พร้อมแล้ว !! เอดินสัน คาวานี่ ฟิตเต็มถังลุ้นยิง เชลซี แม็กไกวร์ กรีนวู้ด คืนทีม

      เอดินสัน คาวานี่ ศูนย์หน้าป้ายแดง แมนยู ลุ้นประเดิมสนามเกมแรกหลังมีรายชื่ออยู่ในทีมชุดเปิดบ้านรับมือ เชลซี โปรแกรมบอล พรีเมียร์ลีก เสาร์นี้ หลังพลาดเกมกับ เปแอสเช ช่วงกลางสัปดาห์ จากการรายงานของ Metro สื่อชื่อดังต่างประเทศ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2563

        แมนยู ที่เพิ่งคืนฟอร์มเก่ง หลังผลบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาบุกไปเอาชนะ เปแอสเช ได้ถึงถิ่น 2-1 และโปรแกรมบอล พรีเมียร์ลีก เสาร์นี้ทีมปีศาจแดงมีคิวเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำศึกบิ๊กแมตช์กับ เชลซี โดยศูนย์หน้าป้ายแดงอย่าง เอดินสัน คาวานี่ ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนาม

        ดาวยิงวัย 33 ปี พลาดการลงเล่นกับทีมเก่าของเขาช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากสภาพร่างกายยังไม่สมบูรณ์ แต่สำหรับเกมในสุดสัปดาห์นี้ เอดินสัน คาวานี่ พร้อมแล้วที่จะลงสนามเป็นเกมแรกในสีเสื้อปีศาจแดง เช่นเดียวกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ เมสัน กรีนวู้ด ที่พลาดเกมกับ เปแอสเช มาด้วยเช่นกัน

        "ผมหวังว่าพวกเขาทั้งสามคนจะฟิตสมบูรณ์และพร้อมที่จะเป็นตัวเลือกในเกมกับทีมสิงห์บลูส์สุดสัปดาห์นี้ แน่นอนว่าเรามีการฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายเพื่อเตรียมตัวซึ่งพวกเขาทุกคนล้วนมีโอกาสที่จะได้ลงสนาม เอดินสัน จะต้องฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ให้ครบ เช่นเดียวกับ เมสัน และ แฮร์รี่ ซึ่งมันผ่านไปได้ด้วยดี" โซลชาร์ กล่าว

        ทั้งนี้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ยังคงติดโทษแบนอยู่ ทำให้สตาร์ทีมชาติอุรุกวัยมีลุ้นออกสตาร์ตเป็นตัวจริงกับ เชลซี โดยคาดว่ากุนซือชาวนอร์เวย์จะใช้แผนการเล่นเดียวกับเกมที่บุกชนะทีมแชมป์ลีกเอิง

จบกันไม่ได้เอง!โซลชาแอบเสียดายแมนยูแค่เจ๊าเชลซี

 

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รู้สึกเสียดายเล็กๆ ที่ "ปีศาจแดง" ทำได้แค่เปิดบ้านเจ๊า เชลซี 0-0 เชื่อทั้งสองทีมต่างล้ามาจากเกมยุโรป
     โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่า ทีมตนสร้างโอกาสทำประตูได้มากพอที่จะเป็นฝ่ายชนะ หลัง "ปีศาจแดง" ทำได้แค่เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสมอ เชลซี 0-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดบิ๊กแมตช์ เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา

     เกมนี้ไม่มีการทำประตูเกิดขึ้น แต่เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีโอกาสได้ลุ้นมากกว่า แถมเป็นโอกาสสวยๆ ถึง 2-3 หนด้วย ทว่าไม่สามารถส่งบอลผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ นายทวารจอมหนึบของ เชลซี ได้ โดยเฉพาะจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ยิงเน้นๆ ช่วงท้ายเกม

     "ทั้งสองทีมต่างเพิ่งลงเตะเกมยุโรปมา และผมก็คิดว่า มันส่งผลให้เห็นบ้างเล็กน้อยกับการเล่นทั้งสองทีมช่วงครึ่งแรก ช่วงครึ่งหลังเราพยายามกันอย่างหนัก ซึ่งถ้าหากมีแฟนบอลเต็มอัฒจันทร์ฝั่ง สเตรทฟอร์ด เอนด์ ล่ะก็ เราคงจะทำประตูได้ไปแล้ว เพราะเราสร้างโอกาสได้หลายครั้ง ซึ่งอาจจะมากพอที่จะเป็นฝ่ายชนะด้วย ส่วนเกมรับก็เล่นกันได้ดี ถือเป็นสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา กับผลงานชนะสอง และเสมอหนึ่ง" โซลชา กล่าวหลังเกม

     ผลเจ๊าจากเกมนี้ทำให้ "ปีศาจแดง" มีคะแนนเพิ่มเป็น 7 แต้ม จากการลงแข่ง 5 นัด รั้งอันดับ 15 ส่วน เชลซี อยู่ที่หก มี 9 แต้ม จาก 6 นัด

ลงตัว!แกรี่เผยโซลชาอาจเลือกถูก3หนุ่ม3มุมแผงมิดฟิลด์

แกรี่ เนวิลล์ ระบุ การจับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด เป็นตัวจริงร่วมกันอาจจะเป็นการเลือกที่ถูกต้องของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะมันทำให้เกมรับเหนียวแน่นขึ้นจนเสียเพียง 2 ลูกใน 3 นัดหลังสุด ต่างกับ 5 เกมแรกที่เสียไปถึง 11 ประตู พร้อมชี้ว่าแท็คติกแบบนี้ก็เคยส่งผลดีกับ โซลชา มาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน
    แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแบ็กขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความเห็นว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" อาจจะทำถูกแล้วที่จัดให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด ลงเล่นเป็นตัวจริงร่วมกัน เพราะมันทำให้เกมรับของทีมดีขึ้น

    โซลชา โดนตั้งคำถามถึงเรื่องการจัดทีมเยอะพอตัวในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่ส่งทั้ง ปอล ป็อกบา กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เป็นตัวจริง และเลือกใช้งาน บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ รวมถึง เฟร็ด เป็น 3 ประสานในแดนกลางตั้งแต่ต้นเกมในช่วง 3 นัดหลังสุด แต่มันก็ทำให้พวกเขาชนะ 2 เกมกับเสมอ 1 นัด รวมถึงเสียเพียง 2 ประตูเท่านั้น ต่างกับ 5 เกมก่อนหน้านั้นที่เสียไปถึง 11 ประตูและแพ้ 2 เกมแบบฟ้ากับเหว

    เนวิลล์ เผยว่า "ถ้าคุณลองดูเกมนัดเปิดฤดูกาลของ แมนฯ ยูไนเต็ด (แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-3) แล้วล่ะก็ คุณก็จะเห็นว่าพวกเขาเคยให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ยืนคู่กับ ป็อกบา ในตำแหน่งกลางสนาม ประเด็นคือ ป็อกบา เป็นนักเตะที่สไตล์การเล่นต่างจากทั้ง เฟร็ด, แม็คโทมิเนย์ และ เนมานย่า มาติช อย่างสิ้นเชิง ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาโดนเล่นงานได้ง่ายตามไปด้วย"

    "ป็อกบา กับ แฟร์นันด์ส ต่างก็เป็นพวกที่เน้นเกมรุกเป็นหลัก ทั้งคู่ต่างก็คิดถึงการสร้างโอกาสทำประตูรวมถึงการยิงประตูเองมากกว่าการเล่นเกมรับ มันทำให้แนวตรงหน้าแผงหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือกองกลางที่ช่วยเกมรับแค่คนเดียว ซึ่งมันก็ทำให้วันนั้น พาเลซ ฉีก แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นชิ้นๆ แนวรุกของคู่แข่งไปถึงแผงแบ็กโฟร์ง่ายเกินกว่าที่ควรจะเป็นมากๆ แถมยังเกิดชอตแบบนั้นเยอะเกินไปด้วย ซึ่งเดิมที 2 เซนเตอร์แบ็กของพวกเขาก็ไม่ใช่พวกที่เก่งในเรื่องการดวลตัวต่อตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ไม่มีความเร็วตั้งแต่แรก"

    "หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีเกมที่ปล่อยให้คู่แข่ง (หมายถึงเกมลีกที่ชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-2) ได้ยิงหลายหน ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะเจอวันที่เลวร้ายในเกมกับ ท็อตแน่ม  ที่พวกเขาแพ้แบบขาดลอย 1-6"

    "คำถามคืออะไรที่มันแตกต่างออกไปหลังจากพ้นโปรแกรมเกมทีมชาติไปแล้ว ? นั่นก็คือ โอเล่ กลับไปจัดทีมตามแบบที่ช่วยให้เขาทำผลงานได้ดีเมื่อฤดูกาลก่อน ซึ่งได้แก่การทำให้เกิดกรอบสี่เหลี่ยมในด้านเกมรับอันประกอบไปด้วย วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แม็กไกวร์, เฟร็ด, แม็คโทมิเนย์ ทั้งหมดต่างก็เป็นนักเตะประเภทที่เน้นเกมรับเป็นหลัก พวกเขาต่างก็เข้าหาบอลได้เร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 กองกลาง (หมายถึง เฟร็ด กับ แม็คโทมิเนย์) ที่ยืนอยู่หน้าคู่เซนเตอร์แบ็ก"

    "ดังนั้นทุกครั้งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนคู่แข่งบุกใส่ และบอลไปถึงแผงกลางของ เชลซี แล้วน่ะ พวกเขาเหล่านั้นต่างก็พุ่งเข้าใส่นักเตะของ เชลซี อย่างรวดเร็ว การใช้แท็กติกนี้ยังช่วยทำให้ อารอน วาน-บิสซาก้า กับ ลุค ชอว์ ฟูลแบ็กทั้ง 2 ข้างของ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นแบบดุดันได้ด้วย โดยที่กองกลางทั้ง 2 คนก็เล่นแบบดุดันในพื้นที่ของพวกเขา พวกเขาทำงานร่วมกันได้ดี และมันก็ทำให้ ลินเดอเลิฟ กับ แม็กไกวร์ ซึ่งเป็น 2 กองหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนเล่นงานน้อยลงเช่นกัน"

    "สำหรับผมแล้วมันแทบจะเหมือนกับว่า โอเล่ คิดว่า -ฉันต้องกลับไปสู่พื้นฐานที่ดีซะแล้ว ฉันจะเสียประตูมากมายก่ายกองต่อไปไม่ได้- แน่นอนว่าเขามีปัญหากับเรื่องการจัดทีมในกรณีของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กับ ป็อกบา (ที่ไม่ได้เป็นตัวจริง) แต่สัปดาห์นี้เขากลับไปสู่พื้นฐานของตัวเอง และมันทำให้คู่แข่งเล่นงานพวกเขาได้ยาก พร้อมกับส่งผลให้ทีมเสียประตูน้อยลง และโดนคู่แข่งยิงใส่น้อยกว่าเดิมตามไปด้วย"

ขึ้นเลย!คูมันเซ็งVARทำบาร์เซโลน่าพ่ายเรอัลมาดริด

โรนัลด์ คูมัน กุนซือ บาร์เซโลน่า สุดเซ็งกับ VAR หลังพ่าย เรอัล มาดริด คาบ้าน 1-3 พร้อมชี้ "ราชันชุดขาว" ไม่ควรได้ลูกจุดโทษช่วงกลางครึ่งหลัง
    
โรนัลด์ คูมัน เฮดโค้ชชาวดัตช์ของ บาร์เซโลน่า กล่าวตำหนิการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน รวมถึง VAR หลังจากที่ บาร์ซ่า เปิดรัง คัมป์ นู แพ้ เรอัล มาดริด คู่ปรับตลอดกาล 1-3 ในศึก ลา ลีกา สเปน นัด "เอล กลาซิโก" เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา

เรอัล มาดริด ขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 5 จากการยิงของ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ทว่าหลังจากนั้นแค่ 3 นาที บาร์เซโลน่า ตีเสมอเป็น 1-1 ได้ จากการยิงระยะเผาเขาของ อันซู ฟาติ อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 63 "ราชันชุดขาว" ขึ้นนำอีกครั้ง จากการสังหารลูกจุดโทษเข้าไปของ เซร์คิโอ รามอส ซึ่งจังหวะนี้ คูมัน ไม่เห็นด้วย และเชื่อว่า รามอส เป็นคนทำฟาวล์ใส่ เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ ก่อนด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ หลังเช็คภาพช้าจาก VAR เรียบร้อย ซึ่งหลังจากนั้นในนาทีที่ 90 "ราชันชุดขาว" มาได้ประตูปิดท้าย จากการยิงของ ลูก้า โมดริช 

"ผมเองก็ไม่เข้าใจ VAR เหมือนกัน ผมคิดว่า มันเหมือนถูกนำมาใช้เพื่อตัดสินคัดค้าน บาร์ซ่า เท่านั้น ผมว่าจังหวะนั้น รามอส ฟาวล์ใส่ ล็องเล่ต์ ก่อนด้วยซ้ำ แน่นอนว่า มันมีการดึงเสื้อเกิดขึ้น แต่มันก็ไม่ได้แรงพอที่จะทำให้เขาล้มลงหรอก สำหรับผมแล้ว มันไม่ควรเป็นลูกจุดโทษ" คูมัน กล่าว

การปราชัยครั้งนี้ทำให้ บาร์เซโลน่า ยังคงมีแค่ 7 แต้ม จากการลงแข่ง 5 นัด รั้งอันดับ 12 ในตารางคะแนน ลา ลีกา

 

โอเว่น-พ่อมดฟันธงสกอร์เกมเอฟเวอร์ตันปะทะลิเวอร์พูล

ไมเคิ่ล โอเว่น และ แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ฟันธงเกม เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ ลิเวอร์พูล ชัยชนะจะตกเป็นของฝั่งสีน้ำเงินหรือสีแดง

แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ตำนานนักเตะพ่อมดของ เซาธ์แฮมป์ตัน เชื่อว่า เอฟเวอร์ตัน จะสู้กับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างสนุกในเกม เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคมนี้ (18.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย) เนื่องจากนักเตะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" กำลังอยู่ในช่วงมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม

ในฤดูกาลนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลียน พา เอฟเวอร์ตัน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าชัยชนะในลีก 4 นัดติดมี 12 คะแนนเต็มขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของตาราง ขณะที่ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า รั้งอันดับ 5 มี 9 คะแนน ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" มีโอกาสคว้าชัยเหนือคู่แข่งร่วมเมือง หลังชนะหนสุดท้ายต้องย้อนไปถึงเดือนตุลาคม ปี 2010

เลอ ทิสซิเอร์ แสดงความเห็นผ่านรายการ แกรี่ นิวบอน สปอร์ตส์ โชว์ ว่า "ผมคิดว่า นี่จะเป็นเกมที่สวยงามมากสุดในรอบหลายปีหลังจาก เอฟเวอร์ตัน ออกสตาร์ตซีซั่นได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้ ผมคิดว่า พวกเขาจะลงเล่นด้วยความเชื่อมั่นมากกว่าครั้งไหนในเกมเมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ ของพวกเขา"

"ขณะที่ ลิเวอร์พูล กำลังไม่ได้อยู่ในช่วงมีความมั่นใจหลังจากพวกเขาโดน แอสตัน วิลล่า ถล่มยับ ผมคิดว่า เกมนี้จะมีการทำประตูกันหลายลูก และคิดว่า สกอร์น่าจะจบลงอย่างการเสมอกันไป 2-2" ตำนานแข้ง "นักบุญ" เผย

ด้าน ไมเคิ่ล โอเว่น ตำนานกองหน้า ลิเวอร์พูล เชื่อว่า "หงส์แดง" จะบุกไปเก็บชัยชนะได้อย่างเฉียดฉิว และน่าจะเป็นเกมที่เล่นกันได้อย่างสนุกสูสี หลังเจ้าถิ่นเปิดฉากซีซั่นยอดเยี่ยม

"นี่จะเป็นเกมเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้ที่เราตั้งตารอคอยมากสุดในรอบหลายปี เอฟเวอร์ตัน ออกสตาร์ตได้เยี่ยม ขณะที่ ลิเวอร์พูล ต้องเจอความเจ็บปวดหลังแพ้ แอสตัน วิลล่า ถึง 2-7 มันมีโอกาสเป็นเกมคลาสสิก อย่างไรก็ตาม สุดท้ายผมเชื่อว่า ลิเวอร์พูล จะเฉือนได้อย่างหวุดหวิด 2-1" โอเว่น ให้ความเห็นผ่าน เบต วิคเตอร์

คล็อปป์เหน็บคาร์ร่าคิดแบบนี้ถึงไม่มีโอกาสทำงานคุมทีม

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล เหน็บแนม เจมี่ คาร์ราเกอร์ ว่าแสดงความเห็นที่ผิดๆ จนทำให้เป็นเหตุผลที่ทำให้ คาร์ราเกอร์ ไม่มีโอกาสมาทำงานคุมทีม หลังจากที่ คาร์ราเกอร์ เหมือนกับจะเคยบอกว่า "หงส์แดง" ทำพลาดที่ไม่เสริมทัพในตำแหน่งกองหลังในตลาดรอบล่าสุด
    เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหน็บ เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตยอดกองหลังของทีมที่เหมือนกับจะเคยตำหนิตนว่าทำพลาดที่ไม่ยอมซื้อเซนเตอร์แบ็กอาชีพในตลาดการเสริมทัพรอบล่าสุด

    ก่อนที่ฤดูกาลนี้จะเริ่มขึ้นนั้น ลิเวอร์พูล ตัดสินใจปล่อย เดยัน ลอฟเรน ให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก แต่ก็ไม่ได้ซื้อใครมาแทนเลยจนทำให้เซนเตอร์แบ็กอาชีพที่มีประสบการณ์ระดับการเล่นให้ทีมชุดใหญ่แบบต่อเนื่องของพวกเขาเหลือเพียง 3 คน ได้แก่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และ โฌแอล มาติป ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ "หงส์แดง" ก็ได้รับข่าวร้ายเมื่อ ฟาน ไดค์ มีอาการเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกจนต้องหมดสิทธิ์ลงเล่นเป็นเวลานาน แถมถ้าเลวร้ายที่สุดยังอาจจะถึงขั้นต้องพักทั้งฤดูกาลเลย

    เรื่องดังกล่าวทำให้ไม่นานมานี้ คาร์ราเกอร์ กล่าวระหว่างการทำหน้าที่กูรูของ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดีว่าที่จริงแผงหลังของ ลิเวอร์พูล ก็เต็มไปด้วยความน่ากังขามาตั้งแต่ก่อนเปิดซีซั่นนี้แล้ว เพราะแม้ว่า ฟาน ไดค์ จะเป็นยอดกองหลัง แต่รายของ มาติป มักจะได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ ส่วน โกเมซ ก็ยังดูฟอร์มไม่คงเส้นคงวาเท่าที่ควร พร้อมกระตุ้นให้อดีตทีมของตนต้องเลื่อนมาปิดดีลกับกองหลังที่เป็นแข้งเป้าหมายของทีมตั้งแต่วันแรกของตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบ 2 ช่วงเดือนมกราคมนี้ให้ได้ ไม่ใช่รอไปเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า

    คล็อปป์ เผยว่า "ตอนแรกเราลงเล่นฤดูกาลนี้โดยที่มีเซนเตอร์แบ็กให้ใช้งานตั้ง 3 คน แถมยังมี ฟาบินโญ่ เป็นอะไหล่ในตำแหน่งนี้ รวมถึงมีดาวรุ่งบางคนที่สามารถลงเล่นให้ทีมได้ด้วย มันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่ทีมของคุณจะมีเซนเตอร์แบ็กระดับโลกอยู่ในทีมถึง 4 คน ถ้าเกิดมีใครอยากบอกว่าเราทำพลาด (ในการไม่ซื้อเซนเตอร์แบ็ก) อย่างเช่น เจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่พูดไปก่อนหน้านี้แล้วล่ะก็ ผมก็คิดว่านั่นคงเป็นหนึ่งในไม่กี่เหตุผลที่ทำให้คนแบบนั้นไม่ได้ทำงานนี้ (การคุมทีม)"

    หลังจาก คล็อปป์ พูดแบบนั้น คาร์ราเกอร์ ก็ชี้แจงทาง ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิตว่าตนไม่เคยตำหนิ คล็อปป์ เลยว่าทำพลาดที่ไม่ได้ซื้อกองหลังในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา "ในฤดูกาลนี้ผมยังไม่เคยพูดแม้แต่ครั้งเดียวว่า คล็อปป์ ทำพลาดที่ไม่ได้ซื้อเซนเตอร์แบ็กด้วยเหตุผลบางอย่างตามที่เขากล่าวอ้าง"

 

เกมมันส์แต่..?!กล้องจับภาพแข้งลิเวอร์พูลหลับคาม้านั่งสำรอง

เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ เกมล่าสุดถือว่าความมันส์อยู่ในระดับ 5 ดาว มีประตูเกิดขึ้นถึง 4 ลูกและมีใบแดงในช่วงท้าย อย่างไรก็ตาม ในความมันส์นั้นกลับมีผู้เล่นตัวสำรองของฝั่งทีมเยือนหนึ่งรายถูกจับภาพได้ว่าหลับคาม้านั่งสำรอง

ในขณะที่สกอร์การแข่งขันอยู่ที่ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายนำ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ในนาทีที่ 79 ทว่ากล้องถ่ายทอดของ บีที สปอร์ต จับภาพไปทาง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ’หงส์แดง’ แล้วดันติดภาพของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูดาวรุ่งวัย 21 ปีแอบงีบหลับอยู่ด้านหลัง

ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่นาที ‘ทอฟฟี่สีน้ำเงิน’ มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากลูกโขกของ โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ในนาทีที่ 81

โดยทาง บีที สปอร์ต ได้โพสต์ทวิตเตอร์อำนายด่านดาวรุ่ง ลิเวอร์พูล พร้อมแคปชั่นว่า "เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ หนนี้มันน่าเบื่อไปนิดๆ จน ควีวีน เคลเลเฮอร์ ทนไม่ไหว"

ส่งชื่อให้ไทยลีกแล้ว!กาม่าหวนคุมบุรีรัมย์คำรบสอง

เว็ปไซด์ไทยลีกอัพเดตรายชื่อกุนซือใหม่ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เรียบร้อย ซึ่งเป็นกุนซือหน้าเดิมอย่าง อเล็กซานเดอร์ กาม่า หลังจากที่ทัพปราสาทสายฟ้าได้แยกทางกับโบซิดาร์ บันโดวิช

สำหรับ กาม่าประสบความสำเร็จมากมาย โดยเคยพา บุรีรัมย์ฯได้แชมป์ 8 รายการ คือไทยลีก 2 สมัย ฤดูกาล 2014,2015,แชมป์ เอฟเอคัพ 1 สมัย ปี  2015,แชมป์ลีกคัพ 1 สมัย ปี 2015,แชมป์ ถ้วย ก. 2 สมัย ปี 2015,2016 ,แชมป์โตโยต้า พรีเมียร์คัพ 1 สมัย ปี 2016,แชมป์ แม่โขงคลับฯ 1 สมัย ปี 2015

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะบุกไปพบ ตราด เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ทำให้ กาม่า ได้ล้างตา "ช้างขาวจ้าวเกาะ" ทันทีหลังเพิ่งพา เอสซีจี เมืองทองฯ พ่ายคาบ้าน 0-1 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ลืมหรือเปล่า?มูรินโญ่เหน็บเวนเกอร์เมินกล่าวถึงในหนังสือ

หลังจากที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่เอ่ยถึง โชเซ่ มูรินโญ่ ในหนังสือของตัวเองนั้น ล่าสุด มูรินโญ่ ก็เผยว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาเพราะ เวนเกอร์ ไม่เคยชนะตนเลย พร้อมบอกว่าคนเราก็คงไม่อยากพูดถึงเรื่องแบบนั้นในหนังสืออยู่แล้ว

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหน็บ อาร์แซน เวนเกอร์ ว่าที่ไม่เอ่ยถึงตนในหนังสืออัตชีวประวัติเป็นเพราะ เวนเกอร์ ไม่เคยเอาชนะตนได้เลย

เวนเกอร์ เพิ่งออกหนังสือของเขาที่ชื่อ "มาย ไลฟ์ อิน เร้ด แอนด์ ไวท์" (My Life in Red & White) ซึ่งมันบอกเล่าเรื่องราวหลายต่อหลายเรื่องในการคุมทีมของเขา แต่เจ้าตัวไม่ได้กล่าวถึง มูรินโญ่ แม้แต่นิดเดียว ทั้งที่ทั้งคู่เคยดวลกันหลายครั้ง รวมถึงเคยเปิดสงครามทางคำพูดใส่กันหลายหน อย่างเช่นการที่กุนซือชาวโปรตุกีสเคยบอกว่า เวนเกอร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความล้มเหลว เป็นต้น

"คุณคงไม่คิดจะทำบทที่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณเจอกับบางคนประมาณ 12 หรือ 14 เกม แต่ไม่เคยชนะได้เลยอยู่แล้วนี่ ดังนั้นทำไมเขาถึงควรจะพูดถึงผมในหนังสือของเขาด้วยล่ะ ? หนังสือน่ะมันต้องเป็นสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข, ทำให้คุณรู้สึกภาคภูมิใจ ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมเข้าใจได้ดีว่าทำไมเขาถึงเลือกทำอย่างนั้น" มูรินโญ่ ระบุ

ทั้งนี้ ที่จริงแล้ว มูรินโญ่ เคยแพ้ เวนเกอร์ 2 ครั้ง จากการเจอกันทั้งหมด 19 นัด ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นชนะ 10 เกมกับเสมอ 7 หน

นั่งสำรองทั้งเกม! ดีบาลากดไลค์ข้อความตั้งคำถามปิร์โล

 

กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์กดไลค์ข้อความตั้งคำถามกุนซือเจ้าม้าลาย หลังเขาทำได้เพียงนั่งดูเพื่อนเล่นในเกมบุกเสมอโครโตเน 1-1

เปาโล ดีบาลา ดาวยิงยูเวนตุส กดไลค์ข้อความในทวิตเตอร์ที่ตั้งคำถามต่อ อันเดรีย ปิร์โล ก่อนจะลบออกในเวลาต่อมา

กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินานั่งอยู่ข้างสนามในเกมบุกเสมอโครโตเน 1-1 และไม่ถูกเลือกลงสนามในฐานะตัวสำรองด้วย