“โค้ชเตี้ย” ชี้แข้ง “ฉลามชล” ต้องปิดตาย 2 แข้งสิงห์เชียงราย

ความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดที่ 10 ระหว่าง ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 6 เปิดสนาม ชลบุรี สเตเดียม พบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 เวลา 19.00 น.

"ฉลามชล" ฟอร์มดีไม่แพ้ใครมา 3 นัดติด โดยเกมล่าสุดบุกไปเสมอ สุพรรณบุรี เอฟซี ขณะที่ เชียงราย ยูไนเต็ด คว้าชัยในเกมล่าสุด พร้อมทำอันดับขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง

สะสม พบประเสริฐ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ชลบุรี เอฟซี กล่าวว่า "สภาพทีมตอนนี้ถือว่าพร้อม โดยไม่มีใครบาดเจ็บ แต่ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมบ้าง เพราะนักเตะหลายคนเริ่มมีอาการล้า อาจจะมีการโรเตชั่นในบางตำแหน่ง"

"แม้จะได้เล่นในบ้านเกมนี้แต่ก็ถือว่าเหนื่อย เพราะขุมกำลังของเชียงรายฯ ถือว่าเหนือกว่าเราเยอะมาก เขามีทั้งประสบการณ์ และนักเตะทักษะดี การมีศูนย์หน้าบราซิลตัวใหญ่ทำให้มีความหลากหลายในการเข้าทำด้วย"

"เราต้องพยายามเล่นตามแนวทางของเรา และพยายามเพรสซิ่งไม่ให้สองกองหน้ามีเวลาเยอะ ไม่ให้เขาต่อบอลได้ง่าย อาจจะต้องเลือกผู้เล่นที่มีความฟิตและแข็งแรงลงสนามเยอะหน่อย"

"เกมนี้เล่นในบ้าน เด็กๆ ทุกคนอยากจะเล่น แต่เราต้องไม่กลัวเขา ผมยังเชื่อว่าถ้าเด็กเล่นได้ตามที่เราต้องการ อาจจะมี 1 แต้ม หรืออาจจะได้ 3 แต้มก็ได้"

“ทากิ” ยัน “เชียงราย” ไม่สนสถิติ “ฉลามชล” ไร้พ่ายในบ้าน

ความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดที่ 10 ระหว่าง ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 6 เปิดสนาม ชลบุรี สเตเดียม พบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 เวลา 19.00 น.

ทีมเยือน เชียงราย ยูไนเต็ด คว้าชัยในเกมล่าสุด พร้อมทำอันดับขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง ในขณะที่ "ฉลามชล" ฟอร์มดีเช่นกันหลังไม่แพ้ใครมา 3 นัดติด โดยเกมล่าสุดบุกไปเสมอ สุพรรณบุรี เอฟซี 0-0 

มาซามิ ทากิ หัวหน้าผู้ฝึกสอน สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กล่าวถึงความพร้อมว่า "อย่างแรกคือเราต้องวิเคราะห์เกมของเรา รวมถึงมองเกมที่ผ่านๆ มาของชลบุรี ว่าเขามีจุดแข็งจุดอ่อนอย่างไร เราต้องทำการบ้านและเตรียมทีมให้พร้อมที่สุด"

"ส่วนการประสานระหว่าง บิลล์ โรซิมาร์ กับ จาจ้า อยู่ในช่วงดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน ทั้งในส่วนของสภาพร่างกาย และการประสานงานกันเริ่มเข้าขาและสร้างปัญหาให้กับคู่แข่งมากขึ้น"

"การเจอชลบุรี อย่างที่ทราบ พวกเขามีสถิติชนะร้อยเปอร์เซ็นต์ ในบ้านของตัวเอง ซึ่งเกมนี้อย่างน้อยเราต้องมีแต้มไม่ว่าจะ 1 หรือ 3 แต้ม กลับออกมาจากบ้านของพวกเขาให้ได้"

ประจวบฯเล่นในรังหวังปลดล็อกเฮดวลเดือดชลบุรี

"ต่อพิฆาต" พีที ประจวบ ต้องการปลดล็อกชัยรับมือ ชลบุรี เอฟซี ที่ลุ้น เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ คัมแบ็ก ในศึกฟุตบอลไทยลีก นัดที่ 6 ประจำวันอาทิตย์ ที่ 20 ก.ย. 2563

พีที ประจวบ เอฟซี – ชลบุรี เอฟซี

     การแข่งขันฟุตบอล  ไทยลีก 1 เกมนัดที่ 6 วันอาทิตย์ที่ 20 ก.ย. 63   ที่สนามสามอ่าว สเตเดี้ยม จ.ประจวบคีรีขันธ์ เวลา 19.00 น. พีที ประจวบ เอฟซี ที่มี 1 แต้ม จาก 5 นัด ยังไม่ชนะใคร เปิดบ้านรับมือ ชลบุรี เอฟซี ที่มี 9 แต้ม จาก 5 นัด ถ่ายทอดสดช่อง ทรูสปอร์ต 2

ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือใหญ่พีที ประจวบ เกมล่าสุดบุกพ่าย สิงห์ เชียงราย 0-1 เกมนี้ยังต้องเช็กฟิต ภานุวัฒน์ จินตะ มิดฟิลด์ตัวหลักที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในต้นครึ่งหลังของเกมที่แล้ว คาดว่าน่าจะยังไม่พร้อม โดยเกมนี้ทีเด็ดยังคงอยู่ที่ 4 แข้งต่างชาติ อย่าง ยู จุน-ซู ปราการหลังเกาหลีใต้, เอียน แรมซี่ย์, วิลเลี่ยม เอ็นริเก้ และหน้าเป้า วิลเลี่ยม โมต้า 

      ด้าน สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่ชลบุรี เอฟซี ลุ้นเช็กฟิตแค่ตำแหน่งเดียวคือ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ริมเส้นทีมชาติไทยที่ใกล้คืนความฟิต ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหา ทั้ง จูเนียร์ โลเปซ, ภานุพงศ์ พลซา, ดราแกน บอสโควิช รวมถึง แฮร์ลิสัน ไคออน 
 
       สถิติการพบกันของทั้งสองทีมในศึกไทยลีกซีซั่นที่แล้ว เป็นทางฝั่ง ชลบุรี เอฟซี ที่คว้าชัยได้ 2 เกมรวด เลกแรก ชลบุรี เอฟซี ชนะ 3-2 ส่วนเลกสอง พีที ประจวบ แพ้ 0-2 

พีที ประจวบ เปิดขายตั๋วดวลฉลามชล 1000 ใบจันทร์นี้

ก่อนเกมไทยลีก2020-21 นัดที่ 6 ที่ "ต่อพิฆาต" พีที ประจวบ เอฟซี จะเปิดสามอ่าว สเตเดียม ทำศึกกับ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน 2563 เวลา 19.00 น. โดยล่าสุดทีม พีที ประจวบ เอฟซี จะเปิดขายตั๋วให้แฟนบอลเจ้าถิ่นจำนวน 1,000 ใบ ในวันจันทร์ที่ 14 ก.ย.63 ตั้งแต่เวลา 14.00 น.

แฟนบอลสามารถมาซื้อได้ที่ห้องทำการสโมสร บริเวณอัฒจันทร์ฝั่งมีหลังคา สนามสามอ่าว สเตเดียม ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 ถึงวันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563 ตั้งแต่เวลา 09.30 – 12.00 และ 13.00 – 16.00 น.

โดยจะเปิดจำหน่ายวันจันทร์ที่ 14 กันยายนเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป , จำกัดสิทธิ์ต่อผู้ซื้อ 1 ท่าน สามารถซื้อบัตรได้ 2 ใบ , ฝั่งมีหลังคาไม่เปิดจำหน่ายบัตร , ไม่รับการจองผ่านทางเพจสโมสรหากบัตรจำหน่ายล่วงหน้าไม่หมด จะเปิดทำการขายอีกครั้งในวันทำการแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องจำหน่ายบัตรบริเวณหน้าสนามสามอ่าว สเตเดียม

จำนวนบัตรเข้าชม (ราคา 100 บาททุกที่นั่ง) ประกอบด้วย โซน C  50 ใบ , โซน D 100 ใบ , โซน E 750  ใบ , โซน F 100  ใบ ฝั่งทีมเยือน 120 ใบ (จำหน่ายวันทำการแข่งขัน)

ข้อปฏิบัติสำหรับผู้เข้าชมเกมส์การแข่งขัน ประกอบด้วย ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสนาม , ลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่จัดการแข่งขันผ่านแอป "ไทยชนะ" , สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา , หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 70%อย่างสม่ำเสมอ , หากมีอาการบ่งชี้ถึงโรคโควิด-19 หรือ อาการ ไข้ ไอ จาม และอื่นๆ ขอสงวนสิทธิ์ในการงดเข้าชมการแข่งขัน , ขณะเข้าชมการแข่งขันสามารถนั่งรวมกลุ่มกันได้ไม่เกิน 4 คน โดยเว้นระยะห่างจากกลุ่มอื่น 1-2 เมตร , เชียร์โดยใช้เสียงในระดับปกติ ห้ามลุกยืนเชียร์ และไม่อนุญาติให้นำอุปกรณ์การเชียร์ทุกชนิดเข้าสนาม (ยกเว้นผ้าพันคอ)

แซมบ้าคอนเนคชั่น! เมืองทองฮึดรัวครึ่งหลังเจ๊าชลบุรีดุเดือด2-2 ศึกไทยรัฐบิ๊กไฟว์

"กิเลนผยอง" ที่ตามหหลังไปก่อนในครึ่งแรก 2 ประตู ก่อนมาได้ แดร์เลย์ กับ วิลเลี่ยน พ็อพพ์ ทำคนละลูก ช่วยให้ เอสซีจี เมืองทองฯ โชว์ฮึดในครึ่งหลังไล่ตามตีเสมอชลบุรี เอฟซี 2-2 ในศึกศึกไทยรัฐ บิ๊กไฟว์ ปรีซีซั่น คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563

ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม ศึกฟุตบอลอุ่นเครื่อง ‘ไทยรัฐ บิ๊กไฟว์ ปรีซีซั่น’ ประจำวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ย.63 ระหว่าง ‘กิเลนผยอง’ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ ‘ฉลามชล’ ชลบุรี เอฟซี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนไทยลีก 2020 กลับมารีสตาร์ทในวันเสาร์ที่ 12 ก.ย.63 นี้

ทั้งสองทีมเพิ่งเจอกันมาในศึกไทยลีก 2020 นัดที่ 4 เมื่อวันที่ 1 มี.ค.63 ซึ่งผลปรากฎว่า เอสซีจี เมืองทองฯ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูชัยของ แดร์เลย์ ในนาทีที่ 18 ของเกม ก่อนที่ลีกสูงสุดของเมืองไทยจะพักการแข่งขันจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด

สำหรับรายชื่อผู้ตัดสินที่ลงทำหน้าที่ในเกมนี้ประกอบด้วย ผู้ตัดสิน : วิเชษฐ์ เทียนทอง, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 : กิตติภณ มีพร, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 : นิสสัน จันทร์เทพ และผู้ตัดสินที่ 4 : วิชาญ กลิ่นถาวร

เริ่มเกมมาเพียง 5 นาที เป็นทางฝั่งของ ชลบุรี ได้ลุ้นประตูก่อนจากจังหวะที่ นพนนท์ คชพลายุกต์ เปิดบอลจากด้านขวาก่อนเป็น แฮร์ริสัน ไคออน ได้จังหวะขึ้นโหม่งโล่งๆ บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว

หลังจากนั้นอีก 3 นาที  วัฒนา พลายนุ่ม ที่กำลังเคลียบอลจากในกรอบเขตโทษของตัวเอง แต่บอลไปติด ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ได้จังหวะเก็บบอล ก่อนแตะหลบ วัฒนา พลายนุ่ม แล้วได้จังหวะยิงบอลผ่านมือของ ดัง วาน ลัม เข้าประตูไป ช่วยให้ ชลบุรี เอฟซี ออกนำ เอสซีจี เมืองทองฯ 1-0

นาทีที่ 18 เจ้าถิ่นเดินหน้าบุกอย่างหนัก ก่อนที่จะเป็น พิชา อุทรา รับหน้าที่เปิดเตะมุมเข้ามา แล้วเป็น ไดสุเกะ ซาโตะ ได้จังหวะโหม่งๆโล่งๆ แต่บอลหลุดออกหลังไป

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 39 ทีมเยือนได้จังหวะวางบอลยาวจากกลางสนาม ก่อนเป็น แฮร์ริสัน ไคออน ได้จังหวะเอาบอลลงทางด้านซ้าย ก่อนเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษ แล้วจ่ายบอลผ่านหน้าประตูไปทางเสาสอง แล้วเป็น ดราแกน บอสโควิช วิ่งเข้ามายิงโล่งๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ ชลบุรี เอฟซี นำห่างเอสซีจี เมืองทองฯ 2-0

หลังจากนั้นทั้งสองทีมพลัดกันทำเกมรุก เพื่อหวังทำประตูเพิ่ม แต่ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน ครึ่งแรก เอสซีจี เมืองทองฯ ตามหลัง ชลบุรี เอฟซี 0-2

เริ่มครึ่งหลังมาเพียงนาทีเดียว เจ้าถิ่นเดินหน้าบุกเข้าใส่ ก่อนเป็น แดร์เลย์ ได้จังหวะล็อคบอลหลบ กฤษดา กาแมน ในเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิง บอลผ่านมือ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เข้าประตูไป ช่วยให้ เอสซีจี เมืองทองฯ ไล่ตาม ชลบุรี เอฟซี 1-2

หลังจากนั้น เกมดำเนินถึง นาทีที่ 53 เจ้าถิ่นได้จังหวะบุกทางด้านขวา ก่อนที่ เพชรรัตน์ โชติปาละ เปิดบอลจากด้านขวาเข้าไป แล้วเป็นกองหลังชลบุรี เคลียร์บอลไม่ดี บอลไปเข้าทาง วิลเลี่ยน พ็อพพ์ ได้จังหวะยิงโล่งๆ เข้าไป ช่วยให้ เอสซีจี เมืองทองฯ ตามตีเสมอ ชลบุรี เอฟซี 2-2

ช่วงท้ายเกมในนาทีที่ 82 เอสซีจี เมืองทองฯ ได้จังหวะบุก ก่อนเป็น วิลเลี่ยน พ็อพพ์ พาบอลหลุดเข้ามาตรงกลางก่อนปาดไปให้กับ แดร์เลย์ ที่ยืนรอโล่งๆอยู่ฝั่งขวาในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ แดร์เลย์ จะหลบหนึ่งจังหวะและปั่นด้วยซ้าย บอลกำลังจะเข้าอยู่แล้ว ทว่า จูเนียร์ โลเปซ กองหลังของชลบุรี ยังตามมาสกัดไว้ได้ทันควัน

หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน  เอสซีจี เมืองทองฯ เสมอกับ ชลบุรี เอฟซี แบบสุดมัน 2-2 ในศึกฟุตบอลไทยรัฐ บิ๊กไฟว์ ปรีซีซั่น คัพ

สำหรับโปรแกรมไทยลีก 2020 นัดที่ 5 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน สุโขทัย เอฟซี ในวันเสาร์ที่ 12 ก.ย.63 ที่สนามทะเลหลวง สเตเดี้ยม จ.สุโขทัย เวลา 20.00 น. ส่วนชลบุรี เอฟซี จะเปิดบ้านพบกับ ตราด เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ย.63 ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม จ.ชลบุรี เวลา 18.00 น.

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : ดัง วาน ลัม (ผู้รักษาประตู), สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ (เพชรรัตน์ โชติปาระ แทน น.66), สรวิทย์ พานทอง (อติคุณ มีท้วม แทน น.79), ศฤงคาร พรหมสุภะ (ชาติชาย แสงดาว แทน น.85), วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (วัฒนากร สวัสดิ์ละคร แทน น.46), วิลเลี่ยน พ็อพพ์, ไดสุเกะ ซาโตะ (ปรเมศย์ อาจวิไล แทน น.46), พัชรพล อินทนี, วัฒนา พลายนุ่ม (มาร์โก้ บัลลินี่ แทน น.79), แดร์เลย์, พิชา อุทรา (วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ น.46)

ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (ผู้รักษาประตู), นพนนท์ คชพลายุกต์, คาร์ลี่ เดอ มูร์ก้า (ทรงชัย ทองฉ่ำ แทน น.76), กฤษดา กาแมน, แฮร์ริสัน ไคออน (นิรันดร์ มีมาก แทน น.88), สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ (ภาณุพงศ์ พลซา แทน น.38), คาซูโตะ คูชิดะ, ดราแกน บอสโควิช (ธีรเทพ วิโนทัย แทน น.76), จูเนียร์ โลเปซ (ธีรพงศ์ ดีหามแห แทน น.88), ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (สัมพันธ์ เกษี แทน น.58), ชาญณรงค์ พรหมศรีแก้ว

โปลิศยวบเกร็ก ฮูล่าส่อพลาดบู๊ไทยลีก 3 เกมแรก

"เกร็ก ฮูล่า" ส่อพลาดช่วยโปลิศ เทโร เอฟซี บู๊ 3 เกมแรก หลังได้คิวกลับไทย 14 ก.ย.นี้ แถมยังต้องกักตัวต่ออีก 14 วัน

ความเคลื่อนไหวของโปลิศ เทโร เอฟซี ที่มี 9 คะแนนจาก 4 เกมแรก ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงเตรียมทีมที่จะกลับมาแข่งขันไทยลีก 2020 ล่าสุดต้องพบกับข่าวร้ายเมื่อ เกร็ก ฮูล่า ริมเส้นความเร็วสูงยังไม่สามารถเดินทางจากประเทศฝรั่งเศสมายังประเทศไทยได้ โดยจะพลาด 3 เกมแรกของโปลิศ เทโร ในช่วงกลับมาแข่งขันเดือนกันยายนนี้

โดย เกร็ก ฮูล่า เดินทางกลับไปยังประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่ช่วงโควิด-19 และยังไม่สามารถหาตั๋วเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้ ซึ่งล่าสุดมีการรายงานว่า แข้งผิวสีรายนี้จะเดินทางในวันที่ 14 กันยายน ถึงประเทศไทย 15 กันยายน และกักตัวอีก 14 วัน ทำให้จะพลาดช่วง 3 เกมแรกของไทยลีกที่จะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง ประกอบไปด้วย เยือนการท่าเรือ วันที่ 13 ก.ย. 63, เปิดบ้านพบราชบุรี มิตรผล 19 ก.ย. 63 และเปิดบ้านพบชลบุรี 26 ก.ย. 63

ตราดเปิดตัว “มุสตาฟา อาซัดซอย” เสริมแกร่งแดนกลาง

สต๊าฟโค้ชเพื่อหารือถึงสถานการณ์ของทีมและเป้าหมายในการแข่งขันในฤดูกาล 2020 ที่จะเริ่มแข่งขันในนัดที่ 5 ในวันที่ 12 กันยายน 2563 นี้ และพร้อมประกาศที่จะสู้อย่างเต็มที่เพื่อให้ทีมอยู่รอดในปีนี้ให้ได้

ล่าสุดได้มีการเปิดตัวผู้เล่นต่างชาติเข้ามาเสริมเพิ่มเติมอีกรายคือ มุสตาฟา อาซัดซอย มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงดีกรีทีมชาติอัฟกานิสถาน ซึ่งผ่านเวทีการเล่นในฟุตบอลลีกเมืองไทยมาอย่างโชกโชนกับทีมอย่าง นรา ยูไนเต็ด ปี 2016, ชัยนาท ฮอร์นบิล ปี 2016-17, เชียงราย ยูไนเต็ด ปี 2017 (เชียงใหม่ เอฟซี ยืมตัว ปี 2017-2019) และ นครปฐม ยูไนเต็ด ในช่วงต้นซีซั่น 2020 ก่อนจะตัดสินใจย้ายมาร่วม ตราด เอฟซี   

โดยทางนายกวิเชียร ได้กล่าวถึงการดึงตัว มุสตาฟา อาซัดซอย มาร่วมทัพว่า "ช่วงที่ผ่านมาเราปล่อยนักเตะที่ถือว่าเป็นผู้เล่นสำคัญออกไป อีกทั้งยังพลาดการได้ตัวนักเตะที่เราหมายปองเอาไว้อย่างน่าเสีย  แต่ทุกคนในทีมก็ทำงานหนักเพื่อให้ทีมมีความแข็งแกร่งมากที่สุด สำหรับการเดินหน้าสู้กับทีมร่วมลีก ซึ่งผมยังเชื่อว่าการร่วมกันทำงานด้วยสปิริตของทีม และการสนับสนุนแรงเชียร์ที่ดีของแฟนบอลจะทำให้ทุกคนในทีมสู้จนนาทีสุดท้าย และประสบความสำเร็จสร้างความสุขอย่างที่เราคาดหวังเอาไว้"

สำหรับทีมตราด เอฟซี ผ่านการลงสนามมา 4 นัดก่อนที่การแข่งขันไทยลีก 1 จะเลื่อนเพราะพิษไวรัสโควิด -19 โดยอยู่อันดับสุดท้ายของตารางยังไม่มีแต้ม ซึ่งจะมีโปรแกรมกลับมาลงสนามอีกครั้งนัดที่ 5 บุกไปเยือน ชลบุรี เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน 2563 เวลา 18.00 น.

ในสายตา’โค้ชเฮง’ตั้งค่าตัว’วรชิต’ไว้เท่าไหร่?

‘โค้ชเฮง’ วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคของ ชลบุรี เอฟซี ระบุในความคิดของตนเอง ฝีเท้าอย่าง ‘วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ’ กองกลางฉลามชล จะต้องมีมูลค่าที่ 40-50 ล้านบาท ในตลาดซื้อขายนักเตะ
    ผู้สื่อข่าวในรายการฟุตบอลไทย วาไรตี้ ได้สอบถามไปยัง ‘เฮงซัง’ ผู้ปลุกปั้น  วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ มาตั้งแต่เป็นผู้เล่นอะคาเดมี่ของชลบุรี เอฟซี จนก้าวขึ้นมาสู้ชุดใหญ่ของทีม ในปัจจุบัน คิดว่าในสายตาของโค้ชเฮง เจ้ายิม ควรมีค่าตัวในตลาดซื้อขายนักเตะที่เท่าไหร่

    "คือ ความเร็วความแข็งแกร่งต้องถูกตัดไป 20 % สมมุติถ้าขายผมคิดว่าเขาน่าจะมีค่าตัวที่ 40-50 ล้าน แต่คนที่แพงกว่าเจ้ายิม น่าจะเป็น กฤษดา กาแมน" – โค้ชเฮง กล่าวถึงนักเตะที่ตัวเองปั้นมาตั้งแต่เยาวชน

    สำหรับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ กองกลางวัย 22 ปี ของชลบุรี เอฟซี ถือเป็นผู้เล่นที่สร้างชื่อเสียงกับทั้งสโมสรและทีมชาติ ผ่านการคว้าแชมป์อาเซียน ในทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ในปี 2015 และ เหรียญทองซีเกมส์ ในปี 2017 อีกทั้งเพิ่งรับใช้ทีมชาติไทยในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในชิงแชมป์เอเชีย 2020 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

 

“เรานี่กระจอกจัง”วันที่ผมร้องไห้ สู้เพื่อพ่อ แต่เกือบไปต่อไม่ได้

เรื่องราวของนักเตะที่เคยโด่งดังแต่เด็ก ถูกคัดเลือกไปฝึกฟุตบอลที่อังกฤษ กับเอฟเวอร์ตัน “เจ้าดวง”นฤพนธ์ อารมณ์สวะ คือหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองในเวลานั้น
    จบจากอัสสัมชัญธนบุรี เข้าไปอยู่ราชประชากับเพื่อน ๆ รวมทั้ง “มุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดา ก่อนจะมีโอกาสได้ไปเล่นอาชีพในเอสลีก สิงคโปร์ กับโฮม ยูไนเต็ด 2 ปี ได้เงินมาดาวน์รถฮอนด้า แอคคอร์ด 1 ล้านบาทตอนกลับมา

    ย้ายกลับมาเล่นเมืองไทย ประเดิมกับทีมใหญ่อย่าง เอสซีจี เมืองทอง เล่นได้ 2 ปี ก่อนไปเทโรฯ ครึ่งปี มีอาการเจ็บหลังจนเล่นไม่ได้ จากนั้นชีพจรลงเท้า ไปเล่นให้ราชบุรี ปีครึ่ง และย้ายกลับมาเล่นเทโรฯ อีก 1 ปี

    อยู่แต่ละที่ไม่เคยเกิน 2 ปี จากเทโรฯ คราวนี้ไปบุรีรัมย์ ฟอร์มกำลังเข้าที่เข้าทาง ดันเกิดอาการเจ็บเข่าถึงขั้นต้องผ่า รักษาตัวอยู่นาน สุดท้ายถูก ชลบุรี ยืมตัวมา ปรากฏว่า ชลบุรีต้องมารักษา “เจ้าดวง”นฤพนธ์ ทั้งปี เพราะแม้จะผ่าไปแล้ว แต่เวลาซ้อมหรือเล่นจะมีอาการระบมตลอด

    ช่วงเวลาที่ไม่ได้ลงเล่นและต้องรักษาตัว คือช่วงเวลาที่จิตตกที่สุด ถึงขนาดคิดอยากเลิกเล่น เพราะทำอย่างไรเข่าก็ไม่หาย แต่ก็เกิดความสะท้อนใจเมื่อเห็นคุณพ่อต้องมาคอยนั่งทายา ประคบเข่าให้ จนเจ้าตัวถึงกับร้องไห้และด่าตัวเองว่า ทำไมเรามันกระจอกจัง” พ่อทำให้เราขนาดนี้ ยังคิดจะทำให้พ่อผิดหวัง

    เมื่อกลับมาฮึดใหม่ แต่ปัญหาคือ อยู่ที่ชลบุรีไม่มีผลงาน เพราะเจ็บยาว ความหมดหวังเริ่มคืบคลานมา สุดท้ายมีอัศวินม้าขาวร่างยักษ์อย่าง มิลอส โจซิค ที่เคยร่วมงานกันมาตั้งแต่เอสซีจี เมืองทอง และคอยสอบถามข่าวคราวของ “เจ้าดวง”ตลอด ครั้งนี้ก็สอบถามนักฟิตเนสทีมชลบุรี ที่รู้จักกันว่า “ดวง เป็นอย่างไร”

    จริง ๆ แล้ว มิลอส โจซิค เคยอยากได้ นฤพนธ์ มาแล้วหลายครั้ง แต่โอกาสไม่พอดีกัน จนครั้งนี้ “เจ้าดวง”เหมือนได้เกิดใหม่ เมื่อมิลอส ชวนไปอยู่โคราช หนนี้เจ้าตัวกลับมาเข้าที่เข้าทาง เข่าเริ่มหายสนิท ปล่อยฟอร์มเด่นได้เต็มที่และจนถึงตอนนี้ย่างเข้าปีที่ 4 กับโคราช ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดในการเล่นให้กับทุกสโมสรที่ผ่านมาของ “เจ้าดวง”ด้วย

    ปัจจุบัน “ดวง”นฤพนธ์ ในวัย 31 ปีเพิ่งได้ลูกสาวน้อง ลลิล มาเป็นสมาชิกใหม่ต่อจากลูกชายคนแรก ณพล