“ลูกหมี-รัศมี” ลงทุนเปลื้องผ้า เข้าฉากเลิฟซีนดุ

หลังจากมีภาพเปลือยกายเลิฟซีนอย่างดุเดือด ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาอย่างมากมาย ซึ่งไม่ได้มีแค่ “กำปั้น บาซู” พีระ พาณิชย์พงส์ กับ ชาม โอสถานนท์ เท่านั้น ที่แก้ผ้าเข้าฉากเลิฟซีนในหนังติดเรทชวนสยิว “พรหมจรรย์ สวยพันธุ์สยอง” แต่ก็ยังมีนางแบบรุ่นใหญ่อีกคน “ลูกหมี” รัศมี ทองสิริไพรศรี ที่มารับบทเป็นเสือสมิงในเรื่อง เลยต้องเปลือยหมดจดและยังมีภาพเลิฟซีนอย่างดุเดือดเช่นเดียวกัน ทำให้กระแสสังคมออกมาต่อต้านว่า เป็นหนังที่ไม่โอเค ดารานักแสดงก็ถอดเสื้อผ้า แรงไปมั้ย ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอ สาวลูกหมี ในงานอีเวนท์งานหนึ่ง ก็ไม่พลาดที่จะถามถึงการรับเล่นหนังเรื่องนี้ 

 “จริงๆ ก็ถอดเกือบหมด แต่ว่าก่อนถ่ายลูกหมีจะต้องเพนท์ตัวเป็นรอยสัก แล้วก็มีที่แปะจุก ใส่จี-สตริงค์และป้องกันด้านล่างอีกด้วย สำหรับกระแสวิจารณ์ที่ว่าภาพในหนังโป๊ไปรึเปล่า ตรงนี้มันเป็นเรื่องการตัดต่อมากกว่า แต่ส่วนตัวไว้ใจทีมงานและนักแสดงทั้งหมด เวลาที่เซ็ตฉากเสร็จแล้วทุกคนจะออกไปหมดเลย จะเหลือแค่นักแสดงกับพี่ที่เป็นตากล้องค่ะ คือก็ถอดหมดเลยค่ะ บอกเลยว่าในเรื่องลูกหมีแทบจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย แต่เราก็จะมีการเซฟนะ เพราะมันต้องมีฉากเลิฟซีน บางฉากที่ต้องปีนขึ้นไปยืนอยู่บนโขดหินบ้าง ซึ่งยากๆ ทั้งนั้น แล้วที่สำคัญทุกฉากที่บอกคือเราไม่ได้สวมใส่อะไรเลย แต่โชคดีที่ได้ร่วมงานกับ คุณบอม ซึ่งเขามีความเป็นมืออาชีพและให้เกียรตินักแสดงมากๆ  จะคอยระมัดระวังทุกขั้นตอนในการถ่ายทำ มันก็เลยทำให้เรารู้สึกสบายใจ”

 อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ถาม สาวลูกหมี ทิ้งท้ายว่า คนมองว่ามารับเล่นหนัง ลงทุนแก้ผ้า หนังติดเรทแบบเนี้ย เพราะตกอับ งานไม่มี งานไม่เยอะเหมือนที่ผ่านมาหรือเปล่า งานนี้เจ้าตัวเผยออกมาเพียงสั้นๆ ว่า

 “คือเล่นหนังเรื่องนี้ต้องบอกเลยว่าอยากเล่นจริงๆ ซึ่งลูกหมียังไม่ได้ตกอับเลยค่ะ และงานยังมีเหมือนเดิมค่ะ แถมงานยังจะเยอะกว่าเดิมอีก เพราะฉะนั้นอย่ามามองว่าคนเล่นหนังติดเรทพวกนี้แล้วจะต้องตกอับแบบงานไม่มี ได้งานอะไรมาก็ต้องทำนะคะ”

มวยถูกคู่!!จับตาดูคู่นี้ให้ดีชาวเน็ตลุ้นมีเผ็ดบิ๊กเซอร์ไพรส์!!

 

เผ็ดเด็ดยกให้นี่เลยคู่ชกคู่ใหม่"ลำไย ไหทองคำ"โคจรมาเจอนักชกพิธีกรรายการคุยเช้าโชว์ "บัวขาว บัญชาเมฆ"โพสท่าแชะๆเผ็ดเด็ดชนิดนางแบบ นายแบบชิดซ้ายยกธงให้ ดูแล้วนักร้อง นักชกคนนี้เคมีลงตัวฝุด สะดุดสายตาชาวเน็ต ขั้นตั้งป้อมลุ้นเป็นคู่จิ้นคู่ใหม่??

 

หมวยมีจี๊ด”ปอย”ตรีชฎา เปลือยแผ่นหลังทะลุหัวใจ!!

นอกจากทำให้ชะนีไทยไร้ที่ยืน และทำให้หนุ่มๆยืนใจสั่นราวกองเพลแล้น "ปอย ตรีชฎา" ยังก่อการสยิวให้คอหนังได้หัวใจเต้นเป็นจังหวะร็อคด้วยการเปลือยหลังขาวโบ๊ะ ในหนังจีน เรื่อง WITCH DOCTOR ที่ปอยโบยบินไปร่วมงานประกาศศักดากระจายความซู่ซ่าส์ที่ประเทศจีน

    ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรัก ความหึงหวง การฆาตกรรมที่ "ปอย" รับบทเป็น เสี่ยวชิง ประกบคู่พระเอกหนุ่ม ถันเหย่าเหวิน  โดยจะ  ฉายทั่วประเทศจีนวันที่ 27 พฤษภาคมนี้

    ฮี่ๆอาหมวยปอยลื้อนี้แซ่บฟินฟิน..ตี๋ไทย แอนด์ ตี๋เทศฝากบอกมา

งัดถุงเท้าพันกระปู๋!!”กำปั้น”เผยเบื้องลึกเลิฟซีนเปลือยสยิว!!

ถูกตีข่าวเล่าเรื่องว่ากับฉากเลิฟซีนดุเดือด18+++กับของสาว"ชาม" ไอยวริญท์ โอสถานนท์กับหนุ่ม "กำปั้น" พีระ พาณิชย์พงส์ ในหนังสุดอีโรติกเรื่อง "พรหมจรรย์ สวยพันธุ์สยอง" (Tiger Women) เสียวซ่านน้ำกระเซ็นแซงหน้า"แม่เบี้ย"ชวนตาลุกซู่ๆ นัวกันน้ำกระจาย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์ วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ บ้างก็รับได้ บ้างก็ติติงจนเละเป็นโจ๊ก ซึ่งงานนี้หนุ่มกำปั้นก็ยืดอกน้อมรับในคำติชม ที่ส่วนมากจะติมากกว่าชม ออกมาด่าว่าโป๊จัง เหมือนหนังแผ่น ทำไมถึงลดตัวมาเล่น จะเป็นแนวลบ แต่ก็อยากให้คนชมก่อนที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนในมุมมองของตนมองว่าอยู่ในวงการมานาน เป็นดาราแล้วไม่จำเป็นต้องเลือกงาน เยอะอย่างอีกทั้งยอมรับการเล่นหนังเรื่องนี้ก็เปลือยหมด ยกเว้นจุด……. ส่วนฉากเลิฟซีนก็มองเป็นธรรมชาติ แต่ก็ยืนยันว่าเป็นหนังที่มีสาระนะ มีที่มาที่ไป

    ส่วนกระแสคาดเดาที่ว่า"ชาม"อาจมีปัญหากับแฟน เพราะแอคติ้งเลิฟซีนจัดเต็มกับตนนั้น เจ้าตัวเผยว่าตนแคร์ชามแต่ไม่หวั่นฝ่ายหญิงมีปัญหากับแฟน เชื่อว่า"ชาม"เคลียร์ได้ ส่วนเรื่องที่ถูกเพ่งเล็งว่าเหลาจมูกใหม่ "กำปั้น"เซย์เยสหล่อๆ รับว่ายัดดั้งจริงเพราะอยากหล่อขึ้น

    "จะว่าแรงก็แรงนะ อย่างที่เห็นแหละครับ แต่ในหนังแรงกว่านี้อีกนะ(หัวเราะ) ก็เป็นส่วนหนึ่งของฉากเลิฟซีนครับ(มันดูแรง ดูเปลืองตัวไปมั้ย) เราทำหนังแนวอีโรติคมันก็ต้องทำใจว่ามันต้องมีฉากประมาณนี้อยู่แล้ว ผมว่าคนไทยก็น่าจะเคยชินกับหนังแนวอีโรติคแล้วบ้างที่ผ่านมาก็มีให้เห็นบ้าง (ภาพมันดูล่อแหลม)ก็อย่างที่บอกว่าเราเป็นหนังแนวอีโรคติคก็ต้องทีฉากเสียว(ยิ้ม) แต่อาจจะดูแรงไปไหม ก็อยากให้เข้าไปดูก่อน ดูตัวเต็มเรื่องก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน มันก็มีที่มาที่ไปนะ ไม่ใช่เปิดเรื่องมาแล้วจะโจ๊ะกันอย่างเดียวเลย มันก็มีเนื้อเรื่องมีเรื่องราวที่จะทำให้มีเลิฟซีนที่อยากเล่นหนังอีโรติค(หัวเราะ) ไม่ใช่ 2-3 ปีนี้ อยากจะทำงานในวงการให้เต็มที่มีโอกาสให้เล่นละคร มีโอกาสได้เล่นหนัง เราก็ดูจากเรื่องของบทเรื่องของทีมงาน ผู้กำกับ แล้วก็ทีมภาพ แล้วก็ตัวน้องชามเองเราก็เลยตัดสินใจเล่น(ถอดหมด)เหลือ 1 ชิ้น ถุงเท้าพันไว้ ตอนแรกก็เขินเหมือนกันนะ ก่อนที่จะถ่ายเราก็คิดว่ามันจะเป็นยังไงกลัวมันจะแตกตื่น กลัวมันจะอะไรรึป่าว ทำให้น้องเขาถ่ายไม่ได้มันก็เลยต้องคุยกันเยอะ คุยกับน้องชามเยอะหลายชั่วโมงก่อนที่จะเข้าฉากเลิฟซีน ก็เข้าฉากประมาณ 3 ซีน 3 วันครับ เปลือย 2 ซีน เราก็มีเซฟตี้ของแต่ละคน ผู้หญิงผู้ชายก็มี ฉากเลิฟซีน ถ้ารวมของคู่อื่นด้วยก็น่าจะ 30-40% คนจับจ้องเยอะ ก็เขินเหมือนกันนะ แต่ว่าตอนนั้นค่อนข้างที่จะสมบุกสมบันเหมือนกัน เพราะว่าเราถ่ายกันตอนช่วงหน้าหนาว อุณหภูมิ 8 องศา เราก็ถ่ายกันแต่เช้าในน้ำตก ตอนนั้นมันเหนื่อย แล้วก็รู้สึกว่าแต่ละซีนที่ถ่ายพี่บอมเขาไม่ให้ผ่านง่ายๆ เลย แต่ละซีน 4 ชั่วโมง อย่างบางซีนที่เห็นกันในทีเซอร์อันนั้น 8 ชั่วโมง แช่อยู่ในน้ำ 8 ชั่วโมง"

    จากนั้นก็ออกตัวว่าตนไม่ได้คิดการณ์ไกลจะมาเอาดีด้านนี้ ส่วนข้อที่ว่าต้องขอนุญาติแฟนชามหรือไม่นั้นเจ้าตัวเผยว่าชามเองก็คงคุยกับครอบครัวเยอะเหมือนกันก่อนที่จะรับเล่น ทุกคนก็มีสปิริตพอรับแล้วก็ต้องเต็มที่กับงาน ส่วนตนไม่ได้ขออนุญาติใครเลย "ผมผู้ชายสบายมาก ที่แคร์ที่สุดก็คือน้องชามแค่นั้นเอง ก็มีการพูดคุยกันก่อนถ่ายเยอะมาก  น้องชามก็ต้องเข้าใจนะ เพราะเขาก็เนาะ ระดับ(นางงาม) (กลัวหนังโดนแบนมั้ย) ตอนแรกไม่กลัวตอนนี้เริ่มหวั่นเหมือนกันเพราะว่ามันมีข้อเปรียบเทียบ คือมีหนังเรื่องหนึ่งเข้ามาเปรียบเทียบพอดี ด้วยสังคมเขาอาจจะมอว่าทำไมหนังอย่างนั้นไม่ผ่าน แต่ทำไมหนังอย่างนี้ถึงผ่าน ซึ่งก่อนหน้านี้มันก็มีหนังแนวๆ อีโรติคออกมาก็ผ่าน ลงโรงไปเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าเรามีจังหวะที่มีหนังมาเปรียบเทียบพอดี จริงๆ จะบอกว่าอยากให้ไปดูกันก่อน อย่าเพิ่งตัดสินหนังของเราว่ามันจะเป็นหนังอนาจารโป๊เปลือย ก็คือเรื่องนี้แน่นอนมีฉากอีโรติค เพราะเป็นหนังอีโรติคแต่ว่าด้วยเนื้อหาของความสยองขวัญ เนื้อเรื่อง โปรดักชั่น โดยเฉพาะเรื่องของภาพ  ตอนนี้ผ่านการเซ็นเซ่อร์ได้ระดับ 18+++ครับ"

    ส่วนประเด็นที่ถูกจับตามองว่าหน้าตาเปลี่ยนไปนั้น เจ้าตัวยืดอกตอบแบบแมนๆว่าก็เสริมหล่อนิดหนึ่ง เพิ่งไปทำจมูกมาใหม่ นี่ 9 วันเอง ยังบวมๆ อยู่เลย แต่ก็ต้องมารับงานโปรโมตหนัง ปีนี้มีงานหลายอย่างที่กำลังจะทำอยู่ โฟโต้บุ๊ค เพลง ละคร กะจะลุยให้เต็มที "ก็อยากหล่อ  อยากดูดีขึ้น ทำจมูกมา เลเซอร์ก็ปกติอยู่แล้ว อายุ 30 กว่าแล้วเนาะ หลังทำก็โอเคครับ 9 วันเอง ยังบวมๆ เจ็บๆ อยู่เลย ตัดปีกจมูกครับ เสริมแล้วก็ตัด"

    "กำปั้น"มันใหญ่ม๊วก  อิอิ ..อันนี้หมายถึงจัดใหญ่และการเปิดใจชุดใหญ่ไม่กั๊กผ่านรายการ"จุดเดือด"นะฮ้าฟ

เชอรี่ สามโคก มากับชุดกิโมโนสุดเซ็กซี่ รับประกันความแซ่บทั้งเซต

 

จัดมาอีกเซต !! สำหรับสาว เชอรี่ สามโคก ถ่ายแบบในชุดกิโมโนสุดเซ็กซี่ ซึ่งเจ้าตัวได้ขอเปลี่ยนลุคมาเป็นสาวญี่ปุ่นดูบ้าง งานนี้รับประกันความแซ่บแน่นอน

 

“ลูกหมี รัศมี”โชว์สปิริตเปลือยร่างสยิวใน”พรหมจรรย์ สวยพันธุ์สยอง”

นางแบบหุ่นเซี้ยะเรื่องความเซ็กซี่ไม่เป็นรองใครสำหรับ "ลูกหมี-รัศมี ทองสิริไพรศรี" ที่เจ้าตัวตกปากรับคำผู้กำกับฯมากความสามารถอย่าง "บอม-อัศจรรย์ สัตโกวิท" เล่นหนังอีโรติกชวนสยิวเรื่องแรกใน พรหมจรรย์ สวยพันธุ์สยอง ผลงานการสร้างโดยค่ายหนังคุณภาพอย่าง TEN

    แนะนำตัวกันหน่อย
    "สวัสดีค่ะ ลูกหมี-รัศมี ทองสิริไพรศรี ในเรื่องนี้รับบทเป็น เสือสมิง ค่ะ"

    ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรีคาแรคเตอร์ในเรื่องเป็นอย่างไร
    "บทของเสือสมิง ในเรื่องดูเหมือนเป็นผู้หญิงอายุ 30 กว่าๆ แต่จริงๆแล้วเสือสมิงตัวนี้อายุเกือบ 100 แล้ว อาศัยอยู่ในป่าลึกจะเป็นคนที่ดูน่ากลัว ดูนิ่งๆ ดุดัน ลึกลับ และเสือสมิงจะชอบไสยศาสตร์ ชอบเรียนรู้ทางด้านนี้ ชอบวิชาอาคม มีรอยสักเต็มตัวที่ซ่อนอยู่ภายใต้เรือนร่างของเธอ เวลามีคนเข้ามาเพ่นพ่านในป่า ก็จะฆ่า ประมาณว่าถ้ามีผู้ชายหลงมาอยู่ในป่าลึกก็สามารถมีอะไรกับผู้ชายได้ด้วยและ เสือสมิง(ในเรื่อง)จะไม่ใส่เสื้อผ้าเลยก็คิดเอาละกันคะ"

    พรหมจรรย์ สวยพันธุ์สยองเสือสมิงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร
    "เข้ามาเพราะบังเอิญมีเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งได้มาเที่ยวกันที่ที่เราอยู่ พวกเด็กๆที่มาก็มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิงประเด็นคือ เขาเอาเรื่องของกามารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยและเขาก็ได้พลัดหลงเข้าไปในป่า และก็ไม่ได้เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในป่า เหมือนทำให้เสือสมิงได้ออกมาเจอเขามันก็เป็นเรื่องราวของความน่ากลัวสยดสยอง และเรื่องของเซ็กส์  มีเรื่องของอารมณ์อะไรต่างๆที่มาพัวพันกับเสือสมิงด้วย  มันก็เลยเกี่ยวพันกันจนเป็นเรื่องของความเป็นความตาย  เหมือนกับว่าใครได้เจอเสือสมิงแล้วจะติดใจ  จะผูกพัน  จะทำให้อยากเจออีก"

    พรหมจรรย์ สวยพันธุ์สยองมารับบทสุดเซ็กซี่นี้ได้อย่างไร
    "คุณบอม(ผู้กำกับฯ) โทรมาคุยคะ ก็คุยกันพักใหญ่นะเขาก็ทาบทามเรา อันที่จริงก็รู้จักกันในระดับหนึ่ง พี่บอมก็โทรมาเล่าบทหนังให้ฟังว่า เสือสมิงเป็นแบบนี้ๆ เรื่องราวเป็นแบบนี้ ไปถ่ายทำกันที่ต่างจังหวัดนะแบบว่าฉากหลังสวยๆ บทซีนนั้นซีนนี้เป็นอย่างไร พอเราได้รู้คร่าวๆเราก็รู้สึกสนใจมากอยากจะรับเล่น จึงรับปากพี่เขาไปว่าโอเคเราสนใจก็เลยได้มาร่วมงานกันค่ะ"

    ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรีมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
    "เสือสมิงในเวอร์ชั่นนี้เราจะเป็นผู้หญิงนิ่งๆ มีการเคลื่อนไหวน้อยๆ ใช้สายตา ใช้ตัวเราสื่อสารเป็นการเดินเรื่อง เราก็โชคดีที่เราเอาความเป็นนางแบบมาใช้ได้ ในเรื่องไม่ได้มีการแต่งเอฟเฟ็กต์อะไรมากมาย  จะมีก็แค่เรื่องของรอยสัก ด้านหลัง แขนและเกือบทั้งตัวจะเต็มไปด้วยรอยสัก และที่หนักใจที่สุดคือเราต้องแก้ผ้า ทั้งเรื่องเกือบจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย จะมาใส่ทีเดียวตอนจบเรื่อง"

    พรหมจรรย์ สวยพันธุ์สยองให้คำจำกัดความของการ"แก้ผ้า"ในเรื่องหน่อย
    "ถอดเลยค่ะ บอกเลยว่าในเรื่องลูกหมีแทบจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย แต่เราก็จะมีการเซฟนะ เพราะมันต้องมีฉากเลิฟซีนบ้าง ฉากที่ต้องปีนขึ้นไปยืนอยู่บนโขดหินบ้าง ซึ่งยากๆทั้งนั้นแล้วที่สำคัญทุกฉากที่บอกคือเราไม่ได้สวมใส่อะไรเลย แต่โชคดีที่ได้ร่วมงานกับ คุณบอม(ผกก.) ซึ่งเขามีความเป็นมืออาชีพและให้เกียรตินักแสดงมากๆ จะคอยระมัดระวังทุกขั้นตอนในการถ่ายทำ มันก็เลยทำให้เรารู้สึกสบายใจ"

    พรหมจรรย์ สวยพันธุ์สยองอยากให้ฝากหนังเรื่องนี้หน่อย
    "ลูกหมีก็ขอฝากผลงานเรื่องพรหมจรรย์ไว้ด้วยนะคะเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ตั้งใจเล่นมากๆเชื่อว่าคุณผู้ชมดูแล้วต้องชอบแน่นอนค่ะ"

 

“ฮิราอิ โชโกะ”รับเล่นหนังซาดิส

ภาพยนตร์เรื่อง "คดีฆาตกรรม-เสน่หา SM"ของทางญี่ปุ่น เป็นภาพยนตร์ที่นำฉายเกี่ยวกับเรื่องของ SM อันลึกลับที่ทำให้ผู้คนลุ่มหลงได้ จากฝีมือของนางเอกที่แสดงนำอย่าง "ฮิราอิ โชโกะ" และนักแสดงนำชายที่มีฝีมือทั้งสองคนอย่าง "คาวาอิ เรียวโนะสุเกะ" กับ "คิโนะชิตะ ทาเทมัสสุ" ต้องลงมือฝึกซ้อมและร่ำเรียนถึงเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง

โดยเฉพาะเทคนิคการมัดเชือกในแบบ SM ที่เจ้าของร้านหนังสือเก่าที่ "คิโนะชิตะ ทาเทมัสสุ" เป็นผู้แสดงนั้น   ถึงกับต้องไปหาอาจารย์สอนกันเป็นจริงเป็นจังอย่างทีเดียว   เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าระหว่างที่ฝึกซ้อมที่บ้านก็จะใช้หมอนข้างมาฝึก กว่าจะทำได้ออกมาอย่างคล่องแคล่วให้ได้ชมกันในจอ  

    ส่วนนางเอกของเรื่องอย่าง "ฮิราอิ โชโกะ" และตัวเอกอีกคนอย่าง "คาวาอิ เรียวโนะสุเกะ" เรื่องนี้ก็ทุ่มสุดตัวไม่แพ้กัน แถมนางสาวของเรายังเปิดเนื้อเปิดตัวกันอย่างเต็มที่ แต่ไม่เพียงเท่านั้น สายตาสีหน้าที่เธอแสดงออก เมื่อได้สู่สายตาของผู้ชมแล้วบอกได้คำเดียวว่า เข้าถึงบทบาทได้อย่างดีเยี่ยม ภาพยนต์เรื่องนี้นับเป็นผลงานระดับที่เธอภูมิใจนำเสนออีกเรื่องหนึ่ง

 

“Crazy Rich Asians”แรงไม่หยุดแชมป์บ็อกซ์3สัปดาห์ติด “Incredibles 2″รายได้รวมทั่วโลกเกิน$1.163 พันล้าน

ต้องยอมรับว่าพลังเอเชียแรงดีแท้ Crazy Rich Asians ยังคงครองใจคนที่ชอบหนังในสไตล์รักโรแมนติกผสมคอมเมดี้เมื่อยังคงยึดแชมป์บ็อกซ์ ออฟฟิศ ได้อย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ตามด้วย The Meg ที่ยังคงไล่บี้อยู่ในอันดับ 2 ต่ออีกสัปดาห์ ขณะที่ Operation Finale หนังอิงประวัติศาสตร์สงครามที่เปิดตัวในอันดับที่ดี แต่รายได้ไม่น่าโสภาสถาพรเท่าไหร่นัก

    ผลงานดีมีคุณภาพจริงๆสำหรับภาพยนตร์แนวแม่ผัวลูกสะใภ้ที่ต้องบอกว่าแรงเกินคาดเพราะตอนนี้ Crazy Rich Asians ยึดอันดับ 1 เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยรายได้จากการเข้าฉายในสัปดาห์ล่าสุดประมาณ $22.2 ล้าน ทำให้รายได้จากการฉายในประเทศสหรัฐอเมริกาพุ่งไปมากกว่า  $110 ล้าน

Mission: Impossible – Fallout  ยังน่าสนใจ

    ในขณะที่การฉายต่างประเทศสัปดาห์ล่าสุดทำเงินไปกว่า $20 ล้าน จากตลาดทั้งหมด 24 แห่ง โดยเป็นการเปิดตัวที่ออสเตรเลียที่ทำเงินไปเบาะๆ $5.4 ล้าน ขณะที่ในตลาดใหม่ๆ อย่าง สิงคโปร ทำเงินเบาะๆ $3.4 ล้าน ตามด้วย ฟิลิปปินส์ $2.8 ล้าน, มาเลเซีย $1.4 ล้าน และ ไตหวัน $1.1 ล้าน ทั้งนี้ตลาดสำคัญที่จะทำเงินพุ่งยิ่งกว่านี้ก็คือ สหราชอาณาจักรที่จะเข้าฉายในวันที่ 14 กันยายนนี้

     สำหรับอันดับ 2 ยังคงเป็นฉลามยักษ์โบราณ The Meg ที่ทำรายได้ในสัปดาห์ล่าสุดประมาณ $10.5 ล้าน ส่งผลให้รายได้จากการฉายในดินแดนมะกันพุ่งไปกว่า  $120 ล้าน จากการเข้าฉายทั้งหมด 4 สัปดาห์ ในขณะที่การฉายต่างประเทศ รายได้สัปดาห์ล่าสุดประมาณ $17.7 ล้าน ส่งผลให้รายได้จากการฉายต่างประเทศรวม $342 ล้าน และนำไปสู่การทำเงินมหาศาลจากการฉายทั่วโลกพุ่งไปถึง $463 ล้านแล้ว

    ด้านภาพยนตร์บู๊ระดับสายลับพันธุ์ระห่ำ Mission: Impossible – Fallout จากค่ายพาราเมาท์ ติดอันดับ 3 โดยสัปดาห์ล่าสุดทำเงินไปเบาะๆ $7 ล้าน ทำให้รายได้รวมจากการฉายในสหรัฐฯ พุ่งไปถึง $206 ล้านจากการเข้าฉาย 6 สัปดาห์ ส่วนตอนนี้การฉายต่างแดนทำเงินไปอีก $89.1 ล้าน ซึ่งต้องขอบคุณการฉายในจีน ที่ทำเงินได้ประมาณ  $77.3 ล้าน ส่งผลให้การเข้าฉายต่างแดนยอดรวม  $442 ล้าน และรายได้รวมจากการฉายทั่วโลก  $647 ล้านเข้าไปแล้ว และขาดอีกแค่ราวๆ $12  ล้านก็จะไล่ภาค Rogue Nation ซึ่งเป็นหนังแฟรนไชส์ที่มีรายได้สูงสุดจากการเข้าฉายทั่วโลก

Crazy Rich Asians  แรงติดแชมป์บ็อกซ์ 3 สัปดาห์

    ขณะที่ Operation Finaleหนังเข้าใหม่จากค่าย เอ็มจีเอ็ม ที่เกี่ยวกับปฏิบัติการครั้งประวัติศาสตร์ของหน่วย Mossad ของอิสราเอล ซึ่งเป็นทั้งหน่วยข่าวกรอง หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของอิสราเอล เปิดตัวในอันดับ 4 แต่รายได้ไม่น่าอภิรมณ์เมื่อทำเงินได้เพียงแค่ $6 เล้านเท่านั้น โดยผู้ชมส่วนใหญ่เป็นชาย 51 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ยแล้วอายุกว่า 35 ปีขึ้นไป

Operation Finale  เปิดตัวอันดับดี แต่รายได้ไม่แจ่ม

    ด้าน Incredibles 2 จากค่าย ดิสนี่ย์ แอนด์พิซาร์ สัปดาห์นี้น่าสนใจไม่เล่นเมื่อขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 11 รายได้อยู่ที่ $3.16 ล้าน ทำให้รายได้จากการเข้าฉายในอเมริกาพุ่งไปถึง  $601 ล้านจากการฉายทั้งหมด 12 สัปดาห์ สำหรับการฉายในต่างแดนตอนนี้ยอดรวม  $562 ล้าน ส่งผลให้การฉายทั่วโลกรายได้ทะลุกระจุยกระจายไปถึง $1.163 ล้าน

Incredibles 2  รายได้ตอนนี้เกิน $ 1.00 ล้าน

20 อันดับหนังทำเงิน บ็อกซ์ ออฟฟิศ สหรัฐฯ ประจำวันที่  31 สิงหาคม – 2 กันยายน 2561

 

นักล่าสมบัติสาว Tomb Raider เตรียมถูกรีเมค พร้อมได้ตัวผู้กำกับแล้ว

หลังจากพัฒนาโครงการมากว่า 5 ปี ตอนนี้ล่าสุดตัวหนังฉบับยกเครื่องใหม่ของนักล่าสมบัติสาวอย่าง ลาร่า ครอฟ ใน Tomb Raider หนังที่สร้างจากวิดีโอเกมส์ชื่อดัง ที่เคยมี แองเจลีน่า โจลี่ รับบทนำ ก็ได้ตัวผู้กำกับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตามรายงานของ The Hollywood Reporter ได้บอกว่า ตอนนี้ทางค่ายหนังต้นสังกัดอย่าง วอร์เนอร์ ได้เลือกตัวผู้กำกับนอร์เวย์อย่าง รอร์ อาทัก จาก The Wave มารับหน้าที่กำกับให้หนังฉบับยกเครื่องใหม่นี่ พร้อมดึงเอามือเขียนบทอย่าง เจนีวา โรเบิร์ตสัน-ดวอเร็ต ที่กำลังวุ่นๆกับ Transformers 5 มาร่วมโปรเจคต์นี้ด้วยครับ ในขณะที่ทางเนื้อเรื่องย่อยังไม่เปิดเผยเป็นที่แน่ชัด แต่หลายๆคนเดาเอาไว้ว่ามันน่าจะเป็นภาคที่เล่าย้อนไปถึงต้นกำเนิดของสาว ลาร่า ครอฟ ก่อนจะมาเป็นนักล่าสมบัติที่เก่งกาจในปัจจุบัน

โดยสำหรับตัวหนังฉบับ แองเจลีน่า โจลี่ ที่เคยถูกสร้างไปแล้วอย่าง Lara Croft: Tomb Raider ทั้ง 2 ถึงแม้จะเป็นเจ้าของรายรับที่ค่อนข้างครึ่งๆกลางๆอย่างน่าพอใจ แต่ในแง่ของคำวิจารณ์ตัวหนังถูกแฟนเกมส์สับเละ เพราะฉะนั้นเราต้องมารอดูกันว่า นักแสดงสาวคนไหนจะได้เป็น ลาร่า คนต่อไป แล้วตัวหนังจะออกมาเป็นอย่างไร ต้องติดตามครับ