น้ำตาไหลไม่รู้ตัว วันที่ซื้อบ้านให้พ่อกับแม่อยู่

กลายเป็นนักเตะระดับคุณภาพแถวหน้าของวงการฟุตบอลไทยสำหรับ “ตั้ม”ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางตัวรับทีมชาติไทยและสโมสรฟุตบอล “สิงห์เจ้าท่า”การท่าเรือ เอฟซี ตลอดช่วงเวลาการค้าแข้งที่ผ่านมาเขาคือนักเตะที่สู้ชีวิตคนหนึ่งที่เดินตามความฝันด้านฟุตบอลอย่างจริงจังโดยมี “จิ๊บ”สมเจตน์ เกษารัตน์ อดีตแข้งเยาวชนทีมชาติไทย,สโมสรยาสูบ,กรุงไทย,การท่าเรือฯ ซึ่งเป็นพี่ชายเป็นต้นแบบบนถนนสายฟุตบอล การเดินหน้าคว้าแชมป์ครบทุกรายการของฟุตบอลเมืองไทยกับสโมสรต่างๆรวมไปถึงประสบความสำเร็จในการลงเล่นทีมชาตินำความภูมิใจมายังครอบครัว “เกษารัตน์” แต่ฟุตบอลกลับทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ได้ทำฝันบางอย่างเป็นจริง
    โดย “ตั้ม”ธนบูรณ์  เกษารัตน์  ออกมาเล่าความในใจว่า สิ่งที่ภูมิใจที่สุดจากหยาดเหงื่อแรงกายการเล่นฟุตบอลคือเรื่องของการได้ดูแลบุพการี ให้ดี ทุกวันนี้ “ตั้ม”ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มีทั้งบ้านและรถรวมไปถึงสิ่งของจำเป็นอื่นๆ  หากย้อนกลับไปช่วงสมัยค้าแข้งเทโรฯ “ตั้ม”ใช้เงินส่วนหนึ่งนำมาซื้อบ้านเพื่อให้พ่อกับแม่รวมไปถึงคนในครอบครัวได้พักอาศัย  ชีวิตช่วงวัยเด็กเป็นช่วงชีวิตที่ไม่ได้สะดวกสบายมากนักความฝันตอนนั้นอยากมีห้องนอนส่วนตัวของตัวเองและวันที่ซื้อบ้านสิ่งที่ทำสิ่งแรกคือ “ตั้ม”ได้พาพ่อกับแม่เข้ามาอยู่ในบ้าน คืนนั้นทั้งคืนนอนจับมือพ่อกับแม่พร้อมกับน้ำตาแห่งความภูมิใจของลูกผู้ชายไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

    ปัจจุบัน “ตั้ม”ธนบูรณ์ เกษารัตน์  ซื้อบ้านไว้ 2 หลัง แถวสมุทรปราการและปทุมธานี เก็บไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ความตั้งใจจากเส้นทางฟุตบอลอาชีพ ติดตามเรื่องราวยอดนักเตะสู้ชีวิตฝันไกลไปจนถึงในแมกกาซีน “ฟุตบอลสยามรายเดือน” เล่มที่ 1669  วางแผงให้ท่านผู้อ่านได้ติดตามกันตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.63 เป็นต้นไป

ทุบสถิติ! เมืองทองทุ่ม 55 ล้านทาบ “เอกนิษฐ์” พร้อมอ็อปชั่นอื้อให้เชียงราย

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทุ่ม 55 ล้านบาท ยื่นซื้อ เอกนิษฐ์ ปัญญา กองกลางอนาคตไกลดีกรีทีมชาติไทยจาก สิงห์ เชียงราย เข้ามาเสริมทัพร่วมกับขุนพลพลังหนุ่ม ก่อนลุยศึกไทยลีก แถมมีอ็อปชั่นให้ "บิ๊กฮั่น" มิติ ติยะไพรัช พิจารณาอีกเพียบ ด้าน รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ย้ำว่านี่เป็นการทำลายสถิติการซื้อขายที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ก่อนหน้านี้ "กิเลนผยอง" เคยขาย ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ด้วยค่าตัว 50 ล้านบาทให้ "กว่างโซ้งมหาภัย"

    เอสซีจี เมืองทองฯ สร้างความฮือฮาให้กับวงการลูกหนังของไทยอีกครั้ง เมื่อยื่นข้อเสนอทุ่มเงินจำนวน 55 ล้านบาท เพื่อล่าลายเซ็นกองกลางฝีเท้าดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยุคดีกรีทีมชาติชุดใหญ่ และมีอนาคตไกลอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา จากสโมสร สิงห์ เชียงรายฯ เข้ามาเสริมทัพ ก่อนที่ไทยลีกจะเริ่มขึ้นในเดือน ก.ย. นี้

    ทั้งนี้ "บิ๊กเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสร ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า "ทาง เอสซีจี เมืองทองฯ เตรียมที่จะทุ่มเงินซื้อนักเตะอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา เข้ามาร่วมทัพเพื่อเล่นกับเหล่าดาวรุ่งของทีมในฤดูกาลนี้ โดยได้ยื่นข้อเสนอในการซื้อตัวนักเตะรายดังกล่าวไปแล้วในวงเงิน 55 ล้านบาท ถือว่าเป็นสถิติของการซื้อขายครั้งใหม่ ก่อนหน้านี้ เอสซีจี เมืองทองฯ เคยขาย ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ให้ สิงห์ เชียงราย ไปที่ 50 ล้านบาท เราแสดงความความสนใจจริง และเคารพต่อทีม สิงห์ เชียงราย ในการเจรจาดึงนักเตะคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของทีม และยังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันมายาวนาน"

    "นอกจากนี้ในสัญญาการซื้อขายที่เราเสนอไปให้ทาง สิงห์ เชียงราย พิจารณานั้น ยังมีอ็อปชั่นอื่นๆ อีกมากมายให้ทาง มิติ ติยะไพรัช และผู้บริหารของ กว่างโซ้ง ได้พิจารณา"

    สำหรับ เอกนิษฐ์ ปัญญา ชื่อเล่น "บุ๊ค" เป็นชาวเชียงรายโดยกำเนิด อายุ 20 ปี เล่นทีมชาติมาตั้งแต่เยาวชน 19 ปี กระทั่งถึงทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งในนามชุดใหญ่ลงเล่นไปแล้ว 3 นัด ยิงได้ 1 ประตู

เกือบไม่ติดทีมชาติ!”น้าฉ่วย”เผยเรื่องลับ”เจ”ชนาธิป

"น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือหนองบัว พิชญ เอฟซี สโมสรในไทยลีก 2 ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการฟุตบอลไทยวาไรตี้ เมื่อค่ำวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา เปิดเผยเรื่องราว สมัยที่คุมทีมชาติไทย ยู19 เมื่อปี 2011 ลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก
    โดยเป็นเรื่องที่แฟนบอลหลายๆ คนยังไม่เคยทราบ เกี่ยวกับกว่าที่จะได้ ตัว "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ มาร่วมทัพช้างศึก ก่อนต่อยอดทำให้เจ้าตัว แจ้งเกิดตั้งแต่วันนั้น  อดีตเฮดโค้ชเยาวชนทีมชาติไทยเผยว่า ถึงขั้นพ่อจุ้ง ก้องภพ มาอ้อนวอน ให้ น้าฉ่วยช่วยคุยกับสโมสรของ ลูกชาย ให้ปล่อยตัวมารับใช้ทีมชาติ

    " ผมไม่ได้ปั้น "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ , "ตั้ม" ธนบูรณ์ เกษารัตน์ , "บาส" พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา  ใครๆบอกว่าผมปั้น ผมเพียงแต่ให้โอกาสพวกเขา "

    " ในกรณีของ "เจ" จริงๆ เขาไม่ได้มีโอกาสมาเล่นทีมชาติแล้ว ผมไปตามตื้อ มาเล่น รายการชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก เพราะต้นสังกัดไม่ยอมปล่อยตัวมาให้ คุณพ่อจุ้ง ก้องภพ สรงกระสินธ์ อยากให้ลูกชายติดทีมชาติ เลยให้ผมไปคุย สุดท้ายต้นสังกัดเขาปล่อยให้ "เจ" มาร่วมทีมชาติ นั่นละ ทำให้เขาแจ้งเกิดกับทีมชุดนั้น"

    สำหรับรายการแจ้งเกิดในวันนั้น เป็นศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ยู-19 รอบคัดเลือก ปี 2011 ไทย เป็นเจ้าภาพในรอบคัดเลือก อยู่สายอี  เป็นกรุ๊ปออฟเดธ มีทั้ง เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน ,กวม, ฮ่องกง

    เอาแชมป์กลุ่ม ไปเล่น ชิงแชมป์เอเชีย ยู-19 รอบสุดท้าย ในปี 2012 ที่ยูเออี ปรากฏว่า ไทย สร้างปรากฏการณ์คว้าแชมป์กลุ่ม ชนะ 3 เสมอ 1 ไม่แพ้ใคร เก็บได้ 10 คะแนน สร้างชื่อสุดๆ ด้วยการ จัดการโค่น เกาหลีใต้ 1-0 และ ยันเสมอ ญี่ปุ่น 0-0

ฐิติพันธ์ เปิดใจ เพื่อนร่วมทีมคนโปรด/แข้งไทยดีสุด/โค้ชเก่งที่สุด



กัปตัน บีจี ปทุมฯ เปิดใจ เกี่ยวกับเพื่อนร่วมทีมคนโปรด รวมถึงแข้งไทย และ โค้ชเก่งสุดที่เคยร่วมงานด้วย

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางกัปตันทีม บีจี ปทุมฯ ตอบคำถาม มาริโอ ยูรอฟสกี้ ผ่านอินสตาแกรม เกี่ยวกับเพื่อนร่วมทีมคนโปรด , นักเตะไทยดีที่สุด และ โค้ชเก่งที่เคยร่วมงานด้วย

โดย อดีตกองกลางโออิตะ ทรินิตะ เลือก ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เป็นเพื่อนร่วมทีมคนโปรด , ธีราทร บุญมาทัน เป็นนักเตะไทยดีที่สุด และ อเล็กซานเดร กามา เป็นกุนซือเก่งสุดที่เคยร่วมงานด้วย สมัยอยู่กับ สิงห์ เชียงรายฯ

เพื่อนร่วมทีมคนโปรด
–    ผมเลือก ตั้ม ธนบูรณ์ ครับ ผมกับ ตั้ม เล่นด้วยกันค่อนข้างบ่อย ทั้งที่ เมืองทอง , บีจี , เชียงราย และ ทีมชาติ ผมรู้สึกว่า ผมกับตั้มค่อนข้างเล่นเข้าขากัน ในเวลาที่ผมเติมเกมรุก และ มี ตั้ม คอยเก็บกวาดให้ ผมรู้สึกสบายใจครับ ดังนั้น ผมจึงเลือก ตั้ม ครับ

นักฟุตบอลไทยที่ดีที่สุด

–    พี่อุ้ม ธีราทร ครับ เพราะไม่ว่าอยู่ทีมไหน พี่อุ้ม ก็จะได้แชมป์เสมอ และ ในการเจอกับ พี่อุ้ม ไม่ว่าจะในฐานะคู่แข่ง หรือ เพื่อนร่วมทีมชาติ (ซ้อม) ผมจะเจองานยากเสมอ

–    โค้ชเก่งที่สุด

ผมโชคดีที่มีโอกาสทำงานร่วมกับโค้ชดีๆ หลายคน แต่ดีที่สุด ผมเลือก กามา ครับ กามา ช่วยให้ผมกลับมามีฟอร์มการเล่นที่ดีอีกครั้งตอนอยู่ เชียงราย

เขารู้ว่าควรใช้ผมอยู่ตรงไหน จึงจะเกิดประโยชน์กับทีมมากที่สุด บางเกม เขาก็ใช้ผม กลางรับ , กลางรุก , ปีกขวา และ แบ็คขวา บ้าง ซึ่งเป็นโค้ชที่ดึงศักยภาพของผมออกมาได้ให้มากที่สุดครับ

ทั้งนี้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ถือเป็นรูมเมทกันด้วย ทั้งในระดับสโมสร และ เวลาเข้าแคมป์เก็บตัวกับ ทีมชาติไทย