โปลิศ เทโรยิ้มได้แข้งต่างชาติฟูลทีมบู๊กิเลนปลายตุลาคม

หลังจากทัพ "มังกรโล่งิน " โปลิศ เทโร เอฟซี คว้าตัว โมฮามาดู ซูมาเรห์ กองหน้าทีมชาติ" เสือเหลือง" มาเลเซีย มาร่วมทัพ และตอนนี้อยู่ในช่วงของการกักตัว 14 วัน ตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสของทางศบค. ซึ่งจะสามารถมาร่วมทีมได้หลังจากพ้นช่วงฟีฟ่าเดย์และจะประเดิมพร้อมลงสนามเกมแรกในศึกไทยลีกได้ในนัดที่เปิดบ้านรับ" กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

"แมน" ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีมได้ออกมาเผยว่า "จากการคำนวนระยะเวลาแล้ว ทางซูมาเรห์ จะพ้นการกักตัวในช่วงหลังฟีฟ่าเดย์เล็กน้อยและน่าจะพร้อมลงสนามพอดีในเกมที่เราจะเปิดบ้านรับทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อีกทั้งจะเป็นเกมที่เราจะมีผู้เล่นต่างชาติครบอีกด้วยในนัดนั้นไม่ว่าจะเป็น ไอแซค ฮอนนี่ , เกร็ก ฮูล่า , โดมินิค ตัน , ตวาม แต ฮี, บาโบ้ มาร์ค แลนดรี้ และโมฮามาดู ซูมาเรห์"

"ทว่าอย่างไรก็คงต้องอยู่ในดุลพินิจของ"โค้ชอ้น" รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค และทีมงานสตาฟว่าจะใช้งานเขาหรือไม่เท่านั้น เพราะอาจจะเพิ่งได้มาร่วมซ้อมกับทีม เมื่อถึงตอนนั้น เราได้ผู้เล่านต่างชาติครบ ก็น่าจะทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น อยากให้แฟนบอลรอชมและเป็นกำลงใจให้กับการทำงานนักของทุกคนในทีมต่อไป"

สำหรับเกมที่ โปลิศ เทโร เอฟซี จะเปิดบ้านสนามบุญญะจินดารับเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะเป็นเกมนัดที่ 10 ของศึกไทยลัก 1 วันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค. 63 เวลา 19.00 น.

 

งานนี้มีแฉ เมื่อสลังงอร์ล้อเลียน ยะโฮร์ เหตุเกิดจาก ซูมาเร่ห์

หลังจากก่อนหน้านี้ทางด้านของ โมฮามาดู ซูมาร่ห์ แข้งสัญชาติแกมเบีย วัย 25 ปี ที่โอนสัญชาติเป็นมาเลเซีย และลงเล่นให้ทีมชาติมาเลเซีย ตั้งแต่ปี 2018 ได้เซ็นสัญญาร่วมทัพกับสโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโรฯ ในศึกไทยลีก 1 ของไทย พร้อมกับสวมยูนิฟอร์มหมายเลข 13 โดยสื่อมาเลเซียเผยว่าดาวเตะรายนี้จะเดินทางประเทศไทยในวันอังคาร ที่ 22 ก.ย.63 นี้ ซึ่งการย้ายทีมครั้งนี้ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ได้เปิดโอกาสให้ย้ายทีมด้วยการคุ้มครองชั่วคราว หลังสโมสรปาหัง ต้นสังกัดเดิมอ้างว่ามีสัญญาของนักเตะรายนี้จนถึงปี 2565 พร้อมฟ้องร้องต่อฟีฟ่าและเอเอฟซี ซึ่งเรื่องเงินเดือนที่นักเตะกล่าวอ้างว่าไม่จ่ายสโมสรอ้างว่ามีการเจรจาพูดคุยกันแล้วว่าจะจ่ายในวันและเวลาที่กำหนด โดยทางด้านนักเตะเองก็อ้างว่าสโมสรไม่จ่ายเงินเดือนตามกำหน

 

ขณะเดียวกัน ตวนกู อิสมาอิล ประธานสโมสรฟุตบอลยะโฮร์ดารุล ทาซิม ยอดทีมยักษ์ใหญ่ของลีกมาเลซีย ที่มีข่าวพัวพันว่าจะคว้าแข้งรายนี้มาร่วมทีมก่อนหน้านี้ได้ออกมาโพสต์ข้อความในโซเซียลส่วนตัวถึงสัญญาปลายทางที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของ โมฮามาดู  ซูมาร่ห์   แข้งหน้าใหม่ของโปลิศ เทโรฯ ว่า เขาจะย้ายไปร่วมทีม สลังงอร์  หลังหมดสัญญากับโปลิศเทโรฯ ไม่ใช่ยะโฮร์อย่างที่ตกเป็นข่าว

โดยก่อนหน้านี้อดีตแข้งทีมชาติมาเลเซียของสลังงอร์อย่าง คาลิด อาลี ได้ออกมาเปรยไว้แล้วว่าแข้งรายนี้จะมาเล่นที่เมืองไทยเป็นการชั่วคราว แล้วจะกลับไปเล่นที่มาเลเซียอีกครั้ง  ซึ่งประธานสโมสรยะโฮร์ฯได้ออกมาเฉลยพร้อมสัญญาของสลังงอร์หลังจากไม่พอใจการนำเสนอสโลแกนของสลังงอร์ซึ่งล้อเลียน ยะโฮร์ว่า "Watch the Southern Tiger Lost His Fangs" ในบริเวณสนามซาห์ อลัมรังเหย้าของสลังงอร์ ซึ่งมีความหมายว่า จับตาดู “เสือป่าแดนใต้”(ฉายายะโฮร์) สูญเสียเขี้ยวเล็บ” กลายเป็นจุดเดือดที่ปธ.ยะโฮร์ ปล่อยสัญญาดังกล่าวออกมาในโลกออนไลน์พร้อมกับข้อความอีกยาวเหยียด

นอกจากประเด็นดังกล่าวแล้วยังมีการนำเสนอในเรื่องของเงินเดือน โมฮามาดู  ซูมาร่ห์   ว่าจะมีรายได้เงินเดือนถึงเดือนละ 1.7 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 5.3 แสนบาท) ซึ่งยังไม่รวมเงินโบนัสแข่งขันและเบี้ยเลี้ยงซ้อม โดยในข้อมูลดังกล่าวยังมีการขอเพิ่มเป็น 2 หมื่นเหรียญสหรัฐฯต่อเดือน(ประมาณ 6.23 แสนบาท)  ในการเจรจาย้ายไปร่วมทีม สลังงอร์ ผ่านบทสนทนาทางแอพลิเคชั่นไลน์

โดนด่าก็ยอม สายสปีดมาเลย์คอนเฟิร์มเล่นไทยลีก

จากที่มีกระแสออกข่าวมาอย่างต่อเนื่องว่า “โมฮัมมาดู ซูมาเรห์” ปีกดีกรีทีมชาติมาเลเซีย เตรียมย้ายที่จะมาร่วมทัพ “มังกรโล่ห์เงิน” โปลิศ เทโร เอฟซี ทีมในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020 หลังจากที่ “เจ้าตัว” ได้หายตัวไปจากทีม “ปาหัง เอฟเอ” ก่อนเกมที่ทีมจะพ่ายให้กับ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม 2-3 ในศึกมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ล่าสุด “นิว สเตรท ไทม์” สื่อดังแดนเสือเหลือง รายงานยืนยัน “โมฮัมมาดู ซูมาเรห์” ย้ายมาเล่นในศึกฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก” อย่างแน่นอน หลังจากเจ้าตัวได้มีการยืนยันผ่านโซเชียลส่วนตัวว่า "ใช่แล้วฉันจะอยู่ที่กรุงเทพฯ"

 อย่างไรก็ดี โมฮัมมาดู ซูมาเรห์ ไม่ได้ลงรายละเอียดถึงการย้ายทีมมาในประเทศไทยว่าเขายัายมาเล่นให้กับทีม บอกเพียงแค่เขาจะย้านมาเล่นกับท่มในกรุงเทพฯ เท่านั้น

นอกจากนี้ ปีกดีกรีทีมชาติมาเลเซีย ยังปฏิเสธจะตอบคำถามเกี่ยว ปาหัง เอฟเอ ต้นสังกัดปัจจุบันของเขา โดยกล่าวเพียงว่า “เขาเคารพปาหังมาก ที่เคยช่วยให้เขาได้รับสัญชาติมาเลเซียในปี 2018 และกลายเป็นนักฟุตบอลต่างชาติที่ได้รับใช้ทีมชาติมาเลเซียคนแรกของประเทศ”

ขณะที่ ดาโต๊ะ ซูฟเฟี่ยน อาวัง ผู้จัดการทีม ปาหัง เอฟซี กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวนี้สั้นๆว่า โมฮัมมาดู ซูมาเรห์ ไม่มีความเป็นอาชีพเลย

สำหรับ “ซูมาเรห์” เป็นชาวแกมเบียโดยกำเนิดก่อนจะโอนสัญชาติเป็นมาเลเซียเมื่อปี 2018 โดยเริ่มค้าแข้งในมาเลเซียกับ PDRM FA ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ “ปะลิส เอฟเอ” และ “ปะหัง เอฟเอ” จนถึงปัจจุบัน

 

 

ไม่ต้องผ่านเอเยนต์! ยะโฮร์ ออกแถลง ‘ถ้าสนใจนักเตะเราจริง ให้ติดต่อมา’

ยะโฮร์ แถลงชัดยังไม่มีทีมไหนยื่นข้อเสนอคว้านักเตะของทีมไปร่วมทัพ ท่ามกลางข่าว ดิโอโก ย้ายกลับไทยลีก

อลิสแตร์ เอ็ดเวิร์ดส ผู้อำนวยการกีฬาสโมสรของ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ยักษ์ใหญ่แห่งมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก แถลงยืนยันชัดเจนว่า ขณะนี้ไม่มีทีมไหนที่ยื่นข้อเสนอคว้านักเตะของทีมไปร่วมทัพ ท่ามกลางข่าวเชื่อมโยงว่า ดิโอโก หลุยส์ ซานโต กองหน้าตัวเก่ง อาจจะย้ายกลับไปค้าแข้งในศึก โตโยต้า ไทยลีก อีกครั้ง

กอหน้าชาวบราซิลวัย 33 ปี กำลังจะหมดสัญญากับ ยะโฮร์ ดารุล ตะซิม ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ทำให้ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับทีมในโตโยต้า ไทยลีก อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะล่าสุดกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ตกเป็นข่าวยื่นขอซื้อตัวในตลาดรอบพิเศษ

ท่ามกลางประเด็นที่เกิดขึ้น ล่าสุด อลิสแตร์ เอ็ดเวิร์ดส ในฐานะผู้อำนวยการกีฬาของทีม แถลงผ่านแฟนเพจสโมสรว่า

"หากมีสโมสรต่างชาติให้ความสนใจนักเตะของ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม คนแรกที่จะรู้ก็คือผม ในฐานะผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร"

"ถ้าพวกเขาสนใจจะติดต่อมาที่เรา แต่ถ้าไม่มีประกาศจากเรา แล้วมีเอเยนต์คนไหนอ้างเรื่องความสนใจจากต่างประเทศ มันเป็นไปได้หนึ่งหรือสองอย่างคือ ไม่ปั้นเรื่องขึ้นมาก็หวังจะหารายได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง อย่างที่บอก สโมสรที่สนใจ หรือ เอเยนต์ที่ถูกจ้างมา พวกเขาจะติดต่อมาหาเรา"

"เรามีประสบการณ์ในธุรกิจฟุตบอล เราเป็นสโมสรเดียวนประเทศ ที่มีการขายนักเตะ ตัวอย่างเช่น เราขาย ฮวน มาร์ติน ลูเซโร ด้วยราคาถึง 2.5 ล้านยูโร" ผอ.กีฬายะโฮร์ปิดท้าย

ขณะที่ "เจ" วรปัฐ อรุณภักดี ผู้ประกาศข่าว "ไทยรัฐทีวี" รวมถึงเป็นเจ้าของช่อง "คิดไซด์โค้ง" ในยูทบ ก็วิเคราะห์ว่า เป็นไปได้ยากที่ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต จะย้ายกลับมาค้าแข้งในศึก โตโยต้า ไทยลีก ในช่วงตลาดซื้อขายผู้เล่นรอบพิเศษ(กันยายน)เพราะ ยะโฮร์ ยังมีอีก 7 เกมที่ต้องแข่งขันหาแชมป์ลีก

อย่างไรก็ตามกองหน้าชาวบราซิลจะหมดสัญญากับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ในวันที่ 31 ธันวาคม นี้ ซึ่งทีมไทยลีกที่สนใจสามารถพูดคุยโดยตรงกับ ดิโอโก โดยไม่ต้องผ่านสโมสรยะโฮร์ ในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ (ตามกฏบอสแมน) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องลุ้นว่าเจ้าตัวจะต่อสัญญาฉบับใหม่กับยอดทีมมาเลเซียออกไปหรือไม่

ทั้งนี้ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ฝากผลงานยอดเยี่ยม สมัยค้าแข้งกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อยิงรวมไปถึง 132 ประตู 45 แอสซิสต์ 9 แฮตทริค และ คว้าแชมป์ไป 11 รายการ ก่อนย้ายไปอยู่กับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม เมื่อปี 2019 ด้วยค่าตัวประมาณ 50 ล้านบาท

ชีวิตโคตรดราม่า คบแก๊งค์ขาใหญ่ หลงผิด ชีวิต(เกือบ)พัง

“เอ็ม”อนาวิน จูจีน อดีตแข้งทีมชาติไทยวัย 33 ปี ที่ปัจจุบันเดินทางไปค้าแข้งในประเทศมาเลเซีย กับสโมสรฟุตบอลเปตาลิง จายา ในศึกฟุตบอลมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก ฤดูกาล 2020 ยังต้องเผชิญกับโชคชะตาลูกหนังต่างแดนด้วยการฝึกซ้อมด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่องเพราะรัฐบาลของมาเลเซีย ยังไม่ประกาศคลายล็อค ซึ่งจะมีการประกาศเรื่องของมาตรการอีกครั้งในวันที่ 9 มิ.ย.63 หากทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดีก็จะเริ่มทำการฝึกซ้อมแบบกลุ่มกับสโมสรต้นสังกัด

    แข้งไทยที่ไปใช้ชีวิตต่างแดนเล่าย้อนความหลังก่อนเข้าสู่วงการฟุตบอลว่ากว่าจะมีวันนี้ ชีวิตเขาเจียนอยู่เจียนไปบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคสิ่งยั่วยุมากมาย บางครั้งก็มีหลงทางหลุดไปอยู่ในโลกที่มันไม่ควรเข้าไปอยู่โชคดีที่ฟุตบอลดึงเขากลับมาสู่ชีวิตที่ดีแบบพลิกมาอีกด้าน หากไม่มีฟุตบอลชื่อ อนาวิน จูจีน  อาจจะไปโผล่ในเส้นทางที่เต็มไปด้วยอบายมุขและสิ่งผิดกฎหมายมากมายไม่น่าจะมีชีวิตที่ดีเหมือนทุกวันนี้

    อนาวิน พูดถึงความหลังว่า ผมเกิดนครสวรรค์ย้ายตามครอบครัวไปโตที่เมืองกาญจน์ จริงๆกีฬาที่ชอบคือตะกร้อเล่นมาตั้งแต่เด็กๆในโรงเรียนเทศบาลฯ 3 บ้านบ่อ ด้วยความที่เราตัวเล็กไม่ค่อยกล้าจึงเลือกกีฬาที่เน้นไม่ปะทะ แต่ความบังเอิญคือวันนั้นเขาซ้อมฟุตบอลกันแล้วตัวผู้เล่นไม่ครบครูจึงเรียกไปเล่นในตำแหน่งตัวรุกริมเส้น แล้วทำได้ดีในสายตาครู ครูจึงจับมาเป็นตัวของโรงเรียนก่อนที่จะพัฒนาเป็นตัวแทนของจังหวัดลงแข่งขันรายการกีฬาเทศบาลระดับประเทศช่วงรอบสุดท้ายจะลงแข่งขันทั้ง วิ่ง,ตะกร้อ และ ฟุตบอล  แข่งวันเดียวกันก็วิ่งรอกเล่นจนครบ

    ตอนจบ ป.6 หมายมั่นปั้นมือมากที่จะเข้าโรงเรียนกีฬาสุพรรณบุรี ตอนนั้นอยากเรียนที่นั่นมากๆสถานศึกษาดังมากๆนักเตะติดเยาวชนทีมชาติเพียบ เขารับเด็กเข้า ม.1 โครงการฟุตบอลจำนวน  15  คน แต่มีเด็กไปสมัคร 1,500 คน สุดท้ายไม่ติดก็กลับไปเรียนมีเมืองกาญจน์ที่โรงเรียนเทพมงคลฯ ฟุตบอลก็ยังเล่นต่อแต่อีกด้านชีวิตกำลังเจอกับเรื่องราวต่างๆมากมายเพราะเราเริ่มโตขึ้นได้เห็นได้รู้ เริ่มแอบเห็นครอบครัวไปเกี่ยวพันกับยาเสพติดแต่ด้วยความเป็นเด็กจึงไม่กล้าพูดอะไร เก็บความรู้สึกไว้กับตัวเองและคิดว่าทุกคนคงมีเหตุผลเป็นของตัวเองจริงๆอยากจะบอกว่าไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ดี ด้วยความเป็นเด็กบวกกับใจที่ยังไม่กล้าพอจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไป

    ช่วงเวลาที่สำคัญคือรอยต่อการเป็นเด็กกับวัยรุ่นตอนนั้นไปโรงเรียนก็จะมีพวกขาใหญ่รุ่นพี่ตั้งแก็งค์กันบางคนก็โหดมากๆบางคนก็ออกแนวรีดไถ คิดว่าถ้าโดนรังแกทุกวันจะทำอย่างไรดีมันไม่ใช่แค่การต่อสู้ในแต่ละวัน แต่การสร้างการยอมรับก็เป็นเรื่องสำคัญในเวลานั้น ยอมรับว่าเมื่อย้อนกลับไปถึงตอนนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเพราะผิดร้ายแรงมากๆ ด้วยความคิดแบบเด็กๆ ผมขโมยยาเสพติดจากที่บ้านมาขายให้กับเพื่อนๆ 3 เม็ด เจตนาไม่ได้อยากได้สตางค์แต่อยากบอกให้รู้ว่าเราก็มีประสบการณ์ที่พวกเขาจะรังแกเราไม่ได้จริงๆมันเป็นความคิดที่ผิดถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่ทำ

    หลังจากนั้นมาบรรดาพวกขาใหญ่ต้อนรับเราเป็นอย่างดีเหมือนเป็นใบเบิกทางเข้าแก็งค์ผมเริ่มดื่มเหล้า,สูบบุหรี่ ,ขี่มอร์เตอร์ไซค์ซิ่ง ตั้งแต่อายุ 12 ปี แต่สองสิ่งที่ผมไม่ทิ้งเลยคือเรื่องของการเรียนและฟุตบอล ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ทุกเย็นต้องได้เล่นฟุตบอล ด้วยความเป็นเด็กเข้าเรียน ม.1 ก่อนเกณฑ์จึงพอมีเวลาให้ผมเลือกความฝันของฟุตบอลอีกครั้ง สุดท้ายตัดสินใจไปสอบโควตาฟุตบอลที่ โรงเรียนกีฬาสุพรรณบุรี เพื่อเข้าม.1 อีกรอบ ครั้งนี้หลุดเข้าไปถึงรอบ 50 คน แต่ก็ยังไม่ได้เรียนเหมือนดั่งที่ฝันไว้อีกครั้ง  ทำให้ต้องกลับมาเรียนต่อที่กาญจนบุรี แต่บนความโชคร้ายยังมีความโชคดีโรงเรียนกีฬาอ่างทองเปิดสถานศึกใหม่พวกที่คัดติดรอบ 50 คนจึงได้สิทธิ์ไปเรียนที่นั่นโดยไม่ต้องทดสอบอะไรเพิ่มเติมเพราะผ่านเกณฑ์การประเมินมาแล้วทุกขั้นตอน

    โรงเรียนกีฬาอ่างทองคือโลกอีกใบที่ทำให้ชีวิตผมชัดเจนขึ้นเรื่องราวของฟุตบอลมันบอกต่อความฝันเราได้ ก่อนไปอ่างทองผมคิดว่าความฝันตอนนั้นคือเรียนให้จบ ม.3 ที่เมืองกาญจน์แล้วสอบเข้าเทคนิคแต่งตัวเท่ห์ๆเหมือนวัยรุ่นทำกันแล้วเรียนจบก็หางานทำ ที่กีฬาอ่างทองการกินนอนทำให้ชีวิตมีระบบระเบียบมากขึ้นและที่สำคัญคือทำให้เราคิดมากขึ้นในเรื่องราวที่ผ่านมา  หลังจากเรียนไปได้สักระยะครอบครัวผมก็โดนจับแม่ผมถูกตัดสินจำคุก 4 ปี  ช่วงที่แม่อยู่ในนั้นผมมีเวลาไปหาท่านเพียงแค่ 4 ครั้ง เพราะมีปัจจัยหลายอย่างทั้งเรื่องของการเดินทางและกำลังทรัพย์มันทรมานมากนะกับช่วงเวลาที่ขมขื่น

    แต่ก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ในครอบครัวอีก คอยพร่ำสอนน้องสาวตลอดเวลาให้ก้าวข้ามอุปสรรคไปด้วย สมัยเรียนอ่างทอง เพื่อนๆจะเรียกผมว่า “ไอ้หลวง” เรื่องนี้ มงคล ทศไกร รู้ดี เหตุที่เรียกแบบนั้นเพราะว่าเราจะคอยห้ามคอยด่าเพื่อนๆที่จะออกนอกลู่นอกทางเพราะคิดว่าโอกาสของทุกคนมันไม่ได้มาง่ายๆบางคนพลาดครั้งเดียวอาจจะยาวตลอดชีวิต ประสบการณ์บางอย่างที่เผชิญทำให้เราอยากให้คนที่เรารักรอบๆตัวเรามีเส้นทางการเดินที่ดี

    ผมยอมรับเลยว่าที่โรงเรียนกีฬาอ่างทองทำให้โลกอีกใบมันสวยงามมากขึ้น การก้าวไปติดทีมชาตินักเรียนไทย รุ่นอายุ 18 ปี คืออีกหนึ่งจุดเปลี่ยนชีวิตของผมทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆแบบชัดเจน การติดทีมชาติเป็นเรื่องที่ดีใจมากๆ แต่สิ่งที่ดีใจสุดๆคือเรื่องของการที่แม่ของผมพ้นโทษออกมากลับมาใช้ชีวิตปกติ ผมกอดแม่ด้วยน้ำตาแห่งความคิดถึงเป็นห่วงไหลออกมาไม่หยุดพร้อมกับคิดในใจว่าต่อไปนี้จะดูแลแม่และครอบครัวให้ดีที่สุด  จากนั้นเส้นทางฟุตบอลก็พาผมเดินทางไปหลากหลายแห่งในสโมสรฟุตบอลอาชีพ ทั้ง ธ.กรุงไทย ,บางกอกกล๊าส,บุรีรัมย์,สุพรรณบุรี จนมาถึงมาเลเซีย

    มาถึงวันนี้แม้จะอายุ 33 ปี ผมก็ยังไม่หยุดฝันเรื่องของฟุตบอลหากไม่เป็นผู้เล่นก็ยังมีแผนเกี่ยวกับฟุตบอลอีกมากมายที่จะก้าวเดินตอนนี้เรียนจบวิชาโค้ชระดับ ซี ไลเซ่นส์ ก็ต้องขวนขวายต่อไปเพื่อต่อเติมความรู้ในเรื่องของฟุตบอล  เรื่องราวที่ผิดพลาดในอดีตคือบทเรียนชั้นดีในการปรับปรุงตัวเองรวมไปถึงการดูแลคนรอบข้าง หลายๆเรื่องที่ทำให้คิดได้ในช่วงเวลาที่ผ่านๆมาชีวิตเรายืนได้อย่างแข็งแรงเพราะ “ฟุตบอล”และ “โอกาส”ที่เราได้รับรวมไปถึงการแยกทางจากสิ่งต่างๆที่มันไม่ดีหัวใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

วีลีกไม่เล่น แต่ถ้าไทยลีก ลูกชาย ริวัลโด้ สน

ข่าวเกี่ยวกับเรื่องของทีมโฮจิมินห์ ซิตี้ เอฟซี ที่สนใจจะดึง ริวัลดิญโญ่ ลูกชายของริวัลโด้ อดีตดาวดังระดับโลกของทีมชาติบราซิล ที่ตอนนี้เล่นอยู่ในลีกโรมาเนีย มาเล่นในวีลีกของเวียดนาม
   
ความคืบหน้าล่าสุด นายไตรสิทธิ์ ทองแดง ที่ได้รับมอบหมายจากประธานโฮจิมินห์ ซิตี้ เอฟซี ให้ติดต่อได้เปิดเผยว่า ทางเอเย่นต์ตัวแทนของริวัลดิญโญ่ ได้ตอบปฏิเสธกลับมา โดยเผยว่า เจ้าตัวยังไม่คิดที่จะมาเล่นในวีลีกของเวียดนาม

    ในข้อความที่เอเย่นต์ตอบกลับมา เขาบอกว่า ถ้าเป็นเจลีก ของญี่ปุ่น เคลีก ของเกาหลีใต้ เอ็มลีกของมาเลเซีย หรือไทยลีก ติดต่อก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะมาตรฐานของลีกสูงกว่าเวียดนาม ซึ่งผมได้ถามว่าเขาคิดอย่างไรถ้าจะมาไทยลีก เอเย่นต์ตอบว่า ไทยมีความเป็นไปได้ที่จะมาเล่น แต่ก็ต้องดูด้วยว่าเป็นทีมไหน ถ้ายื่นข้อเสนอมาจริงๆ ก็มีความน่าสนใจ"

    เมื่อเป้าหมายแรกไม่สำเร็จ นายไตรสิทธิ์บอกว่า ตอนนี้ทางโฮจิมินห์ ซิตี้ เอฟซี ได้เบนเป้าและให้ตนส่งจดหมายที่เป็นข้อเสนอให้กับทางเอเย่นต๋ของ โรมาริญโญ่ ซึ่งเป็นลูกชายของ โรมาริโอ อดีตดาวดังอีกคนของทีมชาติบราซิล โดยข้อเสนอค่าเหนื่อยใกล้เคียงกันคือ 7 แสนเหรียญสหรัฐ ต่อปี แต่น้อยกว่านิดหน่อย

    "ตอนนี้ทางโรมาริโอ กำลังพิจารณาสัญญากับลูกชาย ถ้าเขาตอบตกลง เขาบอกว่าจะเดินทางมาเป็นเพื่อนลูกชายเพื่อเจรจาขั้นสุดท้ายก่อนเซ็นสัญญา ซึ่งตัวลูกชายตอนนี้เล่นอยู่ใน เซเรีย เอ ของบราซิล และเล่นตำแหน่งกองหน้าเหมือนพ่อด้วย"

 

อยากเล่นลีกไทย ยอมทิ้งเงิน 2 เท่า โดนเอเย่นต์หลอก ดิ้นหาทีมเอง

ยานโต บาสนา แข้งแนวรับวัย 24 ปี ทีมชาติอินโดนีเซียของสโมสรฟุตบอลประจวบ เอฟซี ออกมาเล่าเรื่องเรื่องชีวิตก่อนเดินทางมาค้าแข้งที่ประเทศไทย ผ่านสื่ออินโดนีเซีย อย่าง Vocketfc  ว่า ตอนอายุ 22 ปี เขาตัดสินใจเพื่อจะเดินทางมาเล่นฟุตบอลอาชีพที่ประเทศไทยเนื่องจากต้องการพัฒนาตัวเองเพื่อสร้างโอกาสบนเส้นทางฟุตบอลอาชีพในอนาคต ซึ่งก่อนเดินหน้ามาประเทศไทยมีสโมสรฟุตบอลในมาเลเซียยื่นข้อเสนอให้สูงกว่าทีมจากเมืองไทยถึง 2 เท่า แต่สุดท้ายเลือกมาไทยเพราะอยากเล่นลีกที่มีมาตรฐานการเล่นสูง
   
กองหลังทีมชาติอินโดนีเซีย เผยว่า ในเวลานั้นมีสองข้อเสนอคือประเทศไทยและมาเลเซีย ทีมมาเลเซียมีเงินเดือนสูงเป็นสองเท่าของทีมในไทย หากคิดเรื่องเงินคงไปมาเลเซียแต่สิ่งที่ต้องการคือประสบการณ์ระดับสูง ดังนั้นจึงเลือกทิ้งเงินเดือนที่สูงพร้อมกับมาเริ่มต้นกับทีมระดับลีกของไทยอย่าง ขอนแก่น เอฟซี ในปี 2018  ย้อนกลับไปก่อนการมาค้าแข้งในลีกไทยให้นั้นทุกอย่างไม่ราบรื่นนักเขาถูกหลอกจากเอเยนต์ว่าจะให้มาเล่นกับสโมสรใหญ่ไทยลีกทีมหนึ่งพร้อมกับส่งภาพอพาร์ทเมนต์,รถ อย่างดีที่เมืองไทยมาให้ดูในแง่ของออฟชั่นเสริม ซึ่งเมื่อมาถึงทุกอย่างเป็นเรื่องโกหกทำให้ต้องดิ้นรนอย่างหนักเมื่อมาถึงประเทศไทย

    ในใจตอนนั้นคิดว่าคงจะต้องกลับไปเล่นในลีกมาเลเซียเซีย กับ กัวลาลัมเปอร์ เอฟซี  แต่ก็ลองสู้ดูจนสุดท้ายได้กลายเป็นนักเตะระดับไทยลีก 2 ของขอนแก่น เอฟซี เมื่อได้รับสัญญาก็มุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่จนสุดท้ายการทำงานหนักมันตอบแทนหลายๆอย่างทั้งเรื่องของโอกาสการย้ายไปเล่นลีกสูงสุดให้ สุโขทัย เอฟซี ปี 2019 และ ปี 2020 ยังได้เซ็นสัญญากับประจวบ เอฟซี ทีมชั้นนำในลีกสูงสุดของไทย

    สำหรับ ยานโต บาสนา แข้งแนวรับวัย 24 ปี ทีมชาติอินโดนีเซีย เริ่มต้นชีวิตนักเตะอาชีพตั้งแต่วัย 19 ปี ให้กับสโมสร มิตาร์ คูการ์ ในบ้านเกิดก่อนย้ายไปเล่นให้กับ เปอร์ซิปบันดุง,ศรีวิจายา และขยับตัวเองมาค้าแข้งต่างแดนในไทยในวัย 22 ปี ลงเล่นให้กับ ขอนแก่น เอฟซี (ไทยลีก2),สุโขทัย เอฟซี (ไทยลีก1)และ ประจวบ เอฟซี (ไทยลีก1)

 

4ล้านต่อเดือน! “ดิโอโก”ทำไมยังมีคนกล้าจ่าย

"ดิโอโก หลุยส์ ซานโต" เก็บสตั๊ดจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปอยู่กับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ในมาเลเซีย ถือว่าเป็นข่าวที่ฮือฮา มากในช่วงจบฤดูกาล 2018 ทิ้งความสำเร็จมากมาย กับทีมภาคอีสาน
    4 ปี 3 แชมป์ลีก 2 แชมป์เอฟเอคัพ 1 ครั้งถ้วย ก.แถมด้วยการยิงประตู สนั่นหวั่นไหว 132 ประตูจาก 154 เกม นั้นหมายถึง ทัวนาเม้นต์ใหญ่อย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีกด้วย

    การพ่วงดีกรีนักเตะยอดเยี่ยม ปี 2558,นักเตะต่างชาติยอดเยี่ยม ปี 2561 ดีกรีเหล่านี้น่าจะเพียงพอ สำหรับความเก่งกาจ ที่ว่ากันว่า น่าจะเก่งที่สุด ตั้งแต่มีกองหน้าต่างชาติในไทยลีกมา
 
    การย้ายไปอยู่ เอ็มลีก มาเลเซีย กับสโมสรมหาเศรษฐี ซึ่งหลายคนรู้ดีว่า ค่าเหนื่อย ดิโอโก หลุยส์ ซานโต  ที่ต้นสังกัด เคยจ่าย สูงลิ่วกว่า 4 ล้านบาท แต่เมื่อมีข่าว การขยับย้ายตัวทุกครั้ง ดูเหมือนว่า ชื่อของ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต  จะยังหอมหวาน กับสโมสร ในเมืองไทย

    เพราะอะไร ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ในวัย 33 ปี  พิเศษ กว่ากองหน้าคนอื่น  ทั้งที่ค่าเหนื่อย ฃองเขาคนเดียว อาจจะจ่ายให้ทั้งทีม ต่อเดือนได้เลย

ยิงประตูเหมือนแกะถุงขนม

    นี่เป็นสิ่งที่ ทีมอยากได้มากที่สุด ในกรอบเขตโทษ หรือ นอกกรอบ ใครเห็นดิโอโก หลุยส์ ซานโต  ต้องครั่นคร้าม ทั้งนั้น รู้หรือไม่ว่าในฟุตบอลลีก 4 ปี 3 ปีที่บุรีรัมย์ ได้แชมป์ 2015 ลง 32 นัด ยิง33 ประตู, ปี 2017 ลง 29 นัดยิง 26 ประตู, ปี 2018 ลง 33 นัดยิง 34 ประตู จะมี ฤดูกาล 2016 ที่เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บ ยาว ลงสนามแค่ 11 นัดยิง 8 ประตู ซึ่งถ้าเทียบกันตามสถิติ นี้มันเทพชัดๆ

ปั้นคู่ขาแถม ทำให้เกมแดนหน้า ลงตัว

    ช่วงเวลา 4 ปี ดิโอโก ไม่ใช่แค่เก่งในเรื่องของการยิงประตู แต่คู่ขา ที่ได้ยืนกับเขาดูเหมือนว่าจะเล่นง่าย ได้แอสซิสต์ แบบเหนือๆ จาก กองหน้า ยะโฮร์ คนนี้ไปด้วย ใครจำได้ กิลแบร์โต้ มาเชน่า,แจ็คสัน โคเอลโญ่ หรือ ชาช่า , ได้ นักเตะเหล่านี้ ยิงได้ระเบิดเทิดเทิงไปด้วย ไม่นับการปั้นแข้งไทยให้แจ้งเกิด ทั้ง ศุภโชค สาระชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด หรือ ศุภณัฐ เหมือนตา ที่กำลังขึ้นมาในช่วงนั้น ยิงประตูกันเพลิน

เกมรับ ไม่ต้องห่วง วิ่งยันตะคริวกิน

     ช่วงเวลาที่เล่นให้บุรีรัมย์ หรือ ยะโฮร์ การได้เห็น ดิโอโก้ เล่นช่างเพลินตานัก ล่าสุดในรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เจ้าตัวลงเล่นให้ยะโฮร์ เจ้าตัวยังวิ่ง ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เหมือนเล่นในไทยลีกเหมือนเดิม ตะคริว ไม่กิน ไม่มีคำว่าหยุด ทั้งเกมรุก และเกม รับ ที่หายากมากๆ ในตำแหน่งกองหน้า

เข้ากับระบบทีมได้ไม่ยาก

    กองหน้าส่วนใหญ่ อย่างที่เห็นกันว่า การปรับตัวของแต่ละคน เข้ากับทีมใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ ดิโอโก้ มาถึงปุ๊บ ก็ยิงปั๊บ  ไม่เล่นบอลง่าย จ่ายบอลยาก ความเขี้ยวในกรอบเขตโทษน่ากลัวมากๆ ปีล่าสุด ในการย้ายไปเล่นในลีกมาเลเซีย ยังสม่ำเสมอ เหมือนเดิม พาทีมคว้าแชมป์มาเลเซีย ซุปเปอร์ลีก ได้อีก ด้วย

ความฟิตสม่ำเสมอ กับวัย 33 ปี

     หลายคนเป็นห่วงในเรื่องอายุ ที่มากขึ้นทุกวัน แต่ตรงกันข้าม การลงสนามทุกเกมของดิเอโก้ ยังทำได้สม่ำเสมอ ไม่มีโรยราไปจากเดิม แม้จะเข้าสู่เลข 33 ปีแล้วก็ตามที ด้วยความเป็นมืออาชีพ ส่งผลให้อาการบาดเจ็บถามหาเขาน้อยมากๆ เรื่องการเบรกยาวๆ แต่ละฤดูกาลเลยมีค่อนข้างน้อย แม้การเล่นแต่ละนัด จะเจอพวกหวดแบบไม่ยั้งก็ตามที
 
    มาถึงตอนนี้ ยังมีเวลาให้ทีมเศรษฐี ในเมืองไทย หลายทีม ลุ้นได้รายเซ็น ของ กองหน้าชาวบราซิล รายนี้ แต่ก็ต้องแลกกับเม็ดเงินที่สูงลิ่ว มหาโหด อีกด้วย แต่ถ้าได้มาจริง มันอาจจะทำให้ การเก็บชัยชนะแต่ละนัด ง่ายขึ้นก็ได้ ขอแค่จ่าย 4 ล้านต่อเดือนเท่านั้นเอง