มาดามแป้งย้ำเจตนารมณ์ขอส.บอลจัดสรรงบ16ล้านให้ไทยลีก3

"มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ซีอีโอบมจ. เมืองไทยประกันภัย ส่งหนังสือเปิดผนึกถึง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้พระบรมราชูปถัมภ์ หลังได้รับหนังสือแจ้งผลพิจารณาการใช้เงินบริจาค 16 ล้าน โดยยืนยันฟุตบอลทีมชาติไทยไม่มีแข่ง ขอให้จัดสรรเงินบริจาคดังกล่าว ให้แก่สโมสรสมาชิกใน ไทยลีก3 เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนจากโควิด-19 อันถือเป็นการช่วยรากฐานฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง โดยมีเนื้อความในหนังสือดังนี้

ตามที่บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ส่งมอบเช็คบริจาคของธนาคารกสิกรไทย ฉบับลงวันที่ 20 สิงหาคม 2563 จำนวน 16,000,000 บาท แก่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตามหนังสือของสมาคมฯ ที่ ฟ.023/2563 ลงวันที่ 14 มกราคม 2563 เรื่องขอรับเงินบริจาคสนับสนุนสมาคมฯ เพื่อนำไปใช้สำหรับ สนับสนุนฟุตบอลทีมชาติไทยทุกชุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อวงการฟุตบอลทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ทำให้การแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย ไม่เป็นไปตามกำหนดการแข่งขันตลอดปี 2563 โดยเฉพาะฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของการสนับสนุนจากบริษัทฯ ไม่มีการจัดการแข่งขัน ดังนั้น เพื่อให้การบริจาคเงินดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุดต่อวงการฟุตบอลไทย

บริษัทฯ จึงได้ขอให้สมาคมฯ พิจารณานำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้สำหรับการนำระบบ VAR มาใช้ในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ตลอดฤดูกาล 2020 ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ตามที่บริษัท ไทยลีก จำกัดได้มีหนังสือแจ้งต่อสโมสรสมาชิกให้พิจารณารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองในการนำระบบ VAR มาใช้ในการแข่งขันอ้างอิงหนังสือเลขที่ TL-227/2563 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2563  ในการนี้สมาคมฯ ได้รับเช็คบริจาคจำนวน 16,000,000 บาท จากผู้แทนบริษัทฯ ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563

ต่อมาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีหนังสือเลขที่ ฟ.(ถข.) 1067/2563 เรื่อง การบริจาคเงินสนับสนุน ซึ่งระบุว่า ที่ผ่านมาสมาคมได้รับการอนุมัติให้ใช้ระบบ VAR สำหรับฤดูกาลแข่งขัน 2563 จากคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ (IFAB) ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล ที่ผ่านมา สมาคมได้รับคำแนะนำจาก IFAB ถึงนโยบายที่ให้องค์กร หรือผู้ที่ไม่ใช่หน่วยงานจัดการแข่งขัน เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายระบบ VAR ว่าอาจขัดต่อหลักการรณรงค์เรื่องของ Sport Integrity ที่ประเทศสมาชิกจำต้องปฏิบัติตาม และเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ขัดกับคำแนะนำดังกล่าว สมาคมจึงมีนโยบายจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับการแข่งขันไทยลีก ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามเจตนาของบริษัทฯนั้น 
 
อย่างไรก็ตาม บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะภาคเอกชนที่สนับสนุนวงการกีฬาของไทยและสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มาอย่างต่อเนื่อง จึงขอย้ำเจตนาของการบริจาคเงินจำนวนดังกล่าวว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่วงการฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง และเพื่อร่วมพัฒนา ยกระดับการแข่งขันฟุตบอลไทย ในทุกระดับ หากสมาคม จักรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเรื่องระบบ VAR ในการแข่งขันไทยลีกเอง บริษัทฯ ก็ใคร่ขอเสนอแนะให้สมาคมฯ   นำเงินบริจาคจำนวน 16,000,000 บาท มาใช้ในการช่วยเหลือเยียวยาสโมสรฟุตบอลไทย ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาฟุตบอลทีมชาติไทย โดยเฉพาะสโมสรฟุตบอลในไทยลีก 3 จำนวน 72 สโมสร ซึ่งเป็นทีมขนาดเล็ก และได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 เป็นอย่างมาก ส่งผลให้บางสโมสรต้องขอใช้สิทธิ์พักทีม กระทบต่อนักฟุตบอลและสต๊าฟโค้ช ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรในทุกภาคส่วน 
 
ดังนั้นบริษัทฯ จึงขอให้สมาคมฯ นำเงินบริจาคจำนวน 16,000,000 บาทนี้ มอบให้แก่สโมสรฟุตบอลในไทยลีก 3 จำนวน 72 สโมสร ในจำนวนเท่าๆ กัน เป็นจำนวนเงินประมาณ 222,222 บาท โดยไม่เงื่อนไข เพื่อให้ทุกสโมสร ได้มีขวัญกำลังใจ และมีงบประมาณสนับสนุนเพียงพอที่จะพัฒนาทีมฟุตบอลของตนเอง อันจะเป็นการร่วมพัฒนาวงการฟุตบอลของไทยไปด้วยกัน ตามวัตถุประสงค์และความตั้งใจจริงของบริษัทในฐานะผู้บริจาค ทั้งนี้บริษัทฯ ในฐานะภาคเอกชนที่มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก หากสมาคมฯ พิจารณาไม่ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในครั้งนี้ ขอให้แจ้งกลับต่อบริษัทฯ จักขอบคุณยิ่ง

 

‘มาดามแป้ง’ เอ่ยแฮชแท็กสุดเฉียบ “#ให้VARมันจบที่รุ่นเรา”

ควันหลงจากงาน "Thx Party" หลังจาก "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ได้จัดงานปาร์ตี้ให้กับพี่น้องสื่อมวลชนสายกีฬา ร่วมสนุกสนานสำราญใจ ต้อนรับวิถีใหม่ New Normal “ด้วยรักและคิดถึง” ณ ร้าน Chill Chill Restaurant สาขาเหม่งจ๋าย เมื่อค่ำของวันจันทร์ที่ 24 ส.ค.63 ที่ผ่านมา

โดย ‘มาดามแป้ง’ ได้เปิดเผยบนเวทีในงานช่วงหนึ่งว่า "แป้งเชื่อว่าพี่น้องผู้สื่อข่าวทุกที่มาอยู่ตรงจุดนี้ ท่านมีใจรักในความเป็นกีฬา ท่านมีใจรักในความยุติธรรม ท่านมีใจรักในความถูกต้องในความโปร่งใส วันนี้เรามาช่วยทำให้กีฬาฟุตบอลให้มันมีความโปร่งใส ให้มันมีความยุติธรรม ให้มันมีความเสมอภาค ให้ทุกคนรู้สึกว่ากีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาของคนไทยอย่างแท้จริง"

ทั้งนี้ ‘มาดามแป้ง" ยังได้เอ่ยวลีเด็ดในช่วงท้ายในเชิงขำขัน เพื่ออิงกับสถานการณ์การใช้วีเออาร์ในศึกไทยลีก 2020 และเงิน 16 ล้านบาท ที่มอบให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้นำวีเออาร์มาใช้ทุกนัดว่า "ให้ VAR มันจบที่รุ่นเรา"

 

“มาดามแป้ง​” ขึ้น! บอกเงิน​ 16​ ล้านที่เอามาหนุน​ ส.บอลฯ​ ขอเอามาจ่ายค่าVARไทยลีกทั้งหมดทุกคู่

"มาดามแป้ง" นวลพรรณ​ ล่ำซำ​ ประธาน​การท่าเรือ​ เอฟซี​ เผยถึง​ 7​ ข้อเรียกร้องไปถึง​ พล.ต.อ.สมยศ​ พุ่ม​พันธ์​ม่วง​ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ​ ระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับสโมสร เอสซีจี เมืองทองฯ และ ทรู แบงค็อกฯ เพื่อขอความชัดเจนเรื่องวีเออาร์

   โดยทาง "มาดามแป้ง"นวลพรรณ​ ล่ำซำ​ ประธาน​การท่าเรือ​ เอฟซี​ เผยถึง​ 7​ ข้อเรียกร้องไปถึง​ พล.ต.อ.สมยศ​ พุ่ม​พันธ์​ม่วง​ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ​

   1.หลายสโมสรยินยอมจ่ายเงินเพื่อตอบโจทย์​และซื้อความยุติธรรม​ หากทำไม่ได้​ จึงควรต้องมีเหตุผลมากกว่านี้

   2.วงการฟุตบอล​ คนอย่างแป้ง​ คำไหนคำนั้น​ ควรต้องจริงใจ​ ไม่กลับไปกลับมา​ เหมือนข่าวรายวัน​ ที่แต่ก่อนบอกจะใช้​ แต่มาเมื่อวานบอกไม่ใช้วีเออาร์​ มาเช้านี้บอกใช้บางนัด

   3.เรื่องเงินสนับสนุน​ เดิมไทยลีกได้​ 20+5​ ล้านบาท​ แล้วปัจจุบัน​จะได้เท่าไหร่​ ต้องชัดเจน

   4.ความชัดเจนเรื่องลิขสิทธิ์​ที่หายไปหลังวันที่​ 25​ ต.ค.63​ เรื่องนี้ต้องชัดเจน​ เพราะมีผลกระทบกับสปอนเซอร์​ผู้สนับสนุนทีม

   5.การประชุมเมื่อวันที่​ 14​ เม.ย.63​ ได้ให้สโมสรลงมติแข่งแบบข้ามปี แต่ไม่ได้ชี้แจงว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไร

   6.รายรับรายจ่ายที่​ ส.บอลฯ​ อยากให้​ ส.บอลฯ​ อยากออกมาเปิดเผยเรื่องเงินรายจ่าย​ อยากให้มีหน่วยงานมาตรวจสอบเพื่อความสง่างาม

   7.​เปิดใจรับฟังทุกเสียง​ ฟุตบอลไม่ใช่แค่เรื่องของผู้บริหารอย่างเดียว​ มันเป็นเรื่องของทุกคนในวงการ

   แป้งพูดตรงไปตรงมา​ ไม่ชกใต้เข็มขัด​ อย่าโกรธ​แป้งเลย​ เป็น​ 1​ เสียงที่พูดตรงไปตรงมา

   ทั้งนี้มาดามแป้งยังบอกอีกว่า​ แป้งสนับสนุน​ ส.บอลฯ​ ปีนี้​ 16​ ล้านบาท​ เอาเงิน​ 16​ ล้านบาท​ตรงนี้ไปจ่ายค่าวีเออาร์​ทั้งหมดได้เลย​ ไม่รู้พอไม่พอ​ แต่แป้งว่ามันน่าจะพอ

 

 

 

ชีวิตหลงทางผิด..พ่อป่วยหนัก เป็นตัวแถมที่ใครไม่เอา

ในบรรดานักฟุตบอลดาวรุ่งเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา ชื่อของ "โก้" สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ จัดเป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่งระดับแถวหน้าที่น่าจับตามองในฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นและลูกยิงไกลที่เรียกกันว่า "ลูกไฟ" ติดตาแฟนบอลในหลาย ๆ ประตู
    เส้นทางฟุตบอลของ "เจ้าโก้" เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนอายุ 5 ขวบ คุณพ่อจะเป็นคนคิดตำราขึ้นมาสอนลูกชายทั้ง 3 คน ซึ่งประกอบด้วยคนโต ปกเกล้า คนกลาง บารมี และคนเล็ก คือตัวของ สรรเสริญ และทุกคนก็เล่นในตำแหน่งกองกลางด้วยกันทั้งหมด

    จนเมื่ออายุ 12-13 ปี มีโอกาสโชว์ฟอร์มเข้าตาโค้ชทีมเยาวชนจากนิวซีแลนด์ และถูกทาบทามไปเรียนและเล่นที่นั่น ด้วยสัญญา 3 ปี โดยการชักชวนของ วินสตัน ลูเฟอร์ อดีตดาวเตะทีมเบรเมน ในบุนเดสลีกา ของเยอรมัน โดยไปกัน 2 คนพี่น้อง บารมี และ สรรเสริญ

    แม้สัญญาจะเซ็นกัน 3 ปี แต่ 2 คนพี่น้องตระกูล ลิ้มวัฒนะ ได้อยู่ 4 ปีที่นิวซีแลนด์ โดยปีสุดท้ายมีโอกาสได้เล่นในลีกสูงสุดของนิวซีแลนด์ แต่เล่นไปแค่ 3 แมตช์ ดันเจ็บยาว ประกอบกับคุณย่าแท้ ๆ เสียชีวิต จึงตัดสินใจเดินทางกลับไทย ทิ้งการเล่นฟุตบอล และการเรียนที่ยังไม่จบในระดับม.ปลายไปด้วย

    เมื่อกลับมา "เจ้าโก้" มีอายุ 17 ปี ได้เล่นให้กับ ศรีราชาบ้านบึง รุ่นเดียวกับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ในดิวิชั่น 1 ก่อนจะย้ายไปพร้อมกับพี่ชาย บารมี ไปที่บุรีรัมย์

    จากบุรีรัมย์เล่นไปเกือบ 2 ปี เจ้าตัวย้ายออกมาอยู่กับแบงค็อก ยูไนเต็ด แต่ถูกยืมไปเล่นพิจิตร เอฟซี กลับมาเล่นแบงค็อก อีก 1 ปี ก็ถูกปล่อยยืมไป อุบล ยูเอ็มที 1 ปี และยืมไปสุโขทัย เอฟซี อีก 1 ปี กลายเป็นนักเตะจอมพเนจร เมื่อหมดสัญญากับแบงค็อก จึงย้ายมาอยู่กับการท่าเรือ เอฟซี

    การย้ายมาท่าเรือครั้งนี้ มีข่าวว่า เจ้าตัวถูกแถมมากับดีลการซื้อ สุมัญญา มาอยู่ท่าเรือ ทั้งที่เจ้าตัวเคยโด่งดังกับการเล่นให้ทีมเยาวชนไทย 17 ปี, 19 ปี, 21 ปี และ 23 ปีชิงแชมป์เอเชีย


    สิ่งที่ทำให้ "เจ้าโก้" สรรเสริญ ไปไม่ไกลเท่าที่หลาย ๆ คนคาดหวัง เจ้าตัวเปิดใจว่า มาจากการใช้ชีวิตกินเที่ยวกลางคืน เหมือนคนเก็บกด เพราะตอนย่างวัยรุ่นอยู่ที่นิวซีแลนด์ไม่มีเงินใช้จ่าย ไม่ได้เที่ยว เมื่อกลับมาอยู่เมืองไทย มีโอกาสได้อยู่ทีมใหญ่อย่างบุรีรัมย์ และแบงค็อก ได้เงินเดือนสูง ทำให้เจ้าตัวเที่ยวสะบัด

    "ผมเที่ยวกลางคืนทุกครั้งที่ว่าง ใช้ชีวิตแบบเสเพลสุด ๆ บางทีก็มีอาการแฮ้งค์ตอนมาซ้อม มีผลต่อสภาพร่างกายชัดเจน ผมซ้อมหนักแบบคนอื่นไม่ไหว ทำให้ถูกปล่อยยืมเป็นว่าเล่น กลายเป็นทีมต้นสังกัดไม่ต้องการ แต่ตอนนั้นก็ยังติดเที่ยวไม่ได้คิดอะไร"

    จุดเปลี่ยนที่ทำให้เจ้าตัวคิดได้ คือ เมื่อมาอยู่ท่าเรือ แบบแถมมาในแพ็คเกจของ สุมัญญา นั่นคือสิ่งที่ทำให้ กองกลางดาวรุ่งรายนี้คิดได้

    "ผมมานั่งคิดว่า ทำไมผมเป็นนักเตะที่ไม่มีทีมไหนเอา เหมือนเขาไล่ผมไปอยู่ทีมโน้นทีมนี้ ผมก็อยากเล่นให้กับทีมตัวเองบ้าง อย่างท่าเรือแม้จะได้ข่าวว่าแถมมา แต่ผมต้องขอบคุณ มาดามแป้ง คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ที่ให้โอกาสผมอีกครั้ง"

    "อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเลิกเสเพล คือ คุณพ่อผมป่วยหนัก เป็นมะเร็ง ทำให้ผมอยากทำอะไรเพื่อให้พ่อที่คอยปลุกปั้นผมมาจนถึงทุกวันนี้ได้ชื่นใจบ้าง และสองอย่างนี้คือ เหตุผลที่ทำให้ผมเปลี่ยนตัวเอง เลิกเที่ยว และหันมาฟิตซ้อมดูแลร่างกายตัวเองเต็มที่ จากปีที่แล้วน้ำหนักผม 78 ก.ก. ตอนนี้เหลือ 69 ก.ก.แล้ว เหมือนผมกลับมาเริ่มที่ศูนย์ใหม่ และเริ่มนับหนึ่งใหม่ ตอนนี้ผมอายุ 23 ปีแล้ว ผมยังเชื่อว่าผมจะกลับมาได้ ผมอยากจะโชว์ฟอร์มเป็น "นิวโก้" เพื่อยึดตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ของการท่าเรือ และอยากติดทีมชาติชุดใหญ่กับเขาสักครั้งหนึ่ง"

 

ฮือฮา! มาดามแป้งเปิดตัวคู่แฝดอักษรศรี “ทิตาธร-ทิตาวีร์” สมาชิกใหม่ท่าเรือ

สุดฮือฮา! "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร การท่าเรือ สร้างความฮือฮาให้วงการ เมื่อเปิดตัวคู่แฝด อักษรศรี เป็นสมาชิกใหม่ "สิงห์เจ้าท่า" ในการลุยไทยลีก
 
หลังมีข่าวใหญ่ก่อนหน้านี้ว่า โปลิศ เทโร ตัดสินใจขายคู่แฝด "โชแปง-ปาแปง" ทิตาธร และ ทิตาวีร์ อักษรศรี แนวรับตัวหลักของทีมในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะ ก่อนเกมที่ 5 ของไทยลีก โดยมีสโมสรใหญ่ๆ มีชื่อพัวพันกองหลังคู่แฝดรายนี้ไม่ต่ำกว่า 4-5 สโมสร

   ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ 14 มิ.ย.  เฟซบุ๊ค "มาดามแป้ง" ได้โพสรูปนักเตะทั้ง 2 คน ยืนคู่กับประธานสโมสร การท่าเรือ เอฟซี นวลพรรณ ล่ำซำ ยุติข่าวลือที่จะย้ายไปอยู่กับสโมสรอื่นๆ ในไทยลีก โดยเฉพาะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เป็นข่าวมาตลอด ถือเป็นการขยับตัวที่สร้างความฮือฮาให้วงการลูกหนังไทยอีกครั้งของยอดทีมจากย่านคลองเตย หลังเพิ่งเปิดตัว อดิศร พรหมรักษ์ ปราการหลังทีมชาติไทยไปเมื่อเดือนที่แล้ว
   
   สำหรับรายละเอียดการเซ็นสัญญาของคู่แฝดอนาคตไกล จะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการอีกครั้งจากสโมสร "สิงห์เจ้าท่า" ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้