2)
เวลา : 01.45 น. ถ่ายทอดสด : บีอินส์ สปอร์ต 2

สนาม : ยูเวนตุส สเตเดี้ยม

    ทีม ”ม้าลาย” เกมล่าสุดเหลือ 10 ก่อนบุกเสมอ โรม่า 2-2 การเสริมทัพล่าสุดจ่อคว้า เฟเดริโก้ เคียซ่า ตัวรุกคนเก่งของ ฟิออเรนติน่า มาร่วมทัพ

    สภาพทีมในเกมนี้ อันเดรีย ปีร์โล่ เทรนเนอร์ ยูเวนตุส จะยังไม่มี มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์, อเล็กซ์ ซานโดร และ เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ ที่เจ็บทั้งหมด รวมไปถึง อาเดรียง ราบิโอต์ ติดโทษแบน

    ทั้งนี้คาดว่าเจ้าถิ่นจะมาในระบบ 3-4-1-2 แนวรับสามคนจะใช้ ดานิโล่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ และ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ขยับมาแดนกลาง อาร์ตูร์ ประสานงานกับ เวสตัน แม็คเคนนี่ โดยมี อารอน แรมซี่ย์ สนับสนุนคู่หน้า เดยัน คูลูเซฟสกี้ ดาวรุ่งชาวสวีดิช จับคู่กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตูจากสองเกมแรก

    ทีม ”อัซซูร่า” ผลงานร้อนแรงเกมล่าสุดเปิดบ้านถล่ม เจนัว 6-0 เออร์วิง โลซาโน่ เหมาคนเดียว 2 ประตู ทำให้ชนะสองนัดรวด

    สภาพทีมในเกมนี้ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ กุนซือ นาโปลี จะไม่มี อามิน ยูเนส และ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ 2 ตัวรุกที่มีอาการบาดเจ็บ รวมไปถึง ปิโอเตร เซียลินสกี้ ที่ล่าสุดติดโควิดหลังเกมพบ เจนัว ด้วย

    ทีมเยือนจะมาในระบบ 4-3-3 แนวรับจะใช้ คาลิดู คูลิบาลี่ จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ คอสตาส มาโนนาส สำหรับวิงแบ็กเป็น โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ และ มาริโอ รุย แดนกลางให้ ดีเอโก้ เดมเม่ ได้เล่นกับ ฟาเบียน รูอิซ และ เอลยิฟ เอลมาส ดาวรุ่งมาซิโดเนีย สามแนวรุกวาง เออร์วิง โลซาโน่, วิคเตอร์ โอซิมเฮน และ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ 

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

    ยูเวนตุส (3-4-1-2) : วอยเชียค เชสนี่ – ดานิโล่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ – ฮวน กวาดราโด้, อาร์ตูร์, เวสตัน แม็คเคนนี่, จานลูก้า ฟราบ็อตต้า – อารอน แรมซี่ย์ – เดยัน คูลูเซฟสกี้, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

   เทรนเนอร์ : อันเดรีย ปีร์โล่

    นาโปลี (4-3-3) : ดาบิด ออสปิน่า-โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, คาลิดู คูลิบาลี่, คอสตาส มาโนลาส, มาริโอ รุย-ฟาเบียน รูอิซ, ดีเอโก้ เดมเม่, เอลยิฟ เอลมาส-เออร์วิง โลซาโน่, วิคเตอร์ โอซิมเฮน, ดรีส์ เมอร์เท่นส์ 

    เทรนเนอร์ : เจนนาโร่ กัตตูโซ่

5 แข้งที่ยังเล่นแล้วทำประตูจากลูกฟรีคิกมากสุด

ลูกฟรีคิกถือเป็นหนึ่งในวิธีการทำประตูอย่างหนึ่งของเกมฟุตบอล และมันก็มีหลายคนที่มีความเชี่ยวชาญในการเล่นลูกฟรีคิก โดยถ้าเป็นคนที่แขวนสตั๊ดไปแล้วก็มีอย่างเช่น เดวิด เบ็คแฮม, อันเดรีย ปีร์โล่, ซินิซ่า มิไฮโลวิช และ โรแบร์โต้ คาร์ลอส เป็นต้น

ทั้งนี้ หากนับเฉพาะนักเตะที่ยังค้าแข้งอยู่แล้วนั้นมันก็มีหลายคนที่เล่นลูกฟรีคิกได้ดีเช่นกัน และวันนี้เราจะมานำเสนอ 5 นักเตะที่ยังเล่นอยู่แล้วสามารถทำประตูในลูกฟรีคิกได้มากที่สุดตลอดอาชีพการเล่น โดยจะเป็นการนับทั้งตอนเล่นในระดับทีมชาติและระดับสโมสร

– อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ : 22 ประตู
"โรแบร์โต้ คาร์ลอส แห่งเซอร์เบีย" คือฉายาที่หลายคนมักจะตั้งให้กับ โคลารอฟ เพราะเขามีความเก่งกาจในการเล่นลูกเซตพีซมากๆ ไม่ว่าจะทั้งตอนอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาแอส โรม่า หรือทีมชาติเซอร์เบีย และจำนวน 22 ประตูที่เขาทำได้ตลอดอาชีพการค้าแข้งก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยยืนยันถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี

จุดเด่นในการเล่นลูกนิ่งของ โคลารอฟ ก็คือเขาสามารถทำประตูจากลูกฟรีคิกได้แม้ว่าจะต้องยิงจากมุมที่ไม่น่าเป็นประตูมากที่สุด หรือจากระยะไกลที่ไม่น่าจะเป็นประตู อย่างเช่นลูกที่เขายิงใส่ แอธเลติก บิลเบา ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อช่วงปี 2019 ที่ยิงได้คมจนนายทวารของคู่แข่งหมดสิทธิ์บินไปเซฟได้

 – ฮาคาน ชัลฮาโนกลู : 26 ประตู
คนที่เคยดูเกม บุนเดสลีกา บ่อยๆ ในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าการเสียลูกฟรีคิกให้กับ ชัลฮาโนกลู ก็แทบไม่ต่างจากการเสียลูกจุดโทษ เพราะเขามีความสามารถในการเล่นลูกนิ่งที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการพยายามทำประตูจากลูกฟรีคิกโดยตรง

ถ้าหากตัวเลข 26 ประตูจากลูกฟรีคิกมันยังไม่น่าประทับใจสำหรับคุณแล้วล่ะก็ เราก็ขอนำเสนอสถิติอีก 1 อันที่น่าทึ่ง นั่นก็คือ 38 เปอร์เซ็นต์จากประตูที่เขาทำได้ตอนเล่นในเยอรมนีนั้นมันมาจากการยิงลูกฟรีคิกโดยตรง แถมในฤดูกาล 2014-15 เขายังเคยทำประตูจากลูกฟรีคิกให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ได้ถึง 9 ลูกเลยทีเดียว

น่าเศร้าที่นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ เอซี มิลาน ในปี 2017 ความโดดเด่นในด้านนี้ก็หายไป เพราะหลังจากนั้นเป็นต้นมาเขายิงลูกฟรีคิกเป็นประตูได้อีกเพียง 3 หนเท่านั้น

 

 – มิราเล็ม ปานิช : 26 ประตู
 การที่ก่อนหน้านี้ ปานิช อยู่กับ ยูเวนตุส ทำให้เขาไม่ใช่ตัวเลือกแรกในการได้เป็นคนยิงลูกฟรีคิก เพราะมันมีคนอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เปาโล ดีบาล่า ขวางหน้าอยู่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีโอกาสได้ยิงน้อย แต่เขาก็ยังสามารถผลิตสกอร์จากลูกฟรีคิกได้เท่ากับ ชัลฮาโนกลู เลย

ทั้งนี้ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่ ปานิช พัฒนาการเล่นลูกฟรีคิกขึ้นมาได้อย่างผิดหูผิดตา เพราะ 68 เปอร์เซ็นต์ของประตูจากลูกฟรีคิกทั้งหมดของเขามันเกิดขึ้นในช่วง 5 ปีหลังสุด ทำให้แม้ว่าตอนนี้เขาอาจจะต้องแบ่งเล่นลูกฟรีคิกกับ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ บาร์เซโลน่า แต่เขาก็น่าจะได้รับโอกาสยิงลูกฟรีคิกบ่อยพอตัว

 

 – ลิโอเนล เมสซี่ : 53 ประตู
 เดิมทีตอนแรกๆ เมสซี่ ไม่ได้มีจุดเด่นในด้านการยิงลูกฟรีคิกเท่าไหร่ แต่เขาก็พัฒนาด้านนั้นขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยมในพักหลังจนตอนนี้คู่แข่งทุกคนไม่สามารถประมาทได้อีกแล้วเมื่อเห็นดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์มายืนรอเล่นลูกฟรีคิกเวลาที่ทีมได้ฟาวล์

ทั้งนี้ ถ้านับเฉพาะฤดูกาล 2018-19 แล้วนั้น เมสซี่ สามารถทำประตูจากลูกฟรีคิกให้กับ บาร์เซโลน่า ได้ถึง 8 ลูกด้วยกัน แถมในซีซั่นนั้นถ้าวันไหนเขาทำประตูจากลูกฟรีคิกได้แล้วล่ะก็ บาร์เซโลน่า ก็ไม่แพ้เลยด้วย แบ่งเป็นชนะ 6 นัด กับเสมอ 1 เกม ขณะที่ถ้าเป็นซีซั่นที่แล้วเขาก็ผลิตสกอร์จากลูกนิ่งได้ 5 หนด้วยกัน

 

– คริสเตียโน่ โรนัลโด้ : 57 ประตู
ในด้านนี้ โรนัลโด้ เหนือกว่าคู่อริตลอดกาลนิดหน่อย ถึงแม้พักหลังดาวเตะวัย 35 ปีจะทำประตูจากลูกฟรีคิกได้น้อยลงไป อย่างเช่นฤดูกาล 2019-20 ที่ทำประตูจากลูกฟรีคิกให้กับ ยูเวนตุส ได้เพียงลูกเดียว แต่ผลงานในหลายฤดูกาลก่อนหน้านั้นก็ยังเพียงพอที่จะทำให้เขาครองบัลลังก์ "ราชาฟรีคิก" ในบรรดานักเตะที่ยังค้าแข้งอยู่ได้

ทั้งนี้ ฤดูกาลที่ โรนัลโด้ ทำประตูจากลูกฟรีคิกได้มากที่สุดหากนับเฉพาะเกมระดับสโมสรคือซีซั่น 2008-09 กับ แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด และฤดูกาล 2009-10 กับ เรอัล มาดริด หลังจากใน 2 ซีซั่นนั้นเขาทำประตูจากลูกฟรีคิกได้ฤดูกาลละ 6 ลูกด้วยกัน

ใครเป็นเต็ง1?บ่อนเปิดราคากุนซือใหม่แมนยูแทนที่โซลชา

แพ็ดดี้ พาวเวอร์ เปิดราคาคนที่จะได้คุม แมนฯ ยูไนเต็ด แทน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดยที่เต็ง 1 คือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ส่วน มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ตามมาเป็นที่ 2
    แพ็ดดี้ พาวเวอร์ บ่อนรับพนันถูกกฎหมายของประเทศสาธารณรัฐไอร์แลนด์เปิดราคาให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เป็นตัวเต็งอันดับ 1 ที่จะได้เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยราคา 9/5 (แทง 5 จ่าย 9 ไม่รวมทุน)

    โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือคนปัจจุบันของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนตำหนิมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อนแล้วว่าพาทีมทำผลงานได้ไม่คงเส้นคงวาเท่าที่ควร และขาดความเชี่ยวชาญด้านแท็กติกจนทำให้ทีมมีสไตล์การเล่นที่ไม่มากนัก และซีซั่นนี้เขาก็เจอกับความกดดันอย่างหนักหลังพาทีมแพ้ในลีกถึง 2 จาก 3 นัดแรก แถมนัดล่าสุดยังเป็นการพ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คาบ้าน 1-6 ด้วย

    สำหรับ โปเช็ตติโน่ นั้น เป็นที่ชื่นชอบของบอร์ดบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด มานานแล้ว และตอนนี้เขาก็ว่างงานอยู่พอดี ขณะที่ตัวเต็งอันดับ 2 ในสายตาของ แพ็ดดี้ พาวเวอร์ ได้แก่ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี อดีตนายใหญ่ เอซี มิลาน และ ยูเวนตุส ที่ราคา 7/1 (แทง 1 จ่าย 7 ไม่รวมทุน)

    ทั้งนี้ เต็ง 3 ได้แก่ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ เทรนเนอร์หนุ่มไฟแรงของ แอร์เบ ไลป์ซิก แต่อัตราต่อรองของเขาอยู่ที่ 25/1 (แทง 1 จ่าย 25 ไม่รวมทุน) เลยทีเดียว ส่วนเต็ง 4 มีอยู่ 6 คน ประกอบไปด้วย หลุยส์ เอ็นรีเก้, เอริค เทน ฮาก, ราล์ฟ รังนิค, โลร็องต์ บล็องก์, คริส ไวล์เดอร์ และ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ซึ่งราคาของพวกเขาอยู่ที่ 33/1 (แทง 1 จ่าย 33 ไม่รวมทุน)

เรื่องอะไร?แฉก็องเต้-แลมพ์สผิดใจกัน

เลอ ปารีเซียง สื่อของฝรั่งเศส ตีข่าว ความสัมพันธ์ระหว่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กำลังอยู่ในขั้นเลวร้าย หลังจาก ก็องโต้ ไม่พอใจที่ แลมพาร์ด เมินคำขอลาซ้อม 1 วันของตน โดยสาเหตุที่ดาวเตะเลือดน้ำหอมขอลาซ้อมก็เพราะอยากไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิท โดยสื่อเจ้าดังกล่าวเสริมว่า ก็องเต้ ยังฝันที่จะได้ไปเล่นให้ เรอัล มาดริด ด้วย
    เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์คนดังของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังมีความสัมพันธ์ที่เลวร้ายกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ หลังจากที่ ก็องเต้ เคยขอลาซ้อม 1 วันเพื่อจะไปร่วมงานวิวาห์ของเพื่อนสนิท แต่โดน แลมพาร์ด ปฏิเสธ ตามรายงานของ เลอ ปารีเซียง สื่อชื่อก้องของประเทศฝรั่งเศส

    ในตลาดการเสริมทัพรอบล่าสุด ก็องเต้ เคยตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีมอย่างหนัก โดยเฉพาะกับ อินเตอร์ มิลาน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งว่ากันว่าบอร์ดบริหารของ เชลซี พร้อมจะขายเขาด้วย แต่ แลมพาร์ด คัดค้านเรื่องนั้นเพราะมองว่าอดีตแข้ง เลสเตอร์ ซิตี้ ยังเป็นส่วนสำคัญของทีมอยู่

    ทั้งนี้ เลอ ปารีเซียง ไม่ได้ระบุว่าการที่ ก็องเต้ โดน แลมพาร์ด ปฏิเสธคำขอลาซ้อมมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่สื่อเจ้าดังกล่าวบอกว่าแข้งวัย 29 ปี มาเข้าแคมป์ซ้อมกับทีมชาติฝรั่งเศสด้วยความร่าเริงสุดๆ หลังจากช่วงที่ผ่านมารู้สึกหดหู่ในระดับหนึ่งกับที่ เชลซี พร้อมเสริมว่าตอนนี้ ก็องเต้ ยังใฝ่ฝันที่จะไปเล่นให้ เรอัล มาดริด อยู่ แต่ฝั่ง "ราชันชุดขาว" ยังไม่ได้ให้ความสนใจในตัวเขามากเท่าไหร่นัก

ฟังหูไว้หู!แฉสนั่นเหตุผล “ลูกากู” ลาแมนยูเพราะ2แข้ง

สื่อเลี่ยน ตีข่าวเหตุผลสำคัญที่ทำให้ โรเมลู ลูกากู หัวหอกร่างยักษ์ที่ตัดสินใจย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเล่นให้ อินเตอร์ มิลาน เพราะเจ้าตัวไม่ปลื้ม 2 เพื่อนร่วมสังกัดที่แบ่งพรรคแบ่งพวก และไม่ค่อยยอมส่งบอลให้เวลาอยู่ในสนาม

ลา รีพับบลิก้า สื่อดังในประเทศอิตาลี เปิดเผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้ โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียม ตัดสินใจอำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อไปเล่นให้กับทัพ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน มาจากการที่นักเตะเบื่อหน่ายเพื่อนร่วมทีม 2 รายในทัพ "ปีศาจแดง"

ลูกากู ย้ายจาก "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน มาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอรด์ ในปี 2017 ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (ราว 2,850 ล้านบาท) โดยสามารถผลิตจำนวนประตูให้กับทัพ "ปีศาจแดง" ได้ถึง 42 ประตูจากการลงสนาม 96 แมตช์ในทุกรายการ

อย่างไรก็ตามนักเตะตัดสินใจอำลา "โรงละครแห่งความฝัน" ในปี 2019 เพื่อไปไล่ล่าตาข่ายให้กับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยสนน ประมาณ 73 ล้านปอนด์ (ราว 2,774 ล้านบาท) และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อไล่กระทุ้งตาข่ายคู่แข่งไปถึง 34 ประตูเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ขณะที่ในฤดูกาล 2020/2021 เจ้าตัวก็ซัดไปแล้ว 3 ลูกจากการลงเล่น 3 เกมลีกให้กับต้นสังกัด

เปาโล คอนโด นักข่าวชื่อดังประจำลา รีพับบลิก้า เปิดเผยถึงเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ลูกากู ตัดสินใจทิ้ง "ปีศาจแดง" เพราะเขาไม่ปลื้ม 2 เพื่อนร่วมทีมชาวฝรั่งเศส "ลูกากู รู้สึกเบื่อ ยูไนเต็ด เพราะ (ปอล) ป็อกบา กับ (อองโตนี่) มาร์กซิยาล ที่ไม่ค่อยส่งบอลให้กับเขา ลองนึกภาพภายในห้องแต่งตัวซิว่าจะมีการแบ่งแยกกลุ่มนักเตะกันขนาดไหน"

"ตอนที่ (อเล็กซิส) ซานเชซ กับ (แอชลี่ย์) ยัง สอบถามเขาก่อนที่จะเซ็นสัญญา (กับ อินเตอร์) ว่าที่ อินเตอร์ เป็นยังไงบ้าง คำตอบแรกที่มาจากปากของ ลูกากู ก็คือ -มันยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่มีการแบ่งแยกพวกพ้องภายในทีม" นักข่าวมากประสบการณ์ ระบุ

 

แมนยูเสริมอย่างโหด!สรุปดีลการโยกย้ายทีมวันปิดตลาดนักเตะ

เห็นเงียบๆ แต่สอยเพียบนะครัช!!!… "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปิดดีลแข้งใหม่ถึง 5 ราย ชนิดจุใจสาวก "เร้ด อาร์มี่" ในวันปิดตลาดนักเตะเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็ได้ตัว โธมัส ปาร์เตย์ สมใจอยาก หลังจากที่ไล่ล่าตัวมานาน ส่วนทางฝั่งทีมแชมป์ยุโรปอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ก็เร่งเครื่องในวันสุดท้ายเช่นกัน โดยเซ็นเข้ามาเพิ่มถึง 3 คน และนี่คือบทสรุปดีลเด่นๆ ในรอบวันปิดตลาด 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา (อัพเดตล่าสุดถึงเวลา 06.00 น. เช้าวันอังคารที่ 6 ต.ค. ตามเวลาประเทศไทย)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
 – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า อเล็กซ์ เตลเลส แบ็กซ้ายชาวบราซิเลียน มาจาก ปอร์โต้ ด้วยสัญญา 4 ปี (มีออปชั่นเซ็นเพิ่มอีก 1 ปี) ส่วนค่าตัวเบื้องต้นอยู่ที่ 15 ล้านยูโร (ประมาณ 555 ล้านบาท) + ออปชั่น 3 ล้านยูโร (ประมาณ 111 ล้านบาท)
  – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศปิดดีลคว้าตัว อาหมัด ดิยัลโล่ ตราโอเร่ ปีกดาวรุ่ง อตาลันต้า มาร่วมทัพ โดย ดาวเตะวัย 18 ปี จะย้ายมาร่วมทัพ "ปีศาจแดง" ช่วงเดือนมกราคมปีหน้า ค่าตัว 21 ล้านยูโร (ประมาณ 777 ล้านบาท) + ออปชั่น 20 ล้านยูโร (ประมาณ 740 ล้านบาท)

– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าดาวดังทีมชาติอุรุกวัย มาร่วมทัพแบบไม่มีค่าตัว (หมดสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) ด้วยสัญญา 1 ปี + ออปชั่นเซ็นเพิ่มอีก 1 ปี
 – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ ปีกดาวรุ่งชาวอุรุกวัย มาจาก เปนญารอล ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัว 10 ล้านยูโร (ประมาณ 370 ล้านบาท)

– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าดาวดังทีมชาติอุรุกวัย มาร่วมทัพแบบไม่มีค่าตัว (หมดสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) ด้วยสัญญา 1 ปี + ออปชั่นเซ็นเพิ่มอีก 1 ปี
 – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ ปีกดาวรุ่งชาวอุรุกวัย มาจาก เปนญารอล ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัว 10 ล้านยูโร (ประมาณ 370 ล้านบาท)

– ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้า ราฟินญ่า ปีกเลือดแซมบ้า มาจาก แรนส์ ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัว 17 ล้านยูโร (ประมาณ 629 ล้านบาท) + ออปชั่นอีก 6 ล้านยูโร (ประมาณ 222 ล้านบาท)
 – ฟูแล่ม เซ็นสัญญายืมตัว โยอาคิม อันเดอร์เซ่น เซนเตอร์แบ็กร่างยักษ์เลือดโคนมของ โอลิมปิก ลียง มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล 
 – ฟูแล่ม คว้า โทซิน อดาราบิโอโย่ เซนเตอร์แบ็กร่างโย่งเลือดผู้ดี มาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสัญญา 3 ปี
 – ฟูแล่ม เซ็นสัญญายืมตัว รูเบน ลอฟตัส-ชีค กองกลางร่างใหญ่ของ เชลซี มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล แต่ไม่มีออปชั่นซื้อขาด

 – เอฟเวอร์ตัน คว้า เบน ก็อดฟรีย์ เซนเตอร์แบ็กเลือดผู้ดี มาจาก นอริช ซิตี้ ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัว 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,025 ล้านบาท) + ออปชั่น 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 205 ล้านบาท)
 – เอฟเวอร์ตัน เซ็นสัญญายืมตัว โรบิน โอลเซ่น ผู้รักษาประตูทีมชาติสวีเดนของ อาแอส โรม่า มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – เซาธ์แฮมป์ตัน เซ็นสัญญายืมตัว ธีโอ วัลค็อตต์ กองหน้าฝีเท้าจรวดของ เอฟเวอร์ตัน มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 ลา ลีกา สเปน

 – เซบีย่า คว้า อุสซามา อิดริสซี่ ปีกทีมชาติโมร็อกโก มาจาก อาแซด อัล์คมาร์ ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัว 12 ล้านยูโร (ประมาณ 444 ล้านบาท)
 – เซบีย่า คว้า คาริม เรกิก กองหลังชาวดัตช์ มาจาก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัว 4 ล้านยูโร (ประมาณ 148 ล้านบาท)

 – แอตเลติโก มาดริด เซ็นสัญญายืมตัว ลูคัส ตอร์เรร่า กองกลางทีมชาติอุรุกวัยของ อาร์เซน่อล มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
 – ยูเวนตุส เซ็นสัญญายืมตัว เฟเดริโก้ เคียซ่า ปีกทีมชาติอิตาลีของ ฟิออเรนติน่า มาใช้งานเป็นเวลา 2 ฤดูกาล โดยที่มีเงื่อนไขบังคับซื้อขาดที่ราคา 40 ล้านยูโร (ประมาณ 1,480 ล้านบาท) + ออปชั่น 10 ล้านยูโร (ประมาณ 370 ล้านบาท) หากนักเตะทำผลงานได้ตามเงื่อนไขต่างๆ ที่ตกลงกันไว้

 – อินเตอร์ มิลาน เซ็นสัญญายืมตัว มัตเตโอ ดาร์เมียน ฟูลแบ็ก ปาร์ม่า มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดช่วงซัมเมอร์ปีหน้า
 – นาโปลี เซ็นสัญญายืมตัว ตีเอมูเอ้ บากาโยโก้ กองกลางเฟร้นช์แมนของ เชลซี มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – ฟิออเรนติน่า คว้า โฆเซ่ มาเรีย กาเยฆ่อน ปีกชาวสแปนิช มาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว (นักเตะหมดสัญญากับ นาโปลี)
 – ฟิออเรนติน่า เซ็นสัญญายืมตัว อันโตนิโอ บาเร็กก้า ฟูลแบ็กชาวอิตาเลียนของ อาแอส โมนาโก มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 – อาแอส โรม่า คว้า คริส สมอลลิ่ง เซนเตอร์แบ็กร่างยักษ์เลือดผู้ดี มาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญา 3 ปี ค่าตัว 15 ล้านยูโร (ประมาณ 555 ล้านบาท) + ออปชั่น 5 ล้านยูโร (ประมาณ 185 ล้านบาท)
 – เฮลลาส เวโรน่า คว้า นิโกล่า คาลินิช หัวหอกชาวโครแอต มาจาก แอตเลติโก มาดริด ด้วยสัญญา 2 ปี
 – อูดิเนเซ่ เซ็นสัญญายืมตัว เคราร์ด เดวโลเฟว กองหน้าชาวสแปนิชของ วัตฟอร์ด มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – อูดิเนเซ่ เซ็นสัญญายืมตัว อิ๊กนาซิโอ ปุสเซ็ตโต้ ปีกชาวอาร์เจนไตน์ของ วัตฟอร์ด มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 บุนเดสลีกา เยอรมัน
 – แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เซ็นสัญญายืมตัว มัตเตโอ เกนดูซี่ กองกลางดาวรุ่ง อาร์เซน่อล มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล แต่ไม่มีออปชั่นซื้อขาด
 – แฮร์ธ่า เบอร์ลิน คว้า โอมาร์ อัลเดเรเต้ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติปารากวัย มาจาก บาเซิ่ล ด้วยสัญญาระยะยาว แต่ค่าตัวไม่มีการเปิดเผย 

 – บาเยิร์น มิวนิค คว้า บูน่า ซาร์ แบ็กขวาชาวฝรั่งเศส มาจาก โอลิมปิก มาร์กเซย ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัว 10 ล้านยูโร (ประมาณ 370 ล้านบาท)
 – บาเยิร์น มิวนิค เซ็นสัญญายืมตัว ดั๊กลาส คอสต้า ปีกจรวดชาวบราซิเลียนของ ยูเวนตุส มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – บาเยิร์น มิวนิค คว้า เอริค มักซิม ชูโป-โมติง กองหน้าร่างใหญ่ทีมชาติแคเมอรูน มาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว (หมดสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) ด้วยสัญญา 1 ปี 

– แอร์เบ ไลป์ซิก เซ็นสัญญายืมตัว จัสติน ไคลเวิร์ต ปีกชาวดัตช์ของ อาแอส โรม่า มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดช่วงซัมเมอร์ปีหน้า
 – ฮอฟเฟ่นไฮม์ เซ็นสัญญายืมตัว เซบาสเตียน รูดี้ กองกลาง ชาลเก้ 04 มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – ฮอฟเฟ่นไฮม์ เซ็นสัญญายืมตัว ไรอัน แซสเซอญง แบ็กซ้ายดาวรุ่ง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 ลีก เอิง ฝรั่งเศส
 – ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เซ็นสัญญายืมตัว มอยเซ่ คีน กองหน้าดาวรุ่งของ เอฟเวอร์ตัน มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เซ็นสัญญายืมตัว ดานิโล่ เปเรยร่า กองกลางทีมชาติโปรตุเกสของ ปอร์โต้ มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดช่วงซัมเมอร์ปีหน้า
 – ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คว้า ราฟินญ่า กองกลางชาวบราซิเลียน มาจาก บาร์เซโลน่า ด้วยสัญญา 3 ปี ค่าตัว 3 ล้านยูโร (ประมาณ 111 ล้านบาท)

– โอลิมปิก มาร์กเซย เซ็นสัญญายืมตัว มิกกาแอล กุยซ็องส์ กองกลางดาวรุ่งเลือดน้ำหอมของ บาเยิร์น มิวนิค มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – โอลิมปิก ลียง เซ็นสัญญายืมตัว มัตเตีย เด ชีโย่ ฟูลแบ็กดีกรีทีมชาติอิตาลีของ ยูเวนตุส มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – แซงต์-เอเตียน เซ็นสัญญายืมตัว พานาจิโอติส เรตซอส กองหลังทีมชาติกรีซของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดช่วงซัมเมอร์ที่ราคา 6.5 ล้านยูโร (ประมาณ 240.5 ล้านบาท)
 – นีซ เซ็นสัญญายืมตัว เจฟฟ์ แรน-อเดลาอิด กองกลางเลือดน้ำหอมของ โอลิมปิก ลียง มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดช่วงซัมเมอร์ปีหน้า ที่ราคา 25 ล้านยูโร (ประมาณ 925 ล้านบาท)

 ดีลอื่นๆ ที่น่าสนใจ
 – เบนฟิก้า เซ็นสัญญายืมตัว ฌอง-แคลร์ โตดิโบ เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสของ บาร์เซโลน่า มาใช้งานเป็นเวลา 2 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดที่ราคา 20 ล้านยูโร (ประมาณ 740 ล้านบาท)
 – เซลติก เซ็นสัญญายืมตัว ดีเอโก้ ลาซัลต์ แบ็กซ้ายทีมชาติอุรุกวัยของ เอซี มิลาน มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

– อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม คว้า ดาวี่ คลาสเซ่น กองกลางชาวดัตช์ มาจาก แวร์เดอร์ เบรเมน ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัว 11 ล้านยูโร (ประมาณ 407 ล้านบาท) + ออปชั่น 3 ล้านยูโร (ประมาณ 111 ล้านบาท)
 – โอลิมเปียกอส เซ็นสัญญายืมตัว รูเบน วินาเกร แบ็กซ้ายดาวรุ่งชาวโปรตุกีสของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 – เบซิคตัส เซ็นสัญญายืมตัว ราชิด เกซซาล ปีกทีมชาติแอลจีเรียของ เลสเตอร์ ซิตี้ มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – เฟเนร์บาห์เช่ คว้า ดีเอโก้ เปร็อตติ ปีกชาวอาร์เจนไตน์ มาจาก โรม่า ด้วยสัญญา 2 ปี พร้อมออปชั่นเซ็นเพิ่มอีกปี 
 

ด้านไหน?แฉลูกากูเคยพูดเรื่องแย่ของแมนยู

เปาโล คอนโด นักข่าวจาก ลา รีพับบลิก้า สื่อของอิตาลี ระบุ ตอนที่ โรเมลู ลูกากู ได้คุยกับ อเล็กซิส ซานเชซ และ แอชลี่ย์ ยัง ก่อนหน้าที่ทั้ง 2 คนจะตามไปอยู่ อินเตอร์ ร่วมกับเขานั้น ลูกากู บอกเลยว่าบรรยากาศในห้องแต่งตัวของ อินเตอร์ มีแต่ความสามัคคี ไม่เหมือนกับของ "ปีศาจแดง" ที่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก โดย คอนโด บอกอีกว่าการแบ่งก๊กกันภายในแคมป์ "ปีศาจแดง" มันทำให้ ลูกากู เอือมระอาสุดๆ

เปาโล คอนโด นักข่าวของ ลา รีพับบลิก้า สื่อของประเทศอิตาลีอ้างว่า โรเมลู ลูกากู หัวหอก อินเตอร์ มิลาน ยอดสโมสรแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เคยเล่าให้ อเล็กซิส ซานเชซ กับ แอชลี่ย์ ยัง ฟังว่าบรรยากาศภายในห้องแต่งตัวของ "เนรัซซูรี่" ดีมากๆ ต่างกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แย่จนถึงขั้นมีการแบ่งก๊กกัน

ลูกากู ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน ไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2017 ด้วยค่าตัวในเบื้องต้นที่เชื่อกันว่าอยู่ที่ 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,000 ล้านบาท) ซึ่งในซีซั่นแรกกับทีมเขายังเล่นได้น่าพอใจด้วยการทำไป 27 ประตูจากการลงเล่น 51 นัดในทุกรายการ แต่พอถึงซีซั่น 2018-19 เขากลับทำได้เพียง 15 ประตูจากการลงสนามในทุกรายการ 45 นัด จนทำให้มักจะโดนตำหนิอยู่บ่อยๆ

สุดท้ายแล้ว ลูกากู ก็ย้ายมาอยู่กับ อินเตอร์ ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2019 และเขาก็โชว์ฟอร์มได้สุดยอดกับการเล่นที่ อิตาลี โดยซีซั่นก่อนเขาทำไปถึง 34 ประตูจากการลงเล่น 51 นัดในทุกรายการ ส่วนฤดูกาลนี้ก็ทำไปแล้ว 3 ประตูจากการลงเล่นเกมลีก 3 นัด

คอนโด แฉว่า "ลูกากู เอือมกับชีวิตที่ ยูไนเต็ด มากๆ เพราะว่า (ปอล) ป็อกบา กับ (อ็องโตนี่) มาร์กซิยาล แทบไม่ผ่านบอลให้เขาเลย มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าห้องแต่งตัวของที่นั่นเกิดการแบ่งแยกกัน ตอนที่ (อเล็กซิส) ซานเชซ กับ (แอชลี่ย์) ยัง ถามว่าที่ อินเตอร์ มันเป็นยังไงก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญากันน่ะ สิ่งแรกที่ ลูกากู ตอบไปก็คือ -ดีมากๆ มันไม่มีการแบ่งก๊กกันเลย-"

พลาดมีโดน! บาร์ซ่างานหนัก “เมสซี่” บัญชาทัพรับเซบีย่า

โรนัลด์ คูมัน นายใหญ่ บาร์เซโลน่า ความพร้อมเกมนี้ไม่มี เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ ที่ติดโทษแบนส่วนตัวหลักคนอื่นยึดชุดเดิมนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ ทางด้าน เซบีย่า ของกุนซือ จูเลน โลเปเตกี เตรียมปรับทัพบางตำแหน่งมี อิวาน ราคิติช บัญชาทัพลุ้นซัดทีมเก่า ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน คืนวันอาทิตย์ที่ 4 ต.ค. นี้

ปรีวิวฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2563
บาร์เซโลน่า (7) – เซบีย่า (8)
เวลา : 02.00 น.

สนาม : คัมป์ นู 

    โรนัลด์ คูมัน จะไม่มี เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ ที่ติดโทษแบน โอกาสจะตกเป็นของ โรนัลด์ อาเราโฮ ได้ลงยืนเซนเตอร์กับ เคราร์ด ปีเก้ ส่วนแบ็กขวา-ซ้ายยังเป็น เซร์จี้ โรเบร์โต้ กับ จอร์ดี้ อัลบา 

    แดนกลาง กับ แดนหน้ายังไม่เปลี่ยนแปลง ประกอบด้วย อองตวน กรีซมันน์, อันซู ฟาติ, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ ลิโอเนล เมสซี่ ในรายของผู้เล่นบาดเจ็บยังมีทั้ง มาร์ก อันเดร แทร์ ชเตเก้น, ซามูแอล อุมติตี้ และ จูเนียร์ ฟีร์โป้ 

    จูเลน โลเปเตกี เตรียมปรับทีมแดนหน้า 2 ตำแหน่งด้วยกัน ยุสเซฟ เอ็นเนเซรี่ ยืนเป็นหน้าเป้าแทน ลุค เดอ ยอง และ ดาบิด ซูโซ่ จะลงเป็นกองหน้าตัวข้างกับ ลูกัส โอกัมโปส ทำให้ มูร์นี เอลอัดดาดี้ หลุดไปนั่งสำรอง ส่วน 

    แผงมิดฟิลด์ อิวาน ราคิติช ลงคุมเกมร่วม แฟร์นานโด เรจิส และ โจน ฆอร์ดาน แผงแบ็กโฟร์มี เฆซุส นาบาส ยืนแบ็กขวา แบ็กซ้ายสลับมาใช้ มาร์กอส อาคุนญ่า โดยมี จูลส์ กูงเด้ กับ ดีเอโก้ คาร์ลอส ยืนคู่ปราการหลังตัวกลาง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

    บาร์เซโลน่า (4-2-3-1) เนโต้-เซร์จี้ โรเบร์โต้,เคราร์ด ปีเก้,โรนัลด์ อาเราโฮ,จอร์ดี้ อัลบา-เฟร็งกี้ เดอ ยอง,เซร์คิโอ บุสเก็ตส์-อันซู ฟาติ,ลิโอเนล เมสซี่,ฟิลิปเป้ คูตินโญ่-อองตวน กรีซมันน์

    เซบีย่า (4-3-3) ยาสซีน โบโน่-เฆซุส นาบาส,จูลส์ กูงเด้,ดีเอโก้ คาร์ลอส,มาร์กอส อาคุนญ่า-อิวาน ราคิติช,โจน ฆอร์ดาน,แฟร์นานโด-ดาบิด ซูโซ่,ยุสเซฟ เอ็นเนเซรี่,ลูกัส โอกัมโปส

ผลการพบกันที่ผ่านมา

วัน/เดือน/ปี    รายการ         ผลการแข่งขัน 

20/06/19       ลา ลีกา เซบีย่า 0-0 บาร์เซโลน่า 
07/10/19      ลา ลีกา บาร์เซโลน่า 4-0 เซบีย่า
23/02/19       ลา ลีกา เซบีย่า 2-4 บาร์เซโลน่า 
31/01/19      ลา ลีกา บาร์เซโลน่า 6-1 เซบีย่า
24/01/19     โกปา เดล เรย์  เซบีย่า 2-0 บาร์เซโลน่า 

ผลงาน 5 นัดหลังสุด 

บาร์เซโลน่า

02/10/20 ชนะ เซลต้า บีโก้ 3-0 (เยือน) ลา ลีกา 
28/09/20 ชนะ บียาร์เรอัล 4-0 (เหย้า) ลา ลีกา 
20/09/20 ชนะ เอลเช่ 1-0 (เหย้า) โจน กัมเปร์ โทรฟี่
17/09/20 ชนะ คิโรน่า 3-1 (เหย้า) กระชับมิตร
13/09/20 ชนะ คิมนาสติก 3-1 (เหย้า) กระชับมิตร

เซบีย่า

02/10/20 ชนะ เลบันเต้ 1-0 (เหย้า) ลา ลีกา 
27/09/20 ชนะ กาดิซ 3-1 (เยือน) ลา ลีกา 
24/09/20 เสมอ บาเยิร์น มิวนิค 1-1 (ต่อเวลาพิเศษแพ้ 1-2, สนามกลาง) ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 
15/09/20 ชนะ เลบันเต้ 3-2 (เหย้า) กระชับมิตร
21/08/20 ชนะ อินเตอร์ มิลาน 3-2 (สนามกลาง) ยูโรปา ลีก