ลิเวอร์พูล ไร้ติอาโก้จัด “โชต้า” ตัวจริงรับมือ มิดทิลลันด์ ศึกชปล.

"หงส์แดง" หวังโกยอีก 3 แต้มหลังเกมนี้ได้กลับมาเฝ้ารังรับมือ มิดทิลลันด์ ทีมดังจากเดนมาร์ก ซึ่งเกมนี้ยังไร้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ห้องเครื่องตัวเก่งที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ส่วนแนวรุกจะให้ ดีโอโก้ โชต้า ออกสตาร์ทตัวจริงประสานงานร่วมกับ 3 ประสานทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม คืนวันอังคารที่ 27 ตุลาคม นี้
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม ดี
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) – มิดทิลลันด์ (เดนมาร์ก)       
วันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลา : 03.00 น.
สนาม : แอนฟิลด์

สภาพทีมโดยทั่วไป

ลิเวอร์พูล

    เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ลิเวอร์พูล พาทีมเบียดชนะอาแจ็กซ์ 1-0 ในนัดแรก ก่อนเชือดเชฟฯ ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะ 2 นัดติด 

    ความพร้อมเกมนี้ คล็อปป์ ออกมายืนยันแล้วว่า ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ โฌแอล มาติป จะพลาดเกมเปิดรังรับทีมจากแดนโคนมเช่นเดียว ขณะที่ นาบี เกอิต้า แม้ผลตรวจโควิด-19ล่าสุดออกมาเป็นลบ แต่ยังต้องเช็กสภาพร่างกาย

    ส่วนพวกที่เดี้ยงอยู่ก่อนทั้ง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ คอนสแตนตินอส ซิมิคาส ต้องพักยาวเหมือนเดิม

    สำหรับแกนหลักขาประจำรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ รวมทั้ง ดีโอโก้ โชต้า ที่ซัดประตูชัยในเกมเปิดบ้านเฉือน เชฟฯยุไนเต็ด 2-1 น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเช่นกัน

มิดทิลลันด์

    ไบรอัน ปริสเก้ เทรนเนอร์มมิดทิลลันด์ พาทีมเปิดฉากรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างน่าหดหู่ หลังแพ้อตาลันต้าเละ 0-4 แต่ก็แก้ตัวได้ด้วยการเบียดชนะบรอนด์บี้ 3-2 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะนัดที่ 3 ในรอบ 5 เกม 

    สภาพทีมเกมนี้ ปริสเก้ จะชวดใช้งาน โอลิเวอร์ โอลเซ่น และ คริสเตียน ริส ที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วเหมือนเดิม

    นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่ม แกนหลักประจำทีมรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เอริค สเวียตเชนโก้, อเล็กซานเดอร์ โชลซ์, แฟร้งค์ ออนเยก้า, โซรี่ กาบ้า และ ปิยอน ซิสโต้ แนวรุกทีมชาติเดนมาร์ก ต่างพร้อมช่วยทีมทั้งหมด

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

    ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – ดีโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ – โมฮาเหม็ด ซาลาห์

    เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

    มิดทิลลันด์ (4-2-3-1) : เยสเปอร์ ฮันเซ่น – โยเอล อันเดอร์สสัน, เอริค สเวียตเชนโก้, อเล็กซานเดอร์ โชลซ์, เปาลินโญ่ – เยนส์ คายุสเต้, แฟร้งค์ ออนเยก้า – อันเดอร์ส เดรเยอร์, ปิยอน ซิสโต้, อาเวอร์ มาบิล – โซรี่ กาบ้า  

    เทรนเนอร์ : ไบรอัน ปริสเก้

    ผู้ตัดสิน : พาเวล ราซคอฟสกี้ (โปแลนด์)

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด
ไม่เคยพบกัน

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล
25/10/20 ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
21/10/20 ชนะ อาแจ็กซ์ 1-0 (เยือน) ชปล.
17/10/20 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
04/10/20 แพ้ แอสตัน วิลล่า 2-7 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
01/10/20 เสมอ อาร์เซน่อล 0-0 (เหย้า) ลีก คัพ

มิดทิลลันด์
24/10/20 ชนะ บรอนด์บี้ 3-2 (เยือน) ซูเปอร์ลีกา
22/10/20 แพ้ อตาลันต้า 0-4 (เหย้า) ชปล.
17/10/20 ชนะ โอเดนเซ่ 3-1 (เหย้า) ซูเปอร์ลีกา
04/10/20 เสมอ ฮอร์เซ่นส์ 2-2 (เยือน) ซูเปอร์ลีกา
01/10/20 ชนะ สลาเวีย ปราก 4-1 (เหย้า) ชปล.

ฟาบินโญ่ติดโผ,ไร้แข้งแมนยู!เว็บดังจัดทีมยอดเยี่ยมชปล.วีกแรก

 

การแข่งขันศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สัปดาห์แรก ประจำฤดูกาล 2020/21 ได้ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันอังคารและพุธที่ผ่านมา ซึ่งสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ยูเวนตุส, บาร์เซโลน่า รวมถึงแชมป์เก่าอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ต่างสามารถเก็บชัยชนะกันได้อย่างพร้อมหน้า และก็มีนักเตะหลายคนเลยทีเดียว ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และนี่คือโฉมหน้าทีมยอดเยี่ยมจากวีกแรก ที่จัดทัพโดยเว็บไซต์ดังอย่าง whoscored.com (ระบบ 4-4-2)
 – ผู้รักษาประตู : มัตเวย์ ซาโฟนอฟ (เอฟซี คราสโนดาร์, เรตติ้ง 7.67)
  เป็นนายทวารที่เรตติ้งดีสุดในวีกแรก โดยนายด่านวัย 21 ปี ออกแรงเซฟถึง 6 ครั้งในเกมที่ช่วยต้นสังกัดบุกไปเสมอ แรนส์ 1-1 เมื่อคืนวันอังคาร

 – แบ็กขวา : ฮวน กวาดราโด้ (ยูเวนตุส, เรตติ้ง 7.76)
  ฟูลแบ็กชาวโคลอมเบียวัย 32 ปี โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นในเกมที่ ยูเว่ บุกสอย ดินาโม เคียฟ 2-0 เมื่อวันอังคาร โดยเป็นคนแอสซิสต์ให้ อัลบาโร่ โมราต้า ทำประตูปิดท้ายในนาทีที่ 84

 – เซนเตอร์แบ็ก : ฟาบินโญ่ (ลิเวอร์พูล, เรตติ้ง 8.71)
  โชว์ฟอร์มได้สุดยอดมากๆ กับการยืนเซนเตอร์แบ็กจำเป็นแทน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่พักยาว โดยเกมเมื่อคืนวันพุธที่ "หงส์แดง" บุกเชือด อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-0 นั้น แข้งเลือดแซมบ้าวัย 26 ปี มีสถิติแท็กเกิ้ลชนะและแย่งบอลรวมกันได้ถึง 8 ครั้ง แถมเคลียร์บอลทิ้งถึง 9 หน ซึ่งก็รวมถึงจังหวะเคลียร์บอลจากเส้นประตูช่วงท้ายครึ่งแรก ที่เจ้าตัวได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก

 – เซนเตอร์แบ็ก : คริสเตียน โรเมโร่ (อตาลันต้า, เรตติ้ง 8.52)
  แนวรับชาวอาร์เจนไตน์วัย 22 ปี คุมแนวรับได้แข็งแกร่งสุดๆ ในเกมที่ช่วยต้นสังกัดบุกยำ มิดทิลแลนด์ 4-0 เมื่อคืนวันพุธ โดยชนะดวลลูกกลางอากาศถึง 5 หน แถมเป็นคนแอสซิสต์ให้ ดูวาน ซาปาต้า ทำประตูขึ้นนำ 1-0 ด้วย

 – แบ็กซ้าย : ดานิโล่ (ยูเวนตุส, เรตติ้ง 8.27)
  ฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งของ ยูเวนตุส ต่างมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของ whoscored.com โดย ดานิโล่ เล่นได้แจ่มทั้งรับและรุกในเกมที่ "ม้าลาย" บุกพิชิต ดินาโม เคียฟ 2-0 ซึ่งเจ้าตัวมีสถิติแท็กเกิ้ลชนะและแย่งบอลรวมกันถึง 6 ครั้ง แถมเลี้ยงบอลได้พลิ้วสุดๆ ด้วยสถิติพาบอลผ่านนักเตะคู่แข่งได้ 5 หน

 – กองกลาง : โยซัว คิมมิช (บาเยิร์น มิวนิค, เรตติ้ง 8.36)
  เป็นอีกหนึ่งแข้ง "เสือใต้" ที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเล่นในตำแหน่งไหน โดยเกมเมื่อคืนวันพุธที่ บาเยิร์น เปิดบ้านกระซวก แอตเลติโก มาดริด 4-0 นั้น คิมมิช เล่นได้โดดเด่นสุดๆ ในแผงมิดฟิลด์ เพราะนอกจากมีสถิติแท็กเกิ้ลชนะและแย่งบอลรวมกันได้ถึง 5 ครั้งแล้ว ยังเป็นคนแอสซิสต์สุดแม่นให้ คิงส์ลี่ย์ โกมัน ทำประตูขึ้นนำ 1-0 ด้วย

 – กองกลาง : ลีออน โกเร็ตซ์ก้า (บาเยิร์น มิวนิค, เรตติ้ง 8.16)
  เล่นได้โดดเด่นเคียงข้างกับ คิมมิช โดยเกมที่ บาเยิร์น ไล่ทุบ "ตราหมี" 4-0 นั้น นอกจากทำได้ 1 ประตูแล้ว โกเร็ตซ์ก้า ยังมีเปอร์เซนต์ผ่านบอลเข้าเป้าสูงถึง 95.7% แถมมีสถิติแท็กเกิ้ลชนะและแย่งบอลรวมกัน 3 ครั้ง


 

 – ปีกขวา : เตเต้ (ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค, เรตติ้ง 8.54)
  แข้งเลือดแซมบ้าวัย 20 ปี เล่นได้เข้าตามากๆ ในเกมที่ช่วย ชัคตาร์ บุกไปพลิกล็อกเอาชนะ เรอัล มาดริด 3-2 เมื่อคืนวันพุธ โดยนอกจากทำ 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ แล้ว ยังโชว์พลิ้วพาบอลผ่านนักเตะทีมคู่แข่งได้ถึง 3 หน

 – ปีกซ้าย : คิงส์ลี่ย์ โกมัน (บาเยิร์น มิวนิค, เรตติ้ง 9.57)
  เป็นแข้ง "เสือใต้" รายที่สามที่มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยม โดยเกมเมื่้อคืนวันพุธ โกมัน ซึ่งเป็นฮีโร่นัดชิงฯ ซีซั่นที่แล้ว โชว์ฟอร์มได้สุดยอดมากๆ เพราะนอกจากทำ 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์แล้ว เจ้าตัวยังสร้างโอกาสให้เพื่อนลุ้นทำประตูรวมกันได้ถึง 4 หน

 – กองหน้า : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า, เรตติ้ง 10)
  แข้งเทพชาวอาร์เจนไตน์วัย 33 ปี เล่นได้โดดเด่นเหลือเกินในเกมเมื่อวันอังคารที่ บาร์ซ่า เปิดบ้านยำ เฟเรนซ์วารอส 5-1 เพราะนอกจากทำ 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์แล้ว เจ้าตัวยังมีสถิติเด่นๆ อีกเพียบ เช่น สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมลุ้นทำประตู 4 หน และเลี้ยงบอลผ่านนักเตะคู่แข่งถึง 7 ครั้ง
 
 – กองหน้า : ดูวาน ซาปาต้า (อตาลันต้า, เรตติ้ง 8.60)
  เป็นอีกหนึ่งแข้ง อตาลันต้า ที่เล่นได้ดีมากๆ ในเกมบุกต้อน มิดทิลแลนด์ 4-0 โดย หัวหอกร่างยักษ์ทีมชาติโคลอมเบียวัย 29 ปี ทำ 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ซึ่งทั้งเกมเจ้าตัวมีโอกาสลุ้นทำประตูถึง 5 หน และเป็นการส่องตรงกรอบ 3 ครั้ง

ครึ่งสนามอย่างงาม! “เจอร์ราร์ด” ปลื้มบุกสยบลีแอช

สตีเว่น เจอร์ราร์ด นายใหญ่เรนเจอร์ส หัวใจพองโตหลังทีมบุกสยบ สตองดาร์ ลีแอช ได้ถึงถิ่นในเกมยูโรปา ลีก กลุ่ม ดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พร้อมซูฮกลูกยิงปิดกล่องของ เคมาร์ รูฟ บอกนี่คือประตูที่สวยที่สุดที่เคยเห็นด้วยตาตัวเองมาตลอดชีวิต
               สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษของ เรนเจอร์ส สโมสรดังในศึกสกอตติช พรีเมียร์ลีก สุดปลื้มหลังลูกทีมบุกชนะ สตองดาร์ ลีแอช ทีมแกร่งจากเบลเยียม 2-0 ในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา

               สำหรับผลงานของลูกทีม "สตีวี่จี" โดดเด่นมากๆ เมื่อพวกเขาได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 19 จากการยิงจุดโทษของ เจมส์ ทาเวอร์เนียร์ ก่อนจะมาได้ประตูตอกฝาโลงจาก เคมาร์ รูฟ ในนาที่ที่ 90+3 ส่งผลให้ เรนเจอร์ส เก็บ 3 คะแนนสำคัญถึงดินแดนช็อกโกแลตเลิศรส

               เจอร์ราร์ด ซึ่งทำผลงานคุมทีมได้ดีเยี่ยมโดยยังไม่แพ้ใครในเกมลีกแดนวิสกี้ ด้วยสถิติชนะ 9 เสมอ 2 รั้งจ่าฝูงลีก เปิดใจหลังจบเกมว่า "ผมคิดว่ามันเป็นชัยชนะที่มีความสำคัญมากๆ สำหรับการเริ่มต้นรอบแบ่งกลุ่มซึ่งถือเป็นเรื่องในด้านบวก เราเอาชนะทีมที่ดีเยี่ยมในค่ำคืนนี้ ผมคิดว่าเราสมควรได้รับชัยชนะ"

               นอกจากนี้ ตำนานกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ยังกล่าวชื่นชมประตูของ รูฟ ที่ซัดไกลประมาณครึ่งสนามเข้าประตูไปอย่างสุดสวยว่า "เราได้ประตูในช่วงเวลาที่สุดยอดมากๆ มันเป็นช่วงเวลาที่แสนเวิลด์คลาส ผมเคยเล่นฟุตบอลอาชีพมายาวนานตั้งแต่ปี 1998 และนี่คือประตูที่ดีที่สุดที่ผมได้เห็นด้วยตาตัวเองมาตลอดทั้งชีวิต"

“อิมโมบิเล่” นำทัพลาซิโอรับมือดอร์ทมุนด์ที่มี “ฮาแลนด์” ตะบัน ศึกชปล.

 "อินทรีฟ้า-ขาว" ลาซิโอ แม้ผลงานในลีกจะไม่ดีเท่าไหร่นักแต่เกมแรกในการคัมแบ็กเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ยอมแน่แม้จะเจอกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สามแต้มประเดิมสนามจะเป็นของฝั่งไหน ติดตามได้ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ นัดแรก คืนวันอังคารนี้

ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอฟ
ลาซิโอ (อิตาลี) – ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน)
วันอังคารที่ 20 ตุลาคม  2563  เวลา : 02.00 น.
สนาม : โอลิมปิโก 

สภาพทีมโดยทั่วไป 

    ลาซิโอ

    ซิโมเน่ อินซากี้ เทรนเนอร์ลาซิโอ พาทีมแพ้ซามพ์โดเรียยับ 0-3 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ไม่ชนะมา 3 เกมแล้ว 

    ความพร้อมเกมนี้ อินซากี้ จะไม่มีทั้ง เซนัด ลูลิช, อันเดรียส เปเรยร่า, ซิลวิโอ โปรโต้ และ สเตฟาน ราดู ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งหมด 

    ส่วน บาสโตส, ลุยซ์ เฟลิเป้ และ มานูเอล ลาซซารี่ ที่ไม่สมบูรณ์ ยังต้องรอทดสอบความฟิต แต่ข่าวดีคือจะได้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ดาวยิงกัปตันทีมคนสำคัญ พ้นโทษแบนในลีกกลับมา 

    ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้, เวสลี่ย์ ฮูดท์, เซอร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช, ลูคัส เลวา, หลุยส์ อัลเบร์โต้ และ ฮัวกิน กอร์เรอา ต่างพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม 

    ดอร์ทมุนด์   

    ลูเซียง ฟาฟร์ เทรนเนอร์ดอร์ทมุนด์ พาทีมชนะฮอฟเฟ่นไฮม์ 1-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 2 นัดติด 

    สภาพทีมล่าสุด ฟาฟร์ ยังไม่มี มาร์เซล ชเมลเซอร์, นิโก้ ชูลซ์ และ ดาน-อักเซล ซากาดู ที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้วทั้งหมด

    ส่วน ลูคัสซ์ พิซเซ็ค ที่เดี้ยงเพิ่มมาจากเกมล่าสุด ต้องรอทดสอบความฟิต เช่นเดียวกับ ธอร์กกาน อาซาร์ ที่มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อรบกวน 

    บรรดาแกนหลักหลายรายที่ได้พักเมื่อสุดสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นโรมัน บือร์กี้, มานูเอล อคานจี, จู๊ด เบลลิงแฮม, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ และ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ ก็พร้อมคัมแบ็กทั้งหมด

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม    

    ลาซิโอ (3-5-2) : โธมัส สตราโคช่า – ปาตริก, ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้, เวสลี่ย์ ฮูดท์ – มาร์โก ปาโรโล่, เซอร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช, ลูคัส เลวา, หลุยส์ อัลเบร์โต้, อดัม มูราซิช – ชิโร่ อิมโมบิเล่, ฮัวกิน กอร์เรอา

    เทรนเนอร์ : ซิโมเน่ อิซากี้ 

    ดอร์ทมุนด์ (3-4-2-1) : โรมัน บือร์กี้ – เอ็มเร่ ชาน, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มานูเอล อคานจี – โธมัส เมอนิเย่ร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, อักเซล วิตเซล, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ – เจดอน ซานโช่, โจวานนี่ เรย์น่า – เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์

    เทรนเนอร์ : ลูเซียง ฟาฟร์     

    ผู้ตัดสิน : กเลมงต์ ตูร์กแป็ง (ฝรั่งเศส) 

ผลการพบกันที่ผ่านมา 
วันเดือน/ปี รายการ ผลการแข่งขัน

12/08/18    กระชับมิตร (สนามกลาง)     ดอร์ทมุนด์ 1-0 ลาซิโอ 

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ลาซิโอ

17/10/20 แพ้ ซามพ์โดเรีย 0-3 (เยือน) เซเรีย อา 
04/10/20 เสมอ อินเตอร์ มิลาน 1-1 (เหย้า) เซเรีย อา
01/10/20 แพ้ อตาลันต้า 1-4 (เหย้า) เซเรีย อา
26/09/20 ชนะ กายารี่ 2-0 (เยือน) เซเรีย อา
19/09/20 เสมอ เบเนเวนโต้ 0-0 (เหย้า) กระชับมิตร


    ดอร์ทมุนด์
17/10/20 ชนะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 1-0 (เยือน) บุนเดสลีกา
03/10/20    ชนะ ไฟร์บวร์ก 4-0 (เหย้า) บุนเดสลีกา
01/10/20    แพ้ บาเยิร์น 2-3 (เยือน) ซูเปอร์ คัพ
26/09/20    แพ้ เอาก์สบวร์ก 0-2 (เยือน) บุนเดสลีกา
19/09/20    ชนะ มึนเช่นกลัดบัค 3-0 (เหย้า) บุนเดสลีกา

ลิเวอร์พูลเก่งกับดัตช์-มาดริดยับ3นัด! เปิดสถิติน่ารู้ศึก ชปล. คืนวันพุธ

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันพุธที่ผ่านมา มีการลงแข่งขันหลายสนามทีเดียว ไฮไลท์สำคัญคงอยู่ที่เกมระหว่าง อาแจ็กซ์ พบ ลิเวอร์พุล ที่สุดท้าย "หงส์แดง" บุกคว้าสามแต้มได้สำเร็จ ในขณะเดียวกันอีกหนึ่งทีมจากอังกฤษอย่าง "เรือใบสีฟ้า" ก็เก็บชัยชนะได้เช่นกัน แต่ผลการแข่งขันที่ช็อกที่สุดคงเป็นเกมปราชัยคาบ้านของ เรอัล มาดริด เรามาเก็บตกสถิติน่าสนใจแต่ละคู่ที่ลงสนามในคืนวันพุธนี้กัน
เรอัล มาดริด 2-3 ชัคตาร์ โดเนตส์ค

1 – ชัคตาร์ เป็นทีมจากยูเครนทีมแรกที่เอาชนะ เรอัล มาดริด ใน ชปล. นับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 1999 ที่ ไดนาโม เคียฟ เอาชนะไปได้ 2-0

3 – ราฟาเอล วาราน เป็นนักเตะเรอัล มาดริด คนที่สามที่ยิงเข้าประตูตัวเอง 2 ลูกใน ชปล. ต่อจาก อิบัน เอลเกร่า และ เซร์คิโอ รามอส

3 – เรอัล มาดริด พ่ายแพ้ในฟุตบอลยุโรป 3 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1986

3 – เรอัล มาดริด เสียประตูถึง 3 ลูกในครึ่งแรกในศึก ชปล. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2005 ในเกมพบ โอลิมปิก ลียง และยังเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในบ้านในรายการนี้นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2000 ในเกมพบ บาเยิร์น มิวนิค

15 – วินิซิอุส จูเนียร์ ใช้เวลาเพียง 15 วินาทีลงสนามมาก็ยิงประตูได้เลย โดยนับตั้งแต่เว็บไซต์ optajoe เก็บสถิติมาตั้งแต่ฤดูกาล 2006-07 นี่เป็นประตูที่ยิงไวที่สุดในฐานะตัวสำรอง

35 – ลูก้า โมดริช เป็นนักเตะวัยตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปเพียงคนที่ 4 ที่ยิงประตูให้กับ เรอัล มาดริด ในฟุตบอลยุโรป ต่อจาก อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่, เฟเรนซ์ ปุสกัส และปาโก้ เกนโต้

แมนฯ ซิตี้ 3-1 ปอร์โต้

5 – เปเป้ กองหลังตัวเก๋าของ ปอร์โต้ ทำเสียจุดโทษถึง 5 ครั้งใน ชปล. มากกว่านักเตะทุกคนตั้งแต่ฤดูกาล 2003-04

6 – ฟิล โฟเด้น มีส่วนร่วมกับประตูถึง 6 ลูกจาก 7 เกมหลังสุดของเขาใน ชปล. (3 ประตูกับ 3 แอสซิสต์) ทั้งที่ลงสนามในฐานะตัวสำรองถึง 4 เกมด้วยกัน

6 – นับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล 2019-20 แมนฯ ซิตี้ ยิงประตูจากลูกฟรีคิกถึง 6 ลูก (ดาบิด ซิลบา 2, มาห์เรซ 2, เดอ บรอยน์ 2 และ กุนโดกัน 1)

20 – ราฮีม สเตอร์ลิง เรียกจุดโทษถึง 20 ครั้งให้กับ แมนฯ ซิตี้ นับตั้งแต่ เป๊ป เข้ามาคุมทีมเดือนสิงหาคมปี 2016

76 – นี่เป็นชัยชนะนัดที่ 76 ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ใน ชปล. นับตั้งแต่คุมทีมในฐานะกุนซือเต็มตัวเกมแรกเมื่อเดือนกันยายนปี 2008

231 – เซร์คิโอ อเกวโร่ ยิงประตูแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่เขายิงในเกมพบ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หรือเมื่อ 231 วันที่แล้ว ซึ่งช่วงระยะห่างนี้เองเป็นระยะที่ยาวที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของเขากับสโมสรและทีมชาติ

บาเยิร์น มิวนิค 4-0 แอตเลติโก มาดริด

20 – นี่เป็นครั้งที่ 20 ที่ บาเยิร์น มิวนิค ภายใต้การคุมทีมของ ฮันซี่ ฟลิค ยิงประตูตั้งแต่ 4 ลูกขึ้นไป ถือว่ามากกว่าทุกทีมในยุโรปนับตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทีมเดือนพฤศจิกายนปี 2019

อาแจ็กซ์ 0-1 ลิเวอร์พูล

1 – อาแจ็กซ์ ชนะเพียงแค่ครั้งเดียวจาก 7 ครั้งที่เจอกับทีมจากอังกฤษในฟุตบอลยุโรป (เสมอ 2 แพ้ 4)

2 – ลิเวอร์พูล เพิ่งจะเก็บคลีนชีทได้เป็นครั้งที่ 2 ใน ชปล. นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว โดยอีกหนึ่งเกมเกิดขึ้นในแมตช์พบ ซัลซ์บวร์ก

5 – เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนตัว โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ พร้อมกันสามคนในเกมเดียวเป็นครั้งที่ 5

7 – ลิเวอร์พูล ไร้พ่ายในการเยือนทีมจากดัตช์ 7 ครั้งหลังสุด ยังเก็บคลีนชีทถึง 5 นัด (ชนะ 4 เสมอ 3)

34 – เจมส์ มิลเนอร์ ในวัย 34 ปี 291 วัน กลายเป็นนักเตะลิเวอร์พูลที่อายุมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ที่ลงเล่นในฟุตบอลยุโรป ต่อจาก แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ (37 ปี 84 วัน), เอียน คัลลาแกน (35 ปี 353 วัน)

5 – ในทางกลับกัน เคอร์ติส โจนส์ กลายเป็นนักเตะเอ๊าฟิลด์ของลิเวอร์พูลที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ที่ออกสตาร์ทตัวจริงใน ชปล. (19 วัน 265 วัน)

2010 – นิโกลัส ตายาฟิโก้ เป็นผู้เล่นอาแจ็กซ์คนแรกที่ยิงประตูตัวเองใน ชปล. นับตั้งแต่ เวอร์นอน อนิต้า เคยยิงประตูตัวเองในเกมพบ เรอัล มาดริด เมื่อเดือนกันยายนปี 2010

มีทั้งดีและแย่!แมนยูสร้าง2สถิติหลังบุกทุบเปแอสเช

การบุกไปชนะ ปารีสฯ 2-1 ทำให้ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเก็บชัยชนะในเกมเยือนได้ 10 นัดติดต่อกันเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของทีม แต่พวกเขาก็ทาบสถิติการทำเข้าประตูตัวเองเยอะที่สุดในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก เหมือนกัน
    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สร้างประวัติศาสตร์ชนะเกมเยือน 10 นัดติดต่อกันในทุกรายการได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีมหากไม่รับรวมเกมอุ่นเครื่อง หลังล่าสุดพวกเขาบุกไปทุบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-1 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช เมื่อวันอังคารที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา

    สำหรับสถิติในครั้งนี้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มต้นจากเกม เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศของฤดูกาลก่อนที่พวกเขาบุกไปเฉือน นอริช ซิตี้ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยชัยชนะที่เด่นๆ หลังจากนั้นมีอย่างเช่นเกมลีกที่บุกไปชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศที่แพ้ เซบีย่า 1-2 ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามันเตะที่สนามเป็นกลางจนทำให้ไม่ถือว่าสถิติของพวกเขาถูกหยุดเอาไว้ในตอนนั้น

    อย่างไรก็ตาม การที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล โหม่งเข้าประตูตัวเองในเกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาก็ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทาบสถิติการเป็นทีมที่ทำเข้าประตูตัวเองเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่ากับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เหมือนกัน ด้วยจำนวน 9 ครั้ง ซึ่งคนล่าสุดก่อนหน้านี้ของพวกเขาที่ทำเข้าประตูตัวเองในเกมชิงถ้วย "บิ๊กเอียร์" ได้แก่ ลุค ชอว์ โดยมันเกิดขึ้นในรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ทีมของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แพ้ บาร์เซโลน่า 0-1 เมื่อช่วงเดือนเมษายน ปี 2019

แลมพ์สไม่ปลื้ม! เชลซีเหงาเปิดรังเจ๊าเซบีย่าไร้สกอร์ประเดิม ชปล.

แฟร้งค์ แลมพาร์ด นายใหญ่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ยังต้องเรียกความมั่นใจคืนสู่ทีมหลังเปิดบ้านเจ๊า เซบีย่า 0-0 เก็บได้เพียง 1 คะแนนประเดิมถ้วยยุโรปทำให้ 5 เกมที่ผ่านมาคว้าชัยได้เพียง 1 นัด ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี) คืนวันอังคารที่ผ่านมา
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

    แฟร้งค์ แลมพาร์ด นายใหญ่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เพิ่งเปิดบ้านเสมอกับเซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 ในเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคมทำให้ 4 นัดที่ผ่านมา สิงห์บลูส์คว้าชัยได้เพียงแค่เกมเดียว

    ทางด้าน จูเลน โลเปเตกี พึ่งพาเซบีย่าบุกไปพ่ายให้กับกรานาด้า 0-1 ในเกมลีกนัดที่ผ่านมา ทำให้ทีมเยือนไม่ชนะใครมา 2 นัดติดต่อกันแล้ว
   
    5 นาทีผ่านเป็น เชลซี ทักทายก่อนจากบอลทางขวาของ  รีซ เจมส์ สอดขึ้นมาครอสเข้าในเกือบเข้าทาง ไค ฮาแวร์ทซ์ แต่ยังไปติดบล็อคแนวรับ เซบีย่า ทิ้งตัวสกัดเอาไว้ได้นิดเดียว

    นาทีที่ 14 เจ้าถิ่น มาเสียใบเหลืองแบบไม่น่าเสียเป็น จอร์จินโญ่ จ่ายบอลไม่ดีโดน ลูคัส โอคัมโปส ดักบอลได้เกือบโดนสวนกลับต้องยอมตัดเกมโดนใบเหลืองไป

    4 นาทีต่อมา เซบีย่า เกือบทะยานขึ้นนำเป็นฟรีคิกของ ซูโซ่ วางลึกไปเสาไกลเข้าหัว เนมานย่า กูเดลจ์ โขกบอลแฉลบ คูร์ท ซูม่า เปลี่ยนทางเกือบเข้าประตูติดมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ควักออกมาได้ทัน

    30 นาทีผ่าน เจ้าถิ่น ได้เสียวอีกครั้ง เมสัน เมาน์ท แทงช่องสุดงามให้ ติโม แวร์เนอร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปแตะหลบ ยัสซีน บูนู แต่บอลแรงหลุดออกหลังไปและมีธงล้ำหน้าขึ้นมาก่อนแล้วด้วย

    นาทีต่อมาจากบอลทางขวาของ รีซ เจมส์ ตั้งป้อมครอสเข้าในไปติด เซร์จี้ โกเมซ เลยมาถึง ติโม แวร์เนอร์ แต่งหาช่องซัดด้วยขวาบอลไปแฉลบย้อยเข้ามือ ยัสซีน บูนู รับไว้ไม่พลาด

    ท้ายครึ่งแรก ทีมเยือน มาเสียวส่งท้ายจากความสามารถเฉพาะตัวของ มาร์กอส อากุนญ่า หมุนเอาชนะ คริสเตียน พูลิซิช ตักไปเสาไกลให้ ซูโซ่ ขึ้นเอาชนะ เบน ชิลเวลล์ โขกบอลหลุดออกไปได้ลุ้น

    ช่วงทดเจ็บ "สิงโตน้ำเงินคราม" หวิดงานเข้า คูร์ท ซูม่า สกัดบอลผิดเหลี่ยมมาเข้าทาง ลูคัส โอคัมโปส ในกรอบเขตโทษแต่งเข้าขวาปั่นโค้งไปเข้ามือ เอดูอาร์ เมนดี้ ล้มตัวรับไว้ได้

    หมดครึ่งเวลาแรก เชลซี 0  เซบีย่า 0

    ครึ่งหลังเริ่มได้เพียง 2 นาที เชลซี โหมบุกทันทีมาได้ลุ้นจากลูกเตะมุมทางซ้ายของ เบน ชิลเวลล์ โยนมาเข้าหัว คูร์ท ซูม่า โขกคนเดียวโล่งๆไปตรงตัว ยัสซีน บูนู อย่างน่าเสียดาย

    นาทีที่ 55 ติโม แวร์เนอร์ ถอยมาเก็บบอลหน้าหัวกะโหลกก่อนปั่นด้วยขวาบอลโค้งข้ามผู้เล่น เซบีย่า แต่ยังไม่ดีพอผ่านมือ ยัสซีน บูนู ล้มตัวตะปปไว้ไม่พลาด

    3 นาทีต่อมา "สิงโตน้ำเงินคราม"  เร่งเครื่องต่อ ไค ฮาแวร์ทซ์ ป้ายบอลออกขวาให้   รีซ เจมส์ สอดมาตักลึกมาให้ เบน ชิลเวลล์ ขึ้นเอาชนะแนวรับ เซบีย่า แต่ก็ยังโขกไปตรงตัว ยัสซีน บูนู

    นาทีที่ 68 เซบีย่า แลกหมัดบ้างจากลูกเตะมุมทางซ้ายของ อิวาน ราคิติช วางบอลเข้าเขตโทษย้อนให้ โจน จอร์ดาน ตวัดตามน้ำด้วยขวาตูมเดียวเฉี่ยวคานออกไปเหมือนเดิม

    หลังจากนั้นรูปเกมค่อนข้างอึดอัด ไม่กล้าเปิดแลกด้วยกันทั้งคู่ เซบีย่า มาได้ลุ้นในช่วงทดเจ็บจากบอลทางฝั่งซ้ายโยนลึกเข้ากรอบเขตโทษเลยไปถึง เอดูอาร์ เมนดี้

    จบเกม เชลซี 0  เซบีย่า 0 ลูกทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยังเร่งไม่ขึ้นเก็บ 1 คะแนนประเดิมถ้วย ชปล. แถมคว้าชัยได้เพียง 1 เกมในรอบ 5 นัดที่ลงสนามรวมทุกรายการ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง

    เชลซี (4-2-3-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ – รีซ เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา, คูร์ท ซูม่า, เบน ชิลเวลล์ – เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่ – เมสัน เมาน์ท, ไค ฮาแวร์ทซ์, คริสเตียน พูลิซิช – ติโม แวร์เนอร์

ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

    เซบีย่า (4-3-3) : ยัสซีน บูนู – เฆซุส นาบาส, เซร์จี้ โกเมซ, ดีเอโก้ คาร์ลอส, มาร์กอส อากุนญ่า – อิวาน ราคิติช, แฟร์นานโด, เนมานย่า กูเดลจ์ – ลูคัส โอคัมโปส, ลุค เดอ ยอง, ซูโซ่

ผู้จัดกาารทีม : จูเลน โลเปเตกี

ผู้ตัดสิน : เดวิด แมสซา

แมนยูไร้แม็กไกวร์-คาวานี่! ประเดิม “เตลลิส”, ปารีสฯมี “เนย์มาร์” นำซัดศึกชปล.

"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาดว่าจะส่ง อเล็กซ์ เตลลิส ลงประเดิมตัวจริง ขณะที่ เอดิสัน คาวานี่ และแฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไร้ชื่อเดินทางไปเยือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่มี เนย์มาร์ และคีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เป็นทีเด็ด ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช) วันอังคารที่ 20 ต.ค. ศกนี้ เวลา : 02.00 น.

ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 
(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช)
วันอังคารที่ 20 ตุลาคม 2563 (เวลา : 02.00 น.)
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)   –   แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)


สนาม : ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง :

     โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน วัย 47 ปี ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง นำสโมสรรั้งรองจ่าฝูงลีก เอิง ฝรั่งเศส เวลานี้ โดยเก็บไปแล้ว 15 คะแนน จากผลงานชนะ 5 แพ้ 2 นัด ยิง 16 เสีย 3 ประตู ตามหลัง ลีลล์ ทีมจ่าฝูง 2 คะแนน 

 ผลงานล่าสุด เปแอสเชบุกไปต้อน นีมส์ โอลิมปิก 4-0 ที่ สต๊าด เดส์ กอสติแยร์ ในลีก เอิง นัดที่ 7 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม ซึ่งทีมชนะ 5 นัดซ้อน ในลีก เอิง ทว่านัดนี้ทีมเสีย เลอันโดร ปาเรเดส กองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวา ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 11 และ อันเดร์ เอร์เรร่า มิดฟิลด์สเปนได้ลงเล่นแทน นอกจากนี้ทีมยังไม่มี ฆวน เบอร์นาต แบ็กซ้ายทีมชาติสเปน ที่บาดเจ็บเอ็นหัวเข่าซ้าย เข้ารับการผ่าตัดไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเช้าวันอังคารที่ 29 กันยายน ที่โรงพยาบาลปิติเย่ ซัลเปตริแยร์ และจะพักรักษาตัวนานหลายเดือน

     ขณะที่ มาร์โก แวร์รัตติ กองกลางทีมชาติอิตาลี บาดเจ็บ, ธีโล เคห์เรอร์ กองหลังทีมชาติเยอรมัน บาดเจ็บโคนขาหนีบ ในรายของ มาร์กินญอส เซนเตอร์แบ็กทีมชาติบราซิล กัปตันทีม พ้นโทษแบน 1 นัด ในลีก เอิง และเขาหายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย กลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว 

    ส่วน อังเคล ดิ มาเรีย ปีกชาวอาร์เจนไตน์ กับ เลย์วิน กูร์กซาว่า แบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส ต่างพ้นโทษแบนในลีก เอิง กลับมา และ เนย์มาร์ ดาวยิงทีมชาติบราซิล กลับมาฝึกซ้อมที่ก็องป์ เดส์ ลอชส์ ศูนย์ฝึกซ้อมของสโมสร ซึ่งเขาพร้อมที่จะลงสนาม หลังจากไม่ได้เล่นในนัดชนะนีมส์

    ทางด้าน ดานิโล่ เปเรยร่า กองกลางตัวรับทีมชาติโปรตุเกส วัย 29 ปี สมาชิกใหม่ของปารีส ที่ย้ายมาจากเอฟซี ปอร์โต้ ทีมชั้นนำของโปรตุเกส ในการเซ็นสัญญา ยืมตัว 1 ปี พร้อมมีออปชั่นที่จะซื้อขาด ล่าสุดกลับมาฝึกซ้อมเรียบร้อยแล้ว 

    สำหรับ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน, เมาโร อีการ์ดี้ ดาวยิงอาร์เจนไตน์ หายเจ็บ กลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว  


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :

     แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งหลังบุกไปพลิกแซงนิวคาสเซิ่ล 4-1 ในเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม

     ความพร้อมของปีศาจแดงคาดว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ ยังไม่เสี่ยงใช้งาน เอดินสัน คาวานี่ หลังดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ไม่ได้ลงสนามในเกมที่เป็นทางการเลยนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาและเพิ่งผ่านพ้นจากการกักตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 มาฝึกซ้อมกับทีมได้เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ตำแหน่งกองหน้าตัวความหวังเป็นโอกาสของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ไม่มีส่วนร่วมกับทีมในเกมกับ สาลิกาดง เนื่องจากติดโทษแบน 

     ส่วนในตำแหน่งริมเส้นฝั่งขวาเป็นหน้าที่ของ ฆวน มาต้า ที่จะได้ลงสนามแทนที่ของ เมสัน กรีนวู้ด ที่มีปัญหาความฟิตจนไม่ได้ลงสนามในเกมที่แล้ว โดยจะประสานงานกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ยืนอยู่หลังกองหน้า และ มาร์คัส แรซฟอร์ด ฝั่งซ้าย 

     ทั้งนี้ อดีตนายใหญ่ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ คงจะใช้งาน ดาบิด เด เคอา ลงเฝ้าเสาต่อไป  โดยมี ดีน เฮนเดอร์สัน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ขณะที่ อเล็กซ์ เตลลิส แบ็กซ้ายตัวใหม่ ก็จะได้รับโอกาสประเดิมสนามในเกมนี้แทนที่ของ ลุค ชอว์ ที่เพิ่งทำเข้าประตูตัวเอง เช่นเดียวกันกับ พอล ป็อกบา ที่ถูกดร็อปในเกมเมื่อวันเสาร์ก็จะออกสตาร์ตเป็นตัวจริงอีกครั้ง

    และข่าวล่าสุด  แฮร์รี แม็กไกวร์ ไม่ได้เดินทางไปกับทีมคาดว่ามีปัญหาบาดเจ็บจากเกมชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ขณะที่ เอริค ไบยี่ ก็เช่นกันทำให้ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ คือตัวเลือกที่น่าจะถูกใช้งานนัดนี้


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (4-3-3) : เกย์ลอร์ นาวาส – อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มาร์กินญอส, เพรสแนล คิมเพมเบ้, มิทเชล บัคเคอร์ – อันเดร์ เอร์เรร่า, อิดริสซ่า กาน่า เกย, ราฟินญ่า – อังเคล ดิ มาเรีย, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, เนย์มาร์
     ผู้จัดการทีม : โธมัส ทูเคิ่ล

     แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (ดีน เฮนเดอร์สัน) – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ,  อั๊กเซล ตวนเซเบ้​, อเล็กซ์ เตลลิส – เนมานย่า มาติช, พอล ป็อกบา – ฆวน มาต้า, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
     ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

 

ก็ได้อยู่! “คล็อปป์” โอเคลิเวอร์พูลเล่นดีพอคว้าชัย

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ชี้ลูกทีมเล่นได้ดีพอกับการเป็นฝ่ายชนะ หลังบุกเชือด อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-0 พร้อมตำหนิสภาพสนามที่ทำทั้งสองทีมเล่นกันยาก
               เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เชื่อว่า ทีมตนสามารถทำผลงานได้ดีกว่านี้ แต่อย่างน้อยก็ยังดีพอกับการเป็นฝ่ายชนะ หลัง "หงส์แดง" บุกเชือด อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา

               เป็นเกมที่ทั้งสองทีมต่างเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และสุดท้ายเป็น ลิเวอร์พูล ที่เก็บ 3 แต้มกลับบ้าน จากประตูชัยในนาทีที่ 35 ซึ่งมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของผู้เล่นแนวรับเจ้าถิ่นอย่าง นิโกลัส ตายาฟิโก้

             "ถือเป็นฟอร์มที่ดีพอในการคว้าชัยชนะ นั่นแหละคือสิ่งที่คุณต้องการ แน่นอน ผมคิดว่า ทั้งสองทีมสามารถเล่นได้ดีกว่านี้ แต่สภาพพื้นสนามมันก็ดูแปลกๆ นะ ทั้งลึกและเต็มไปด้วยโคลน มันทำให้นักเตะเหนื่อยกันเร็ว" คล็อปป์ เปิดใจหลังเกม

เลสเตอร์ดุดัน! เรียงหน้าซัดซอร์ย่าเริ่มต้นยูโรปาลีกสุดแจ่ม

"จิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ คือฟอร์มดุอีกครั้ง ไล่ยำ ซอร์ย่า ลูแฮงค์ สโมสรแกร่งจากยูเครน ไปราบคาบ 3-0 กำสามคะแนนประเดิมทัวร์นาเมนต์นี้สวยงาม ในการแข่งขันศึกฟุตบอลยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดแรก คืนวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

     ศึกฟุตบอลยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดแรก คืนวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา "จิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ เกมลีกสองนัดหลังสุดไม่มีแต้มติดมือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมเจ้าบ้านเร้าลูกทีมคือฟอร์มเก่งใหได้ ยังขาด เจมี่ วาร์ดี้ ที่บาดเจ็บอยู่จำเป็นต้องส่ง "เคเลชี่ อิเฮียนาโช่" ยืนหน้าทะลงสกอร์ทีมเยือน ซอร์ย่า ลูแฮงค์ สโมสรแกร่งจากยูเครน วิคเตอร์ สคริปนิค โค้ชของทีมส่งดาวเตะชุดใหญ่ มีความหวังอยู่ที่ศูนย์หน้า "วลาดิสลาฟ คาบาเยฟ" โดยแมตช์นี้มีกรรมการเป็นสุภาพสตรีลงทำหน้าที่ตัดสินเกม

     ผ่านมาถึงนาทีที่ 22 เจมส์ แมดดิสัน วิ่งมารับบอลจ่ายจากเพื่อนหลุดเข้าไปในเขตโทษทางซ้าย ก่อนชิพบอลข้ามตัวนายทวารทีมเยือน ทว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของเจ้าตัวก่อนแล้ว

     จิ้งจอกออกนำนาทีที่ 29 เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ถอยต่ำมารับบอลกลางสนาม จ่ายออกข้างทางซ้ายไปที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ลากอบลมาปั่นไปชนเสาสองด้านเขากระดอนมาหน้าปากประตู เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ พยายามจะยิงซ้ำแต่บอลกลิ้งไปถูกแนวรับทีมเยือนมาหา เจมส์ แมดดิสัน จิ้มเข้าไปตุงตาข่าย

     เจ้าบ้านรุกหนักนาทีที่ 33 ยูริ ตีเลมันส์ แทงบอลออกมาให้ ติโมธี คาสตานเญ่ ที่เติมขึ้นมาทางขวาคนเดียวไร้ตัวประกบ วางบอลย้อยเข้าเขตโทษด้านซ้าย ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ตั้งศีรษะโหม่งบอลแต่บังคับทิศทางไม่ได้ออกหลังไป

     ต่อมานาทีที่ 37 เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงมาเก็บบอล ก่อนส่งเร็วให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เลี้ยงหนีผู้เล่นซอร์ย่าเข้าในเขตโทษ บรรจงยิงหักข้อแต่ว่า มีคีต้า เชฟเชนโก้ นายด่านทีมเยือนพุ่งปัดก่อนตามตะครุบไว้ได้

     เดอะฟ็อกซ์เล่นสบายนาทีที่ 45 คริสเตียน ฟลุคส์ ดันขึ้นสูงมาส่งบอลมากลางสนามให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ใช้ตัวบังก่อนเขี่ยต่อไปที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ปรี่มารับกระชากหลุดแผงแนวรับทีมเยือน เข้าไปโยกหลอกนิดนึงก่อนดีดข้ามตัวนายทวารคู่แข่ง จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งห่าง 2-0

     ยังเป็นเจ้าถิ่นลุยนาทีที่ 49 เจมส์ แมดดิสัน ยกบอลกลางสนามทิ้งมาที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ลากบอลลุยเข้ามาทางเขตโทษด้านซ้ายตบย้อนมาที่ เจมส์ แมดดิสัน โยกจังหวะหลอกหนึ่งหนยิงนอกกรอบเขตโทษ บอลไปติดบล็อก วิตาลี่ เวอร์นีดุบ กองหลังทีมเยือนออกหลัง

     ถัดมานาทีที่ 56 เจมส์ แมดดิสัน ครอสลูกเตะมุมทางขวา มาเขตโทษประมาณ 8 หลา เวสลี่ย์ โฟโฟน่า สบโอกาสโขกบอลเต็มแรงแต่ว่าบอลกระเด้งออกข้างเสาสองทางซ้ายกลิ้งออกหลังแทน

     จิ้งจอกแทบปิดเกมนาทีที่ 65 ดมิโทร อิวานิเซเนีย กองกลางซอร์ย่า ลงไปช่วยเกมรับทว่าเจ้าตัวจ่ายย้อนให้เพื่อนแนวรับไปเข้าทาง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ จับบอลพลิกตัวซัดในเขตโทษส่งบอลเข้าประตูไปอีกลูก จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ซอร์ย่า ลูแฮงค์ 3-0 เก็บชัยชนะนัดเปิดยูโรปาลีก

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-1-4-1): แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล,ติโมธี คาสตานเญ่ (เจมส์ จัสติน น.82),เวสลี่ย์ โฟโฟน่า,จอนนี่ อีแวนส์ (เวส มอร์แกน น.82),คริสเตียน ฟลุคส์,น็อมปาลิส เมนดี้,เจมส์ แมดดิสัน (เจนกิซ อุนเดอร์ น.65),ยูริ ตีเลมันส์ (อโยเซ่ เปเรซ น.71),เดนนิส ปราต์,ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์,เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (ฮัมซ่า เชาด์รี่ น.71)

ซอร์ย่า ลูแฮงค์ (4-3-3): มีคีต้า เชฟเชนโก้,เดนิส ฟาโวรอฟ (อากรอน รูฟาติ น.76),วิตาลี่ เวอร์นีดุบ,ลอฟโร่ ซเว็ค,ดมิโทร คอมเชนโนฟสยี่ (อังเครย์ส ซิกานิคส์ น.76),เยกอร์ นาซารีน่า,ดมิโทร อิวานิเซเนีย,วลาดิสลาฟ โคเชอร์กิน (เซอร์ฮี ฮาริน น.85),มัคซิม ลุนยอฟ (โอเล็คซานเดอร์ ฮลาดกี้ย์ น.65),วลาดเลน ยูร์เชนโก้,วลาดิสลาฟ คาบาเยฟ (มิไฮโล เปโรวิซ น.65)