นิชิโนะ ถึงไทยวันนี้ พร้อมไปดูไทยลีก 12 ก.ย.

อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักเตะทีมชาติไทย เตรียมเดินทางกลับจากญี่ปุ่นถึงไทยวันนี้  ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้จัดเตรียมสถานที่กักตัว 14 วันให้กับกุนซือใหญ่ทัพช้างศึกแล้ว

    โดยหลังจากการกักตัว "นิชิโนะ" จะเริ่มทำงานทันที และมีแผนว่าจะเดินทางไปชมเกม "ไทยลีก 1" ซึ่งจะกลับมาเตะนัดที่ 5 ในวันที่ 12 กันยายนนี้

    ส่วนการเรียกสต๊าฟโค้ชของทีมชาติไทยกลับมาทำงานเลยหรือไม่ "พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" นายกสมาคมฯ กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความต้องการของ "โค้ชนิชิโนะ" หากกุนซือญี่ปุ่นต้องการให้ใครมาช่วยงาน ทางสมาคมฯ ก็จะเรียกมา ยินดีให้การสนับสนุนอยู่แล้ว คาดว่า นิชิโนะ คงหารือกับสตาฟฟ์โค้ชไว้แล้ว

    ขณะที่เรื่องการฝึกซ้อมทีมชาตินั้น อากิระ นิชิโนะ ต้องการใช้ฟีฟ่าเดย์ช่วยเดือนตุลาคม เรียกนักเตะเข้าแคมป์ฝึกซ้อม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม แต่จะสามารถเก็บตัวได้กี่วันนั้นต้องปรึกษากับสโมสรอีกที

บุกตลาดโลก! วอริกซ์ เซ็น ธีราทร นั่งพรีเซนเตอร์คนใหม่

วอริกซ์ดึงแบ็คซ้ายช้างศึกนั่งแท่นพรีเซนเตอร์คนใหม่ก้าวสู่ตลาดโลก
บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาสัญชาติไทย เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนล่าสุด ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายทีมชาติไทย ของ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส แชมป์เจลีก 2019 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจเดินหน้าตอกย้ำความแข็งแกร่งของวาริกซ์ในฐานะสปอร์ตแบรนด์ชั้นนำของภูมิภาค ที่กำลังเดินหน้าไปสู่การเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่แข่งขันอยู่ในระดับโลก

โดยวอริกซ์ เป็นผู้ถือสิทธิ์การออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายชุดแข่งขันและเครื่องแต่งกายทัพช้างศึก ซึ่งเป็นแบรนด์กีฬาสัญชาติไทยที่เติบโตอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ด้าน วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด กล่าวว่า “เป้าหมายของวาริกซ์ในปีนี้ คือเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มในระดับภูมิภาคก่อนจะขยายไปสู่ระดับโลก ผ่านกลยุทธ์สำคัญคือ ‘สปอร์ต ไลเซ่น’ ที่โฟกัสกีฬามหาชนของคนทั่วโลกอย่างฟุตบอล ทั้งฟุตบอลระดับทีมชาติและระดับสโมสร ซึ่งในปัจจุบันหากนับเฉพาะกีฬาฟุตบอล วอริกซ์คือแบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในอาเซียน"
"ทั้งนี้ อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่วอริกซ์เร่งเครื่องมากขึ้นในปีนี้คือ การใช้ ‘ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง’ (Idol Marketing) มาช่วยสร้างการรับรู้ และช่วยเสริมความแข็งแกร่งในเชิงของภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์วอริกซ์ ทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และขยายต่อไปในระดับโลก โดยวาริกซ์ให้ความสนใจไอดอลจากกีฬาประเภทอื่น หรือวงการอื่นๆ ด้วย สอดคล้องตามวิสัยทัศน์ของวอริกซ์ ที่ต้องการเติบโตด้วย Sport License และ Lifestyle”

“ความร่วมมือระหว่างวอริกซ์ กับ ‘อุ้ม ธีราทร บุญมาทัน’ มีภารกิจหลัก คือการร่วม โปรโมทแบรนด์วอริกซ์ ซึ่งสาเหตุที่เลือก ‘อุ้ม ธีราทร’ นั้น แน่นอนว่าเป็นเพราะ ‘อุ้ม ธีราทร’ เป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย เป็นนักเตะที่มีความสามารถสูงมาก เป็นคนมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ มีวินัยทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต และเป็นไอดอลของเยาวชนจำนวนมาก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘อุ้ม’ เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่เป็นภาพของคนไทยที่ออกไปต่อสู้อยู่บนเวทีระดับโลก สอดคล้องกับความเป็นวอริกซ์ ซึ่งเป็นแบรนด์ไทย ที่ออกไปแข่งขันอยู่ในระดับโลกเช่นเดียวกัน”

นายวิศัลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การทำธุรกิจของวอริกซ์ในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ เราปรับตัวได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ กับการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ได้กลายเป็นวิกฤตใหญ่ไปทั่วโลก เป็นทั้งวิกฤตสาธารณสุขและวิกฤตเศรษฐกิจ ที่บังคับให้คนทั้งโลกต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ฟุตบอลทั้งระดับสโมสรและทีมชาติก็หยุดการแข่งขันไปหลายเดือน โดยเมื่อช่องทางการขายหน้าร้าน ต้องปิดในช่วงการ Lock Down วอริกซ์ได้ปรับไปมุ่งเน้นทำการตลาดและการขายผ่านช่องทางออนไลน์"

"วอริกซ์มีแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีความพร้อมและมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว เราจึงทุ่มไปที่ออนไลน์ และอัดโปรโมชั่นเพิ่มเติมเข้าไป โดยนอกจากเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้าแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่อยากเป็นเจ้าของเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย ลิขสิทธิ์แท้ และสินค้าคุณภาพดีอื่นๆ ของวอริกซ์ สามารถซื้อสินค้าวอริกซ์ไปครอบครองได้ ในราคาที่จับต้องได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งในภาพรวมช่วงที่ผ่านมา ถือว่าวอริกซ์ทำได้ดีพอสมควร เรามีลูกค้าซื้อสินค้าเรามากกว่า 20,000 คน ต่อเดือน”
ขณะที่ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายตัวเก่งของทีมชาติไทย และเป็นนักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์เจลีคได้ ได้กล่าวถึงความร่วมมือกับวอริกซ์ ว่า “รู้สึกดีใจที่จะได้ร่วมงานกับวอริกซ์ เพราะรู้จักและชื่นชมวอริกซ์อยู่แล้ว อย่างชุดแข่งขันของทีมชาติไทยของวอริกซ์ เราใช้จริง รู้สึกว่าคุณภาพชุดของวอริกซ์คือก้าวไปไกลมาก"

"ถือเป็นเรื่องดี เพราะทำให้นักฟุตบอลทีมชาติไทยได้ใส่ชุดที่คุณภาพดี ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตต่างๆ เทียบเท่าแบรนด์ดังๆ ระดับโลก นอกจากนั้นก็ชื่นชมวอริกซ์ ในฐานะที่เป็นแบรนด์ไทย ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในหลายๆ ประเทศ”

สำหรับ ธีราทร บุญมาทัน มีผลงานยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2019 โดยเป็นนักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์เจลีกกับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ก่อนที่ฤดูกาลนี้ช่วยต้นสังกัดลงสนามเป็นตัวจริงไปแล้ว 2 เกม

เกือบไม่ติดทีมชาติ!”น้าฉ่วย”เผยเรื่องลับ”เจ”ชนาธิป

"น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือหนองบัว พิชญ เอฟซี สโมสรในไทยลีก 2 ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการฟุตบอลไทยวาไรตี้ เมื่อค่ำวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา เปิดเผยเรื่องราว สมัยที่คุมทีมชาติไทย ยู19 เมื่อปี 2011 ลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก
    โดยเป็นเรื่องที่แฟนบอลหลายๆ คนยังไม่เคยทราบ เกี่ยวกับกว่าที่จะได้ ตัว "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ มาร่วมทัพช้างศึก ก่อนต่อยอดทำให้เจ้าตัว แจ้งเกิดตั้งแต่วันนั้น  อดีตเฮดโค้ชเยาวชนทีมชาติไทยเผยว่า ถึงขั้นพ่อจุ้ง ก้องภพ มาอ้อนวอน ให้ น้าฉ่วยช่วยคุยกับสโมสรของ ลูกชาย ให้ปล่อยตัวมารับใช้ทีมชาติ

    " ผมไม่ได้ปั้น "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ , "ตั้ม" ธนบูรณ์ เกษารัตน์ , "บาส" พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา  ใครๆบอกว่าผมปั้น ผมเพียงแต่ให้โอกาสพวกเขา "

    " ในกรณีของ "เจ" จริงๆ เขาไม่ได้มีโอกาสมาเล่นทีมชาติแล้ว ผมไปตามตื้อ มาเล่น รายการชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก เพราะต้นสังกัดไม่ยอมปล่อยตัวมาให้ คุณพ่อจุ้ง ก้องภพ สรงกระสินธ์ อยากให้ลูกชายติดทีมชาติ เลยให้ผมไปคุย สุดท้ายต้นสังกัดเขาปล่อยให้ "เจ" มาร่วมทีมชาติ นั่นละ ทำให้เขาแจ้งเกิดกับทีมชุดนั้น"

    สำหรับรายการแจ้งเกิดในวันนั้น เป็นศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ยู-19 รอบคัดเลือก ปี 2011 ไทย เป็นเจ้าภาพในรอบคัดเลือก อยู่สายอี  เป็นกรุ๊ปออฟเดธ มีทั้ง เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน ,กวม, ฮ่องกง

    เอาแชมป์กลุ่ม ไปเล่น ชิงแชมป์เอเชีย ยู-19 รอบสุดท้าย ในปี 2012 ที่ยูเออี ปรากฏว่า ไทย สร้างปรากฏการณ์คว้าแชมป์กลุ่ม ชนะ 3 เสมอ 1 ไม่แพ้ใคร เก็บได้ 10 คะแนน สร้างชื่อสุดๆ ด้วยการ จัดการโค่น เกาหลีใต้ 1-0 และ ยันเสมอ ญี่ปุ่น 0-0

ฮือฮา!แข้งยู-19เตรียมเรียกลูกครึ่งไทย-เยอรมัน​รับใช้ชาติ

ทีมลูกหนังชาติไทย ยู 19 มีแผนที่จะเรียกตัว "มาร์เซล ซีกฮาร์ท" กองหน้าลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ของทีม "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค มารับใช้ทัพช้างศึก

    ข่าวฮือฮา เมื่อทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี กำลังจับตามอง มาร์เซล ซีกฮาร์ท กองหน้าลูกครึ่งไทย-เยอรมัน วัย 18 ปี ของทีม บาเยิร์น มิวนิค อยู่อย่างใกล้ชิด โดยทัพช้างศึก ยู-19 มีแผนที่จะเรียกตัว มาร์เซล ซีกฮาร์ท มารับใช้ทีมชาติไทยในอนาคต ซึ่งหากทำสำเร็จ อาจผลักดันขึ้นสู่ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ต่อไป

    มาร์เซล ซีกฮาร์ท เป็นน้องชายแท้ๆของ อเล็กซานเดอร์ ซีกฮาร์ท กองกลางของทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

    ปัจจุบัน มาร์เซล ซีกฮาร์ท เป็นนักเตะในสังกัดของ บาเยิร์น มิวนิค ทีมดังของลีกเมืองเบียร์ แต่เวลานี้ถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับทีม อุนเตอร์ฮัคคิ้ง ในบุนเดสลีก้า 3 เยอรมัน และลงเล่นในทีมชุด ยู-19 อยู่ในขณะนี้