แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินหน้าเก็บชัยชนะเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันในลีกหลังเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถล่มบอร์นมัธ 5-2 โดยเกมนี้เป็นอีกครั้งที่แนวรุกของ "ปีศาจแดง" โชว์ฟอร์มจัดจ้านจนทำลายกำแพงเกมรับของบอร์นมัธย่อยยับ ทว่าเกมรับของพวกเขาเสียถึง 2 ประตูซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญ เรามาผ่าประเด็นน่าสนใจเกมนี้กัน
1.บรูโน่หยุดไม่อยู่
คงไม่ผิดหากจะบอกว่าการเซ็นสัญญา บรูโน่ แฟร์นันด์ส ถือเป็นการซื้อขายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในฤดูกาลนี้ เขาถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ “ปีศาจแดง” และเขาก็พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งในเกมกับ บอร์นมัธ
มิดฟิลด์ขาวโปรตุเกสมีอิทธิพลมากกับเกมรุกของแมนฯ ยูไนเต็ด ตลอดทั้ง 90 นาที เราได้เห็นเขาสร้างสรรค์เกมแบบเพลินตาในแผงกองกลางซึ่งการกลับมาของ ปอล ป็อกบา ก็ช่วยสนับสนุนการเล่นของ บรูโน่ อีกด้วย ทัศนคติของเขาบวกกับคุณภาพการเล่นช่วยให้ทีมกลับมาได้อย่างรวดเร็วหลังจากตกเป็นฝ่ายตามหลังตั้งแต่ต้นเกม
เขาจ่ายคีย์พาสถึง 5 ครั้งและทำ 2 แอสซิสต์ในครึ่งเวลาแรกก่อนจะยิงฟรีคิกสุดสวยในครึ่งเวลาหลังทำให้ตอนนี้เขามีส่วนร่วมกับประตูถึง 13 ประตูในทุกรายการนับตั้งแต่ย้ายเข้ามาสวมเสื้อ “ผีแดง” (ยิง 7 ประตู และ 6 แอสซิสต์)
2.กรีนวู้ดฮอตจริง
เป็นฤดูกาลแห่งการแจ้งเกิดของ เมสัน กรีนวู้ด จริงๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเจ้าหนูวัย 18 ปีทำผลงานสุดยอดด้วยการยิง 1 จ่าย 1 ในเเกมพบ ไบรท์ตัน และสัปดาห์นี้เขาก็มาแผลงฤทธิ์อย่างต่อเนื่องกับเกม บอร์นมัธ แม้ว่าช่วงก่อนตีเสมอเจ้าตัวจะมีบทบาทน้อยแต่สิ่งที่เขาต้องการคือโอกาสในการง้างเท้ายิงเท่านั้น
เจ้าตัวโยกมาอยู่ทางซ้ายและรับบอลจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก่อนยิงประตูอย่างแรงทำให้นายด่านบอร์นมัธเซฟไม่อยู่ สัปดาห์ที่แล้วเขาก็โยกมาอยู่ทางซ้ายและครอสบอลให้ บรูโน่ ทำประตู นี่คือสิ่งที่ กรีนวู้ด พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตำแหน่งของเขายืดหยุ่นได้ในแนวรุก เจ้าตัวมักจะสลับฝั่งกับ แรชฟอร์ด อยู่บ่อยครั้งเพื่อเพิ่มความหลากหลายในเกมรุก
ส่วนประตูสองถือว่าสำคัญมากเพราะเป็นดึงโมเมนตัมให้กลับมาอยู่ทางฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่ง กรีนวู้ด ก็ยิงประตูด้วยเท้าขวาอย่างสุดสวย กลายเป็นประตูที่ 15 ของเขาในฤดูกาลนี้รวมทุกรายการทั้งที่เพิ่งจะอายุ 18 ปีเท่านั้น คงต้องบอกว่าเจ้าหนูคนนี้เป็นแข้งดาวรุ่งท่ีมีอนาคตไกลแน่นอน
3.ต้องติวเกมรับด่วน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทุ่มเงิน 80 ล้านปอนด์เพื่อนำเข้า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ทำให้แนวรับของ “ปีศาจแดง” ปรับปรุงขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด นอกจากจะเป็นเรื่องเกมรับแล้วยังมีเรื่องความเป็นผู้นำจนได้ปลอกแขนกัปตันทีมอีกด้วย อย่างไรก็ตามตัว แม็กไกวร์ เองยังมีความผิดพลาดให้เห็นอยู่เรื่อยๆ อย่างในนัดรีสตาร์ทเจ้าตัวมีส่วนผิดพลาดในการประกบ เบิร์กไวจ์น จนทำให้ทีมเสียประตู
แม้ 3 เกมก่อนหน้านี้จะกลับมาคุมแนวรับได้ดีแต่เกมกับ บอร์นมัธ แม็กไกวร์ กลับมาเสียท่าอีกครั้งหลังโดน จูเนียร์ สตานิสลาฟ แตะบอลลอดขาเข้าไปทำประตูอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเขาก็ดูจะเสียความมั่นใจเนื่องจากจ่ายบอลผิดพลาดง่าย ยังเสียบอลในพื้นที่อันตรายอีกหลายครั้ง
นอกจาก แม็กไกวร์ แล้ว ประตูนี้ ดาบิด เด เคอา ก็โดนวิจารณ์จาก ริโอ เฟอร์ดินาน ว่าปิดเสาแรกไม่ดี กลายเป็นความผิดพลาดของ เด เคอา นับครั้งไม่ถ้วนแล้วในฤดูกาลนี้ ด้าน เอริก ไบยี่ ที่ลงมาในครึ่งหลังก็ทำเสียจุดโทษแบบง่ายดายจากการแฮนด์บอลในจังหวะที่ไม่ได้โดนกดดันจากคู่แข่งเลย นี่เป็นสิ่งที่ทีมสต๊าฟฟ์โซลชาต้องติวเข้มให้มากขึ้น ไม่ให้เกิดความผิดพลาดในเกมรับง่ายเพราะการเสียประตูในช่วงต้นเกมครึ่งแรกและครึ่งหลังไม่เป็นอันดีสักเท่าไหร่
4.สามประสานโหดจัด
โซลชา ค้นพบสามประสานแนวรุกที่ลงตัวเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทีมถล่มประตูถึง 11 ลูกใน 3 เกมหลังสุด โดยเกมนี้กองหน้าทั้งสามคนต่างมีชื่อทำสกอร์หมด ในรายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ก่อนหน้านี้ฟอร์มการถล่มตาข่ายของเขายังไม่เข้าฝักสักเท่าไหร่ตั้งแต่หายจากอาการบาดเจ็บ แต่เขาได้โอกาสจาก บรูโน่ ให้ยิงจุดโทษเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมาซึ่งเจ้าตัวก็สังหารประตูไม่พลาด
ขณะที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่แม้เกมนี้จะมีบทบาทน้อยอีกเช่นเคยแต่เจ้าตัวใช้โอกาสยิงเข้ากรอบ 1 ครั้งเปลี่ยนเป็นประตูที่สุดสวยจากการปั่นโค้งเสียบสามเหลี่ยม ด้านเจ้าหนู กรีนวู้ด ทำผลงานดีต่อเนื่องด้วยการเหมาสองประตูสุดสวยในเกมนี้
สามประสานของ “ปีศาจแดง” มีสถิติยอดเยี่ยมากในฤดูกาลนี้ โดย เมสัน กรีนวู้ด ลงเล่น 41 นัด ซัด 15 ประตูและทำ 3 แอสซิสต์, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงเล่น 39 นัดซัด 20 ประตู และทำ 6 แอสซิสต์ และมาร์คัส แรชฟอร์ด ลงเล่น 36 นัด ซัด 20 ประต และทำ 7 แอสซิสต์
5.ผ่านอีกทดสอบลุ้น ชปล.
ชัยชนะเหนือ บอร์นมัธ ทำให้ แมนฯยูไนเต็ด ไร้พ่ายเป็นนัดที่ 16 ติดต่อกันแล้ว แม้ว่าเกมนี้อาจจะเสียประตูแต่ถือว่าเป็นการเสียประตูในโอลด์ แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่พ่ายแพ้แก่ เบิร์นลีย์ คาบ้านเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเลยทีเดียว
น่าเสียดายที่ เลสเตอร์ ซิตี้ และเชลซี ต่างไม่พลาดเก็บชัยชนะทำให้ “ผีแดง” ยังรั้งอันดับ 5 ของตารางต่อไป แต่สิ่งที่ยังพอเป็นข่าวดีได้อยู่คือผู้ตามอย่าง วูล์ฟส์แฮมป์ตัน สะดุดพ่ายให้กับ อาร์เซน่อล ทำให้ “หมาป่า” ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด 3 แต้มแล้ว
สำหรับ 5 นัดสุดท้าย “ปีศาจแดงจะต้องเจอกับ แอสตัน วิลล่า, เซาธ์แฮมป์ตัน, คริสตัล พาเลซ, เวสต์แฮม และเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งแม้ว่าดูเหมือนเป็นโปรแกรมที่ไม่หนักมากแต่ โซลชา ย้ำเตือนผู้เล่นว่าฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดท่าเสมอ วิลล่า และ เซาธ์แฮมป์ตัน รวมถึงพ่ายแพ้ให้กับ พาเลซ และเวสต์แฮม มาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเกมที่ประมาทไม่ได้ มารอดูกันว่า โซลชา จะนำลูกทีมคว้าชัยได้หมดและคว้าตั๋ว ชปล. หรือไม่