แม็กไกวร์ตอบโต้เสียงวิจารณ์แมนยูตลกสิ้นดี

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไม่สนคำวิจารณ์ที่มีต่อทีม โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่น่าตลกที่มาหาว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงวิกฤติครั้งใหญ่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเอาชนะ นิวคาสเซิล 4-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยฟอร์มการเล่นแสดงออกมาให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอีกครั้ง แก้ตัวจากเกมก่อนที่แพ้ต่อ ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ 1-6 คาสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด

‘ปีศาจแดง’ ได้ประตูจาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, อารอน วาน-บิสซาก้า และ มาร์คัส แรชฟอร์ด โดยกัปตันทีมอย่าง แม็กไกวร์ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่าไม่ได้สนคำจารณ์เชิงลบที่มีต่อตนและเพื่อนร่วมทีม

"มันน่าตลกสิ้นดี 3 สามเกมผ่านไปของฤดูกาล และดูเหมือนว่าเป็นเรื่องวิกฤติครั้งใหญ่ การชนะ 2 แพ้ 2 เส้นทางยังมีอีกยาวไกล ซึ่งเราต้องพิสูจน์ให้เห็น" แม็กไกวร์ กล่าวกับ สกาย สปอร์ต

"เมื่อคุณเล่นให้กับสโมสรนี้ และแพ้ในบ้านตัวเอง เราก็ถูกตั้งคำถามขึ้น เราทำงานหนักในตอนซ้อม นี่คือกลุ่มที่ยอดเยี่ยม และเราก็รู้ดีว่าเราต้องกลับมาให้ได้ ผมรู้สึกว่ามันคงเป็นเรื่องเลวร้ายหากเรากลับออกไปแค่คะแนนเดียว"

"มันเป็นเรื่องสำคัญ ทุกๆ เกมใน พรีเมียร์ลีก เราต้องเล่นให้ได้ในระดับสูง บางเกมเราไม่สามารถทำได้ดีที่สุด แต่เราก็ต้องทำเรื่องพื้นฐานให้ได้ดี และในเกมที่เราแพ้ เราทำมันไม่ได้ดีเท่าที่ควร"
   
"พวกเราเป็นทีมที่อายุน้อย แต่เราจะไม่ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง มันเป็นเรื่องน่าผิดหวังที่ออกสตาร์ทแบบนี้ แต่ด้วยฟอร์มการเล่นยอดเยี่ยมในคืนนี้ก็เกิดขึ้นในยามที่เราต้องการมัน"

แมนยูไร้แม็กไกวร์-คาวานี่! ประเดิม “เตลลิส”, ปารีสฯมี “เนย์มาร์” นำซัดศึกชปล.

"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาดว่าจะส่ง อเล็กซ์ เตลลิส ลงประเดิมตัวจริง ขณะที่ เอดิสัน คาวานี่ และแฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไร้ชื่อเดินทางไปเยือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่มี เนย์มาร์ และคีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เป็นทีเด็ด ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช) วันอังคารที่ 20 ต.ค. ศกนี้ เวลา : 02.00 น.

ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 
(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช)
วันอังคารที่ 20 ตุลาคม 2563 (เวลา : 02.00 น.)
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)   –   แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)


สนาม : ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง :

     โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน วัย 47 ปี ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง นำสโมสรรั้งรองจ่าฝูงลีก เอิง ฝรั่งเศส เวลานี้ โดยเก็บไปแล้ว 15 คะแนน จากผลงานชนะ 5 แพ้ 2 นัด ยิง 16 เสีย 3 ประตู ตามหลัง ลีลล์ ทีมจ่าฝูง 2 คะแนน 

 ผลงานล่าสุด เปแอสเชบุกไปต้อน นีมส์ โอลิมปิก 4-0 ที่ สต๊าด เดส์ กอสติแยร์ ในลีก เอิง นัดที่ 7 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม ซึ่งทีมชนะ 5 นัดซ้อน ในลีก เอิง ทว่านัดนี้ทีมเสีย เลอันโดร ปาเรเดส กองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวา ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 11 และ อันเดร์ เอร์เรร่า มิดฟิลด์สเปนได้ลงเล่นแทน นอกจากนี้ทีมยังไม่มี ฆวน เบอร์นาต แบ็กซ้ายทีมชาติสเปน ที่บาดเจ็บเอ็นหัวเข่าซ้าย เข้ารับการผ่าตัดไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเช้าวันอังคารที่ 29 กันยายน ที่โรงพยาบาลปิติเย่ ซัลเปตริแยร์ และจะพักรักษาตัวนานหลายเดือน

     ขณะที่ มาร์โก แวร์รัตติ กองกลางทีมชาติอิตาลี บาดเจ็บ, ธีโล เคห์เรอร์ กองหลังทีมชาติเยอรมัน บาดเจ็บโคนขาหนีบ ในรายของ มาร์กินญอส เซนเตอร์แบ็กทีมชาติบราซิล กัปตันทีม พ้นโทษแบน 1 นัด ในลีก เอิง และเขาหายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย กลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว 

    ส่วน อังเคล ดิ มาเรีย ปีกชาวอาร์เจนไตน์ กับ เลย์วิน กูร์กซาว่า แบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส ต่างพ้นโทษแบนในลีก เอิง กลับมา และ เนย์มาร์ ดาวยิงทีมชาติบราซิล กลับมาฝึกซ้อมที่ก็องป์ เดส์ ลอชส์ ศูนย์ฝึกซ้อมของสโมสร ซึ่งเขาพร้อมที่จะลงสนาม หลังจากไม่ได้เล่นในนัดชนะนีมส์

    ทางด้าน ดานิโล่ เปเรยร่า กองกลางตัวรับทีมชาติโปรตุเกส วัย 29 ปี สมาชิกใหม่ของปารีส ที่ย้ายมาจากเอฟซี ปอร์โต้ ทีมชั้นนำของโปรตุเกส ในการเซ็นสัญญา ยืมตัว 1 ปี พร้อมมีออปชั่นที่จะซื้อขาด ล่าสุดกลับมาฝึกซ้อมเรียบร้อยแล้ว 

    สำหรับ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน, เมาโร อีการ์ดี้ ดาวยิงอาร์เจนไตน์ หายเจ็บ กลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว  


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :

     แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งหลังบุกไปพลิกแซงนิวคาสเซิ่ล 4-1 ในเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม

     ความพร้อมของปีศาจแดงคาดว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ ยังไม่เสี่ยงใช้งาน เอดินสัน คาวานี่ หลังดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ไม่ได้ลงสนามในเกมที่เป็นทางการเลยนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาและเพิ่งผ่านพ้นจากการกักตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 มาฝึกซ้อมกับทีมได้เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ตำแหน่งกองหน้าตัวความหวังเป็นโอกาสของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ไม่มีส่วนร่วมกับทีมในเกมกับ สาลิกาดง เนื่องจากติดโทษแบน 

     ส่วนในตำแหน่งริมเส้นฝั่งขวาเป็นหน้าที่ของ ฆวน มาต้า ที่จะได้ลงสนามแทนที่ของ เมสัน กรีนวู้ด ที่มีปัญหาความฟิตจนไม่ได้ลงสนามในเกมที่แล้ว โดยจะประสานงานกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ยืนอยู่หลังกองหน้า และ มาร์คัส แรซฟอร์ด ฝั่งซ้าย 

     ทั้งนี้ อดีตนายใหญ่ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ คงจะใช้งาน ดาบิด เด เคอา ลงเฝ้าเสาต่อไป  โดยมี ดีน เฮนเดอร์สัน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ขณะที่ อเล็กซ์ เตลลิส แบ็กซ้ายตัวใหม่ ก็จะได้รับโอกาสประเดิมสนามในเกมนี้แทนที่ของ ลุค ชอว์ ที่เพิ่งทำเข้าประตูตัวเอง เช่นเดียวกันกับ พอล ป็อกบา ที่ถูกดร็อปในเกมเมื่อวันเสาร์ก็จะออกสตาร์ตเป็นตัวจริงอีกครั้ง

    และข่าวล่าสุด  แฮร์รี แม็กไกวร์ ไม่ได้เดินทางไปกับทีมคาดว่ามีปัญหาบาดเจ็บจากเกมชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ขณะที่ เอริค ไบยี่ ก็เช่นกันทำให้ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ คือตัวเลือกที่น่าจะถูกใช้งานนัดนี้


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (4-3-3) : เกย์ลอร์ นาวาส – อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มาร์กินญอส, เพรสแนล คิมเพมเบ้, มิทเชล บัคเคอร์ – อันเดร์ เอร์เรร่า, อิดริสซ่า กาน่า เกย, ราฟินญ่า – อังเคล ดิ มาเรีย, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, เนย์มาร์
     ผู้จัดการทีม : โธมัส ทูเคิ่ล

     แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (ดีน เฮนเดอร์สัน) – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ,  อั๊กเซล ตวนเซเบ้​, อเล็กซ์ เตลลิส – เนมานย่า มาติช, พอล ป็อกบา – ฆวน มาต้า, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
     ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

 

เปิดโผทีมยอดแย่พรีเมียร์ลีก นัดที่ 5

ทีมยอดแย่พรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ที่ 5 จะมีใครบ้าง ทีมงาน Siamsport จัดให้แฟนๆ ได้ชมกัน ไปดูได้เลย

ผู้รักษาประตู : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี)

แม้จะมีช็อตเซฟในช่วงท้ายเกม แต่จังหวะเสียประตูที่เกิดจากความผิดพลาด(อีกแล้ว) นับเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น

กองหลัง : โจเอล วอร์ด (คริสตัล พาเลซ)

จริงๆ ทำหน้าที่ได้ตามมาตรฐานเกือบตลอดทั้งเกม แต่มาสกัดบอลไม่ดีในช่วงท้ายจนทำให้ พาเลซ เสียประตูตีเสมอ อดคว้า 3 แต้มเหนือ ไบรท์ตัน ในบ้านตัวเอง

กองหลัง : ดาวินซอน ซานเชซ (สเปอร์ส)

เป็นเกมที่ไม่น่าจดจำสำหรับปราการหลังทีมชาติโคลอมเบีย เพราะนอกจากคุมแนวรับหลวมแล้ว ยังโหม่งเข้าประตูตัวเอง พร้อมเป็นการจุดประกายความหวังให้กับทีมเยือนด้วย

กองหลัง : ลูอิส ดังค์ (ไบรท์ตัน)

ตลอดทั้งเกมไม่ต้องรับภาระหนักมากกับการเจอแนวรุกของ พาเลซ แต่ในช่วงท้ายเกม เจ้าตัวไปเล่นอันตรายใส่คู่แข่งแบบรุนแรง จึงทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

กองหลัง : เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ (นิวคาสเซิล)

โดนแนวรุก แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นงานในช่วงท้ายจนทีมเสียถึง 3 ประตู

กองหลัง : เอคตอร์ เบเยริน (อาร์เซน่อล)

ยืนตำแหน่งผิดพลาด และควรที่จะเคลียร์บอลทิ้งได้ก่อนที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ทำประตู

กองกลาง : ยูรี่ ตีเลอมันส์ (เลสเตอร์)

เรื่องเกมรับยังคงไว้ใจได้ แต่โดยภาพรวมถือว่าแข้งเบลเจี้ยนต่ำกว่ามาตรฐานไปเยอะ คุมเกมไม่ได้เหมือนอย่างที่เคยเป็น

กองกลาง : อัลลัน (เอฟเวอร์ตัน)

โดนแผงมิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล กดดัน และต้องใช้เกมหนักเข้าหยุดคู่แข่ง ก่อนมาโดนใบเหลืองช่วงท้ายเกม
   
กองกลาง : ริชาร์ลิซอน (เอฟเวอร์ตัน)

มีโอกาสทำประตูแต่โชคร้ายบอลไปชนเสา ก่อนมาโดนไล่ออกช่วงท้ายเกม หลังไปสกัดเข้าใส่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า อย่างรุนแรง

กองหน้า : เคลิชี่  อิเฮียนาโช่ (เลสเตอร์)

แม้ครึ่งแรกจะเก็บบอลได้ดี และจ่ายบอลสวยๆ หลายครั้ง แต่ในครึ่งหลังกลับคนละเรื่อง ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมเลย

กองหน้า : แพทริค แบมฟอร์ด (ลีดส์)

ไม่ได้สร้างความอันตรายให้แก่แนวรับ วูล์ฟส์ ได้เลย มีโอกาสส่องประตู 3 ครั้งแต่พลาดเป้าไปหมด

ไร้เงาแม็กไกวร์-คาวานี่!แมนยูเดินทางสู่ปารีสเตรียมบู๊ชปล.

"ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสแล้ว เพื่อเตรียมตัวทำศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก รอบแบ่งกลุ่ม กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในวันอังคารนี้ โดย แฮร์รี แม็กไกวร์ และ เอดินสัน คาวานี ไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย
   
ขุนพล "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด ทีมดัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ บินลัดฟ้าสู่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เรียบร้อย เพื่อเตรียมตัวทำศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก รอบแบ่งกลุ่ม กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในวันอังคารนี้ โดยไม่มีดาวเตะอดีตต้นสังกัดเดิมอย่าง เอดินสัน คาวานี ดาวเตะอุรุกวัยที่เพิ่งย้ายข้ามฟากมาพรีเมียร์ลีก รวมถึง แฮร์รี แม็กไกวร์ กัปตันทีม ร่วมเดินทางไปด้วย

ในส่วนของ แฮร์รี แม็กไกวร์ คาดว่ามีปัญหาบาดเจ็บจากเกมชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่วน เอดินสัน คาวานี เพิ่งซ้อมกับทีมได้ไม่นาน นอกจากนี้ แมนฯยูฯ ยังไม่มี เมสัน กรีนวู้ด ขณะที่ ฟากุนโด้ เปเยสตรี มีชื่อเดินทางไปปารีสกับทีมด้วย
   
สำหรับเกมคู่นี้จะลงเล่นคืนวันอังคารนี้ ที่ สนามปาร์ค เดอ แปร็ง ต่อไป

6 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 2

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กลับมาฟาดแข้งเต็มสตรีมกันอีกครั้ง ซึ่งสุดสัปดาห์นี้เป็นแมตช์เดย์ที่ 2 ซึ่งทุกทีมจะมีคิวเตะหลังจากทีมเมื่อสัปดาห์ก่อน มีการแข่งขันแค่ 8 คู่เท่านั้น

ในสกู๊ปนี้เราคัดเอา 6 คู่น่าสนใจว่าจะมีประเด็นอะไรน่าสนใจกันบ้าง พร้อมแล้ว ไปดูกันได้เลย!!

"แมนฯ ยูไนเต็ด-คริสตัล พาเลซ"

‘ปีศาจแดง’ เตรียมลงเล่นเกมลีกนัดแรกของฤดูกาล ส่วนทาง คริสตัล พาเลซ เกมก่อนเปิดบ้านเชือด เซาธ์แฮมป์ตัน มา 1-0

แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ในบ้านต่อ พาเลซ เกมเดียวเท่านั้นการเจอกัน 22 เกมลีก   ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

บรูโน่ แฟร์นันด์ส มีส่วนร่วมกับประตูถึง 20 จากประตูที่ทีมทำได้ 51 ลูกในทุกรายการ นับตั้งแต่เขาเข้ามาร่วมทีมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเจ้าตัวทำได้ 12 ประตู กับอีก 8 แอสซิสต์

 ‘ดิ อีเกิลส์’ มีสิทธ์เป็นทีมแรกนับตั้งแต่ที่ เชลซี ทำไว้เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2014 ที่ไม่แพ้ในการบุกเยือนถิ่นเมือง แมนเชสเตอร์ ทั้ง ซิตี้ และ ยูไนเต็ด 5 เกมติดต่อกัน

หาก วิลฟรีด ซาฮา ทำประตูได้ในเกมนี้ จะเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวยิงได้ 2 เกมติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2019

"อาร์เซน่อล-เวสต์แฮม"

 อาร์เซน่อล โชว์ฟอร์มเยี่ยมบุกถล่มน้องใหม่ เวสต์บรอมวิช 3-0 ส่วน เวสต์แฮม พ่ายคาบ้านต่อ นิวคาสเซิล แบบน่าผิดหวัง เมื่อเกมก่อน
     
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ชอบเหลือเกินกับการเล่นเกม ลอนดอน ดาร์บี้ เมื่อมีส่วนร่วมกับประตูถึง 15 ลูก จาก 16 เกม โดยแบ่งเป็นยิง 12 ประตู และแอสซิสต์อีก 3 ครั้ง
   
ปืนใหญ่’ เอาชนะ ‘ขุนค้อน’ ได้ถึง 10 จาก 11 นัดที่เล่นในบ้านจากทุกรายการ

เวสต์แฮม ตั้งเป้าคว้าชัยในการเล่นเกมเยือนนัดแรกของฤดูกาลให้ได้ในรอบ 5 ปี ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ทำได้คือการบุกเอาชนะ อาร์เซน่อล คู่แข่งของตัวเองในสัปดาห์นี้

เดวิด มอยส์ ยังไม่เคยเอาชนะในการบุกไปเยือนถิ่น อาร์เซน่อล ได้เลยสักครั้ง จากการเจอกัน 19 นัดก่อนหน้านี้ ซึ่งมีแค่ เชลซี เท่านั้นที่ มอยส์ ไม่สามารถบุกคว้าชัยได้มากกว่าจากความพยายามทั้งหมด 20 นัด

"เซาธ์แฮมป์ตัน-สเปอร์ส"

ในการลงเล่นเกมวันอาทิตย์ เซาธ์แฮมป์ตัน เอาชนะคู่แข่งได้ตลอด 4 เกมหลังสุด ขณะที่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ คือทีมที่แพ้ในการลงเล่นวันอาทิตย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก (88 นัด) รวมถึงเกมสัปดาห์ก่อนที่พ่ายต่อ เอฟเวอร์ตัน

แดนนี่ อิงส์ ทำประตูได้ทั้งสองเกมที่เจอกับ สเปอร์ส ในสีเสื้อ เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งมีแค่ นอริช ทีมเดียวเท่านั้นที่เขาทำประตูติดต่อกันได้มากกว่า (3 นัด)

แฮร์รี่ เคน ซัดประตูใส่ ‘เดอะ เซนต์ส์’ 9 ประตู จากเกมที่เจอกัน 9 นัดหลังในเวที พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นทีมลำดับที่ 3 ที่ตกเป็นเหยื่อของ เคน มากที่สุดรองจาก เลสเตอร์ ซิตี้ (15 ประตู) และ อาร์เซน่อล (10 ประตู)

สเปอร์ส วางเป้าเก็บคลีนชีตแรกกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในรอบ 10 เกม ซึ่งเป็นสถิติเทียบเท่ามากที่สุดที่พวกเขาไม่สามารถหยุดยั้งการเสียประตูให้คู่แข่ง ซึ่งอีกทีมนั้นคือ ลิเวอร์พูล

"เชลซี-ลิเวอร์พูล"

‘สิงห์บลูส์’ ไม่แพ้เกมในบ้านต่อทีมแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก มาแล้ว 13 เกม โดยแบ่งเป็น ชนะ 7 และเสมอ 6

อย่างไรก็ตาม เชลซี แพ้ต่อ ‘หงส์แดง’ มาแล้ว 3 นัดติดต่อกันในเกมพรีเมียร์ลีก โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล ในลีก 4 เกมติดเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2010 ถึงเดือนมีนาคม ปี
2012

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ต่างมีโอกาสเป็นผู้เล่น’หงส์แดง’ คนแรกที่มีลุ้นทำประตูใส่ เชลซี ในเกมลีก 3 นัดติดต่อกัน

นับตั้งแต่วันที่ยืนยันว่าพวกเขาได้แชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อเดือนมิถุนายน ลิเวอร์พูล เสียประตูในเกมลีกไปแล้วถึง 15 ประตูจาก 8 นัด (ชนะ 5 เสมอ 5 แพ้ 2)

"เลสเตอร์-เบิร์นลี่ย์"

หาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ เลสเตอร์ ซิตี้ พาทีมเก็บชัยชนะได้ในเกมนี้ จะทำให้เขาเป็นผู้จัดการทีมสหราชอาณาจักรลำดับที่ 4 ที่คว้าชัย 100 นัดเร็วที่สุด จาก 210 เกม

นับตั้งแต่สตาร์ทซีซั่นที่แล้ว เจมี่ วาร์ดี้ ทำประตูในเกมพรีเมียร์ลีก ได้มากกว่าทุกคนที่ 25 ประตู

เบิร์นลี่ย์ คว้าชัยในการลงเล่นเกมเยือนนัดแรกของซีซั่น แค่เกมเดียวเท่านั้นตลอด 6 ฤดูกาลบนเวทีพรีเมียร์ลีกหลังสุด โดยเกมเดียวที่ชนะได้คือการบุกชนะ เชลซี 3-2 เมื่อซีซั่น 2017/18

คริส วู้ด มีลุ้นทำประตูในเกมพรีเมียร์ลีก 4 นัดติดต่อกันได้เป็นครั้งแรก

"วูล์ฟส์-แมนฯ ซิตี้"

หาก วูล์ฟส์ คว้าชัยได้ในเกมนี้จะทำให้พวกเขาเป็นทีมแรกที่เอาชนะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในเกมลีกได้ 3 นัดติดต่อกัน

ชัยชนะเหนือ เชฟฯ ยูไนเต็ด เมื่อเกมก่อน นับเป็นการชนะนัดที่ 1,999 ของ วูล์ฟส ในเกมลลีก และชัยชนะนัดต่อไปจะพาให้พวกเขาขึ้นไปเทียบเท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล กับ การคว้าชัยได้ 2,000 นัดในสารบบเกมลีกของอังกฤษ

หาก ‘เรือใบสีฟ้า’ คว้าชัยได้เกมนี้ จะทำให้พวกเขาเป็มทีมแรกที่เก็บชัยชนะนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก 10 ฤดูกาลติดต่อกัน

5 นัดหลังสุดของ ซิตี้ ในเกมลีกถือว่าโหดมาก เมื่อพวกเขาถลุงประตูคู่แข่งด้วยสกอร์รวม 21-1

นอริชตอบรับข้อเสนอซื้อลูอิสจากนิวคาสเซิล 13.5 ลป.

สกาย สปอร์ต และสื่อชั้นนำอื่นๆ หลายที่ รายงานว่า นอริช ซิตี้ ที่เพิ่งตกชั้นร่วงไปเล่นลีก เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ ตอบตกลงค่าตัว 13.5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 560 ล้านบาท ของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เพื่อคว้าตัว จามาล ลูอิส แบ็กซ้ายเลือดผู้ดี

นิวคาสเซิล ต้องการหาผู้เล่นตำแหน่งแบ็กซ้าย หลัง แดนนี่ โรส ตัวหลักเมื่อซีซั่นก่อนหมดสัญญายืมตัวกลับไปยัง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ซึ่งล่าสุด สื่อหลายสำนักบอกตรงกันว่า ‘นกขมิ้นเหลืองอ่อน’ ตอบตกลงเงินจำนวนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 ทั้งนี้ ลูอิส เคยได้รับความสนใจจาก ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ทว่าตอนนั้น นอริช ตั้งค่าตัวไว้สูงถึง 20 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 830 ล้านบาท ก่อนที่ ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก จะเบนเป้าไปคว้าตัว คอสตาส ซิมิกาส แบ็กซ้ายทีมชาติกรีซ เข้ามาแทนในค่าตัวที่ถูกกว่า

ใครนะ!โดน”ดีทมาร์ ฮามันน์”ไล่ให้กลับไทยไปทำนา

อดีตนักเตะดังอย่าง ดีทมาร์ ฮามันน์ เคยบอกให้นักเตะไทย รายหนึ่งไปทำนาดีกว่าหากเล่นฟุตบอลได้แค่นี้ !
   
นักเตะคนนั้นไม่ใช่ใคร เขาคือ "เจ้าคาร์" เกียรติประวุฒิ สายแวว นั่นเอง อดีตกองกลาง ดีกรีทีมชาติ เยอรมัน ที่เคยค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค , นิวคาสเซิล , ลิเวอร์พูล , โบลตัน ฯ , มิลตัน คีนส์ ดอน  ไล่ให้"เจ้าคาร์" กลับมาทำนาที่เมืองไทยมาแล้ว เมื่อตอนที่ "เจ้าคาร์" ไปร่วมซ้อมกับทีม "เรือใบสีฟ้า " แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นเอง

    ย้อนหลังกลับไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา สมัยที่ ทีม "เรือใบสีฟ้า " มีเจ้าของทีมเป็นคนไทย อย่าง อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง

    ห้วงเวลานั้น อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ให้โอกาส 3 นักเตะไทยไปฝึกลูกหนังกับ ทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้ง 3 คนคือ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา อดีตแข้ง เอสซีจี เมืองทองฯที่ ค้าแข้งอยู่กับ ชิมิสึ เอสพัลส์ ในเจลีก ขณะนี้ , สุรีย์ สุขะ อดีตแข้งดัง ชลบุรีฯ ที่ตอนนี้เล่นกับ สิงห์ระฆังทอง และอีกรายก็คือ "เจ้าคาร์" เกียรติประวุฒิ สายแวว นักเตะจากเมืองดอกบัว จ.อุบลฯ ที่ตอนนั้นเล่นกับ "ฉลามชล" นั่นเอง

    ปัจจุบันในวัย 34 ปี "เจ้าคาร์" อำลา การเป็นนักเตะไปแล้ว ตั้งแต่ตอนอายุ 32 ปีด้วยซ้ำไป โดยกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด จ.อุบลราชธานี ทีมสุดท้ายที่ เขาเล่นคือ โปลิศ เทโรฯ แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรัง บริเวณ หมอนรองกระดูกหัวเข่าขวา อักเสบ เลยทำให้เขาไม่สามารถไปต่อในฐานะพ่อค้าแข้งได้

    ปูมหลังของ "เจ้าคาร์" เขาเรียน มัธยมศึกษาตอนต้นที่ โรงเรียนศรีประทุมพิทยาคม บ้านเกิด แต่ สถาบันการศึกษาที่ทำให้"เจ้าคาร์"ได้เดินสู่การเป็นพ่อค้าแข้งจริงจังก็คือ โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จ.ชลบุรี ที่เป็นแหล่งผลิตนักเตะให้"ฉลามชล" และหลายๆทีมในเครือเมืองชล ต่อจากอสช.ศรีราชา  นั่นเอง ที่เขามาเรียนระดับม.ปลายที่นี่และก้าวเป็นนักเตะอาชีพเต็มตัวในที่สุด ก่อนจบปริญญาตรี ม.กรุงเทพธนบุรี

    ด้านการรับใช้ชาตินั้น "เจ้าคาร์" เริ่มต้นติดธงหนแรกชุด ยช. 16 ปี ที่ มี"โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ทำทีม  ตอนเรียน ม.4 นักเตะชุดนั้นมี เจษฎากรณ์ เหมแดง , ภานุวัฒน์ จินตะ , อาทิตย์ สุนทรพิธ อดีตเพื่อนร่วมทีม"ฉลามชล"

    จากนั้นติดยช.19 ปี ที่มี"โค้ชหรั่ง"ชาญวิทย์ ผลชีวิน คุมทัพ ก่อนจะติดทีมชุดปรีโอลิมปิก และติดธงชุดใหญ่หนแรกในวัยแค่ 19 ปีเคยเล่นกับรุ่นพี่อย่าง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง , ธชตะวัน ศรีปาน ในศึกอช.คัพ เมื่อปี คศ. 2007 , คัดเลือกฟุตบอลโลก ก็เคยติดมาแล้ว

    "เจ้าคาร์"  เล่นซีเกมส์ 3 ครั้ง ได้แชมป์  2 สมัยที่ ฟิลิปปินส์ และไทย อีกครั้งก็คือ ที่ ลาว 

    เมื่อปี ค.ศ. 2008 หรือเมื่อราว 12 ปีที่แล้ว แม้จะไม่สามารถฝ่ากำแพงสู่การเป็นนักเตะอาชีพในลีกดังอย่างพรีเมียร์ลีก อังกฤษได้แต่ก็ทั้ง 3 รายได้รับการส่งต่อโดย "เจ้ามุ้ย" กับ สุรีย์ ถูกส่งไปซ้อมกับ กลาส ฮอปเปอร์ ซูริค ทีมดังลีกสวิตเซอร์แลนด์ ส่วน "เจ้าคาร์" ได้ไปซ้อมกับ คลับ บรูซ ของเบลเยียม โดย"เจ้าคาร์" หอบเงินกลับมาราว 4 ล้านบาท ในครั้งนั้น

    "เจ้าคาร์" เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ เขาโดน ดีทมาร์ ฮามันน์ ไล่ให้กลับไทยมาทำนา ประมาณ ว่า เล่นฟุตบอลเหมือนควาย นั้นเกิดตอนที่ผมซ้อมกับ แมนฯซิตี้ มีจังหวะหนึ่งที่ผมส่งบอลผิดจังหวะไปให้ ดีทมาร์ ฮาร์มันน์ แบบส่งบอลเสียเลยทำให้ นักเตะเยอรมัน รายนี้อารมณ์เสียของขึ้น 555 พี่แกเลยด่าใส่ผม แต่ผมไม่โกรธนะครับ เพราะเราส่งบอลให้เขาไม่ดีจริงๆ"

    เส้นทางลูกหนังของ"เจ้าคาร์" นั้นเขาเล่นกับ ชลบุรีฯ ตั้งแต่อายุ 15-27 ปี จากนั้น ไปอยู่กับ "กว่างโซ้ง" สิงห์เชียงรายฯ 3 ฤดูกาลครึ่ง และกลับมาอยู่กับชลบุรีฯ 6 เดือนในเลกสองฤดูกาล พ.ศ. 2560  และ โปลิศเทโรฯ ที่ไม่ได้ลงเล่นแม้แต่เกมเดียว กระทั่ง ล่าสุดอยู่กับ โปลิศ เทโรฯ แต่ไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นัดเดียว

    วันนี้ชีวิตของ"เจ้าคาร์ "มีความสุขดี มีทรัพย์สินเป็นที่ดิน 30 ไร่ ซึ่ง 25 ไร่เป็นที่นา อีก 5 ไร่ เป็นที่ติดถนน คิดมูลค่าทั้งหมดก็น่าจะตัวเลขหลายล้านบาท

    "เจ้าคาร์" ร่วมกับ พี่ชาย ประวุฒินันท์ สายแวว นักเตะรุ่นเดียวกับธีรศิลป์ แดงดา ที่จบการศึกษาจากม.มหิดล และเป็นโค้ชดีกรี ซีไลน์เซนส์ เอเอฟซี โดยอะคาเดมี่ที่ใช้ชื่อเขาเอง ว่า เกียรติประวุฒิ อะคาเดมี่ ตั้งอยู่อ.เมือง จ.อุบลฯที่สนาม ทูเดย์ สเตเดี้ยม อยู่ข้างๆ แมคโคร อุบลฯ ใครสนใจติดต่อไปได้ที่ เบอร์ 082-2026168 หรือเฟสบุ๊ค เกียรติประวุฒิ อคาเดมี่

 

คิวเตะซีซั่นใหม่มาแล้ว! ลิเวอร์พูลอ่วม จั่วลีดส์ต่อด้วยเชลซี-อาร์เซน่อล

โปรแกรม พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2020-21 ออกมาแล้ว โดยหนึ่งในคู่ที่น่าสนใจของนัดเปิดสนามคือเกมที่ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าของ พรีเมียร์ลีก จะเปิดบ้านเจอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด แชมป์จาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ

   โปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2020-21

    เตะวันที่ 12 กันยายน 2020

    เบิร์นลี่ย์ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด*
    คริสตัล พาเลซ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
    ฟูแล่ม พบ อาร์เซน่อล
    ลิเวอร์พูล พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด
    แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ แอสตัน วิลล่า*
    ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบ เอฟเวอร์ตัน
    เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน พบ เลสเตอร์ ซิตี้
    เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

    เตะวันที่ 14 กันยายน 2020

    ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน พบ เชลซี
    เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

    วันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2020

    อาร์เซน่อล พบ เวสต์แฮม
    แอสตัน วิลล่า พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
    เชลซี พบ ลิเวอร์พูล
    เอฟเวอร์ตัน พบ เวสต์บรอมวิช
    ลีดส์ พบ ฟูแล่ม
    เลสเตอร์ พบ เบิร์นลีย์
    แมนฯ ยูไนเต็ด พบ คริสตัล พาเลซ
    นิวคาสเซิล พบ ไบรท์ตัน
    เซาธ์แฮมป์ตัน พบ สเปอร์ส
    วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ แมนฯ ซิตี้

    วันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2020

    ไบรท์ตัน พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
    เบิร์นลีย์ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
    คริสตัล พาเลซ พบ เอฟเวอร์ตัน
    ฟูแล่ม พบ แอสตัน วิลล่า
    ลิเวอร์พูล พบ อาร์เซน่อล
    แมนฯ ซิตี้ พบ เลสเตอร์
    เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ ลีดส์
    สเปอร์ส พบ นิวคาสเซิล
    เวสต์บรอมวิช พบ เชลซี
    เวสต์แฮม พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน

    วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม 2020

    อาร์เซน่อล พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
    แอสตัน วิลล่า พบ ลิเวอร์พูล
    เชลซี พบ คริสตัล พาเลซ
    เอฟเวอร์ตัน พบ ไบรท์ตัน
    ลีดส์ พบ แมนฯ ซิตี้
    เลสเตอร์ พบ เวสต์แฮม
    แมนฯ ยูไนเต็ด พบ สเปอร์ส
    นิวคาสเซิล พบ เบิร์นลีย์
    เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เวสต์บรอมวิช
    วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ ฟูแล่ม

    วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2020

    เชลซี พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
    คริสตัล พาเลซ พบ ไบรท์ตัน
    เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล
    ลีดส์ พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
    เลสเตอร์ พบ แอสตัน วิลล่า
    แมนฯ ซิตี้ พบ อาร์เซน่อล
    นิวคาสเซิล พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
    เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ ฟูแล่ม
    สเปอร์ส พบ เวสต์แฮม
    เวสต์บรอมวิช พบ เบิร์นลีย์

    วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2020

    อาร์เซน่อล พบ เลสเตอร์
    แอสตัน วิลล่า พบ ลีดส์
    ไบรท์ตัน พบ เวสต์บรอมวิช
    เบิร์นลีย์ พบ สเปอร์ส
    ฟูแล่ม พบ คริสตัล พาเลซ
    ลิเวอร์พูล พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
    แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เชลซี
    เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เอฟเวอร์ตัน
    เวสต์แฮม พบ แมนฯ ซิตี้
    วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ นิวคาสเซิล

    วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2020

    แอสตัน วิลล่า พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
    เบิร์นลีย์ พบ เชลซี
    ฟูแล่ม พบ เวสต์บรอมวิช
    ลีดส์ พบ เลสเตอร์
    ลิเวอร์พูล พบ เวสต์แฮม
    แมนฯ ยูไนเต็ด พบ อาร์เซน่อล
    นิวคาสเซิล พบ เอฟเวอร์ตัน
    เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ แมนฯ ซิตี้
    สเปอร์ส พบ ไบรท์ตัน
    วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ คริสตัล พาเลซ

    วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2020

    อาร์เซน่อล พบ แอสตัน วิลล่า
    ไบรท์ตัน พบ เบิร์นลีย์
    เชลซี พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
    คริสตัล พาเลซ พบ ลีดส์
    เอฟเวอร์ตัน พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
    เลสเตอร์ พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
    แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พุล
    เซาธ์แฮมป์ตัน พบ นิวคาสเซิ่ล
    เวสต์บรอมวิช พบ สเปอร์ส
    เวสต์แฮม พบ ฟูแล่ม

    วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2020

    แอสตัน วิลล่า พบ ไบรท์ตัน
    เบิร์นลีย์ พบ คริสตัล พาเลซ
    ฟูแล่ม พบ เอฟเวอร์ตัน
    ลีดส์ พบ อาร์เซน่อล
    ลิเวอร์พุล พบ เลสเตอร์
    แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เวสต์บรอมวิช
    นิวคาสเซิ่ล พบ เชลซี
    เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ เวสต์แฮม
    สเปอร์ส พบ แมนฯ ซิตี้
    วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ เซาธ์แฮมป์ตัน

    วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2020

    อาร์เซน่อล พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
    ไบรท์ตัน พบ ลิเวอร์พุล
    เชลซี พบ สเปอร์ส
    คริสตัล พาเลซ พบ นิวคาสเซิ่ล
    เอฟเวอร์ตัน พบ ลีดส์
    เลสเตอร์ พบ ฟูแล่ม
    แมนฯ ซิตี้ พบ เบิร์นลีย์
    เซาธ์แฮมป์ตัน พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
    เวสต์บรอมวิช พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด

วันเสาร์ที่  5 ธันวาคม 2020

แอสตัน วิลล่า พบ นิวคาสเซิ่ล
ไบรท์ตัน พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เชลซี พบ ลีดส์
ลิเวอร์พูล พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
แมนฯ ซิตี้ พบ ฟูแล่ม
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ เลสเตอร์
สเปอร์ส พบ อาร์เซน่อล
เวสต์บรอมวิช พบ คริสตัล พาเลซ
เวสต์แฮม พบ แมนฯ ยูไนเต็ด

วันเสาร์ที่  12 ธันวาคม 2020

อาร์เซน่อล พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
คริสตัล พาเลซ พบ สเปอร์ส
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เชลซี
ฟูแล่ม พบ ลิเวอร์พูล
ลีดส์ พบ เวสต์แฮม
เลสเตอร์ พบ ไบรท์ตัน
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ แมนฯ ซิตี้
นิวคาสเซิ่ล พบ เวสต์บรอมวิช
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ แอสตัน วิลล่า

วันอังคารที่  15 ธันวาคม 2020

อาร์เซน่อล พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
แอสตัน วิลล่า พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
ฟูแล่ม พบ ไบรท์ตัน
ลีดส์ พบ นิวคาสเซิ่ล
เลสเตอร์ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
เวสต์แฮม พบ คริสตัล พาเลซ
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ เชลซี

วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2020

ลิเวอร์พูล พบ สเปอร์ส
แมนฯ ซิตี้ พบ เวสต์บรอมวิช

วันเสาร์ที่  19 ธันวาคม 2020

ไบรท์ตัน พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
เชลซี พบ เวสต์แฮม
คริสตัล พาเลซ พบ ลิเวอร์พูล
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ อาร์เซน่อล
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ ลีดส์
นิวคาสเซิ่ล พบ ฟูแล่ม
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ แมนฯ ซิตี้
สเปอร์ส พบ เลสเตอร์
เวสต์บรอมวิช พบ แอสตัน วิลล่า

วันเสาร์ที่  26 ธันวาคม 2020

อาร์เซน่อล พบ เชลซี
แอสตัน วิลล่า พบ คริสตัล พาเลซ
ฟูแล่ม พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
ลีดส์ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เลสเตอร์ พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล พบ เวสต์บรอมวิช
แมนฯ ซิตี้ พบ นิวคาสเซิ่ล
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เวสต์แฮม พบ ไบรท์ตัน
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ สเปอร์ส

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2020

ไบรท์ตัน พบ อาร์เซน่อล
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
เชลซี พบ แอสตัน วิลล่า
คริสตัล พาเลซ พบ เลสเตอร์
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ แมนฯ ซิตี้
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
นิวคาสเซิ่ล พบ ลิเวอร์พูล
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เวสต์แฮม
สเปอร์ส พบ ฟูแล่ม
เวสต์บรอมวิช พบ ลีดส์

วันเสาร์ที่  2 มกราคม 2021

ไบรท์ตัน พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ฟูแล่ม
เชลซี พบ แมนฯ ซิตี้
คริสตัล พาเลซ พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เวสต์แฮม
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ แอสตัน วิลล่า
นิวคาสเซิ่ล พบ เลสเตอร์
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ลิเวอร์พูล
สเปอร์ส พบ ลีดส์
เวสต์บรอมวิช พบ อาร์เซน่อล

วันอังคารที่  12 มกราคม 2021*

อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ
แอสตัน วิลล่า พบ สเปอร์ส
ฟูแล่ม พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
ลีดส์ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เลสเตอร์ พบ เชลซี
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ นิวคาสเซิ่ล
เวสต์แฮม พบ เวสต์บรอมวิช
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ เซาธ์แฮมป์ตัน

วันพุธที่ 13 มกราคม 2021 *

ลิเวอร์พูล พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
แมนฯ ซิตี้ พบ ไบรท์ตัน

*แมตช์ที่ 18 ที่จะแข่งในวันที่ 12-13 มกราคม อาจปรับเป็นแข่ง 12-13 มกราคม และ 20 มกราคม  2021ตามโปรแกรมถ่ายทอดสดของเดือนมกราคม

วันเสาร์ที่  16 มกราคม 2021

อาร์เซน่อล พบ นิวคาสเซิ่ล
แอสตัน วิลล่า พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
ฟูแล่ม พบ เชลซี
ลีดส์ พบ ไบรท์ตัน
เลสเตอร์ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
แมนฯ ซิตี้ พบ คริสตัล พาเลซ
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ สเปอร์ส
เวสต์แฮม พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ เวสต์บรอมวิช

วันอังคารที่  26 มกราคม 2021

ไบรท์ตัน พบ ฟูแล่ม
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ แอสตัน วิลล่า
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เลสเตอร์
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
เวสต์บรอมวิช พบ แมนฯ ซิตี้

วันพุธที่ 27 มกราคม 2021

เชลซี พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
นิวคาสเซิ่ล พบ ลีดส์
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ อาร์เซน่อล
สเปอร์ส พบ ลิเวอร์พูล
คริสตัล พาเลซ พบ เวสต์แฮม

วันเสาร์ที่  30 มกราคม 2021

อาร์เซน่อล พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
ไบรท์ตัน พบ สเปอร์ส
เชลซี พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
คริสตัล พาเลซ พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ นิวคาสเซิ่ล
เลสเตอร์ พบ ลีดส์
แมนฯ ซิตี้ พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ แอสตัน วิลล่า
เวสต์บรอมวิช พบ ฟูแล่ม
เวสต์แฮม พบ ลิเวอร์พูล

วันอังคารที่  2 กุมภาพันธ์ 2021

แอสตัน วิลล่า พบ เวสต์แฮม
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ แมนฯ ซิตี้
ฟูแล่ม พบ เลสเตอร์
ลีดส์ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ เวสต์บรอมวิช
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ อาร์เซน่อล
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เซาธ์แฮมป์ตัน

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2021

นิวคาสเซิ่ล พบ คริสตัล พาเลซ
สเปอร์ส พบ เชลซี
ลิเวอร์พูล พบ ไบรท์ตัน

วันเสาร์ที่  6 กุมภาพันธ์ 2021

แอสตัน วิลล่า พบ อาร์เซน่อล
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ไบรท์ตัน
ฟูแล่ม พบ เวสต์แฮม
ลีดส์ พบ คริสตัล พาเลซ
ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ซิตี้
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
นิวคาสเซิ่ล พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ เชลซี
สเปอร์ส พบ เวสต์บรอมวิช
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ เลสเตอร์

วันเสาร์ที่  13 กุมภาพันธ์ 2021

อาร์เซน่อล พบ ลีดส์
ไบรท์ตัน พบ แอสตัน วิลล่า
เชลซี พบ นิวคาสเซิ่ล
คริสตัล พาเลซ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ฟูแล่ม
เลสเตอร์ พบ ลิเวอร์พูล
แมนฯ ซิตี้ พบ สเปอร์ส
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
เวสต์บรอมวิช พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
เวสต์แฮม พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด

วันเสาร์ที่  20 กุมภาพันธ์ 2021

อาร์เซน่อล พบ แมนฯ ซิตี้
แอสตัน วิลล่า พบ เลสเตอร์
ไบรท์ตัน พบ คริสตัล พาเลซ
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เวสต์บรอมวิช
ฟูแล่ม พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ นิวคาสเซิ่ล
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เชลซี
เวสต์แฮม พบ สเปอร์ส
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ ลีดส์

วันเสาร์ที่  27 กุมภาพันธ์ 2021

เชลซี พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
คริสตัล พาเลซ พบ ฟูแล่ม
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
ลีดส์ พบ แอสตัน วิลล่า
เลสเตอร์ พบ อาร์เซน่อล
แมนฯ ซิตี้ พบ เวสต์แฮม
นิวคาสเซิ่ล พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล
สเปอร์ส พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เวสต์บรอมวิช พบ ไบรท์ตัน

วันเสาร์ที่  6 มีนาคม 2021

แอสตัน วิลล่า พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
ไบรท์ตัน พบ เลสเตอร์
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ อาร์เซน่อล
เชลซี พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
ลิเวอร์พูล พบ ฟูแล่ม
แมนฯ ซิตี้ พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
สเปอร์ส พบ คริสตัล พาเลซ
เวสต์บรอมวิช พบ นิวคาสเซิ่ล
เวสต์แฮม พบ ลีดส์

วันเสาร์ที่  13 มีนาคม 2021

อาร์เซน่อล พบ สเปอร์ส
คริสตัล พาเลซ พบ เวสต์บรอมวิช
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
ฟูแล่ม พบ แมนฯ ซิตี้
ลีดส์ พบ เชลซี
เลสเตอร์ พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เวสต์แฮม
นิวคาสเซิ่ล พบ แอสตัน วิลล่า
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ไบรท์ตัน
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ ลิเวอร์พูล

วันเสาร์ที่  20 มีนาคม 2021

ไบรท์ตัน พบ นิวคาสเซิ่ล
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เลสเตอร์
คริสตัล พาเลซ พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
ฟูแล่ม พบ ลีดส์
ลิเวอร์พูล พบ เชลซี
แมนฯ ซิตี้ พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ แอสตัน วิลล่า
สเปอร์ส พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เวสต์บรอมวิช พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เวสต์แฮม พบ อาร์เซน่อล

วันเสาร์ที่  3 เมษายน 2021

อาร์เซน่อล พบ ลิเวอร์พูล
แอสตัน วิลล่า พบ ฟูแล่ม
เชลซี พบ เวสต์บรอมวิช
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ คริสตัล พาเลซ
ลีดส์ พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
เลสเตอร์ พบ แมนฯ ซิตี้
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ ไบรท์ตัน
นิวคาสเซิ่ล พบ สเปอร์ส
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ เวสต์แฮม

วันเสาร์ที่  10 เมษายน 2021

ไบรท์ตัน พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ นิวคาสเซิ่ล
คริสตัล พาเลซ พบ เชลซี
ฟูแล่ม พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
ลิเวอร์พูล พบ แอสตัน วิลล่า
แมนฯ ซิตี้ พบ ลีดส์
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ อาร์เซน่อล
สเปอร์ส พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
เวสต์บรอมวิช พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เวสต์แฮม พบ เลสเตอร์

วันเสาร์ที่  17 เมษายน 2021

อาร์เซน่อล พบ ฟูแล่ม
แอสตัน วิลล่า พบ แมนฯ ซิตี้
เชลซี พบ ไบรท์ตัน
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ สเปอร์ส
ลีดส์ พบ ลิเวอร์พูล
เลสเตอร์ พบ เวสต์บรอมวิช
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
นิวคาสเซิ่ล พบ เวสต์แฮม
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ คริสตัล พาเลซ
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด

วันเสาร์ที่  24 เมษายน 2021

อาร์เซน่อล พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
แอสตัน วิลล่า พบ เวสต์บรอมวิช
ฟูแล่ม พบ สเปอร์ส
ลีดส์ พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
เลสเตอร์ พบ คริสตัล พาเลซ
ลิเวอร์พูล พบ นิวคาสเซิ่ล
แมนฯ ซิตี้ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ ไบรท์ตัน
เวสต์แฮม พบ เชลซี
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ เซาธ์แฮมป์ตัน

วันเสาร์ที่  1 พฤษภาคม 2021

ไบรท์ตัน พบ ลีดส์
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เวสต์แฮม
เชลซี พบ ฟูแล่ม
คริสตัล พาเลซ พบ แมนฯ ซิตี้
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ แอสตัน วิลล่า
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล
นิวคาสเซิ่ล พบ อาร์เซน่อล
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เลสเตอร์
สเปอร์ส พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
เวสต์บรอมวิช พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน

วันเสาร์ที่  8 พฤษภาคม 2021

อาร์เซน่อล พบ เวสต์บรอมวิช
แอสตัน วิลล่า พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
ฟูแล่ม พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
ลีดส์ พบ สเปอร์ส
เลสเตอร์ พบ นิวคาสเซิ่ล
ลิเวอร์พูล พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
แมนฯ ซิตี้ พบ เชลซี
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ คริสตัล พาเลซ
เวสต์แฮม พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ ไบรท์ตัน

วันอังคารที่  11 พฤษภาคม 2021

ไบรท์ตัน พบ เวสต์แฮม
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ลีดส์
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เลสเตอร์
เวสต์บรอมวิช พบ ลิเวอร์พูล

วันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2021

เชลซี พบ อาร์เซน่อล
นิวคาสเซิ่ล พบ แมนฯ ซิตี้
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ฟูแล่ม
สเปอร์ส พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
คริสตัล พาเลซ พบ แอสตัน วิลล่า

วันเสาร์ที่  15 พฤษภาคม 2021

ไบรท์ตัน พบ แมนฯ ซิตี้
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ลิเวอร์พูล
เชลซี พบ เลสเตอร์
คริสตัล พาเลซ พบ อาร์เซน่อล
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ ฟูแล่ม
นิวคาสเซิ่ล พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด
เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ลีดส์
สเปอร์ส พบ แอสตัน วิลล่า
เวสต์บรอมวิช พบ เวสต์แฮม

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2021

อาร์เซน่อล พบ ไบรท์ตัน
แอสตัน วิลล่า พบ เชลซี
ฟูแล่ม พบ นิวคาสเซิ่ล
ลีดส์ พบ เวสต์บรอมวิช
เลสเตอร์ พบ สเปอร์ส
ลิเวอร์พูล พบ คริสตัล พาเลซ
แมนฯ ซิตี้ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เชฟฯ ยูไนเต็ด พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
เวสต์แฮม พบ เซาธ์แฮมป์ตัน
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ แมนฯ ยูไนเต็ด

หมายเหตุ : ทีมที่อยู่ข้างหน้าคือทีมที่จะได้เป็นเจ้าบ้าน

หมายเหตุ 2 : คู่ระหว่าง เบิร์นลี่ย์ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ แอสตัน วิลล่า โดนเลื่อนเพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ แมนฯ ซิตี้ เพิ่งผ่านเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปมา

ยิงไม่หยุด! ลูกากูทุบสถิติเชียร์เรอร์เกมยูโรป้าลีก

กองหน้าชาวเบลเยียมกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูในเกมยูฟ่า คัพ หรือยูโรป้าลีกได้ 9 นัดติดต่อกัน แซงหน้าเข้าของสถิติเดิมอย่างอลัน เชียร์เรอร์ ได้สำเร็จ

โรเมลู ลูกากู กองหน้าอินเตอร์ มิลาน กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูในเกมยูฟ่า คัพ หรือยูโรป้าลีก ได้ถึง 9 นัดติดต่อกัน

ก่อนหน้านี้ ดาวยิงชาวเบลเยียมถือครองสถิติดังกล่าวเทียบเท่าอลัน เชียร์เรอร์ สมัยอยู่กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่ยิงประตูในรายการนี้ได้ 8 นัดติดต่อกัน แต่หลังจากที่เขาทำประตูได้ในเกมชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 2-1 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้เขาแซงหน้าเชียร์เรอร์ขึ้นไปถือครองสถิติดังกล่าวเพียงคนเดียวในเวลานี้

ประตูดังกล่าวถือเป็นประตูที่ 31 ของลูกากูรวมทุกรายการ ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดในชีวิตค้าแข้งของเขา มากกว่าสถิติเดิมสมัยอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยิงไป 27 ประตูในฤดูกาล 2017-18 อยู่ 4 ประตู

นอกจากนี้ เขายังยิงประตูในเกมเยือนไปแล้ว 15 ประตู ซึ่งเป็นนักเตะอินเตอร์ มิลาน คนแรกในรอบ 70 ปีที่ทำผลงานได้ถึงตัวเลขดังกล่าว เทียบเท่าเจ้าของสถิตเดิมอย่าง Stefano Nyers ที่เคยทำไว้เมื่อฤดูกาล 1949-50

ทั้งนี้ ทีมเนรัซซูรีจะพบผู้ชนะระหว่างชัคตาร์ โดเน็ตส์ค และ บาเซิล ในรอบรองชนะเลิศ

6 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้าย

เดินทางมาถึงเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2019/20 ความมันส์ยังมีให้ลุ้นคือตั๋วอีก 2 ใบสำหรับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงทีมตกชั้นที่ยังต้องหาอีก 2 ทีมร่วงลงไปเล่นแชมเปี้ยนชิพ

    สำหรับประเด็นก่อนเกมจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เราคัดมาให้ดูกัน 6 แมตช์ แบบเต็มๆ เน้นๆ

    – อาร์เซน่อล – วัตฟอร์ด
    ในกรณีที่ทีมอันดับ 9 อย่าง เบิร์นลี่ย์ ไม่ชนะ ไบรท์ตัน แล้ว อาร์เซน่อล เก็บชัยได้เหนือ วัตฟอร์ด ก็จะทำให้ "เดอะ กันเนอร์ส" แซงขึ้นไปจบอันดับ 9 ทันที

    อย่างไรก็ตาม วัตฟอร์ด ที่อยู่อันดับ 18 ซึ่งเป็นพื้นที่ตกชั้น ก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บชัยชนะหรือต้องทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองมีผลการแข่งขันที่ดีกว่า แอสตัน วิลล่า ที่ตอนนี้ทั้งคู่มีแต้มเท่ากัน แต่ผลต่างประตูของ "แตนอาละวาด" เป็นรอง

 

    อาร์เซน่อล ไม่แพ้ใครเกมลีกในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มาแล้ว 8 เกมติดต่อกัน (ชนะ 6 เสมอ 2) โดยสอยตาข่ายคู่แข่งได้ถึง 18 ลูก และเสียไปแค่ 5 ประตูเท่านั้น

    ส่วนการเจอกับ วัตฟอร์ด ในเกมลีกที่บ้านตัวเอง 6 นัดหลัง "ไอ้ปืนใหญ่" คว้าชัยได้ 5 นัด(แพ้ 1) ซึ่งทุกนัดที่คว้าชัยเป็นการเก็บคลีนชีตได้ทั้งหมด

    วัตฟอร์ด เสียประตูอย่างน้อย 1 ลูกตลอด 9 เกมในลีกหลังสุด และตลอดการเจอกับ อาร์เซน่อล 13 ในเกมลีก พวกเขาเป็นฝ่ายขึ้นนำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยเกิดขึ้นจากประตูของ ยูเนส กาบูล เมื่อเดือนมกราคม ปี 2017 เกมที่ วัตฟอร์ด บุกไปชนะ 2-1

    – เชลซี – วูล์ฟส์
    เชลซี ต้องการแค่แต้มเดียวเท่านั้นเพื่อคว้าสิทธิ์ไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้า ส่วน วูล์ฟส์ หมายมั่นที่จะยึดท็อป 6 และไปเล่น ยูโรปา ลีก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

    ในการเจอกับ วูล์ฟส์ ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี ไม่แพ้เลยโดยแบ่งเป็นเก็บชัยได้ 4 และเสมออีก 1

 

    แทมมี่ อับราฮัม ทำสกอร์ได้ตลอด 3 เกมยามที่ เชลซี เจอกับ วูล์ฟส์ โดยซัดได้ถึง 6 ลูก รวมถึง แฮตทริกใส่ได้ในเกมนัดแรกที่ "สิงห์บลูส์" เอาชนะไป 5-2

    นับตั้งแต่ขึ้นชั้นกลับมาเมื่อปี 2018 วูล์ฟส์ ยิงใส่ เชลซี ได้ 5 ลูกจาก 3 เกมที่เจอกันบนลีกสูงสุด ซึ่งมันต่างกกันสิ้นเชิงกับก่อนหน้านี้ 8 นัดที่พวกเขายิงได้แค่ลูกเดียวเท่านั้นในการเจอกับ "สิงห์บลูส์"

    ราอูล ฮิเมเนซ ยิงได้ 17 ประตูในฤดูกาลนี้ ซึ่งประตูเหล่านั้นมีค่าทำให้ วูล์ฟส์ เก็บแต้มเข้ากระเป๋าถึง 19 คะแนน โดยมีถึง 8 เกมที่เขาเป็นผู้ซัดประตูชัยให้กับทีม

    -คริสตัล พาเลซ – สเปอร์ส
    คริสตัล พาเลซ เล่นแบบไม่มีลุ้นอะไรเลยหลังแพ้รวดมา 7 เกม ด้าน สเปอร์ส ยังคงมีลุ้นแซง วูล์ฟส์ ขึ้นไปรั้งอันดับ 6 เพื่อพื้นที่ ยูโรปา ลีก

    ในการเล่นเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่บ้านตัวเอง พาเลซ คว้าชัยชนะได้ตลอด 4 เกมหลังสุด(รวมนัดเพลย์ออฟเลื่อนชั้น)

 

    พาเลซ ของ รอย ฮ็อดจ์สัน กำลังมีโอกาสที่จะกลายเป็นทีมที่ 8 ในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ที่ตลอดทั้งฤดูกาลไม่มีเกมไหนเลยที่ทำได้มากกว่า 2 ประตู และถ้านัดสุดท้ายพวกเขายังยิงได้ไม่เกิน 2 ประตูอีก พวกเขาก็จะเป็นทีมแรกที่มีสถิติแบบนั้นแต่รอดจากการตกชั้น

    สเปอร์ส เอาชนะ พาเลซ ได้ตลอด 9 เกมหลังสุดและไม่เสียประตูถึง 7 เกมด้วยกัน

    – เลสเตอร์ – แมนยู
    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการแค่ 1 คะแนนในเกมนี้เพื่อคว้าตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า ขณะที่ เลสเตอร์ มองหาชัยชนะเหนือ "ปีศาจแดง" ในบ้านเกมแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2014 เพื่อโอกาสไปเล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่ยุโรป

    เลสเตอร์ เอาชนะ แมนยู ได้แค่ 1 นัดตลอดการเล่นในบ้านตัวเองบนเวทีพรีเมียร์ลีก(เสมอ4 แพ้8)

 

    เจมี่ วาร์ดี้ ยิงให้ เลสเตอร์ ไป 23 ประตูในฤดูกาลนี้ โดยขอแค่อีกประเดียวเดียวก็จะทำสถิติดีที่สุดเทียบเท่าเมื่อฤดูกาล 2015/16

    แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสสูงเหลือเกินที่จะจบท็อปโฟร์ เมื่อมองจากสถิติที่พวกเขาไม่แพ้ "เดอะ ฟ๊อกซ์" เลยตลอด 10 หลังสุดที่เจอกัน (ชนะ 7 เสมอ 3)

    แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เตรียมเป็นผู้เล่นตำแหน่งเอาท์ฟิลด์คนแรกของ "ปีศาจแดง" ที่ลงเล่นเป็นตัวจริงทุกเกมในศึกพรีเมียร์ลีก ต่อจาก แกรี่ พัลลิสเตอร์ เมื่อซีซั่น 1994/95

    – แมนฯ ซิตี้ – นอริช
    แมนฯ ซิตี้ เล่นในบ้านชนะ นอริช ได้ 3 จาก 4 เกมหลัง(แพ้ 1) โดยสอยตาข่ายไป 16 ลูก

    หาก ราฮีม สเตอร์ลิง ทำประตูได้ จะทำให้เขาเป็นผู้เล่นชาวอังกฤษคนแรกของ ซิตี้ ที่ทำประตูบนเวที พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 20 ลูก

    นอริช แพ้ทุกครั้งที่ตัวเองตกเป็นฝ่ายตามหลัง (26 เกม) ซึ่งพวกเขาจะเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ไม่สามารถเอาแต้มคืนมาได้เลยยามที่โดนยิงนำไปก่อน

    หลังจากที่เอาชนะได้ในเกมแรกที่เจอกันเมื่อเดือนกันยายน นอริช ก็หวังที่จะเก็บชัยเหนือ ซิตี้ แบบเหย้า-เยือนให้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 1964/65

    – นิวคาสเซิล – ลิเวอร์พูล
    ลิเวอร์พูล วางเป้าเก็บให้ได้ถึง 99 คะแนน ส่วน นิวคาสเซิล ฟอร์มไม่สู้ดี ไม่ชนะใครมาแล้ว 5 เกมติดต่อกัน

    นิวคาสเซิล เป็นทีมที่เล่นเกมสุดท้ายได้ดีเหลือเชื่อ เมื่อตลอด 5 เกมหลังเอาชนะได้ทั้งหมด โดยมีผลต่างประตูถึง 17-1 อย่างไรก็ตามครั้งสุดท้ายที่พวกเขาแพ้วันปิดฤดูกาลก็คือแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล 1-2 เมื่อซีซั่น 2013/14

 

    จอนโจ้ เชลวี่ย์ เป็นผู้เล่นสาลิกาดงที่ยิงประตูมากสุดในลีกฤดูกาลนี้ที่ 6 ประตู ซึ่งในจุดนี้นับเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่ คาร์ล คอร์ต และโนลแบร์โต้ โซลาโน่ ทำไว้เมื่อฤดูกาล 2000/01

    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตู 5 ครั้งในการเจอกับ นิวคาสเซิล 4 นัด (4 ประตู 1 แอสซิสต์) ซึ่งแต่ละนัด ดาวยิงอียิปต์ จะทำประตูได้ตลอด