“อิมโมบิเล่” นำทัพลาซิโอรับมือดอร์ทมุนด์ที่มี “ฮาแลนด์” ตะบัน ศึกชปล.

 "อินทรีฟ้า-ขาว" ลาซิโอ แม้ผลงานในลีกจะไม่ดีเท่าไหร่นักแต่เกมแรกในการคัมแบ็กเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ยอมแน่แม้จะเจอกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สามแต้มประเดิมสนามจะเป็นของฝั่งไหน ติดตามได้ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ นัดแรก คืนวันอังคารนี้

ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอฟ
ลาซิโอ (อิตาลี) – ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน)
วันอังคารที่ 20 ตุลาคม  2563  เวลา : 02.00 น.
สนาม : โอลิมปิโก 

สภาพทีมโดยทั่วไป 

    ลาซิโอ

    ซิโมเน่ อินซากี้ เทรนเนอร์ลาซิโอ พาทีมแพ้ซามพ์โดเรียยับ 0-3 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ไม่ชนะมา 3 เกมแล้ว 

    ความพร้อมเกมนี้ อินซากี้ จะไม่มีทั้ง เซนัด ลูลิช, อันเดรียส เปเรยร่า, ซิลวิโอ โปรโต้ และ สเตฟาน ราดู ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งหมด 

    ส่วน บาสโตส, ลุยซ์ เฟลิเป้ และ มานูเอล ลาซซารี่ ที่ไม่สมบูรณ์ ยังต้องรอทดสอบความฟิต แต่ข่าวดีคือจะได้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ดาวยิงกัปตันทีมคนสำคัญ พ้นโทษแบนในลีกกลับมา 

    ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้, เวสลี่ย์ ฮูดท์, เซอร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช, ลูคัส เลวา, หลุยส์ อัลเบร์โต้ และ ฮัวกิน กอร์เรอา ต่างพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม 

    ดอร์ทมุนด์   

    ลูเซียง ฟาฟร์ เทรนเนอร์ดอร์ทมุนด์ พาทีมชนะฮอฟเฟ่นไฮม์ 1-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 2 นัดติด 

    สภาพทีมล่าสุด ฟาฟร์ ยังไม่มี มาร์เซล ชเมลเซอร์, นิโก้ ชูลซ์ และ ดาน-อักเซล ซากาดู ที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้วทั้งหมด

    ส่วน ลูคัสซ์ พิซเซ็ค ที่เดี้ยงเพิ่มมาจากเกมล่าสุด ต้องรอทดสอบความฟิต เช่นเดียวกับ ธอร์กกาน อาซาร์ ที่มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อรบกวน 

    บรรดาแกนหลักหลายรายที่ได้พักเมื่อสุดสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นโรมัน บือร์กี้, มานูเอล อคานจี, จู๊ด เบลลิงแฮม, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ และ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ ก็พร้อมคัมแบ็กทั้งหมด

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม    

    ลาซิโอ (3-5-2) : โธมัส สตราโคช่า – ปาตริก, ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้, เวสลี่ย์ ฮูดท์ – มาร์โก ปาโรโล่, เซอร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช, ลูคัส เลวา, หลุยส์ อัลเบร์โต้, อดัม มูราซิช – ชิโร่ อิมโมบิเล่, ฮัวกิน กอร์เรอา

    เทรนเนอร์ : ซิโมเน่ อิซากี้ 

    ดอร์ทมุนด์ (3-4-2-1) : โรมัน บือร์กี้ – เอ็มเร่ ชาน, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มานูเอล อคานจี – โธมัส เมอนิเย่ร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, อักเซล วิตเซล, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ – เจดอน ซานโช่, โจวานนี่ เรย์น่า – เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์

    เทรนเนอร์ : ลูเซียง ฟาฟร์     

    ผู้ตัดสิน : กเลมงต์ ตูร์กแป็ง (ฝรั่งเศส) 

ผลการพบกันที่ผ่านมา 
วันเดือน/ปี รายการ ผลการแข่งขัน

12/08/18    กระชับมิตร (สนามกลาง)     ดอร์ทมุนด์ 1-0 ลาซิโอ 

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ลาซิโอ

17/10/20 แพ้ ซามพ์โดเรีย 0-3 (เยือน) เซเรีย อา 
04/10/20 เสมอ อินเตอร์ มิลาน 1-1 (เหย้า) เซเรีย อา
01/10/20 แพ้ อตาลันต้า 1-4 (เหย้า) เซเรีย อา
26/09/20 ชนะ กายารี่ 2-0 (เยือน) เซเรีย อา
19/09/20 เสมอ เบเนเวนโต้ 0-0 (เหย้า) กระชับมิตร


    ดอร์ทมุนด์
17/10/20 ชนะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 1-0 (เยือน) บุนเดสลีกา
03/10/20    ชนะ ไฟร์บวร์ก 4-0 (เหย้า) บุนเดสลีกา
01/10/20    แพ้ บาเยิร์น 2-3 (เยือน) ซูเปอร์ คัพ
26/09/20    แพ้ เอาก์สบวร์ก 0-2 (เยือน) บุนเดสลีกา
19/09/20    ชนะ มึนเช่นกลัดบัค 3-0 (เหย้า) บุนเดสลีกา

งูใหญ่ระส่ำ! อินเตอร์ยันอเล็กซิสเจ็บกล้ามเนื้อจากเกมเจ๊ากลัดบัค

อินเตอร์ มิลาน ได้รับข่าวร้ายเพิ่มเติมเมื่อ อเล็กซิส ซานเชซ มีอาการบาดเจ็บจากเกมที่ "งูใหญ่" เปิดรังเสมอ โบรุสเซีย มึนเช่น กลัดบัค 2-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี แต่ไม่ได้มีการระบุว่าต้องพักนานเท่าไหร่

อินเตอร์ มิลาน ประกาศยืนยันว่า อเล็กซิส ซานเชซ กองหน้าทีมชาติชิลี มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาระหว่างเกมที่ "งูใหญ่" เปิดรังเสมอ โบรุสเซีย มึนเช่น กลัดบัค 2-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี เมื่อคืนวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา

เกมดังกล่าวดาวเตะวัย 31 ปี ถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริง แต่มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว และโดนเปลี่ยนตัวออกไปในช่วงพักครึ่งแล้วเป็น เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ที่ถูกส่งลงเล่นแทน

กระทั่งล่าสุดมีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากสโมสรแล้วว่า อเล็กซิส มีอาการเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ โดยระบุว่า "อเล็กซิส ต้องถูกเปลี่ยนตัวในช่วงพักครึ่งคืนนี้เนื่องจากเขามีปัญหาบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านขวา"

ทั้งนี้ อินเตอร์ กำลังประสบปัญหาขาดแคลนนักเตะตัวหลักหลายรายที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง อัชราฟ ฮาคิมี่, รัดย่า นาอิงโกลัน, อเลสซานโดร บาสโตนี่, มิลาน สคริเนียร์, แอชลี่ย์ ยัง, โรแบร์โต้ กายาร์ดินี่ และ โลนุต ราดู

สำหรับ อเล็กซิส เพิ่งจะย้ายจาก แมนฯ ยูไนเต็ด มาอยู่กับ "งูใหญ่" ด้วยสัญญาถาวรเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากทำผลงานได้น่าประทับใจระหว่างยืมตัวในซีซั่น 2019/20 และทำผลงานได้ดีพอตัวด้วยการทำไป 4 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ จากการลงเล่นในลีก 22 นัด

แมนยูอ้วกแตกเจอทั้งปารีสฯ-ไลป์ซิก หงส์ไม่ยาก โด้วัดเมสซี่ ผลจับชปล.สุดซี้ด!

เปิดโผจับติ้ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ลิเวอร์พูล เจองานไม่ยากมากนัก ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด อ้วกแตกเจอทั้ง เปแอสเช ไลป์ซิก และ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี่ จะได้ดวลกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

สรุปผลการจับสลากฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2020/21 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยจะเล่นตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ไปจนถึงวันที่ 9 ธ.ค. นี้

กลุ่ม เอ : บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี), แอตเลติโก มาดริด (สเปน), เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), โลโคโมทีฟ มอสโก (รัสเซีย)

กลุ่ม บี :  เรอัล มาดริด (สเปน), ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน), อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (เยอรมนี),

กลุ่ม ซี : เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ), โอลิมเปียกอส (กรีซ),โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส)

กลุ่ม ดี : ลิเวอร์พูล (อังกฤษ), อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์), อตาลันต้า (อิตาลี), มิดทิลแลนด์ (เดนมาร์ก)

กลุ่ม อี : เซบีย่า (สเปน), เชลซี (อังกฤษ), คราสโนดาร์ (รัสเซีย), แรนส์ (ฝรั่งเศส)

กลุ่ม เอฟ : เซนิต เซนต์ ปีเตอร์ส เบิร์ก (รัสเซีย), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี), ลาซิโอ (อิตาลี), คลับ บรูช (เบลเยียม)

กลุ่ม จี : ยูเวนตุส (อิตาลี), บาร์เซโลน่า (สเปน), ดินาโม เคียฟ (ยูเครน),  เฟเรนช์วารอส (ฮังการี)

กลุ่ม เอช : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ), แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมนี), อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ (ตุรกี)

ส่อแววกรุ๊ปออฟเดธ!เปิดลิสต์แบ่งโถจับติ้วรอบแบ่งกลุ่มชปล.2020-21

ตอนนี้ได้บทสรุปแล้วว่าโถการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มของ แชมเปี้ยนส์ ลีก จะเป็นยังไงบ้าง โดยทีมจากสเปนอยู่ในโถ 1 กับ โถ 2 ถึงโถละ 2 ทีมเลย ส่วนของอังกฤษนอกจาก ลิเวอร์พูล ที่จองโถแรกเอาไว้แล้วนั้น ที่เหลือก็อยู่ในโถ 2 ทั้งหมด ขณะที่โถ 3 มีทีมจาก อิตาลี ถึง 3 ทีมด้วยกัน

หลังจากศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ ได้บทสรุปไปครบถ้วนเมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา มันก็ทำให้ตอนนี้สามารถจัดแจงโถสำหรับการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มได้เป็นที่เรียบร้อย โดยการจับสลากจะมีขึ้นที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคมนี้

ทั้งนี้ โถ 1 จะมีทีมจากสเปนถึง 2 ทีม นั่นคือ เรอัล มาดริด กับ เซบีย่า เพราะโถนี้จะเว้นให้เฉพาะทีมแชมป์เก่าของ แชมเปี้ยนส์ ลีก,  ยูฟ่า ยูโรปา ลีก และแชมป์ลีกของชาติที่มีค่าสัมประสิทธิ์สูงเป็นลำดับต้นๆ ของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เท่านั้น ซึ่ง เซบีย่า เป็นแชมป์เก่าของ ยูโรปา ลีก ทำให้พวกเขาได้ขึ้นมาอยู่โถ 1 โดยอัตโนมัติ ส่วน ลิเวอร์พูล ก็ได้อยู่ในโถนี้เช่นกันหลังจากซีซั่นก่อนคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครอง

สำหรับโถ 2 นั้นเต็มไปด้วยทีมหินๆ อย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ซึ่งเป็นตัวแทนจากอังกฤษ, 2 ทีมจาก สเปน อย่าง บาร์เซโลน่า กับ แอตเลติโก มาดริด รวมถึง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังของเยอรมนี ในขณะที่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ก็อยู่โถนี้เช่นกัน

ส่วนในโถ 3 ที่เด่นๆ คงจะหนีไม่พ้น 3 ทีมจากอิตาลีที่อยู่ในโถนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อินเตอร์ มิลาน, ลาซิโอ และ อตาลันต้า นอกจากนี้ แอร์เบ ไลป์ซิก กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ก็อยู่ในโถนี้ด้วย ขณะที่ในโถสุดท้ายนั้นมีทีมอย่าง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค และ โอลิมปิก มาร์กเซย รวมทั้ง แรนส์ ที่ประมาทไม่ได้

ทั้งนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ กราสโนดาร์, มิดทิลแลนด์, อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ และ แรนส์ จะได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มของ แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยพิธีจับสลากจะเริ่มขึ้นตอนราว 17.00 น. ตามเวลามาตรฐานยุโรปตอนกลาง หรือก็คือประมาณ 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

สรุปโถสำหรับการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2020-21

โถ 1 : บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี), เซบีย่า (สเปน), เรอัล มาดริด (สเปน), ลิเวอร์พูล (อังกฤษ), ยูเวนตุส (อิตาลี), ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส), เซนิต เซนต์ ปีเตอร์ส เบิร์ก (รัสเซีย), เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)

โถ 2 : บาร์เซโลน่า (สเปน), แอตเลติโก มาดริด (สเปน), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ), ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี), เชลซี (อังกฤษ), อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์)

โถ 3 : ดินาโม เคียฟ (ยูเครน), เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมนี), อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), โอลิมเปียกอส (กรีซ), ลาซิโอ (อิตาลี), กราสโนดาร์ (รัสเซีย), อตาลันต้า (อิตาลี)

โถ 4 : โลโคโมทีฟ มอสโก (รัสเซีย), โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส), คลับ บรูช (เบลเยียม), โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (เยอรมนี), อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ (ตุรกี), มิดทิลแลนด์ (เดนมาร์ก), แรนส์ (ฝรั่งเศส), เฟเรนช์วารอส (ฮังการี)

    *เงื่อนไขการแบ่งกลุ่ม
    – ทีมจากโถเดียวกันไม่สามารถอยู่ในกลุ่มเดียวกันได้
    – ทีมจากชาติเดียวกันไม่สามารถอยู่ในกลุ่มเดียวกันได้
    – ทีมจากรัสเซียและยูเครนจะไม่ถูกจับให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันเนื่องจากปัญหาด้านการเมือง ตามการตัดสินของคณะกรรมการฉุกเฉินของ ยูฟ่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ปี 2014 โดยกฎนี้จะยกเลิกก็ต่อเมื่อมีความคืบหน้าในทางที่ดี

ซานโช่จ่าย-ฮาแลนด์จัดสอง! ดอร์ทมุนด์เริ่มลีกหรูถลุงกลัดบัค

"เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ เก็บชัยชนะนัดเปิดลีกสวยหรู "ซานโช่-ฮาแลนด์" มีส่วนร่วมสร้างสกอร์ให้ทีมถล่ม "สิงห์หนุ่ม" มึนเช่นกลัดบัค 3-0 ในการแข่งขันศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน นัดเปิดฤดูกาล 2020-21 คืนวันเสาร์ที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา

สนาม : ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค

     ศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน นัดเปิดฤดูกาล 2020-21 คืนวันเสาร์ที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ รองแชมป์ลีกซีซั่นก่อน ผลงานล่าสุดศึกเดเอฟเบ โพคาล ถล่มคู่แข่งต่ำดิวิชั่นยับ ลูเซียง ฟาฟร์ เทรนเนอร์เจ้าบ้าน กำชับลูกทีมเล่นให้ดี ส่งผู้เล่นระดับพระกาฬครบทั้ง "ซานโช่-ฮาแลนด์" พร้อมใส่ "จู๊ด เบลลิงแฮม" สนับสนุนเกมรับมือ "สิงห์หนุ่ม" มึนเช่นกลัดบัค ที่โชว์ความโหดบอลถ้วยมาเหมือนกัน มาร์คุส โรเซ่ กุนซือทีมเยือน พักหัวหอกอย่าง "อเลสซาน เพลอา" เป็นสำรองมีจอมทัพ "ลาร์ส ชตินเดิล" สร้างสรรค์เกม

     เจ้าถิ่นบุกนาทีที่ 21 เจดอน ซานโช่ วางลูกฟรีคิกกลางสนามระยะเกือบ 30 หลาเยื้องมาทางขวา บอลโด่งมาในเขตโทษ ก่อนเป็น เออร์ลิง ฮาแลนด์ สปีดหนีแนวรับทีมเยือนโหม่งบอลแต่เบากระเด้งเข้ามือนายด่านกลัดบัค

     ถัดมานาทีที่ 22 เฟลิกซ์ พัสส์ลัค ดีดบอลขึ้นหน้าทิ้งให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ วิ่งเบียดกับ นิโค่ เอลเวดี้ และเป็นหัวหอกเสือเหลืองเอาชนะแย่งบอลไปซัดตรงเขตโทษด้านซ้าย ทว่ากองหลังทีมเยือนตามมาขวางบอลออกหลังไป

     ทีมเยือนเกือบนำนาทีที่ 32 โยนาส โฮฟมันน์ ลากบอลมาในเขตโทษ จ่ายย้อนมาให้ โฟลเรียน นอยเฮาส์ กระดกบอลทำชิ่งกัน ก่อนเป็น โยนาส โฮฟมันน์ หลุดไปจิ้มบอลลอดขา มานูเอล อคานจี กองหลังเจ้าบ้าน แต่ว่า โรมัน เบือร์กี้ วิ่งออกมาใช้เท้าบล็อกจังหวะแรก แล้วเอามือปัดซ้ำให้บอลพ้นวิถี ก่อนแนวรุกสิงห์หนุ่มจะตามมายิงซ้ำ

     เสือเหลืองเฮลั่นนาทีที่ 35 เอ็มเร่ ชาน เติมสูงมาทางขวาโยนบอลเข้าเขตโทษ นิโค่ เอลเวดี้ แนวรับทีมเยือน สกัดไม่ดีเข้าทาง จู๊ด เบลลิงแฮม ทิ่มบอลทันทีให้ โจวานนี่ เรย์น่า ซัดหักข้อจากเขตโทษฝั่งขวาเสียบตาข่ายที่เสาสอง

     ต่อมานาทีที่ 41 เอ็มเร่ ชาน ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา หยอดบอลมาที่ เจดอน ซานโช่ วิ่งสอดมาสะบัดโหม่ง บอลลอยหวิดเข้าประตูแต่โด่งไปเช็คเหลี่ยมคานด้านบน ออกหลังไปแทน

     สิงห์หนุ่มชวดเจ๊านาทีที่ 43 สเตฟาน ไลเนอร์ กระชากบอลจากสนามด้านขวา ตัดเข้ามาตรงวงกลมหน้ากรอบเขตโทษ ตัดสินใจซัดไกล บอลพุ่งหากรอบแต่มือกาวเสือเหลืองปฎิกิริยาดีอยู่ถูกที่ปัดทิ้งข้ามคานไปได้

     เจ้าถิ่นทิ้งห่างนาทีที่ 54 โจวานนี่ เรย์น่า เลี้ยงบอลจากกลางสนามเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนโดน รามี่ เบนเซไบนี่ ทิ้งตัวแหย่ขาสกัดล้มลง กรรมการขอดูวีเออาร์ ชี้ไปที่จุดโทษ และเป็น เออร์ลิง ฮาแลนด์ กระหน่ำลูกแรกซีซั่นนี้สำเร็จ

     เสือเหลืองเดินเครื่องนาทีที่ 55 เออร์ลิง ฮาแลนด์ ไหลบอลจากริมเส้นด้านขวา บอลมาที่หน้ากรอบเขตโทษ เจดอน ซานโช่ แทงบอลเร็วให้ โจวานนี่ เรย์น่า หลุดเข้าไปยิงแต่บอลไปถูก ยาน ซอมเมอร์ เซฟไว้แต่ยังกลิ้งมาเข้าทาง เฟลิกซ์ พัสส์ลัค หวดซ้ำทว่ามี โฟลเรียน นอยเฮาส์ ลงไปยืนคุมเส้นเตะทิ้งออกมาได้ทัน

     และแล้วนาทีที่ 78 เจดอน ซานโช่ เลี้ยงบอลจังหวะโต้กลับเร็วมาทางกลางสนาม ก่อนจ่ายตัดหลังแนวรับทีมเยือนไปที่ เออร์ลิง ฮาแลนด์ วิ่งฉีกมาซัดบอลตรงเขตโทษด้านซ้ายบอลผ่านมือ ยาน ซอมเมอร์ นายด่านกลัดบัคเข้าไปอีกเม็ด จบเกม ดอร์ทมุนด์ ถล่ม มึนเช่นกลัดบัค 3-0 เก็บชัยชนะนัดเปิดลีกสวยหรู

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ดอร์ทมุนด์ (3-4-1-2): โรมัน เบือร์กี้,เอ็มเร่ ชาน,มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์,มานูเอล อคานจี,โธมัส เมอนิเย่ร์,อักเซล วิตเซล,จู๊ด เบลลิงแฮม (โทมัส เดลานีย์ น.67),ธอร์กกาน อาซาร์ (เฟลิกซ์ พัสส์ลัค น.19),โจวานนี่ เรย์น่า (ยูเลี่ยน บรันด์ท น.79),เจดอน ซานโช่ (มาร์โก รอยส์ น.79),เออร์ลิง ฮาแลนด์

มึนเช่นกลัดบัค (3-4-1-2): ยาน ซอมเมอร์,นิโค่ เอลเวดี้,มัทธิอัส กินเทอร์,รามี่ เบนเซไบนี่,สเตฟาน ไลเนอร์,คริสโตฟ คราเมอร์,โฟลเรียน นอยเฮาส์,ออสการ์ เวนด์ท (พาทริค แฮร์มันน์ น.70),โยนาส โฮฟมันน์,ฮันเนส โวล์ฟ (มาร์คุส ตูราม น.57),ลาร์ส ชตินเดิล (อเลสซาน เพลอา น.57)

ดอร์ทมุนด์เปิดลีกบู๊กลัดบัค,เบรเมนฉะแฮร์ธ่าPPTVยิงสด

"เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ ได้ฤกษ์เปิดลีกเมืองเบียร์ เกมนี้ เจดอน ซานโช่ สวมบทจอมทัพนำลุยทีมเยือน "สิงห์หนุ่ม" มึนเช่นกลัดบัค ที่คาดหวังสามแต้มเช่นกัน ขณะที่อีกคู่ "นกนางนวล" เบรเมน ที่ซีซั่นก่อนรอดตกชั้นหวุดหวิด มีคิวรอดวล "หญิงชรา" แฮร์ธ่า เบอร์ลิน โดยคู่นี้ถ่ายทอดสดทาง พีพีทีวี คืนวันเสารที่ 19 กันยายน ตั้งแต่เวลา 20.30 น.เป็นต้นไป

ปรีวิวฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน 
วันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2563
ดอร์ทมุนด์ – มึนเช่นกลัดบัค 
เวลา : 23.30 น. 

สนาม : ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค 

      ”เสือเหลือง” ของเทรนเนอร์ ลูเซียง ฟาฟร์ ที่จบรองแชมป์บุนเดสลีกา 2019/20 ประเดิมเกมเป็นทางการด้วยการบุกถล่มดุ๊ยส์บวร์ก 5-0 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สภาพทีมยังไม่สมารถใช้งาน ดาน-อักเซล ซากาดู (เรียกความฟิต), นิโค่ ชูลซ์ (เรียกความฟิต) และ มาร์เซล ชเมลเซอร์ (เข่า) ได้ตามเดิม

   แต่จะได้ โรมัน เบือร์กี้ กับ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ฟิตกลับสู่ทีม โดยเบือร์กี้จะกลับลงมาเฝ้าเสา ขณะที่ เกร์เรยโร่ ต้องแย่งวิงแบ็กซ้ายตัวจริงกับ ธอร์กกาน อาซาร์ 

    ตำแหน่งที่เหลือยึดชุดเดิมแนวรุกวางใจใช้เจ้าหนู โจวานนี่ เรย์น่า ลงตัวจริงลงประสานงานแนวรุกร่วมกับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ และ เจดอน ซานโช่ มิดฟิดล์คู่กลางให้ จู๊ด เบลลิงแฮม ดาวรุ่งที่ซื้อจากเบอร์มิงแฮม ลงคุมเกมร่วมกับ อักเซล วิตเซล วิงแบ็กขวาใช้ โธมัส เมอนิเย่ร์ ที่ได้มาจากเปแอสเชลงประจำการ
 
    ด้านทัพ ”สิงห์หนุ่ม” ของเทรนเนอร์ มาร์คุส โรเซ่ ที่ทำผลงานแจ่มจบอันดับ 4 จนได้โควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สภาพทีมทีมยังชวดใช้งานกลุ่มแข้งเจ็บ บรีล เอ็มโบโล่ (ข้อเท้า), วาเลนติโน่ ลาซาโร่ (กล้ามเนื้อน่อง), อันเดรียส โพลเซ่น (ไหล่) และ ลาสซ์โล่ เบเนส (ข้อเท้า) ทั้งหมด แต่ข่าวดีจะได้ อเลสซาน เพลอา, มาร์คุส ตูราม และ เดนิส ซากาเรีย ฟิตกลับคืนทีม

    อย่างไรก็ตามคาดว่า 11 คนแรก โรเซ่จะยึดชุดเดิมจากเกมบุกถล่มโอเบอร์นอยลันด์ 8-0 ต่อไป แผงหลังคู่เซนเตอร์แบ็ก นิโค่ เอลเวดี้ ยืนคู่ มัทธีอัส กินเทอร์ มิดฟิลด์คู่กลาง โฟลเรียน นอยเฮาส์ จับคู่ คริสโตฟ คราเมอร์ แนวรุกให้ ฮันเนส โวล์ฟ, ลาร์ส ชตินเดิ้ล และ โยนาส โฮฟมันน์ คอยปั้นเกม หน้าเป้าดัน พาทริค แฮร์มันน์ มาประจำการ 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม    
    
    ดอร์ทมุนด์ (3-4-3) : โรมัน เบือร์กี้ – เอ็มเร่ ชาน, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มานูเอล อคานจี – โธมัส เมอนิเย่ร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, อักเซล วิตเซล, ธอร์กกาน อาซาร์ (ราฟาแอล เกร์เรยโร่) – โจวานนี่ เรย์น่า, เออร์ลิง ฮาแลนด์, เจดอน ซานโช่ 

    เทรนเนอร์ : ลูเซียง ฟาฟร์

    มึนเช่นกลัดบัค (4-2-3-1) : ยาน ซอมเมอร์ – สเตฟาน ไลเนอร์, นิโค่ เอลเวดี้, มัทธิอัส กินเทอร์, รามี่ เบนเซไบนี่ – โฟลเรียน นอยเฮาส์, คริสโตฟ คราเมอร์ – ฮันเนส โวล์ฟ, ลาร์ส ชตินเดิล, โยนาส โฮฟมันน์ – พาทริค แฮร์มันน์

    เทรนเนอร์ : มาร์คุส โรเซ่

แวร์เดอร์ เบรเมน – แฮร์ธ่า เบอร์ลิน
เวลา : 20.30 น. ถ่ายทอดสด : พีพีทีวี

สนาม :  เวเซอร์ สตาดิโอน

     ”นกนางนวล” ภายใต้การคุมทีมของเทรนเนอร์ โฟลเรียน โคห์เฟลด์ ที่อยู่รอดในลีกสูงสุดได้แบบหวุดหวิดฤดูกาลล่าสุด สภาพทีมมีปัญหาหมดสิทธิ์ใช้งาน มิลอต ราชิชา (ข้อเท้า) กับ โอเมอร์ โทปรัค (น่อง) ทั้งคู่ 

    การจัดทัพยึดระบบ 4-1-2-1-2 คาดว่าปรับจุดเดียวจากนัดล่าสุดส่ง ดาวี่ คลาสเซ่น คุมเกมร่วมกับ มักซิมิเลี่ยน เอ็กเกชไตน์ ส่งผลให้ เลโอนาร์ดโด้ บิทเท่นคอร์ท หลุดเป็นสำรอง 

    แผงหลังกับแนวรุกวางใจยึคชุดเดิม สามประสานแนวรุกใช้ ยูยะ โอซาโกะ รับบทหน้าต่ำ คู่กองหน้าวาง ดาวี่ เซลเค่ จับคู่ล่าตาข่ายกับ โยชัว ซาร์เกนท์ แผงหลังคู่เซนเตอร์แบ็กให้ เดดริก โบยาต้า ยืนคู่ ยอร์ดาน โตรูนาริห์กาจริง 


    ข้ามมาดู ”หญิงชรา” แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ที่ปัจจุบันมี บรูโน่ ลาบบาเดีย เป็นเทรนเนอร์ สภาพทีมตอนนี้เหลือแค่ ซานติอาโก้ อัสกาซิบาร์ (กระดูกเท้า) กับ และ ยาไวโร ดิลโรซุน (กล้ามเนื้อต้นขา) ที่ชวด 

    ภายใต้ระบบ 4-2-3-1 ข่าวดีคือคู่เซนเตอร์แบ็กตัวจริง เดดริก โบยาต้า จะกลับมายืนคู่ ยอร์ดาน โตรูนาริห์กา สามประสานแนวรุกให้ โดดี ลูเกบากิโอ, มาเธอุส คุนญ่า และ  มักซิมิเลี่ยน มิทเทิ่ลชตัดท์ คอยปั้นเกม หน้าเป้าจัด คริสตอฟ ปิออนเต็ก ดาวยิงโปแลนด์ประจำการ 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม    
    
    เบรเมน (4-1-2-1-2) : ยิรี่ พาฟเลนก้า – ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่, มิลอส เวลโควิช, นิคลาส มอยซานเดอร์, ลุดวิก ออกุสตินสัน – พาทริค เออร์ราส – มักซิมิเลี่ยน เอ็กเกชไตน์, ดาวี่ คลาสเซ่น – ยูยะ โอซาโกะ – ดาวี่ เซลเค่,โยชัว ซาร์เกนท์

    เทรนเนอร์ : โฟลเรียน โคห์เฟลด์ 

แฮร์ธ่า เบอร์ลิน (4-2-3-1) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ – ปีเตอร์ เปคาริก, เดดริก โบยาต้า, ยอร์ดาน โตรูนาริห์กา, มาร์วิน พลัทเท่นฮาร์ดท์ – วลาดิเมียร์  ดาริด้า, ลูก้าส์ ตูซาร์ – โดดี ลูเกบากิโอ, มาเธอุส คุนญ่า, มักซิมิเลี่ยน มิทเทิ่ลชตัดท์ – คริสตอฟ ปิออนเต็ก

    เทรนเนอร์ : บรูโน่ ลาบบาเดีย 

 

เบลยินดีซบผี,หงส์เล็งสตาร์กลัดบัค!อัพเดตข่าวเด่นตลาดนักเตะลีกดังยุโรป

เที่ยวนี้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีข่าวในตลาดซื้อ-ขายนักเตะมาให้อัพเดตเพียบเลยทีเดียว ขณะที่ ลิเวอร์พูล กำลังจับตามองของดีในทีม โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค แถมมีความเคลื่อนไหวล่าสุดในการล่าตัว ติอาโก้ อัลกันตาร่า ด้วย ส่วนในเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี น่าจะมีดีลใหญ่ๆ เกิดขึ้นหลายรายในเร็ววันนี้ แต่จะเป็นใครและย้ายไปไหนบ้างนั้น เราไปหาคำตอบกันได้เลย

– (Official) เซบีย่า คว้าตัว มาร์กอส อากุนญ่า แบ็กซ้ายทีมชาติอาร์เจนตินา มาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร (ประมาณ 370 ล้านบาท) บวกโบนัสอีก 2 ล้านยูโร (ประมาณ 74 ล้านบาท) โดยนักเตะเซ็นสัญญาค้าแข้งในถิ่น รามอน ซานเชซ ปิซฆวน เป็นเวลา 4 ปี

– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมยื่นข้อเสนอไปทาบซื้อ เซร์คิโอ เรกีลอน แบ็กซ้าย เรอัล มาดริด อย่างเป็นทางการครั้งแรก แต่คาดว่าไม่ถึงระดับ 30 ล้านยูโร (ประมาณ 1,110 ล้านบาท) ตามที่ "ราชันชุดขาว" เรียกร้อง (Guardian)

– "ปีศาจแดง" กำลังเจรจากับ "ราชันชุดขาว" ในการขอซื้อตัว เรกีลอน ( (Marca))

 – เรอัล มาดริด หวังใส่เงื่อนไข "ซื้อกลับ" ลงไปในสัญญาขาย เซร์คิโอ เรกีลอน ทว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่โอเคด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำสัญญารูปแบบใดตาม (Fabrizio Romano)

 – หลังจากที่ส่อแววยอมแพ้ในการล่าตัว เจดอน ซานโช่ ปีกดาวรุ่ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ล่าสุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มอง แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด), ดั๊กลาส คอสต้า (ยูเวนตุส) และ อีวาน เปริซิช (อินเตอร์ มิลาน) เป็น 3 ทางเลือกในการเสริมทัพตำแหน่งปีกช่วงซัมเมอร์นี้  (Telegraph)

 – เบล มีความยินดีที่จะย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถ้าหาก "ปีศาจแดง" กับ "ราชันชุดขาว" สามารถตกลงกันได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบดีลย้ายขาดหรือยืมตัว (Sky Sports)

 – เรอัล มาดริด พร้อมปล่อย เบล แบบสุดถูกในราคาเพียงแค่ 20 ล้านยูโร (ประมาณ 740 ล้านบาท) (Mundo Deportivo)

– ขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสดีในการสอย อเล็กซ์ เตลเลส แบ็กซ้ายจอมบุก ปอร์โต้ เนื่องจากยอดทีมแดนฝอยทองพร้อมขาย ดาวเตะวัย 27 ปี ซัมเมอร์นี้ ในราคาเพียงแค่ 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 738 ล้านบาท) เท่านั้น ถึงแม้นักเตะมีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 35 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,435 ล้านบาท) ก็ตาม (A Bola)

 – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้มีการยื่นข้อเสนอเงินจำนวน 89 ล้านยูโร (ประมาณ 3,293 ล้านบาท) ไปให้ แอตเลติโก มาดริด พิจารณา สำหรับการขอซื้อตัว โฮเซ่ คิเมเนซ เซนเตอร์แบ็กจอมแกร่งทีมชาติอุรุกวัย ทว่าถูกปฎิเสธทันควัน เนื่องจาก "ตราหมี" ไม่ยอมขาย คิเมเนซ ในราคาที่ต่ำกว่า 120 ล้านยูโร (ประมาณ 4,440 ล้านบาท) (AS)

 – ลิเวอร์พูล พร้อมที่จะรอจนถึงช่วงสัปดาห์สุดท้ายของตลาดนักเตะรอบนี้ ก่อนยื่นข้อเสนอทาบซื้อ ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์จอมเทคนิคของ บาเยิร์น มิวนิค อย่างเป็นทางการ (Talksport)

 – เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ได้เล็ง เดนิส ซากาเรีย กองกลางเลือดสวิสของ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เป็นแข้งเป้าหมายสำหรับการเสริมทัพช่วงปีหน้า (Bild)

 – ดิว็อค โอริกี้ หัวหอกสำรอง "หงส์แดง" กำลังได้รับความสนใจจาก แอสตัน วิลล่า, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และ ฟูแล่ม รวมถึงสโมสรยักษ์ใหญ่ลีกตุรกีอย่าง เฟเนร์บาห์เช่ (Mirror)

 – อาร์เซน่อล กำลังพิจารณาปล่อยตัว ลูคัส ตอร์เรร่า กองกลางทีมชาติอุรุกวัย ให้ โตริโน่ หรือไม่ก็ ฟิออเรนติน่า ยืมใช้งาน (Fabrizio Romano)
 
 – ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มีลุ้นได้ตัว วิลเลี่ยน โชเซ่ กองหน้าเลือดแซมบ้าของ เรอัล โซเซียดาด มาเสริมแนวรุก เนื่องจาก โซเซียดาด พร้อมพิจารณาปล่อยตัว หัวหอกวัย 28 ปี พ้นทีมซัมเมอร์นี้ (El Desmarque)

 – นอกจากนี้ "ไก่เดือยทอง" มีความสนใจที่จะคว้าตัว แดนนี่ อิงส์ หัวหอก เซาธ์แฮมป์ตัน มาเสริมแนวรุก (Football.London)

 – ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หวังที่จะคว้าตัว ลีออน เบลีย์ ปีกจรวด ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาร่วมทีมก่อนปิดตลาด ถึงแม้ "ห้างขายยา" ตั้งค่าหัว ดาวเตะวัย 23 ปี ไว้สูงถึง 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,640 ล้านบาท) ก็ตาม (Sky Sports)

 – นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้มีการติดต่อไปยัง อาแอส โรม่า เพื่อขอยืมตัว เจงกิส อุนแดร์ ปีกทีมชาติตุรกี มาใช้งาน ขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็มีความสนใจในตัว ดาวเตะวัย 23 ปี เช่นกัน (Inside Futbol)

 – แอสตัน วิลล่า กำลังจะได้ตัว แบร์กทร็องด์ ตราโอเร่ กองหน้าจอมพลิ้ว โอลิมปิก ลียง มาร่วมทัพ หลังตกลงค่าตัวได้เรียบร้อยที่ 17 ล้านปอนด์ (ประมาณ 697 ล้านบาท) (Sky Sports)
 

 – เท่านั้นยังไม่พอ "สิงห์ผงาด" ยังหวังปิดดีลคว้าตัว มิลอต ราชิซ่า ดาวเตะ แวร์เดอร์ เบรเมน อีกราย (Birmingham Mail)

 – คริสตัล พาเลซ มีความมั่นใจว่าจะสามารถปาดหน้าหลายสโมสร ชิงตัว ซาอิด เบนราห์มา กองหน้า เบรนท์ฟอร์ด มาร่วมทีมได้สำเร็จ ในราคา 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 820 ล้านบาท) (Daily Mail)

 – โรดริโก้ เด ปอล ปีกทีมชาติอาร์เจนตินาของ อูดิเนเซ่ พร้อมที่จะย้ายร่วมก๊วน ลีดส์ ยูไนเต็ด โดยตอนนี้เหลือแค่การตกลงค่าตัวระหว่างสองสโมสร ซึ่งคาดว่า อูดิฯ ต้องการระดับ 40 ล้านยูโร (ประมาณ 1,480 ล้านบาท) (Fabrizio Romano)

 – บาร์เซโลน่า ยังคงมอง เมมฟิส เดอปาย กองหน้าจอมพลิ้ว โอลิมปิก ลียง เป็นแข้งเป้าหมายหลัก และเตรียมยื่นข้อเสนอไปทาบซื้ออย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ หลังตกลงสัญญาส่วนตัวกับนักเตะได้เรียบร้อยตั้งแต่หลายวันก่อน (Fabrizio Romano)

 – อันซู ฟาติ ปีกดาวรุ่งคนเก่ง บาร์เซโลน่า ซึ่งเคยมีข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่ย้ายไปไหนในช่วงซัมเมอร์นี้ นอกจากนี้ บาร์ซ่า ยังคงไม่มีการยื่นข้อเสนอไปทาบซื้อ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม กองกลาง ลิเวอร์พูล อย่างเป็นทางการ (Fabrizio Romano)

 – อาร์ตูโร่ วิดาล กองกลางชาวชิเลียนของ บาร์เซโลน่า ได้ตอบตกลงที่จะย้ายไปร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน ด้วยราคาเพียงแค่ 500,000 ยูโร (ประมาณ 18.5 ล้านบาท) + โบนัส โดยที่ บาร์ซ่า จะช่วย "งูใหญ่" จ่ายค่าเหนื่อยส่วนหนึ่งของ วิดาล ในสัญญาปีสุดท้ายที่เหลือในถิ่น คัมป์ นู ด้วย (RAC 1)

 – วิดาล เตรียมเดินทางไปยังประเทศอิตาลีในวันนี้ เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายกับ อินเตอร์ ภายใน 48 ชั่วโมง (RAC 1)

 – อาแอส โรม่า จ่อได้ตัว อาร์เคดิอุสซ์ มิลิค กองหน้าเลือดโปลของ นาโปลี มาร่วมทีมในราคา 25 ล้านยูโร (ประมาณ 925 ล้านบาท) บวกโบนัสอีก 5 ล้านยูโร (ประมาณ 185 ล้านบาท) (Radio Kiss Kiss)

– อย่างไรก็ตาม มิลิค ยังไม่ตอบตกลงที่จะย้ายไปร่วมทีม "จัลโล่รอสซี่" เนื่องจากยังคงแอบหวังที่จะได้ย้ายไป ยูเวนตุส ซึ่งถือเป็นสโมสรตัวเลือกแรกของเจ้าตัว (Sky Sport Italia)

 – ขณะที่ เอดิน เชโก้ หัวหอกตัวเก๋า อาแอส โรม่า มีแววที่จะได้ย้ายไป ยูเวนตุส เนื่องจากกุนซือ อันเดรีย ปีร์โล่ มอง เชโก้ เป็นกองหน้าเป้าหมายหลักเหนือ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิง บาร์เซโลน่า (Calciomercato)

 – อาแอส โรม่า พร้อมที่จะหยุดเจรจากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการขอซื้อตัว คริส สมอลลิ่ง ปราการหลังเลือดผู้ดี หลังมีแววที่จะได้ มารัช คุมบูลล่า เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่ง เฮลลาส เวโรน่า มาใช้งานแบบสัญญายืมตัว 1 ซีซั่น พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดในราคา 30 ล้านยูโร (ประมาณ 1,110 ล้านบาท) (Sky Sport Italia)

 – อนาคตของ ดาวิด อลาบา กองหลังสารพัดประโยชน์ บาเยิร์น มิวนิค ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและซับซ้อน โดยถึงแม้ปัจจุบัน อลาบา เหลือสัญญาอีกแค่ปีเดียว และต้องการย้ายทีม แต่ "เสือใต้" ยังคงหวังที่จะเก็บ ดาวเตะทีมชาติออสเตรียวัย 28 ปี ไว้ใช้งานต่อ และต้องการจับขยายสัญญาออกไป (Fabrizio Romano)

รักเพื่อนมากพอๆ กับ ฟาน เดอ เบ็ค! 5 แข้งเลือกใส่เบอร์ 34 เพื่อ นูริ

ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค มิดฟิลด์คนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างความประทับใจให้กับหลายฝ่าย หลังจากที่เลือกใส่เบอร์ 34 กับต้นสังกัดใหม่ของเขา โดยเจ้าตัวบอกว่าสาเหตุที่เลือกเบอร์นี้เพราะอยากแสดงความรักที่มีต่อ อับเดลฮัค นูริ อดีตมิดฟิลด์ดาวรุ่งของ อาแจ็กซ์ ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของเขา และเพื่อที่จะได้มีความทรงจำที่ดีๆ ร่วมกับเบอร์ของอดีตเพื่อนรักด้วย หลังจากที่ นูริ เคยใส่เบอร์ 34 ในตอนที่อยู่กับ อาแจ็กซ์
   
สำหรับ นูริ นั้น เป็นข่าวใหญ่พอตัวในโลกลูกหนังเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ปี 2017 เพราะวันนั้นเขาได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ อาแจ็กซ์ ในเกมอุ่นเครื่องกับ แวร์เดอร์ เบรเมน แต่จู่ๆ เขาก็เป็นลมเพราะภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ก่อนที่แพทย์จะตรวจพบว่าสมองบางส่วนของ นูริ ได้รับความเสียหายแบบร้ายแรง แถมยังเป็นความเสียหายแบบถาวรด้วย

ถึงแม้ นูริ จะได้ออกจากห้องไอซียูในวันที่ 27 กรกฎาคมของปี 2017 และสามารถหายใจได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือช่วย แต่เขาก็อยู่ในภาวะเจ้าชายนิทรา และไม่สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีก ก่อนที่เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเขาจะฟื้นจากอาการโคมา และกลับไปอยู่กับครอบครัวที่บ้านได้

นูริ ถือเป็นเพื่อนที่ดีของนักเตะหลายคน เพราะที่จริงนอกจาก ฟาน เดอ เบ็ค แล้วนั้น มันยังมีอีก 5 คนที่เคยเลือกใส่เบอร์ 34 เพื่อเป็นการแสดงความรักที่มีต่อเขาเช่นกัน ลองไปดูกันเลยว่ามีใครบ้าง

 – จัสติน ไคลเวิร์ต
หนึ่งในผลผลิตที่โด่งดังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาของ อาแจ็กซ์ ไคลเวิร์ต เข้าอะคาเดมี่ของ อาแจ็กซ์ หลังจาก นูริ ได้ 2 ปี รวมถึงได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ช้ากว่าอีกฝ่ายราว 1 ปี และตอนที่ นูริ มีอาการป่วยสุดช็อกนั้น ไคลเวิร์ต ก็เริ่มเป็นที่จับตามองของหลายทีม ก่อนที่สุดท้ายจะย้ายไปอยู่กับ โรม่า ในปี 2018

ทั้งนี้ ด้วยความรักที่มีต่อเพื่อน ไคลเวิร์ต จึงขอเลือกสวมเบอร์เสื้อ 34 ในฤดูกาลแรกของเขากับ โรม่า ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ 2 ประตู จากการลงเล่น 35 นัดในทุกรายการในซีซั่น 2018-19 แต่พอฤดูกาลต่อมาเขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนไปใส่เบอร์ 99 และยังใส่เบอร์นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนเบอร์ 34 ของ โรม่า ในตอนนี้ไร้เจ้าของ

– อามิน ยูเนส
ยูเนส ย้ายจาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ไปอยู่กับ อาแจ็กซ์ ในปี 2015 และแม้ว่าจะไม่ได้เติบโตมาจากอะคาเดมี่ของ อาแจ็กซ์ แต่ช่วงเวลาราว 2 ปีที่ได้ร่วมงานกับ นูริ ในสีเสื้อของ อาแจ็กซ์ ก็ทำให้ ยูเนส รักแข้งรายดังกล่าวไม่แพ้กับนักเตะคนอื่นๆ ของทีมดังแห่งลีกฮอลแลนด์

ด้วยเหตุนี้ ในตอนที่เขาย้ายจาก อาแจ็กซ์ มาอยู่กับ นาโปลี เมื่อปี 2018 ยูเนส ก็ขอเลือกใส่เบอร์ 34 และเขาก็ยังใส่เสื้อตัวดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งที่สมัยอยู่กับ อาแจ็กซ์ เขาถึงขั้นเคยได้เป็นเจ้าของเบอร์ 11 ซึ่งเป็นเบอร์ที่ฮิตกันพอตัว โดยตอนที่เขาย้ายไปอยู่กับ นาโปลี ใหม่ๆ นั้น เจ้าของเบอร์ 11 ก็คือ อดัม อูนาส และหากว่ากันตามตรงแล้ว อูนาส ก็ไม่ใช่นักเตะที่โด่งดังอะไรมากนัก หรือก็คีอจริงๆ แล้วถ้าเกิด ยูเนส อยากจะใส่เบอร์ 11 ของ นาโปลี ในตอนนั้น เขาก็น่าจะได้มันมาครองแบบไม่ยากเย็น แต่เจ้าตัวก็ยังเลือกจะใส่เบอร์ 34 อยู่ดี

– เควิน ดิ๊คส์
กรณีนี้ต่างไปจากพวกสักหน่อย เพราะ ดิ๊คส์ ไม่เคยอยู่กับ อาแจ็กซ์ มาก่อน แต่เขาก็สนิทสนมกับ นูริ ในตอนที่เล่นให้ทีมชาติฮอลแลนด์รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีด้วยกัน โดยที่ นูริ ถือเป็นดาวเด่นของ ฮอลแลนด์ ชุดนั้นด้วย เพราะทำไป 9 ประตู จากการลงเล่น 19 นัด

 สำหรับ ดิ๊คส์ นั้น ที่จริงเขาบรรลุข้อตกลงย้ายจาก วิเทสส์ อาร์เน่ม ไปอยู่กับ ฟิออเรนติน่า ในปี 2016 โดยตอนแรกเขาเลือกเบอร์ 17 แต่พอเพื่อนซี้ของเขาป่วยหนักในปี 2017 แล้วนั้น เจ้าตัวก็ขอเปลี่ยนไปใส่เบอร์ 34 ของ ฟิออเรนติน่า ในฤดูกาล 2018-19 ซึ่งเป็นตอนที่เขากลับมาจากการเล่นให้ เฟเยนูร์ด ด้วยสัญญายืมตัวแล้ว

แม้ว่าในซีซั่น 2018-19 กับ 2019-20 เขาจะโดนปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวกับ เอ็มโปลี และ อาร์ฮุส (ทีมในประเทศเดนมาร์ก) ตามลำดับ แต่ ดิ๊คส์ ก็ยังขอใส่เบอร์ 34 ในตอนที่ไปเล่นกับ 2 ทีมนั้นเช่นกัน

– ฟิลิปป์ แซนด์เลอร์
ก่อนจะไปเล่นฟุตบอลอาชีพกับทีมชุดใหญ่ของ พีอีซี ซโวลล์ ในปี 2016 นั้น แซนด์เลอร์ เคยอยู่กับอะคาเดมี่ของ อาแจ็กซ์ และมันก็ทำให้เขาเคยร่วมงานกับ นูริ อยู่พักหนึ่งเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ แซนด์เลอร์ จึงตัดสินใจที่จะขอเบอร์ 34 จาก แมนฯ ซิตี้ ในตอนที่ย้ายมาอยู่กับ "เรือใบสีฟ้า" ในปี 2018 และเขาก็ได้รับเบอร์นั้นทันที

แม้ว่าในฤดูกาลก่อน แซนด์เลอร์ จะโดนปล่อยไปเล่นกับ อันเดอร์เลชท์ ด้วยสัญญายืมตัว แต่เขาก็ยังเลือกใส่เบอร์ 34 เหมือนเดิม จนเป็นการตอกย้ำว่าเขาคิดถึง นูริ เป็นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ได้ร่วมงานกับอีกฝ่ายในทีมชุดใหญ่ของ อาแจ็กซ์ เลยก็ตาม

– โจเอล เฟลท์แมน
เฟลท์แมน เข้าไปอยู่กับอะคาเดมี่ของ อาแจ็กซ์ ตั้งแต่ปี 2001 แล้วจากนั้นก็ได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2012 นั่นทำให้เขาเคยได้ร่วมงานกับ นูริ เยอะพอตัว และเขาก็เป็นเหมือนรุ่นพี่ที่ดีคนหนึ่งของอดีตดาวเตะชาวดัตช์

ทั้งนี้ สถานการณ์ของ เฟลท์แมน คล้ายกับ ฟาน เดอ เบ็ค พอตัว เพราะเขาเพิ่งได้ย้ายมาอยู่กับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ ไบรท์ตันฯ จ่ายค่าฉีกสัญญาของเขาที่ราว 900,000 ปอนด์ และ เฟลท์แมน ก็ขอเลือกใส่เบอร์ 34 หลังจากก่อนหน้านี้เขาใส่เบอร์ 3 หลายปี

นั่นหมายความว่าในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเจอกับ ไบรท์ตันฯ ในซีซั่น 2020-21 นั้น เจ้าของเบอร์ 34 ของทั้ง 2 ทีมก็อาจจะได้โคจรมาเจอกันอีกครั้ง และวันนั้นก็น่าจะเป็นวันที่มีเรื่องให้พูดถึงในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ทริปเบิ้ลแชมป์ยังไม่พอ! เปิดค่าจ้าง ฮันซี่ ฟลิค ได้น้อยแต่ผลงานมหาศาล

ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์มือทอง "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งนำสโมสรผงาดคว้า 3 แชมป์ในฤดูกาล 2019/2020 ทั้งๆ ที่กุมบังเหียนไม่ถึงปี ได้รับเงินค่าจ้างเพียงแค่ 7.2 ล้านปอนด์ (ราว 273.6 ล้านบาท) ต่อปี เท่านั้น น้อยกว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยซ้ำ


กุนซือชาวเยอรมัน ถูกตั้งแต่งให้เป็นมือขวาของ นิโก้ โควัช ในเดือนกรกฎาคมปี 2019 ก่อนที่เขาจะเข้ามาคุมทัพแทนหลังจากที่ต้นสังกัดแยกทางกับ โค้ชชาวโครแอต ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน และเพียงไม่ถึงปีก็สามารถพลิกสถานการณ์ของทีมจากที่ไม่มีลุ้นแชมป์กลับมาประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยการคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ซึ่งเป็นสมัยที่ 2 ของ บาเยิร์น

ฟลิค ที่ทำงานเป็นมือขวาของ โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมนี มานานถึง 8 ปี ได้รับข้อเสนอเซ็นสัญญาถาวร 3 ปีกับ บาเยิร์น เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดย "บิลด์" สื่อดังในเมืองเบียร์ ระบุว่าเจ้าตัวได้รับค่าจ้างประมาณ 7.2 ล้านปอนด์

ผลงานของ ฟลิค ถือว่าสุดยอดมากๆ เพราะเขานำทีมสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นนับตั้งแต่ที่พ่ายให้กับ "สิงห์หนุ่ม" โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมปีที่ผ่านมา และสามารถเก็บชัยชนะ 13 เกมรวดจนทำให้ทีมเข้าวินซิวแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์อย่างยิ่งใหญ่

จากนั้นก็นำยอดทีมแห่งแคว้นบาวาเรีย ปราบ "ห้างขายยา" ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล ตามด้วยผลงานชั้นยอดในการปราบ เชลซี (รอบ 16 ทีมสุดท้าย) ไล่ถลุง บาร์เซโลน่า (รอบก่อนรองชนะเลิศ) สอย โอลิมปิก ลียง (รอบรองชนะเลิศ) และเฉือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในนัดชิง คว้าโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" มาครอบครอง

สำหรับค่าจ้างของ ฟลิค ต้องบอกเลยว่ายังห่างไกลจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อดีตกุนซือบาเยิร์น ที่ปัจจุบันทำงานให้กับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งได้รับค่าจ้างสูงถึง 20 ล้านปอนด์ (ราว 760 ล้านบาท) ต่อปี ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่สร้างประวัติศาสตร์นำ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรกในรอบ 30 ปี รับทรัพย์ 15 ล้านปอนด์ (ราว 570 ล้านบาท) ต่อปีเท่ากับที่ สเปอร์ส จ่ายให้กุนซือโชเซ่ มูรินโญ่

ความสำเร็จของ ฟลิค ต้องบอกว่ายิ่งใหญ่เกินคำบรรยายแต่สำหรับค่าจ้างของเขายังน้อยกว่าที่ เอฟเวอร์ตัน จ่ายให้กับ คาร์โล อันเชลอตติ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียน ที่ได้ค่ามันสมองจำนวน 11.5 ล้านปอนด์ (ราว 437 ล้านบาท) ต่อปี ส่วน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส รับเงินจำนวน 10 ล้านปอนด์ (ราว 380 ล้านบาท) ต่อปีจาก เลสเตอร์ ซิตี้

ขณะที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ยินดีปรีดาที่จะทุ่มเงินค่าจ้างเพื่อตอบแทนความสุดยอดของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ผู้จัดการทีมประสบการณ์สูงที่นำ "ยูงทอง" เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีก  ด้วยเม็ดเงินจำนวน 8 ล้านปอนด์ (ราว 304 ล้านบาท) ต่อปี

สำหรับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งนำ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทะลุรอบรองชนะเลิศฟุตบอลถ้วย 3 รายการในซีซั่นนี้ (คาราบาว คัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก) ได้รับค่าจ้างจำนวน 7.5 ล้านปอนด์ (ราว 285 ล้านบาท) ต่อปี

โกเซนส์มาแล้ว!เลิฟแบโผ22แข้งทีมชาติเยอรมนีเตะเนชั่นส์ลีก

โยอัคคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมนี เปิดโผขุนพล "อินทรีเหล็ก" ที่จะใช้ลงทำศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ช่วงต้นเดือนหน้าออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ โรบิน โกเซนส์ ฟูลแบ็กดาวดัง อตาลันต้า มีชื่อติดทัพเป็นครั้งแรก

     โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมนี ประกาศรายชื่อ 22 ผู้เล่น ชุดที่จะใช้ลงเตะเกม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2020/21 จำนวน 2 นัด ที่มีคิวเปิดบ้านเจอ สเปน วันที่ 3 กันยายน และบุกไปเยือน สวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 6 กันยายน ออกมาเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันอังคารที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา

     แข้งดาวดังอย่าง โทนี่ โครส ห้องเครื่อง เรอัล มาดริด, ลีรอย ซาเน่ ปีกตัวใหม่ บาเยิร์น มิวนิค, ไค ฮาแวร์ตซ์ กองกลางดาวรุ่ง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกป้ายแดง เชลซี ต่างมีชื่อติดโผกันอย่างพร้อมหน้

     อย่างไรก็ตาม บรรดาแข้งตัวหลักจากค่าย "เสือใต้" อย่าง มานูเอล นอยเออร์, โยชัว คิมมิช, แซร์จ นาบรี้ และ ลีออน โกเร็ตซ์ก้า ไม่มีชื่อติดทีม เนื่องจากได้รับอนุญาตให้พัก หลังเพิ่งช่วยต้นสังกัดพิชิต ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา
 
     สำหรับนักเตะหน้าใหม่ที่ถูกเรียกตัวติดทัพ "อินทรีเหล็ก" เป็นครั้งแรกมี 3 ราย ซึ่งประกอบไปด้วย โรบิน โกเซนส์ แบ็กซ้ายตัวเก่ง อตาลันต้า, โฟลเรียน นอยเฮาส์ มิดฟิลด์ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค และ โอลิเวอร์ เบามันน์ นายทวารฝีมือดีจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์

สรุปรายชื่อ 22 ผู้เล่นทีมชาติเยอรมนี

     ผู้รักษาประตู : เควิน ทรัปป์ (ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต), แบร์นด์ เลโน่ (อาร์เซน่อล / อังกฤษ), โอลิเวอร์ เบามันน์ (ฮอฟเฟ่นไฮม์)

     กองหลัง : ธีโล เคห์เลอร์ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง / ฝรั่งเศส), โรบิน โกเซนส์ (อตาลันต้า / อิตาลี), มัทธีอัส กินเทอร์ (โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค), โจนาธาน ทาห์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น), นิโค่ ชูลซ์ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์), นิคลาส ซือเล่ (บาเยิร์น มิวนิค), อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (เชลซี / อังกฤษ), โรบิน ค็อค (ไฟร์บวร์ก)

     กองกลาง : โฟลเรียน นอยเฮาส์ (โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค), ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง / ฝรั่งเศส), โทนี่ โครส (เรอัล มาดริด / สเปน), ยูเลี่ยน บรันด์ท (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์), ไค ฮาแวร์ตซ์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น), ลีรอย ซาเน่ (บาเยิร์น มิวนิค), ซูอัต แซร์ดาร์ (ชาลเก้ 04), อิลคาย กุนโดกัน (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / อังกฤษ), เอ็มเร่ ชาน (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)

     กองหน้า : ติโม แวร์เนอร์ (เชลซี / อังกฤษ), ลูก้า วัลด์ชมิดท์ (เบนฟิก้า / โปรตุเกส)