สื่อรักออนไลน์! ‘ชนานันท์-ฐานิตา’ เปิดใจเส้นทางรักจากแค่คนรู้จักสู่คนรู้ใจ

คาดว่าอีกไม่นานน่าจะมีข่าวมาฝากแฟนๆลูกหนัง รวมถึงพรรคพวกญาติสนิทมิตรสหายของทั้ง "เจ้าทู" ชนานันท์ ป้อมบุบผา และ แฟนสาวน้อง "เมย์" ฐานิตา ดอนไพรกา ที่คบหาดูใจในฐานะคนรักกันมา 5 ปีแล้ว

    ความรักของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ "เจ้าทู" ที่วันนี้เป็นกองหน้าของ ทรูแบงค็อกฯ ในไทยลีก ร่วมทัพทีมชาติไทย ไปคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ในซีเกมส์ครั้งที่ 28 ที่ สิงคโปร์ มาครองได้เมื่อ ปี พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา

    "เจ้าทู" ยอมรับว่าแฟนสาวของเขาไม่ได้เป็นแฟนฟุตบอลมาก่อนและก็ไม่ได้คบหากันเพราะได้รับคำแนะนำจากใครอีกด้วย

    แต่ทว่าตัวเขากับแฟนสาวนั้นพบรักกันรู้จักกันในโลกโซเชียล ไอจี หรือ อินสตาแกรม นั่นเอง

    ก่อนจะสานสัมพันธ์กันมาเรื่อยและจากแค่คนรู้จักตอนครั้งแรกกลายมาเป็นคนรักกันในที่สุด

 

    "น้องเมย์" นักธุรกิจสาวชาวพิษณุโลก ที่เป็นเจ้าของเครื่องสำอางแบรนด์ FACE ME ที่ถือเป็นแบรนด์ดัง ระดับยอดขายเดือนละหลักล้าน โดยมีผลิตภัณฑ์ ทั้งเซรั่ม ,คอนลาเจน ,ชาลดน้ำหนัก เล่าให้ฟังว่า "จริงแล้วทูเป็นรุ่นน้องหนูซะอีกเขาจีบหนูทางไอจี เมื่อราวปี 58 ตอนนั้นจำได้ว่า เขากำลังจะไปแข่งซีเกมส์ เขาแนะนำตัวเองนะว่าเขาเป็นนักฟุตบอลไอ้เราก็เฉยๆ นะเพราะปกติแล้วตัวเองไม่เป็นคนที่ชอบดูกีฬาอยู่แล้ว ชอบเรื่องสวยๆงามๆมากกว่าตามสไตล์ผู้หญิง"

    "ปกติที่รู้มาแฟนนักบอลส่วนใหญ่ หากไม่ใช่เป็นเพื่อนนักเตะแนะนำก็เป็นแฟนฟุตบอลแต่สำหรับ "เมย์" กับ "ทู" ไม่ใช่นะ อย่างที่บอกเราจีบกันผ่านทางไอจี ตอนนั้นเราเองไม่ได้คบหากับใครอยู่ เขาคุยสักพักเราเริ่มจับทางได้แล้วว่า เขามาจีบเรา ก็คุยกันมาเรื่อยๆแต่กว่าจะตัดสินใจออกเดทและเป็นแฟนกันก็นานเหมือนกัน"

 

    "น้องเมย์" เล่าให้ฟังอีกด้วยว่า "หนูเคยเอารูปทูให้คุณพ่อดูด้วยนะ ถามคุณพ่อว่า พ่อรู้จักและเคยเห็นหน้านักฟุตบอลคนนี้บ้างมั้ย เพราะพ่อหนูเป็นคนที่ชอบดูฟุตบอลมากทั้งฟุตบอลไทยและฟุตบอลต่างประเทศ"

    "พ่อบอกทำไมจะไม่รู้จักล่ะลูก ไอ้เจ้านี่ล่ะที่กระโดดดีใจ แล้วจังหวะเท้าลงพื้นเลยเจ็บคนนี้ล่ะ พ่อยังถามเลยว่า มีอะไรเหรอลูกตอนนั้นก็ยังไม่ได้บอกคุณพ่อนะว่า "ทู" มาจีบเราค่อยมาบอกทีหลัง"

    "มีเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่อยู่สุโขทัยฯ คนนี้ชอบดูฟุตบอลมากเขาบอกรู้จักสิเป็นนักฟุตบอลทีมชาตินะถือว่าเป็นนักฟุตบอลที่เก่งคนหนึ่ง ทำไมเหรอแก เพื่อนหนูคนนี้ถามก็บอกเขาไปว่า เขามาจีบเราน่ะ เพื่อนก็บอกจริงหรือ ก็ลองดูๆไปละกัน ส่วนใหญ่นักฟุตบอลชอบขายจีบ เราก็ขำๆ ยังหวั่นๆอยู่เลย เพราะเคยได้ยินมาว่า นักฟุตบอลมักจะเจ้าชู้ 555"

 

    แต่พอตัดสินใจคบหากันแล้ว "เมย์" บอกได้เลยว่า "ทู" เป็นคนใจเย็น นิสัยดี เป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบ ทุกอย่าง ตลอดหลายปีที่คบกันมาเขาไม่เคยทำให้เราต้องเสียใจเลย

    ส่วน "เจ้าทู" บอกว่า "เมย์เป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก นอกจากสวยแล้วเขายังขยันทำงานกับธุรกิจของเขาที่ไปได้สวย รายได้เยอะกว่าผมซะอีกต่อเดือน ที่สำคัญ "เมย์" เป็นคนที่ทำอาหารเก่งด้วย เดี๋ยวนี้หายากนะที่จะหาผู้หญิงเข้าครัวเป็น ตรงนี้เรียกว่า เป็นเสน่ห์ปลายจวักสะกดผมอยู่หมัดเลยล่ะ"

 

    "เร็วๆนี้ขอดูฤกษ์งามยามดีก่อนแล้ว จะรีบแจ้งให้ทราบโดยด่วนเลยว่า จะแต่งที่ไหนเมื่อไหร่ แต่คงไม่ได้ได้จัดแบบใหญ่โตอะไร เน้นพิธีแบบไทยๆมากกว่า"

    "หลังจากนั้นก็คงจะรีบปั้นทายาทกันเลย กลัวไม่ทันใช้ 555 จะเป็นผู้หญิงหรือชายก็ได้ทั้งนั้นไม่เกี่ยง คิดว่าจะมีสัก 2-3 คน"

 

เบอร์ไหนถูกใจ “รุ่งโรจน์”

นอกจากจะเป็นนักเตะที่ผ่านการค้าแข้งมาชนิดที่เรียกได้ว่าโชกโชนไม่เบา แต่หากจะถามว่าแฟนบอลยังจำกันได้หรือไม่ว่า "เจ้าโรจน์" รุ่งโรจน์ สว่างศรี เคยใช้ชุดแข่งเบอร์ไหนมาบ้าง วันนี้ทีมงานฟุตบอลสยามมีคำตอบมาฝากไปดูกันเลย

    เบอร์ 8 ธ.กรุงไทย , บางกอกกล๊าส

    สโมสรแรกในการค้าแข้งเป็นนักเตะอาชีพอย่าง ธ.กรุงไทย ที่กลายร่างมาเป็น บีจีปทุม ยูไนเต็ด ในปัจจุบันหรือ บางกอกกล๊าส เอฟซี ในวันวานนั้น รุ่งโรจน์ จะใช้เบอร์ 8 เป็นเบอร์ประจำโดยตลอด รวมถึง ตอนอยู่กับแอร์ฟอร์ซฯ หลังไปเล่นเชียงรายฯ มาก็ใช้เบอร์ ประจำตัวของเขา และทีมสุดท้ายในอาชีพ พ่อค้าแข้ง นั้น "เจ้าโรจน์" ก็ใส่เบอร์ 8 กับ อยุธยา ยูไนเต็ด

 

    เบอร์ 38 กับ "แข้งเทพ", "กว่างโซ่ง"

    ขณะที่หลังเลิกรากับ "กระต่ายแก้ว" แล้วไปเล่นกับ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด นั้น "เจ้าโรจน์" ได้ใช้เบอร์ 38 รวมไปถึงทีมต่อจากแบงค็อกฯ อย่าง เชียงรายฯ ก็ใช้เบอร์เดียวกันนี้

 

    แชมป์ซีเกมส์ 2 สมัย,ยู 19 ใช้เบอร์ 7

    ส่วนเกียรติยศระดับชาติ ที่รุ่งโรจน์ ได้ แชมป์ซีเกมส์ 2 สมัยติดต่อกัน  ครั้งที่ 21 , 22 ปี พ.ศ. 2544,2546 ที่ มาเลเซีย และ เวียดนาม นั้นเขาได้ใส่เบอร์ตำนานกองหลังรุ่นพี่เป็นไอดอลของเขาอย่าง "พี่ดำใหญ่" นที ทองสุกแก้ว นั่นเอง

    ส่วนตอนติด ยู 19 ก็ได้ใส่เบอร์ 7 เช่นกัน

 

    เบอร์ 5 กับทีมชาติไทยชุดใหญ่, ยู19, ยู23

    ขณะที่กับทีมชาติไทย ชุดใหญ่นั้น เขาได้ใส่เบอร์ 5 รวมถึงตอนเล่น ยช. 19,23 ปีก็ได้ใส่เบอร์ 5

 

    เบอร์ 5,13 กับทีมนร.ไทย

     นร.ไทยที่ไปแข่งขัน นร.เอเซีย รุ่น 18 ปีที่ "เจ้าโรจน์" ติดทีม 2 ครั้งหนแรกที่ อินเดีย ใช้เบอร์ 5 และได้แชมป์ที่ เกาหลีใต้ นั้น เข้าใช้เบอร์ 13

 

    เบอร์ 26 กับร.ร.กีฬาสุพรรณบุรี,วัดสุทธิฯ เบอร์ 5

    สมัยเรียน ม.ต้น ที่ ร.ร.กีฬาสุพรรณบุรี นั้น รุ่งโรจน์ สว่างศรี ใช้เบอร์ 26 ส่วนกับวัดสุทธิฯ ตอน ม.ปลาย เขาใส่ เบอร์ 5

ในสายตา’โค้ชเฮง’ตั้งค่าตัว’วรชิต’ไว้เท่าไหร่?

‘โค้ชเฮง’ วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคของ ชลบุรี เอฟซี ระบุในความคิดของตนเอง ฝีเท้าอย่าง ‘วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ’ กองกลางฉลามชล จะต้องมีมูลค่าที่ 40-50 ล้านบาท ในตลาดซื้อขายนักเตะ
    ผู้สื่อข่าวในรายการฟุตบอลไทย วาไรตี้ ได้สอบถามไปยัง ‘เฮงซัง’ ผู้ปลุกปั้น  วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ มาตั้งแต่เป็นผู้เล่นอะคาเดมี่ของชลบุรี เอฟซี จนก้าวขึ้นมาสู้ชุดใหญ่ของทีม ในปัจจุบัน คิดว่าในสายตาของโค้ชเฮง เจ้ายิม ควรมีค่าตัวในตลาดซื้อขายนักเตะที่เท่าไหร่

    "คือ ความเร็วความแข็งแกร่งต้องถูกตัดไป 20 % สมมุติถ้าขายผมคิดว่าเขาน่าจะมีค่าตัวที่ 40-50 ล้าน แต่คนที่แพงกว่าเจ้ายิม น่าจะเป็น กฤษดา กาแมน" – โค้ชเฮง กล่าวถึงนักเตะที่ตัวเองปั้นมาตั้งแต่เยาวชน

    สำหรับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ กองกลางวัย 22 ปี ของชลบุรี เอฟซี ถือเป็นผู้เล่นที่สร้างชื่อเสียงกับทั้งสโมสรและทีมชาติ ผ่านการคว้าแชมป์อาเซียน ในทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ในปี 2015 และ เหรียญทองซีเกมส์ ในปี 2017 อีกทั้งเพิ่งรับใช้ทีมชาติไทยในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในชิงแชมป์เอเชีย 2020 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

 

ได้ฤกษ์รังเหย้า “สวาทแคท” พร้อมใช้งาน 16 มิ.ย.นี้

สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา เตรียมเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ หลังจากปิดปรับปรุงเพื่อใช้จัดกีฬาคนพิการทางการเคลื่อนไหว ทำให้ ทัพสวาทแคท ต้องออกไปเยือนใน 4 เกมแรก ล่าสุด แฟนเพจนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี อัพภาพสนามเตรียมกลับมาเปิดใช้งานอีกครั้ง

    สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถือเป็นสนามกีฬาประวัติศาสตร์ของจังหวัดนครราชสีมา และของประเทศไทย  ซึ่งเคยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24  เมื่อปี 2550 

    และเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา การกีฬาแห่งประเทศไทยได้ทำการปรับปรุงสนามฟุตบอล ซึ่งปัจจุบันเป็นรังเหย้าของทีมสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี หรือ "สวาทแคท" ทีมในศึกไทย1 ลีกสูงสุดของประเทศไทย

    โดยขั้นตอนการปรับปรุงส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนของการแข่งขัน เช่น พื้นสนามหญ้า, เก้าอี้, ไฟส่องสว่าง, เครื่องเสียง, สกอร์บอร์ด, ลู่ยาง และห้องพักนักกีฬา  ด้วยงบประมาณ  160 ล้านบาท  ความจุผู้ชมในสนามได้ติดตั้งเก้าอี้  จำนวน 20,000 ที่นั่ง  ไฟส่องสว่างติดตั้งตามมาตรฐานเอเอฟซี 1,800 ลักซ์

    ในส่วนของพื้นสนามฟุตบอลได้ลอกของเดิมออก ซึ่งเป็นหญ้าพาสพาลัม และเปลี่ยนมาใช้หญ้าซอยเซีย  โดยข้อแตกต่างของพาสพาลัมและซอยเซีย คือพาสพาลัมใช้น้ำเยอะ  หากมีการสนามใช้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะนุ่มมากจนแฉะและเละ  ใบใหญ่กว่า  ปล้องหญ้าจะกลวงกว่าทำให้แตกง่ายและใช้เวลาพักฟื้นนาน 

    ส่วนหญ้าซอยเซีย  มีคุณสมบัติเป็นหญ้าใบตั้ง  ปล้องหญ้าจะเล็กกว่า  มีการเจริญเติบโตรวดเร็ว  ทนต่อความแห้งแล้งและน้ำขังแฉะเป็นครั้งคราว  ทนต่อโรคและแมลงตลอดจนทนต่ออุณหภูมิที่สูงได้ดี  ทนต่อการเหยียบย่ำและฟื้นตัวได้เร็ว  ใบไม่แข็งกระด้าง  ความนุ่มของหญ้ายังช่วยป้องกันการบาดเจ็บของนักกีฬา  ช่วยให้วิ่งได้อย่างราบรื่น  ลูกฟุตบอลเดินทางเร็วขึ้น  ทำให้เกมมีความรวดเร็วและเร้าใจมากขึ้น

    โดยส่วนใหญ่ที่กล่าวมาข้างต้นปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว  และบริษัทผู้รับเหมาได้นัดหมายส่งมอบงานในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้  เหลือเพียงการปรับปรุงภูมิทัศน์อีกเพียงเล็กน้อยก็จะเสร็จสมบูรณ์ และรอการกลับมาของแฟนบอลสวาทแคทเข้าสนามพร้อมเชียร์กระหึ่มกับศึกไทยลีกในเร็ววันนี้

    สำหรับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ลงแข่ง 4 นัด ชนะ 1 แพ้  3 มี 3 คะแนน อยู่อันดับ 12 ของตารางคะแนน ณ เวลานี้

ลูกจ้างร้านข้าวขาหมู ติดทีมชาติ เป็นนายร้อยติดดาว

แบบฉบับของนักฟุตบอลที่มาจากครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำ อยู่กับพ่อและย่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ชีวิตของ "ปริ๊นซ์" รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก น่าจะเป็นแบบอย่างของคนสู้ชีวิตที่ก้าวจากดินมาประดับดาวบนบ่า ด้วยความไม่ท้อและไม่ถอย
    – ชีวิตวัยเด็กที่ อำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา ต้องอยู่กับย่าและพ่อที่ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป งานที่ "ปริ๊นซ์" ต้องทำตอนเด็กคือ ปั้นมะขาม เด็ดมะเขือ ได้วันละ 100 กว่าบาท

    – เนื่องจากฐานะทางบ้านค่อนข้างจน ต้องสวมใส่ผ้าใบเตะ แต่เพราะต้องเล่นบอลโรงเรียนและระดับประชาชน จึงกัดฟันซื้อสตั๊ดมือสองต่อจากเพื่อนและใช้ยาวจนเข้ากรุง

    – ช่วงที่เล่นบอลและเรียนที่ปากช่อง หลังเลิกเรียน รุ่งรัฐ จะขี่รถซาเล้งไปเพื่อจัดร้านขายข้าวขาหมู เพื่อแลกเงินมาให้ครอบครัวได้ใช้จ่าย

    – จบม.ปลายจากปากช่อง เข้ากรุงไปพร้อมกับเงินก้อนสุดท้ายของครอบครัวที่มีให้ 5 พันบาท เพื่อนชวนไปเรียนที่ม.อาร์แบค แต่ไม่ได้ทุนเรียน ต้องกู้ทุน กยศ.ทั้งค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายเดือนละ 2,200 บาท

    – เงิน 5 พันที่ได้ เอาไปซื้ออุปกรณ์ดำรงชีวิต หม้อหุงข้าว พัดลม ฯลฯ และใช้อย่างประหยัดควบคู่กับเงินกู้ กยศ. แม้จะเคยไปสมัครเป็นพนักงานโลตัสแต่เขาไม่รับ งานจ็อบไม่มี บางเดือนก่อนเงินออก 1 วันเหลือแค่ 5 บาท เอาไปซื้อหมูปิ้ง 1 ไม้ กินกับข้าวที่หุงไว้ที่ห้อง เป็นอาหารมื้อเดียวตลอดวัน

    – เคยตระเวณไปคัดสโมสรต่าง ๆ กับเพื่อน 6-7 สโมสร ปรากฏว่าไม่มีที่ไหนรับ เพราะมีคนไปคัดที่ละครึ่งพันคน ได้เล่นแค่ 5 นาที จนอินทรีเพื่อนตำรวจเปิดคัดเยาวชน 19 ปีไปเสริมชุดใหญ่ เพื่อนไปคัดติด ตัวเองไม่ได้ไป โชคดีสโมสรเปิดคัดอีกรอบ คราวนี้ติด ได้เงินก้อนแรกเป็นเบี้ยเลี้ยงวันละ 300 บาท ชีวิตรอดจากการอดแล้ว

    – จากนั้นมีโอกาสเข้าทีมใหญ่ของสโมสร เซ็นครั้งแรกได้เงินเดือน 3 พัน เบี้ยเลี้ยงซ้อมมื้อละ 400 บาท ตกแล้วเกือบหมื่นห้าต่อเดือน ดีใจสุด ๆ ส่งเงินให้ทางบ้าน และเก็บไว้ใช้เอง

    – อยู่กับชุดใหญ่เพื่อนตำรวจแค่ 1 ปี โอกาสได้เล่นน้อย ถูกทาบทามไปเชียงใหม่ ที่อยู่ดิวิชั่น 2 ตกลงไปเล่น 1 ปีย้ายไปลำพูน และกลับมาเชียงใหม่ จนเชียงรายเห็นฟอร์มช่วงอุ่นเครื่องจึงทาบทามไปเล่น ก่อนแจ้งเกิดเต็มตัวและมีโอกาสได้เล่นทีมชาติชุดใหญ่อุ่นเครื่องกับสิงคโปร์และแคเมอรูน ซึ่งเป็นฝันที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นไปได้

    – ชีวิตติดเครื่องได้ติดทีมชาติไปคว้าแชมป์ซีเกมส์ ที่สิงคโปร์ และยังคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016 ขณะที่เส้นทางอาชีพย้ายจากเชียงรายไปอยู่ราชบุรี และมาอยู่กับทรู แบงค็อก ในปัจจุบัน

    – ตอนนี้ชีวิตสลัดพ้นความยากจนและยากลำบาก มีบ้านที่ซื้อให้พ่อกับย่า และซื้อให้แม่ที่แยกทางกับพ่อตั้งแต่เด็ก รวมถึงซื้อรถให้บ้านละคัน รวมถึงบ้านและรถของตัวเอง ที่สร้างฐานะได้เพราะรู้จักเก็บออมตั้งแต่ยังได้เงินเดือนหลักหมื่นต้น ๆ จนมาเป็นหลักแสนในตอนนี้ แถมยังเพิ่งได้ติดยศ ร.ต.ต.จากการรับราชการตำรวจอีกด้วย

    นี่คือชีวิตที่ขึ้นจากดิน จนวันนี้ "ปริ๊นซ์" รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก มีทั้งดาวประดับบ่า และ ทรัพย์สิน เงินทอง ข่วยให้ทางบ้านลืมตาอ้าปากได้ ใครที่เคยผ่านอุปสรรคของชีวิตและท้อแท้ ให้ดูการสู้ชีวิตของ "เจ้าปริ๊นซ์" รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก เป็นแบบอย่างของคนสู้ไม่ถอย

 

แฟนบอลว่าไง ไทยจะใช้โมเดล กาตาร์

เปิดแผนแม่บทพัฒนาฟุตบอล 20 ปีไปไม่นาน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็เตรียมเดินหน้าต่อเกี่ยวกับนโยบายของทีมชาติไทยโดยเฉพาะในระดับเยาวชนทีมชาติไทย

    โดยนโยบายของนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ หลังจากได้มีการประชุมกับฝ่ายพัฒนาเทคนิค ได้เตรียมนำเอา โมเดลการทำทีมเยาวชนของกาต้าร์ มาใช้ นั่นก็คือ การส่งทีมเยาวชนไทยไปแข่งขันตามรายการต่าง ๆ ต่อจากนี้ จะไม่ใช้นักเตะที่อายุเต็มรุ่นอีก

    "ต่อจากนี้ไป สมาคมฟุตบอลฯ จะส่งนักเตะที่อายุน้อยที่ยังไม่โตเต็มรุ่นไปแข่งขันในทุก ๆ รายการ ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจกับแฟนบอลว่า เรามองไปถึงอนาคตของทีมชาติ โดยกาตาร์เองก็เคยทำแบบนี้ และก็ได้เป็นแชมป์เอเชียไปแล้วในตอนนี้ การส่งเด็กไปเพื่อให้พวกเขาสั่งสมประสบการณ์ แต่ก็ยังหวังว่าจะทำผลงานได้ดี แต่ถ้าผลงานไม่ดี พวกเขาจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จนในที่สุดก็สามารถจะสร้างผลงานให้กับทีมได้ดีในปีถัด ๆ ไป"

    แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า ในรายการอย่างซีเกมส์หรือปรีโอลิมปิก ก็จะไม่มีการส่งนักเตะในโควต้าอายุเกินไปแข่งขันด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้นักเตะอายุน้อยได้ลงเล่นเก็บประสบการณ์ได้อย่างเต็มที่ และจะเป็นประโยชน์ต่อทีมชาติที่จะแข็งแกร่งขึ้นในอนาคตด้วย