ส.บอล ชี้แจง กรณี VAR หายไปดื้อๆเกมต้องแข่งดำเนินต่อ

1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังที่ไม่มี VAR ใช้งาน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวสอบถาม "พาทิศ ศุภะพงษ์" เลขาธิการ ส.บอลฯ เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น หากว่าเทคโนโลยีช่วยตัดสิน หรือ VAR เกิดใช้งานไม่ได้ อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ทีมเจ้าบ้านจะมีความผิดไหม รวมถึง ส.บอลฯ มีแนวทางอย่างไรในการป้องกันเรื่องนี้

"พาทิศ" เผยว่า  "จริงๆเรื่องนี้มีกฏฟีฟ่าระบุอย่างชัดเจนแล้วว่า การแข่งขันต้องดำเนินต่อไปแม้ระบบขัดข้อง เพราะ VAR เป็นเพียงเทคโนโลยีผู้ช่วยผู้ตัดสิน แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะชี้วัดว่าเกมนี้จะแข่งได้หรือไม่ได้ ซึ่งในลีกอื่นๆพบการขาดหายของสัญญาณเช่นกัน"

"แต่วิธีปฏิบัติที่ต้องทำ คือ ต้องแจ้งผู้ตัดสินในสนามทันที เพื่อแจ้งให้กัปตันทีมทราบ แมตช์คอมแจ้งผู้จัดการทีมทราบ และในกรณีที่จะไม่สามารถใช้ได้ตลอดทั้งเกมการแข่งขัน จะประกาศให้ผู้ชมในสนามได้รู้ด้วย"

เลขาธิการ ส.บอลฯ ยังเผยต่ออีกว่า "กรณีที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาให้ทางผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจเช็คสายไฟเบอร์ใหม่แล้ว ปัญหาไม่ได้เป็นที่เครื่อง VAR แต่เป็นที่สัญญาณที่ขาดหายไประหว่างทาง"

ช็อก! โนเล่โดนปรับแพ้ร่วงยูเอสโอเพ่นหลังหวดบอลอัดผู้กำกับเส้นหญิง (มีคลิป)

โนวัค ยอโควิช แร็กเกตเลือดเซิร์บ โดนปรับแพ้ฟาวล์อย่างน่าเสียดายหลังหวดลูกเทนนิสใส่ผู้กำกับเส้นหญิง ส่งผลให้เขาแพ้  ปาโบล การ์เรโน บุสตา นักหวดจากสเปน ร่วงตกรอบ 16 คนสุดท้ายในศึกยูเอส โอเพ่น เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 ของโลก ชาวเซอร์เบีย ถูกปรับแพ้ฟาวล์จากการหวดบอลอัดผู้กำกับเส้นหญิง ส่งผลให้โดยปรับแพ้ และร่วงตกรอบ 16 คนสุดท้าย ศึกเทนนิสแกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพ่น ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา

เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในช่วงเซตแรก หลังจากที่ ยอโควิช ซึ่งคว้าแชมป์แกรนด์สแลม 17 รายการ เกิดอาการหัวเสียเนื่องจากโดน ปาโบล การ์เรโน บุสตา แร็กเกตชาวสแปนิช เบรกเกมเสิร์ฟ และตกเป็นรองอยู่ 5-6 เกม จากนั้นเจ้าตัวก็หยิบลูกเทนนิสออกมาจากกระเป๋าแล้วหวดทิ้ง แต่บอลเจ้ากรรมดันพุ่งไปโดนที่ลำคอของผู้กำกับเส้นหญิงพอดีจนเธอล้มคว่ำไป

แม้ว่า "โนเล่" รู้ตัวเองว่าทำผิดและรีบเข้าไปดูอาการของผู้กำกับเส้นหญิงดวงแตกที่นอนกองอยู่กับคอร์ตเทนนิส พร้อมกับขอโทษขอโพยเธอ  หลังจากเจ้าตัวก็ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ตัดสินเพื่อชี้แจงว่าไม่ได้เจตนาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม

กระนั้นผู้ตัดสินมองว่าแม้จะไม่ได้ตั้งใจแต่การกระทำแบบนั้นถือเป็นเรื่องที่อันตราย สุดท้ายก็เลยตัดสินใจปรับ ยอโควิช แพ้ฟาวล์ในที่สุด และยังส่งผลให้ แร็กเกตวัย 33 ปี พลาดโอกาสที่จะล่าแชมป์แกรนด์สแลม ใบที่ 18 ไปอย่างน่าเสียดาย

สังคมมืด!ผู้กำกับเส้นหญิงโดนขู่ฆ่าทำโนเล่แพ้

ลอร่า คล้าร์ก ผู้กำกับเส้นหญิงวงการเทนนิส เจอวิบากกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เมื่อมีแฟนคลับของ โนวัค ยอโควิช ส่งข้อความบันทอนจิตใจใน "ไอจี" แถมยังมีบางรายขู่ฆ่าหมายจะเอาชีวิตให้ได้ หลังเธอตกเป็นกระแสสังคมจากการโดน "โนเล่" หวดบอลใส่คอ ในการแข่งขันศึกยูเอส โอเพ่น

ลอร่า คล้าร์ก ผู้กำกับเส้นหญิงที่โดน โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 ของโลก ชาวเซอร์เบีย หวดบอลอัดเข้าที่ลำคอ ตกเป็นเหยื่อสื่อสังคมออนไลน์ที่้จ้องขู่ฆ่าเธอ หลังทำให้ "โนเล่" ต้องโดนปรับแพ้ฟาวล์ ร่วงตกรอบ 16 คนสุดท้าย ศึกเทนนิสแกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพ่น ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ยอโควิช ต้องพลาดลุ้นแชมป์แกรนด์สแลม ใบที่ 18 ไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อดันหัวเสียเนื่องจากโดน ปาโบล การ์เรโน บุสตา แร็กเกตชาวสแปนิช เบรกเกมเสิร์ฟ และตกเป็นรองอยู่ 5-6 เกม จากนั้นเจ้าตัวก็หยิบลูกเทนนิสออกมาจากกระเป๋าแล้วหวดทิ้ง แต่บอลเจ้ากรรมดันพุ่งไปโดนที่ลำคอของผู้กำกับเส้นหญิงพอดีจนเธอล้มคว่ำไป

จากการกระทำดังกล่าวทำให้ "โนเล่" ต้องโดนปรับแพ้ไปโดยปริยาย แถมยังโดนลงโทษด้วยการตัดคะแนนสะสมจากการแข่งขันรายการนี้ พร้อมทั้งถูกริบเงินรางวัล 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 8.25 ล้านบาท) ที่เขาได้รับจากการทะลุเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้าย และยังโดนปรับเงินอีก 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 330,000 บาท) จากการแสดงพฤติกรรมไม่มีน้ำใจนักกีฬา

ในขณะที่ คล้าร์ก จากโอเว่นส์โบโร่ รัฐเคนตั๊กกี้ ก็ต้องเจอกับวิบากกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เมื่อเธอโดนบรรดาแฟนคลับของ นักหวดเลือดเซิร์บ เข้ามาโจมตีอย่างหนักมากกว่า 1,000 ข้อความใน อินสตาแกรม สื่อสังคมออนไลน์ยดฮิต โดยเฉพาะข้อความที่ขู่ฆ่า

โดยมีอยู่ 1 โพสต์ที่เธอเขียนเอาไว้เพื่ออุทิศให้กับลูกชายที่เสียชีวิตในวัยเพียง 25 ปี จากอุบัติเหตุในการขับขี่มอเตอร์ไซค์เมื่อปี 2008  ซึ่งเกรียนคีย์บอร์ดรายหนึ่งได้ตอบโพสต์ดังกล่าวด้วยข้อความที่เลวร้ายมากๆ ว่า "ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวแกก็จะได้ไปอยู่กับเขา(ลูกชาย) ในเร็วๆ นี้" ขณะที่อีกรายแสดงข้อความเห็นด้วยว่า " ฮา ฮา ฮา ฮา ฮา ฮา ฮา ใช่ ใช่ มันต้องโดน"

นักกีฬาอลป.ยกเลิกงานแต่งหลังเห็นคลิปฉาวเจ้าสาว

นักกีฬามวยปล้ำทีมชาติรัสเซีย ชุดลุยโอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น หัวใจสลายเมื่อมีคนส่งคลิปวีดิโอสุดสยิวที่มีภาพของว่าที่ภรรยาของตัวเองอยู่ในนั้น โดยงานนี้เจ้าตัวประกาศยกเลิกงานวิวาห์ทันที ขณะที่พ่อของฝ่ายหญิงถึงกับหัวใจวาย
    เซร์เบ็ค ซิดาคอฟ นักมวยปล้ำประเภทฟรีสไตล์ทีมชาติรัสเซีย ทำร้ายร่างกายเจ้าสาวของตัวเองในช่วงระหว่างปาร์ตี้ฉลองงานวิวาห์ และยกเลิกงานแต่ง หลังจากที่แขกที่มาร่วมงานได้รับวีดิโอคลิป พร้อมกับข้อความที่อ้างว่าเธอเคยเป็นสาวขายบริการทางเพศ

    นักมวยปล้ำวัย 24 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนทัพ "หมีขาว" ลุยศึกโอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการเลื่อนไปแข่งปีหน้าเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตัดสินใจแต่งงานกับ มาดิน่า ฟลิเยว่า วัย 25 ปีที่นอร์ธ คอเคซัส ทางตอนเหนือของรัสเซีย พร้อมกับแขกที่มาเป็นสักขีพยานในงานสำคัญนี้กว่า 500 คน 
 

    ช่วงเวลาที่แสนชื่นมื่นกลับแปรเปลี่ยนเป็นเรื่องราวสุดช็อก เมื่อแขกที่มาร่วมงานได้รับวีดิโอที่มีภาพสุดสยิวของฟลิเยว่า โดยคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของภรรยานักธุรกิจพันล้านจอมเจ้าชู้ที่ไม่พอใจการกระทำของเธอ ที่แอบลักกินขโมยกินสามีชาวบ้าน

    สำหรับคลิปวีดิโอดังกล่าวถูกส่งในช่วงระหว่างที่บรรดาเพื่อนเจ้าบ่าวกำลังโยน ซิดาคอฟ ลอยอยู่กลางอากาศซึ่งเป็นประเพณีของพวกเขา ขณะที่บรรดาสาวๆ กำลังเฉลิมฉลองรวมทั้งร่วมยินดีกับเจ้าสาวอยู่ที่ห้องใกล้ๆ กัน และหลังจากที่ ซิดาคอฟ ได้เห็นคลิปดังกล่าว เขาถึงกับช็อก ก่อนจะไปหาว่าที่ภรรยา และกระชากผมเธอออกมาจากห้อง

    จากนั้นเขาก็สั่งยกเลิกงานแต่ง และเดินหนีออกไปโดยปล่อยให้เธอร้องไห้คร่ำครวญอยู่กับพื้น ไม่นานนักเพื่อนๆ และครอบครัวได้รีบนำ ฟลิเยว่า ไปส่งโรงพยาบาล แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเข้าไปอีกเมื่อพ่อของฝ่ายหญิงถึงกับช็อกหัวใจวายจากเหตุการณ์ดังกล่าว

    ขณะที่เพื่อนๆ ของฝ่ายเจ้าบ่าวได้นำเขาออกจากงานปาร์ตี้ และเดินทางไปสงบสติอารมณ์ จนกระทั่งเจ้าตัวตั้งสติได้ และยอมรับว่าไม่ควรที่จะทำอะไรที่หุนหันพลันแล่นแบบนั้น นอกจากนี้หนึ่งในเพื่อนสนิทของเจ้าสาวเผยว่าฝ่ายหญิงเคยทำงานเป็นสาวขายบริการมาก่อน และว่าที่สามีของเธอไม่เคยรู้ชีวิตในอดีตนับตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มคบกันเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

 

 

“ทิพย์” แก้วกัลยา นักวอลเล่ย์สาวไทยคนแรกได้แชมป์ลีกสูงสุดญี่ปุ่น

    เห็นสวยๆ อย่างนี้ "น้องทิพย์" แก้วกัลยา กมุลทะลา นักวอลเลย์บอลทีมชาติ ตำแหน่งบอลเร็ว จากอำเภอกมลาไสย เมืองน้ำดำจังหวัดกาฬสินธุ์ ตบระเบิดและเปิดประวัติศาสตร์ เป็นสาวไทยคนแรก ร่วมทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดญี่ปุ่นกับสโมสร เจที มาร์เวลลัส  เมื่อปีที่ผ่านมา ตอนนี้กลับเมืองไทยและแฟนลูกยางคงมีโอกาส ได้เห็นเชิงตบของสาววัยเบญจเพศคนนี้ในเร็ววัน
    ประวัติส่วนตัว
    ชื่อ : แก้วกัลยา กมุลทะลา
    ชื่อเล่น : ทิพย์
    พื้นเพบ้านเกิด : จ.กาฬสินธุ์
    อายุ : 25 ปี
    ส่วนสูง : 178 ซ.ม.
    น้ำหนัก : 67 ก.ก.
    สัดส่วน : 34-29-40
    จบปริญญาตรี : คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    ปัจจุบัน : เป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพ
    กีฬาที่ชอบเล่น : วอลเลย์บอล
    ดีกรีล่าสุด : นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย สโมสร เจที มาร์เวลลัส ของญี่ปุ่น แชมป์วอลเลย์บอล วีลีก 2019
    นักกีฬาที่ชื่นชอบ : ลิโอเนล เมสซี
    คติประจำใจ : อย่าเพิ่งท้อแท้ในสิ่งที่ยังไม่พยายาม และอย่าเพิ่งหมดหวังในสิ่งที่ยังไม่เริ่มต้น
    ชายในสเปก : ชอบคนอบอุ่น เป็นผู้ใหญ่ที่ดูแลเราได้
    สถานภาพ : มีแฟนแล้ว

2020 dota Aster Aries VS Clcombat Team ทีเด็ดอีสปอร์ต วันที่ 4 มิ.ย.

Aster Aries ชนะ 12 จาก 24 เกมหลัง อัตราชนะ 50%

Clcombat Team ชนะ 10 จาก 15 เกมหลัง อัตราชนะ 67%

ฟันธงClcombat

เว็บผลอีสปอร์ตสดที่เร็วกว่าเว็บทางการ 5 วินาที คลิกเข้าไป https://esports.7mth.com/live/index.html

“สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล”ตำนานสาวหล่อแห่งวงการยัดห่วงไทย

แฟนกีฬาชาวไทยอาจจะเคยเห็นปรากฏการณ์สนามแตกมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยื่งกับการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยในหลายๆแมตช์, วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยในหลายๆครั้ง และการชกของ เขาทราย แกแล็คซี่ อดีตแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่ในหลายๆไฟต์ ซึ่งปรากฏการณ์สนามแตก ที่มีแฟนกีฬาแห่เข้าไปชมจนล้นสนามนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ นอกจากจะเกิดกระแสฟีเวอร์หรือความนิยมต่อกีฬาชนิดนั้นจริงๆ
   อย่างไรก็ตาม ครั้งหนึ่งเคยเกิดปรากฏการณ์สนามแตกมาแล้ว กับการแข่งขันบาสเกตบอลหญิง ในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 18 ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพ เมื่อช่วงปลายปี 2538 ซึ่งน่าจะเป็นครั้งเดียวในประวัติศาสตร์วงการยัดห่วงไทย ที่มีแฟนกีฬาแห่เข้าไปชมบาสเกตบอลหญิงจนล้นสนาม

    และปฏิเสธไม่ได้ว่า นักกีฬาผู้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำให้เกิดกระแสฟีเวอร์ จนทำให้แฟนกีฬาต้องแย่งกันซื้อตั๋วเพื่อเข้ามาเชียร์ทีมบาสเกตบอลสาวไทยในซีเกมส์ครั้งดังกล่าว จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก "แว่น" สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล ตำนานสาวหล่อแห่งวงการยัดห่วงไทย

    แม้จะเกิดเป็นหญิง แต่จากการมีรูปร่างหน้าตาหล่อสมาร์ทโดนใจ ละม้ายคล้ายกับ ศรราม เทพพิทักษ์ พระเอกเบอร์ 1 แห่งวงการบันเทิงในยุคนั้น จึงทำให้เธอคนนี้ ได้รับการขนานนามจากสื่อมวลชนว่า "สาวหล่อ" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา อีกทั้งสื่อบางสำนัก ยังตั้งฉายาให้เธอว่า "ศรราม 2" อีกด้วย

    นอกจากรูปร่างหน้าตาจะหล่อโดนใจสาวๆทั้งประเทศแล้ว ด้วยความสามารถอันโดดเด่นในตำแหน่งพอยท์การ์ด ที่ไม่ได้เป็น 2 รองใคร จึงทำให้ สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล เป็นตัวหลักให้กับทีมบาสเกตบอลหญิงทีมชาติไทยมาตลอด 9 ปีที่รับใช้ชาติ ก่อนที่ชื่อของเธอ จะกลายตำนานที่ยังอยู่ในใจของแฟนกีฬาชาวไทยทั้งประเทศตลอดมา

    ย้อนกลับไปในอดีต ตำนานสาวหล่อแห่งวงการยัดห่วงไทยรายนี้ ไม่ได้ตั้งใจที่จะเล่นบาสเกตบอลตั้งแต่แรกแต่อย่างใด โดยคุณพ่อและคุณแม่ สนับสนุนให้ลูกสาวคนนี้เล่นกีฬาชนิดใดก็ได้ เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

    จนกระทั่งอายุ 12 ขวบ เส้นทางชีวิตได้มาบรรจบกับเกมกีฬายัดห่วงจนได้ เมื่อโรงเรียนวัดน้อยนพคุณ สถานศึกษาของเธอในเวลานั้น มีแผนการที่จะสร้างทีมบาสเกตบอลหญิงขึ้นมา โดยมี อาจารย์พงษ์ศักดิ์ แก้วใจดี เป็นเฮดโค้ช ก่อนที่อาจารย์ท่านนี้ จะทาบทามให้ ด.ญ.สิริรัตน์ เข้ามาเป็นนักบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียน

    นับจากนั้น สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล ได้เป็นนักบาสเกตบอลหญิงตัวหลักให้กับโรงเรียนวัดน้อยนพคุณมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับลงแข่งขันหลายรายการ อาทิ รายการของกรมพลศึกษา, รายการของกรุงเทพมหานคร, กีฬากองทัพอากาศ, กีฬาเยาวชนแห่งชาติ, กีฬาแห่งชาติ และอีกหลายๆทัวร์นาเมนต์ โดยยึดแบบอย่างจาก ไมเคิ่ล จอร์แดน ซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 แห่งวงการยัดห่วงเอ็นบีเอในขณะนั้นเป็นไอดอล

     สำหรับจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ชีวิตของเธอ ได้ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทย ได้เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 10 ที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อปี 2537 ในครั้งนั้น สิริรัตน์ เป็นตัวแทนของทีมยัดห่วงเขต 10 กรุงเทพมหานคร

 

    แม้จะได้เพียงรองแชมป์ ทว่าจากการโชว์ฟอร์มที่โดดเด่นเหนือกว่าผู้เล่นคนอื่น จึงทำให้เธอคว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์มาครอง ก่อนจะได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 8 นักกีฬาเยาวชนไทย ให้ได้รับโอกาสอันล้ำค่า กับการไปทัศนศึกษาดูงาน ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 12 ที่นครฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ภายในปีเดียวกัน

    ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมจากการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งดังกล่าว ได้ทำให้ชื่อของ สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ในปีต่อมา หรือปี 2538 ด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น

    สำหรับทัวร์นาเมนต์แรกที่ลงแข่งขันในนามทีมชาติก็คือ ศึกชิงแชมป์เอเชีย 1995 ซึ่งเป็นระดับดิวิชั่น 2 ที่เมืองชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2538 โดยเธอและเพื่อนร่วมทีม ผนึกกำลังพาทีมยัดห่วงสาวไทยคว้าแชมป์มาครอง และได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ

    จากนั้นในช่วงปลายปีเดียวกัน อีก 1 จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในชีวิตได้มาถึง ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 18 ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพ เมื่อ สิริรัตน์ ได้ฉายแววความเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 แห่งวงการยัดห่วงหญิงไทยในเวลานั้น กับการเป็นนักกีฬาที่มีแฟนคลับคลั่งไคล้มากที่สุดคนหนึ่งในซีเกมส์ครั้งดังกล่าว จนเกิดปรากฏการณ์สนามแตกทุกแมตช์ที่ทีมยัดห่วงสาวไทยลงแข่งขัน เนื่องจากแฟนกีฬาต่างแย่งกันซื้อตั๋วเพื่อเข้ามาชม “สาวหล่อ” ในสนาม เมื่อยามที่เธอได้บอลแต่ละครั้ง เสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ดังกึกก้องไปทั่วโรงยิมทุกครั้งเลยทีเดียว

    ด้วยแรงเชียร์ที่ล้นหลาม กลายเป็นกำลังใจที่สำคัญ ในการทำให้ทีมบาสเกตบอลหญิงไทยคว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 18 ได้สำเร็จ พร้อมกับพลิกชีวิตให้ สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล เปลี่ยนจากนักกีฬาธรรมดา กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศไปในทันที
 
    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคนรู้จักมากขึ้นแต่ซูเปอร์สตาร์ยัดห่วงสาวรายนี้ ยังใช้ชีวิตแบบสมถะเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ยังคงนั่งรถเมล์ไปเรียนมหาวิทยาลัยเป็นประจำ พอเจอแฟนคลับทักทายก็ยิ้มและพูดคุยแบบเป็นกันเองทุกครั้ง โดยไม่ถือตัวเลยแม้แต่น้อย

    หลังจากนั้น สิริรัตน์ ได้เล่นบาสเกตบอลให้กับทีมชาติไทยอีก 9 ปี ก่อนจะประกาศเลิกเล่นหลังจบศึกชิงแชมป์เอเชีย 2004 ที่เมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2547 ด้วยวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น

    เธอได้กล่าวถึงการตัดสินใจหันหลังให้กับกีฬาที่เธอรักว่า ในช่วงนั้นนอกจากจะต้องซ้อมบาสเป็นประจำแล้ว ยังต้องเรียนปริญญาโท อีกทั้งยังต้องทำงานประจำ กับการเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ผลิตรายการและละครทางโทรทัศน์ควบคู่กันไปด้วย หลังจากนั้น ตำนานสาวหล่อแห่งวงการยัดห่วงไทย ได้ทำงานที่เธอรักกับการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการผลิตรายการและละครทางทีวีมาโดยตลอด

    เธอได้กล่าวว่า จากการที่เป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงและหน้าตาดี จึงทำให้ช่วงที่ทำงานตอนแรก ครีเอทีฟเคยให้เธอทดลองเป็นนักแสดงหน้ากล้องเช่นกัน แต่ด้วยความเขินกล้อง และไม่ถนัดกับการแสดง จึงเลือกที่จะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังมากกว่า

    สำหรับปัจจุบันแม้ สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล จะลาออกจากงานประจำแล้ว เพื่อหันมาทำธุรกิจเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ที่มีชื่อร้านว่า "ก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟ ต้มยำ ไข่ออนเซน By แว่น สาวหล่อ" แต่ก็ยังไม่ทิ้งงานเบื้องหลังผลิตรายการโทรทัศน์ ซึ่งเธอยังเป็นฟรีแลนซ์ช่วยงาน "หม่ำ จ๊กมก" ศิลปินตลกชื่อดัง และยังเป็นผู้จัดการของ "อาร์ม" กรกันต์ สุทธิโกเศศ นักร้องและนักแสดงชื่อดังอีกด้วย

    ด้านร้าน "ก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟ ต้มยำ ไข่ออนเซน By แว่น สาวหล่อ" เพิ่งเปิดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาซึ่ง สิริรัตน์ ได้กล่าวว่า ที่จริงแล้วคุณพ่อกับคุณแม่ขายมาก่อน พอตนเองมาทำก็ได้ปรับปรุงให้รสชาติกลมกล่อมและอร่อยขึ้น โดยร้านตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 99/9 หมู่บ้านไทยสมบูรณ์ 3 ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และได้เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 12.00-20.30 น.

    แฟนกีฬาท่านใด ที่ยังคิดถึงตำนานสาวหล่อแห่งวงการยัดห่วงไทยรายนี้ สามารถไปพบปะและอุดหนุนเธอได้ ตามสถานที่ดังกล่าว หรือติดต่อทางหมายเลขโทรศัพท์ 0648269399 และยังสามารถติดตามรายละเอียดของร้านได้ที่เพจเฟสบุ๊ก "ก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟ ต้มยำ ไข่ออนเซน By แว่น สาวหล่อ" ได้อีก 1 ช่องทาง

 

ร่วมอาลัย”น้องเปรม”นักฟุตซอลวัย14ปีถูกใบพัดเรือฟันร่างเสียชีวิต

สุดเศร้า! นักฟุตซอล ราชวินิตมัธยม โดดน้ำคลองผดุงกรุงเกษม โชคร้ายโดนใบพัดเรือฟันร่างเสียชีวิต ครอบครัวสุดเศร้า เพิ่งได้โควต้าไปเรียนเทพศิรินทร์ และมีกำหนดมอบตัววันเสาร์ ที่ 13 มิ.ย.นี้ด้วย

    ข่าวเศร้าของวงการโต๊ะเล็กเยาวชนไทย เมื่อนักเตะอนาคตไกลที่เป็นนักกีฬาโรงเรียนอย่าง ด.ช.อัจฉริยะ วิสยาคม หรือ "น้องเปรม" อายุ 14 ปี นักฟุตซอลของโรงเรียนราชวินิต มัธยม ประสบอุบัติเหตุ หลังกระโดดเล่นน้ำในคลองผดุงกรุงเกษม แต่โชคร้ายดันมาโดนเรือโดยสารแล่นผ่านมาพอดี ทำให้ถูกใบพัดฟันร่างจนเสียชีวิตเมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา 

    ครอบครัว "น้องเปรม"ผู้เสียชีวิต ได้ระบุด้วยว่า น้องเรียนอยู่ชั้นมัธยม 2 โรงเรียนราชวินิต มัธยม เป็นนักกีฬาฟุตซอล เพิ่งสอบติดกีฬากำลังจะโอนย้ายไปเรียนที่ โรงเรียนเทพศิรินทร์ โดยวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เตรียมจะเดินทางไปมอบตัวที่โรงเรียน แต่ต้องมาพบข่าวเศร้าก่อน โดยแวดวงฟุตซอลโรงเรียนมัธยมต่างร่วมแสดงความเสียใจกับการจากไปของ"น้องเปรม"ในครั้งนี้

    โดยทั้งนี้ชมรมฟุตซอลโรงเรียนราชวินิต มัธยม ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัววิสยาคม กับการจากไปจองเปรม เด็กชายอัจฉริยะ วิสยาคม ขณะที่ ฟุตซอล ราชวินิตบางแก้ว ได้โพสข้อความไว้อาลัยว่า "ฟุตซอลราชวินิตบางแก้ว ขอร่วมแสดงความเสียใจกับการจากไปของ ด.ช.อัจฉริยะ วิสยาคม นักฟุตซอลของโรงเรียนราชวินิต มัธยม จากอุบัติเหตุ หลังโดดเล่นน้ำในคลองผดุงกรุงเกษม โชคร้ายโดนเรือโดยสารแล่นผ่านมาพอดี ทำให้ถูกใบพัดฟันร่างจนเสียชีวิต"